คณะทูตานุทูต 44 ประเทศ ชื่นชมความวิจิตรตระการตาของพระเมรุ ชี้ไทยยังรักษาวัฒนธรรมได้อย่างสมบูรณ์ กรมประชาสัมพันธ์เผยนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เปิดให้ประชาชนเข้าชม 18-30 พ.ย.
. วานนี้(7 พ.บ.) ณ มลฑลพิธีท้องสนามหลวง กระทรวงวัฒนธรรมนำคณะทูตานุทูต และผู้ติดตามประเทศต่างๆ 44 ประเทศ อาทิ แคนาดา สาธารณรัฐเช็ก ฟิลิปปินส์ อิตาลี ญี่ปุ่น คิวบา กรีก อินเดีย บังคลาเทศ ฯลฯ รวมถึงคณะผู้สื่อข่าวต่างประเทศ กว่า 70 คน เข้าชมพระเมรุ และอาคารประกอบ ราชรถ ราชยานและพระยานมาศ เพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับการจัดสร้างพระเมรุ ตามโบราณราชประเพณีที่สืบทอดต่อกันมาจนถึงการจัดงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
นายโยอันนีส ปาปาดูปูลอส เอกอัคราชทูตประเทศกรีก กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท แต่เมื่อทราบข่าวการสิ้นพระชนม์ก็รู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง ไม่ใช่เฉพาะเพียงประชาชนชาวไทยเท่านั้น แต่คนต่างชาติก็มีความรู้สึกไม่แตกต่างกัน สำหรับการเข้ามาชมพระเมรุในครั้งนี้ถือเป็นประสบการณ์ที่สำคัญ เพราะในประเทศกรีกไม่มีวัฒนธรรมเช่นนี้ และการได้รับฟังการบรรยายจากเจ้าหน้าที่ทำให้มีความเข้าใจถึงวัฒนธรรม ประเพณีไทยมากยิ่งขึ้น
นางสาววิชยา ละตา เรดดี เอกอัครราชทูตประเทศอินเดีย กล่าวเช่นกันว่า รู้สึกประทับใจในความสวยงามของศิลปะไทยอย่างมาก ซึ่งวัฒนธรรมไทยและอินเดียมีความคล้ายคลึงกันทำให้ตนสนใจเป็นพิเศษ สำหรับสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ นั้นตนไม่มีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯ แต่ได้ยิน และรับรู้ถึงพระกรณียกิจที่มีคุโณปการต่อพสกนิกรของพระองค์เป็นอย่างมาก อีกทั้งการได้เข้าชมในครั้งนี้รู้สึกทึ่งในวัฒนธรรมของไทยที่สามารถสืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณและดำรงไว้จนถึงวันนี้
นายหลุยส์ อาร์ดูโร ปวยน์เด ออร์เดกา เอกอัครราชทูตประเทศเม็กซิโก พร้อม ภริยา กล่าวว่า รู้สึกประทับใจกับความจงรักภักดีของประชาชนชาวไทยที่มีต่อ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ และขอชื่นชมการเตรียมงานที่เพียบพร้อมทำให้ตนได้รับทราบรายละเอียดของงานก่อนได้มาชมจริง ซึ่งขณะนี้ทางสถานทูตได้ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับงานนี้ และเชื่อว่าน่าจะทำให้นักท่องเที่ยวชาวเม็กซิโกเข้ามาเที่ยวและเยี่ยมชมศิลปวัฒนธรรมไทยมากยิ่งขึ้น
วันเดียวกันที่กรมประชาสัมพันธ์ มีการแถลงข่าวการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ โดย นายเผชิญ ขำโพธิ์ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ กล่าวว่า รูปแบบ เนื้อหา การจัดนิทรรศการครั้งนี้ จะใช้ภาพดำเนินเรื่องราวต่างๆ ทั้งพระประวัติ พระอัจฉริยภาพ พระปรีชาสามารถ ตลอดจนแสดงผลงานของมูลนิธิในพระอุปถัมภ์ขององค์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ
นอกจากนี้ยังมีการแสดงนิทรรศการ เกี่ยวกับริ้วขบวนพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ พระเมรุ และสิ่งก่อสร้างประกอบพระเมรุอื่นๆ ตลอดจนนำเสนอภาพวาดของศิลปินที่มีชื่อเสียงจำนวน 84 ภาพ ซึ่งจัดทำโดยสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยมาร่วมจัดแสดง รวมทั้งจำหน่ายเข็มที่ระลึกสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ โดยบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ซึ่งประชาชนผู้สนใจเข้าชมนิทรรศการ สามารถเข้าชมได้ทุกวันตั้งแต่วันที่ 18-30 พ.ย.51 ในเวลา 10.00-21.00 น.ที่บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง
ด้านนายปรารพ เหล่าวานิช รองอธิบดีกรมศิลปากร กล่าวถึงความพร้อมของพื้นที่ในการจัดนิทรรศการว่า สิ่งที่จะได้ชมหลักๆ ในงานนิทรรศการก็คือ พระเมรุ อาคารประกอบ อาทิ พระที่นั่งทรงธรรม ทับเกษตร สร้างศิลปกรรมประกอบพระเมรุที่สวยงาม เช่น เทวดา สัตว์หิมพานต์และฉากบังเพลิง ที่วิจิตรและหาชมได้ยากมาก ซึ่งกรมศิลปากรมีความพร้อมทั้งสถานที่รองรับ ไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำ ไฟฟ้า นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่นำชมพระมรุ ซึ่งจะให้ความรู้ทั้งในด้านก่อสร้าง และประวัติศาสตรด้วย
วันเดียวกัน นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุและบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถ และพระยานมาศ เข้าตรวจความเรียบร้อยในการก่อสร้างพระเมรุและอาคารประกอบ พร้อมกล่าวว่า การก่อสร้างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่ยังมีปัญหาที่ต้องแก้ไขคือ พรมปูพื้นพระเมรุที่ต้องรื้อพรมเก่าทิ้ง เนื่องจากสภาพอากาศที่มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในหลายวันที่ผ่านมา ทำให้พรมเปียกและจะติดตั้งพรมผืนใหม่ได้ก่อนวันงานพระราชพิธีถวายเพลิงพระศพหนึ่งวัน
ทั้งนี้ คาดว่าจะนำเรื่องรายงานต่อ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ในวันจันทร์ที่ 10 พ.ย.นี้ จากนั้นนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้นำเรื่องกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้สำนักพระราชวังเข้ามาดำเนินการต่อไป
. วานนี้(7 พ.บ.) ณ มลฑลพิธีท้องสนามหลวง กระทรวงวัฒนธรรมนำคณะทูตานุทูต และผู้ติดตามประเทศต่างๆ 44 ประเทศ อาทิ แคนาดา สาธารณรัฐเช็ก ฟิลิปปินส์ อิตาลี ญี่ปุ่น คิวบา กรีก อินเดีย บังคลาเทศ ฯลฯ รวมถึงคณะผู้สื่อข่าวต่างประเทศ กว่า 70 คน เข้าชมพระเมรุ และอาคารประกอบ ราชรถ ราชยานและพระยานมาศ เพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับการจัดสร้างพระเมรุ ตามโบราณราชประเพณีที่สืบทอดต่อกันมาจนถึงการจัดงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
นายโยอันนีส ปาปาดูปูลอส เอกอัคราชทูตประเทศกรีก กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท แต่เมื่อทราบข่าวการสิ้นพระชนม์ก็รู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง ไม่ใช่เฉพาะเพียงประชาชนชาวไทยเท่านั้น แต่คนต่างชาติก็มีความรู้สึกไม่แตกต่างกัน สำหรับการเข้ามาชมพระเมรุในครั้งนี้ถือเป็นประสบการณ์ที่สำคัญ เพราะในประเทศกรีกไม่มีวัฒนธรรมเช่นนี้ และการได้รับฟังการบรรยายจากเจ้าหน้าที่ทำให้มีความเข้าใจถึงวัฒนธรรม ประเพณีไทยมากยิ่งขึ้น
นางสาววิชยา ละตา เรดดี เอกอัครราชทูตประเทศอินเดีย กล่าวเช่นกันว่า รู้สึกประทับใจในความสวยงามของศิลปะไทยอย่างมาก ซึ่งวัฒนธรรมไทยและอินเดียมีความคล้ายคลึงกันทำให้ตนสนใจเป็นพิเศษ สำหรับสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ นั้นตนไม่มีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯ แต่ได้ยิน และรับรู้ถึงพระกรณียกิจที่มีคุโณปการต่อพสกนิกรของพระองค์เป็นอย่างมาก อีกทั้งการได้เข้าชมในครั้งนี้รู้สึกทึ่งในวัฒนธรรมของไทยที่สามารถสืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณและดำรงไว้จนถึงวันนี้
นายหลุยส์ อาร์ดูโร ปวยน์เด ออร์เดกา เอกอัครราชทูตประเทศเม็กซิโก พร้อม ภริยา กล่าวว่า รู้สึกประทับใจกับความจงรักภักดีของประชาชนชาวไทยที่มีต่อ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ และขอชื่นชมการเตรียมงานที่เพียบพร้อมทำให้ตนได้รับทราบรายละเอียดของงานก่อนได้มาชมจริง ซึ่งขณะนี้ทางสถานทูตได้ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับงานนี้ และเชื่อว่าน่าจะทำให้นักท่องเที่ยวชาวเม็กซิโกเข้ามาเที่ยวและเยี่ยมชมศิลปวัฒนธรรมไทยมากยิ่งขึ้น
วันเดียวกันที่กรมประชาสัมพันธ์ มีการแถลงข่าวการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ โดย นายเผชิญ ขำโพธิ์ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ กล่าวว่า รูปแบบ เนื้อหา การจัดนิทรรศการครั้งนี้ จะใช้ภาพดำเนินเรื่องราวต่างๆ ทั้งพระประวัติ พระอัจฉริยภาพ พระปรีชาสามารถ ตลอดจนแสดงผลงานของมูลนิธิในพระอุปถัมภ์ขององค์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ
นอกจากนี้ยังมีการแสดงนิทรรศการ เกี่ยวกับริ้วขบวนพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ พระเมรุ และสิ่งก่อสร้างประกอบพระเมรุอื่นๆ ตลอดจนนำเสนอภาพวาดของศิลปินที่มีชื่อเสียงจำนวน 84 ภาพ ซึ่งจัดทำโดยสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยมาร่วมจัดแสดง รวมทั้งจำหน่ายเข็มที่ระลึกสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ โดยบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ซึ่งประชาชนผู้สนใจเข้าชมนิทรรศการ สามารถเข้าชมได้ทุกวันตั้งแต่วันที่ 18-30 พ.ย.51 ในเวลา 10.00-21.00 น.ที่บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง
ด้านนายปรารพ เหล่าวานิช รองอธิบดีกรมศิลปากร กล่าวถึงความพร้อมของพื้นที่ในการจัดนิทรรศการว่า สิ่งที่จะได้ชมหลักๆ ในงานนิทรรศการก็คือ พระเมรุ อาคารประกอบ อาทิ พระที่นั่งทรงธรรม ทับเกษตร สร้างศิลปกรรมประกอบพระเมรุที่สวยงาม เช่น เทวดา สัตว์หิมพานต์และฉากบังเพลิง ที่วิจิตรและหาชมได้ยากมาก ซึ่งกรมศิลปากรมีความพร้อมทั้งสถานที่รองรับ ไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำ ไฟฟ้า นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่นำชมพระมรุ ซึ่งจะให้ความรู้ทั้งในด้านก่อสร้าง และประวัติศาสตรด้วย
วันเดียวกัน นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุและบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถ และพระยานมาศ เข้าตรวจความเรียบร้อยในการก่อสร้างพระเมรุและอาคารประกอบ พร้อมกล่าวว่า การก่อสร้างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่ยังมีปัญหาที่ต้องแก้ไขคือ พรมปูพื้นพระเมรุที่ต้องรื้อพรมเก่าทิ้ง เนื่องจากสภาพอากาศที่มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในหลายวันที่ผ่านมา ทำให้พรมเปียกและจะติดตั้งพรมผืนใหม่ได้ก่อนวันงานพระราชพิธีถวายเพลิงพระศพหนึ่งวัน
ทั้งนี้ คาดว่าจะนำเรื่องรายงานต่อ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ในวันจันทร์ที่ 10 พ.ย.นี้ จากนั้นนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้นำเรื่องกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้สำนักพระราชวังเข้ามาดำเนินการต่อไป