“ประชัย” อดีตผู้บริหาร บริษัท ทีพีไอโพลีน ไม่เข้าให้ถ้อยคำ กกต.กรณีถูกกล่าวหาว่าให้เงินบริจาค ปชป.258 ล้านบาท แต่ได้ส่งทนายนำเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรมาชี้แจงแทนอ้างป่วย
วันนี้ (23 พ.ย.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง รายงานข่าวจาก กกต.แจ้งว่า เมื่อวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา ทางคณะอนุกรรมการไต่สวนได้ส่งหนังสือเชิญให้ นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ อดีตผู้บริหาร บริษัท ทีพีไอโพลีน จำกัด (มหาชน) ลงนามโดย นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ที่ขอให้ นายประชัย มาให้ถ้อยคำกรณีถูกกล่าวหาว่าให้เงินบริจาค 258 ล้านบาท แก่พรรคประชาธิปัตย์แล้ว ทางพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้แจ้งให้ กกต.ทราบ จึงอยากให้มาชี้แจงเพิ่มเติมกรณีที่ได้ปฏิเสธว่าไม่ได้ให้เงินกับพรรคประชาธิปัตย์ เงิน 258 ล้านนั้น แต่ได้ให้บริษัท แมซไซอะ บิซิเนส แอนด์ ครีเอชั่น จำกัด ไปดำเนินการส่งเสริมการตลาดโดยการทำโฆษณาที่พื้นที่ภาคใต้ ที่ต้องทำการแข่งขันกับคู่แข่ง ซึ่งได้ทำบัญชีการเงิน และยื่นชำระภาษีต่อกรรมสรรพากรโดยถูกต้อง ก็ขอให้ นายประชัย นำเอกสารมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อเป็นการประกอบการพิจารณาด้วย ภายในวันที่ 23 พ.ย.เวลา 13.30 น.
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต.กล่าว่า ในวันนี้ แม้ นายประชัย ไม่ได้มาด้วยตัวเอง โดยระบุว่า ป่วยต้องเข้าพบแพทย์ตามที่แพทย์ได้นัดไว้ในวันนี้ (23 พ.ย.) จึงได้มอบให้ทนายผู้รับมอบอำนาจนำเอกสารการชี้แจง เป็นลายลักษณ์อักษร ตามประเด็นที่คณะกรรมการไต่สวนฯได้สอบถามไป อีกทั้งได้ยื่นเอกสารที่ขอไปมาให้ด้วย
เมื่อถามต่อว่า เอกสารที่ชี้แจงมาครบถ้วนหรือไม่ และจำเป็นต้องใช้อำนาจทางกฎหมายเรียกนายประชัย มาอีกหรือไม่ นายสุทธิพล กล่าวว่า เอกสารที่ยื่นมาในวันนี้ มีเป็นจำนวนมากและต้องดูว่าพยานหลักฐานครบถ้วนหรือไม่ ซึ่งถือเป็นดุลพินิจของคณะกรรมการไต่สวนฯและคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่า จะต้องดำเนินการอย่างไรต่อหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การที่ต้องเรียก นายประชัย มาให้การครั้งนี้ เนื่องจากว่า กกต.ต้องการทำให้ครบตามกระบวนการที่มีอยู่ แม้ว่าข้อมูลที่มีอยู่จะถือว่าครบถ้วนสามารถสรุป และนำไปสู่การวินิจฉัยได้ แต่เมื่อมีผู้มาร้องให้ กกต.ดำเนินการตามอำนาจของ พ.ร.บ.กกต.มาตรา 26 (3) ซึ่งนายทะเบียนพรรคการเมือง จึงต้องออกหนังสือเชิญมาในครั้งนี้