ศูนย์ข่าวเชียงใหม่- ศิลปากรเชียงใหม่ เผย งานปรับปรุงระบบระบายน้ำองค์พระธาตุดอยสุเทพยังล่าช้าคืบหน้าเพียง 15% เท่านั้น เหตุฝนตกหนักต่อเนื่องจนเป็นอุปสรรคในการทำงาน ล่าสุดต้องขยายระยะเวลาดำเนินการให้เอกชนที่รับจ้าง คาดเสร็จแน่ภายใน 3-4 เดือน
วันนี้ (14 ต.ค.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายชุมพร แสงมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการบูรณปฏิสังขรณ์วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินการบูรณปฏิสังขรณ์องค์เจดีย์พระธาตุดอยสุเทพ ที่มีการตรวจสอบพบว่า มีความเสี่ยงสูงที่จะได้ความเสียหายจากการพังทลายของชั้นดินถม ที่เป็นที่ตั้งขององค์พระธาตุหากเกิดเหตุแผ่นดินไหว และความชื้นที่สะสมเนื่องจากระบบระบายน้ำและความชื้นขององค์พระธาตุไม่มีประสิทธิภาพ
นายสหวัฒน์ แน่นหนา ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 8 เชียงใหม่ กล่าวถึงความคืบหน้าการปรับปรุงระบบระบายน้ำ บริเวณโดยรอบองค์พระธาตุดอยสุเทพ ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 6 ล้านบาท จากกรมศิลปากร ว่า ตามกำหนดในสัญญาที่ว่าจ้างเอกชนดำเนินการนั้นจะต้องแล้วเสร็จในเดือน พ.ย.2551
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการดำเนินการที่ผ่านมามีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง จนเป็นอุปสรรคทำให้เอกชนผู้รับจ้างไม่สามารถทำงานได้ และมีความคืบหน้าการดำเนินงานไปเพียงประมาณ 15% เท่านั้น ขณะนี้ได้มีการขยายเวลาดำเนินการให้แล้ว และคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จภายใน 3-4 เดือนนี้อย่างแน่นอน เพราะเป็นช่วงหมดฤดูฝนแล้ว
สำหรับงบประมาณจำนวน 100.7 ล้านบาท ในปีงบประมาณ 2552 ที่รัฐบาลอนุมัติให้เพื่อแก้ไขปัญหาดินลาดเขาด้านทิศเหนือขององค์พระธาตุขาดเสถียรภาพ เนื่องจากมีความชื้นสูงและอ่อนตัวมานานในระยะที่ 1 ที่จะให้คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ดำเนินการนั้น
นายสหวัฒน์ กล่าวว่า จากการหารือกับวัดได้มีการพูดคุยกันถึงความเป็นไปได้ที่จะขอกันงบประมาณดังกล่าวประมาณ 20 ล้านบาท เพื่อนำมาซ่อมแซมตัวองค์พระธาตุควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหาดินลาดเขาเลย โดยจะทำให้เหลืองบประมาณดำเนินการหลังหักค่าบริหารจัดการแล้วประมาณ 78.2 ล้านบาท เพื่อดำเนินการไปก่อนแล้วค่อยจัดหาเงินงบประมาณสนับสนุนเพิ่มเติมในภายหลัง ซึ่งจะต้องมีการหารือร่วมกันถึงความเป็นไปได้ดังกล่าวภายในคณะกรรมการ ด้วย
ด้าน รศ.ดร.ชิดชัย อนันตเศรษฐ์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาดินลาดเขาด้านทิศเหนือขององค์พระธาตุดอยสุเทพว่า เดิมได้วางแผนและเสนอของบประมาณเพื่อดำเนินการในระยะที่ 1ประมาณ 120 ล้านบาท แต่ได้รับอนุมัติงบประมาณ 100.7 ล้านบาท เท่านั้น
ทั้งนี้ หากจะต้องมีการกันเงินงบประมาณออกไปจนเหลือเพียง 78.2 ล้านบาท แล้วให้ดำเนินการไปก่อนก็สามารถทำได้ เพียงแต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องสามารถหาเงินงบประมาณมาสนับสนุนการดำเนินการในระยะที่ 1 ในเสร็จสมบูรณ์ให้ได้ ไม่เช่นนั้นเงินงบประมาณที่ลงทุนไปก่อนหน้านั้นจะสูญเปล่า เพราะสิ่งที่ดำเนินการไปจะไม่เกิดผลในการแก้ปัญหาเลย
นอกจากนี้ ต้องยอมรับด้วยว่า งบประมาณในการดำเนินการ อาจะต้องเพิ่มขึ้นไปเป็นประมาณ 130-140 ล้านบาท จากเดิมประมาณ 100 ล้านบาท เท่านั้น
วันนี้ (14 ต.ค.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายชุมพร แสงมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการบูรณปฏิสังขรณ์วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินการบูรณปฏิสังขรณ์องค์เจดีย์พระธาตุดอยสุเทพ ที่มีการตรวจสอบพบว่า มีความเสี่ยงสูงที่จะได้ความเสียหายจากการพังทลายของชั้นดินถม ที่เป็นที่ตั้งขององค์พระธาตุหากเกิดเหตุแผ่นดินไหว และความชื้นที่สะสมเนื่องจากระบบระบายน้ำและความชื้นขององค์พระธาตุไม่มีประสิทธิภาพ
นายสหวัฒน์ แน่นหนา ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 8 เชียงใหม่ กล่าวถึงความคืบหน้าการปรับปรุงระบบระบายน้ำ บริเวณโดยรอบองค์พระธาตุดอยสุเทพ ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 6 ล้านบาท จากกรมศิลปากร ว่า ตามกำหนดในสัญญาที่ว่าจ้างเอกชนดำเนินการนั้นจะต้องแล้วเสร็จในเดือน พ.ย.2551
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการดำเนินการที่ผ่านมามีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง จนเป็นอุปสรรคทำให้เอกชนผู้รับจ้างไม่สามารถทำงานได้ และมีความคืบหน้าการดำเนินงานไปเพียงประมาณ 15% เท่านั้น ขณะนี้ได้มีการขยายเวลาดำเนินการให้แล้ว และคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จภายใน 3-4 เดือนนี้อย่างแน่นอน เพราะเป็นช่วงหมดฤดูฝนแล้ว
สำหรับงบประมาณจำนวน 100.7 ล้านบาท ในปีงบประมาณ 2552 ที่รัฐบาลอนุมัติให้เพื่อแก้ไขปัญหาดินลาดเขาด้านทิศเหนือขององค์พระธาตุขาดเสถียรภาพ เนื่องจากมีความชื้นสูงและอ่อนตัวมานานในระยะที่ 1 ที่จะให้คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ดำเนินการนั้น
นายสหวัฒน์ กล่าวว่า จากการหารือกับวัดได้มีการพูดคุยกันถึงความเป็นไปได้ที่จะขอกันงบประมาณดังกล่าวประมาณ 20 ล้านบาท เพื่อนำมาซ่อมแซมตัวองค์พระธาตุควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหาดินลาดเขาเลย โดยจะทำให้เหลืองบประมาณดำเนินการหลังหักค่าบริหารจัดการแล้วประมาณ 78.2 ล้านบาท เพื่อดำเนินการไปก่อนแล้วค่อยจัดหาเงินงบประมาณสนับสนุนเพิ่มเติมในภายหลัง ซึ่งจะต้องมีการหารือร่วมกันถึงความเป็นไปได้ดังกล่าวภายในคณะกรรมการ ด้วย
ด้าน รศ.ดร.ชิดชัย อนันตเศรษฐ์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาดินลาดเขาด้านทิศเหนือขององค์พระธาตุดอยสุเทพว่า เดิมได้วางแผนและเสนอของบประมาณเพื่อดำเนินการในระยะที่ 1ประมาณ 120 ล้านบาท แต่ได้รับอนุมัติงบประมาณ 100.7 ล้านบาท เท่านั้น
ทั้งนี้ หากจะต้องมีการกันเงินงบประมาณออกไปจนเหลือเพียง 78.2 ล้านบาท แล้วให้ดำเนินการไปก่อนก็สามารถทำได้ เพียงแต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องสามารถหาเงินงบประมาณมาสนับสนุนการดำเนินการในระยะที่ 1 ในเสร็จสมบูรณ์ให้ได้ ไม่เช่นนั้นเงินงบประมาณที่ลงทุนไปก่อนหน้านั้นจะสูญเปล่า เพราะสิ่งที่ดำเนินการไปจะไม่เกิดผลในการแก้ปัญหาเลย
นอกจากนี้ ต้องยอมรับด้วยว่า งบประมาณในการดำเนินการ อาจะต้องเพิ่มขึ้นไปเป็นประมาณ 130-140 ล้านบาท จากเดิมประมาณ 100 ล้านบาท เท่านั้น
