“อภิรักษ์” เตรียมทำหนังสือชี้แจง ป.ป.ช.ถึงความจำเป็นที่ต้องเปิดแอลซี และผลเสียหากไม่เปิด คาด อนุ ป.ป.ช.จะเข้าใจ ระบุ หากรอดชี้มูลอย่าโยงเป็นประเด็นการเมือง
จากกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) แนะนำให้ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ชี้แจงคณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในคดีทุจริตจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง มูลค่า 6,687 ล้านบาท หลังมีกระแสข่าวว่า ป.ป.ช.จะมีการชี้มูลความผิดผู้ถูกกล่าวหารวม 11 คน ซึ่งรวมถึงนายอภิรักษ์ ด้วยนั้น
ล่าสุด นายอภิรักษ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนี้ ว่า ขณะนี้กำลังรวบรวมข้อมูลสาระสำคัญเพื่อส่งไปชี้แจงให้ ป.ป.ช.พิจารณาก่อนที่จะมีการชี้มูลตามคำแนะนำของหัวหน้าพรรค เนื่องจากที่ผ่านมาคณะอนุกรรมการ ป.ป.ช.ไม่เคยมีหนังสือเชิญตนไปให้ข้อมูลเลย ซึ่งข้อมูลที่จะส่งไปเพิ่มเติมก็คงเป็นประเด็นการเปิดแอลซีที่อาจยังไม่ชัดเจนว่าตนมีเหตุผลความจำเป็นเช่นใดที่ต้องเปิดแอลซี ซึ่งตนเชื่อว่าประเด็นดังกล่าวยังไม่มีใครพูดถึง หากแอลซีไม่ได้ดำเนินการให้แล้วเสร็จจะมีผลเสียอะไรตามมา
ทั้งนี้ เชื่อว่า คณะอนุกรรมการ ป.ป.ช.จะเข้าใจ เพราะในช่วงที่ตนชี้แจงกับคณะอนุกรรมการไต่สวน ของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ก็ถือว่าชี้แจงได้ชัดเจนแล้ว และตนก็ไม่ถูกชี้มูลแต่อย่างใด
นายอภิรักษ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ตนยังไม่ได้เตรียมหารือเรื่องการดำรงตำแหน่งหรือการหยุดปฏิบัติหน้าที่ หากถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด เพราะต้องรอให้ผลการวินิจฉัยออกมาอย่างชัดเจนก่อน ส่วนฝ่ายกฎหมายของทางพรรค ก็ยังไม่เคยมีการคุยกัน เพราะยังคงเป็นเรื่องไกลตัว เป็นเพียงรายงานข่าวจากสื่อเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า หากตนเองถูกชี้มูลจริงเรื่องดังกล่าวอาจเป็นปัญหาได้ เพราะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ป.ป.ช.ส่งผลกระทบต่อการดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.จนกว่าศาลจะชี้ขาด ซึ่งหากถึงเวลานั้นจริงคงต้องหารือกับสำนักงานกฎหมายและคดี กทม.ว่าจะมีแนวทางอย่างไร
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ กทม.เคยทำหนังสือสอบถามไปที่คณะกรรมการกฤษฎีกาในเรื่องสถานะของผู้ว่าฯ กทม.แต่กฤษฎีกาได้ตอบข้อหารือว่า เหตุการณ์ยังไม่เกิดขึ้นจึงวินิจฉัยไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามด้วยว่า หาก ป.ป.ช.เห็นว่าผู้ว่าฯ ไม่น่าจะเกี่ยวข้องและรอดการถูกชี้มูลคนเดียว จะทำให้ถูกมองว่าเป็นการช่วยเหลือพรรค ปชป.หรือไม่ นายอภิรักษ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวข้องกัน เกณฑ์การพิจารณาเรื่องนี้ต้องทำให้เป็นมาตรฐาน หากพูดอย่างนี้ก็เท่ากับว่าจะทำให้เป็นประเด็นการเมือง และตนเห็นว่า ป.ป.ช.ก็ล้วนเป็นผู้ทรงคุณวุฒิทั้งสิ้น หากตนไม่ได้ทำอะไรผิดก็ไม่น่าที่จะถูกชี้มูลได้
