ศูนย์ข่าวเชียงใหม่-แบงก์ชาติเหนือเผยภาพรวมเศรษฐกิจยังคงชะลอตัวจนถึงสิ้นปี โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวและภาคบริการยังหดหายจนอัตราเข้าพักโรงแรมเหลือไม่ถึง 50% เหตุบางส่วนเกิดจากห้องโอเวอร์ซัปพลายบวกกับการระมัดระวังการใช้จ่ายและไม่มั่นใจสถานการณ์ หวังภาคการเกษตรได้รับอานิสงส์จากจีนที่มีปัญหาทำให้ตลาดต่างประเทศหันมาสั่งซื้อสินค้าจากไทยมากขึ้น พร้อมระบุตัวเลขส่งออกรถจักรยานยนต์ไปพม่าพุ่งกระฉูดเหตุมีการยอมลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนชั่วคราว
นายสมศักดิ์ วงศ์ปัญญาถาวร ผู้บริหารส่วนวิชาการ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ เปิดเผยถึงภาวะเศรษฐกิจการเงินภาคเหนือตั้งแต่ต้นปี 51 จนถึงเดือนกันยายน ว่า โดยภาพรวมแล้วเศรษฐกิจการเงินในภาคเหนือแทบจะเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับภาพรวมของประเทศ คือ อยู่ในภาวะที่ชะลอตัว เกือบทุกประเภทแม้รายได้จากภาคการเกษตรจะสูงกว่าปี 50 แต่ก็เริ่มมีสัญญาณการชะลอตัวลงในช่วงปลายปีนี้เช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ดี ภาคการเกษตรถือว่ายังเป็นตัวช่วยประคับประคองให้ภาคเหนือยังดูสดใส โดยช่วง 9 เดือนที่ผ่านมามีรายได้ภาคการเกษตรเพิ่มมากขึ้นประมาณ 17 % นอกจากนี้ตัวเลขที่ค่อนข้างจะสดใสและเพิ่มมากขึ้นอย่างชัดเจน คือ ตัวเลขการส่งออกรถจักรยานยนต์ เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนในทุกจังหวัดของภาคเหนือ โดยเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 38.6 เนื่องจากผู้ผลิตนำสินค้ารุ่นใหม่ออกสู่ตลาด ประกอบกับเป็นผลจากทางการพม่าผ่อนผันให้มีการจดทะเบียนถือครองรถจักรยานยนต์เป็นการชั่วคราว โดยยอดการจดทะเบียนเพื่อส่งออกเพิ่มมากขึ้นจะเป็นยอดตัวเลขที่ส่งออกผ่านด่านอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ไปยังประเทศพม่ามากที่สุดถึง 3,000 คัน
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนในภาคอุตสาหกรรม จนถึงเดือนกันยายนมีปริมาณที่ปรับลดลงกว่าร้อยละ 6 โดยเฉพาะภาคการผลิตอิเล็กทรอนิกส์ที่มีคำสั่งซื้อลดลงเรื่อย ๆ ส่วนผลผลิตผลแปรรูปทางการเกษตรที่ส่งออกไปยังตลาดอเมริกานั้นชะลอตัวอย่างมากโดยเฉพาะสินค้าประเภทเครื่องดื่ม ลำไยอบแห้ง และสินค้าประเภทฟุ่มเฟือยอื่น ๆ
ส่วนธุรกิจภาคท่องเที่ยวและบริการ มีการหดตัวลงอย่างมาก จำนวนผู้โดยสารผ่านภาคเหนือลดลงกว่า 20 % สาเหตุนอกจากสถานการณ์เศรษฐกิจการเงินของอเมริกาแล้ว เมื่อมองมาในจังหวัดเชียงใหม่เองก็เป็นผลมาจากโรงแรมระดับใหญ่ ๆ เปิดให้บริการจำนวนมาก จนเป็นสาเหตุให้ห้องพักโอเวอร์ซัปพลายจำนวนมาก
สำหรับการลงทุนของภาคเอกชน เฉพาะช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ลดลงเนื่องจากนักลงทุนยังขาดความเชื่อมั่น และราคาวัสดุก่อสร้างที่ยังทรงตัวในระดับสูง นอกจากนี้รายได้ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนที่ดิน ลดลงจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 28.5 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากมาตรการของรัฐ
ขณะที่ พื้นที่ก่อสร้างที่ได้รับอนุญาตในเขตเทศบาลเพิ่มขึ้น จากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 13.0 ตามการขยายตัวของการขออนุญาตประเภทเพื่อที่อยู่อาศัยและการพาณิชย์ในจังหวัดสำคัญทางเศรษฐกิจของภาคเหนือ
ส่วนการอนุมัติส่งเสริมการลงทุนในภาคเหนือมี 4 โครงการจำนวน 138.0 ล้านบาท ในโครงการเกี่ยวกับหมวดเกษตรกรรมและผลิตผลทางการเกษตร 80.0 ล้านบาท หมวดการบริการและสาธารณูปโภค 48.0 ล้านบาท และหมวดอุตสาหกรรมเบา 10.0 ล้านบาท
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจในปี 2552 ภาคการเกษตรของไทยน่าจะดีขึ้นเนื่องจากได้รับอานิสงส์จากประเทศจีนที่มีปัญหาหลายอย่าง ส่งผลให้คำสั่งซื้อจากต่างประเทศหันเหมาที่ประเทศไทยมากขึ้น แต่ตัวที่น่าจะมีปัญหามากที่สุดจะเป็นกิจการประเภทสิ่งทอและอิเล็กทรอนิกส์ ที่จะต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะประเด็นที่จะตามมาคือ การเลิกกิจการตามด้วยการเลิกจ้างงาน เป็นต้น