xs
xsm
sm
md
lg

“ทักษิณ” เปิดหน้าชก-ชนฟ้าเต็มตัว!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ในที่สุดกระบวนการต่อสู้ก็ได้มาถึงฉากสำคัญ ถ้าเป็นหนังไทยยุคเก่าก็ถือว่าเรื่องราวได้ดำเนินมาใกล้ถึงตอนจบเต็มทีแล้ว เนื่องจากคนที่เคยสร้างภาพหลอกต้มให้เข้าใจว่าเป็นพระเอก แต่มาวันนี้ ได้เผยโฉมหน้า ธาตุแท้ให้คนได้เห็นตัวตนที่ซ่อนอยู่ภายในได้เห็นมากขึ้นทุกวัน
ถ้าเปรียบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่บัดนี้ก็ได้ถูกกระชากหน้ากากออกมาจนแทบไม่เหลือเค้าเดิมให้เห็นกันอีกแล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากผ่านพ้นวันระดมพลคน “เสื้อแดง” ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา
การ “โฟนอิน” ปลุกระดมรากหญ้าให้ฮึกเหิมถือเป็นจุดหักเหสำคัญ เพราะการมุ่งเป้าหมายโจมตีกระบวนการยุติธรรม ซึ่งถ้าว่ากันตามความเป็นจริงแล้วก็คือพุ่งไปที่ “ศาล” เป็นหลัก กล่าวหาว่าไม่ยุติธรรม ให้ร้ายบิดเบือนว่าตัวเองถูกยัดเยียดคุกมาให้ ยืนยันว่า “เป็นกรรมที่ตัวเองไม่ได้ก่อ”
ไฮไลต์สำคัญที่สุดก็คือถ้อยคำที่บอกว่า ไม่มีใครที่จะนำตัวเขากลับมาได้ นอกจาก “พระบารมี” ที่ทรงพระเมตตา และพลังของพี่น้องประชาชนเท่านั้น
หลายคนวิเคราะห์กันตรงกันว่าเป็นการส่งสัญญาณกดดัน “พระราชทานอภัยโทษ” หรือไม่ คำพูดลักษณะเข้าข่ายหมิ่นเหม่เหิมเกริม
ขณะเดียวกันอีกมุมหนึ่งก็สรุปว่า งานระดมพลเที่ยวนี้สีแดงเต็มพรึบ แต่อย่างไรก็ดีถ้าพิจารณากันให้ละเอียด จะเห็นได้ชัดเจนว่าบางโชนมีที่นั่งโหรงเหรง แต่บังเอิญว่าปูพื้นแบ็กกราวด์เป็นสีแดงจนดูกลมกลืน
และสาเหตุที่พลังเสื้อแดงมาไม่เต็มความจุสนามราชมังคลาฯ ตามความมุ่งหมายเดิม ส่วนหนึ่งนอกจากมีรายการ “อมหัวคิว” แล้วยังแตกคอกันเองระหว่างสมุนคนกันเองประเภท “ห้อย-โหน” ชิงดีชิงเด่น ดังนั้นจึงเห็นแค่ขุนพลภาคเหนือ ที่ทำงานกันอย่างคึกคัก
ขณะที่ขุนพล “ห้อยอีสานใต้” กลับวางเฉย ปล่อยให้อีกฝ่ายโชว์เดี่ยว ภาพจึงออกมาอย่างที่เห็น ไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ตามเป้าที่หวังจะใช้งานนี้สร้างพลังมวลชนข่มขู่ “ชนชั้นสูง” เพื่อหวังผลทางการเมืองวันข้างหน้า
แต่ถึงอย่างไร เมื่อสถานการณ์บีบรัดเข้ามาทุกทาง และเวลาก็งวดทุกขณะ ทักษิณ ไม่มีทางเลือกต้องเดินหน้าเต็มพิกัด ลุ้นใช้ไม้เด็ด คือพลังมวลชนเข้ากดดัน ขณะเดียวกันจะประสานกับเครือข่ายที่ตัวเองควบคุมกำกับอยู่ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล“น้องเขย” รวมทั้งกลไกทางรัฐสภา ที่พรรคพลังประชาชน และพรรคร่วมรัฐบาลเป็นเสียงข้างมาก
เพราะถ้าปะติดปะต่อกันก็จะเห็นชัดทันทีว่า ทุกอย่างกำลังเดินไปพร้อมๆกันอย่างน่าแปลกใจ เริ่มจากการล่ารายชื่อเพื่อยื่นขอถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกศาลสั่งจำคุกสองปี โดยไม่รอลงอาญา นำร่องชิมลางไปก่อน
ส่วนความเคลื่อนไหวในสภาก็เริ่มมีการเตรียมล่าราชื่อ เสนอร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม เป้าหมายอยู่ที่ อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ซึ่งก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั่นแหละ รวมทั้งอดีตกรรมการบริหารพรรคที่เหลือ แต่เน้นเฉพาะระดับลิ่วล้อคนสำคัญ เพราะมีการเจาะจงแค่ผู้ที่เคยเป็นข้าราชการการเมือง
นอกจากนี้ยังเปิดเกมรุก เสนอร่างกฎหมายยกเลิกประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตรย์เป็นประมุข หรือ คปค.ฉบับที่ 27 ซึ่งสาระสำคัญคือเพื่อคืนสิทธิ์ทางการเมือง กู้ซาก 111 ศพ ให้ฟื้นคืนชีพอีกครั้ง
แต่ที่น่าจับตาที่สุดอีกเรื่องก็คือการเสนอขอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 เปิดทาง “ปาหี่” ตั้ง ส.ส.ร.3 เป้าหมายเพื่อสอดไส้มาตรา 190 ,237, 309 เน้นเฉพาะเรื่องส่วนตัวทั้งประเด็นหนียุบพรรค ยุบหรือลดทอนอำนาจองค์กรอิสระ
หรืออาจเหิมเกริมพ่วงประเด็นยกเลิกองคมนตรีเข้ามาก็ได้
แม้ว่าในช่วงเวลานี้พรรคร่วมรัฐบาลยังไม่กำหนดเวลาเสนอเข้าสภาแน่ชัด เนื่องจากยังรอจังหวะทีเผลอ แต่ก็พร้อมผลักดันเข้ามาตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะไม่เสนอเข้ามา แต่ก็ถือว่าเวลานี้มีร่างแก้ไขฉบับ “หมอเหวง” คาอยู่แล้ว อาจอาศัยช่วงชุลมุนหยิบยกขึ้นมาเมื่อไรก็ได้
ทุกอย่างประดังประเดในเวลาไล่เลี่ยกัน รุกเข้ามาตีโอบพร้อมกันทุกทาง เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว เปลี่ยนหน้าเข้ามาตลอดเวลา
นอกจากนี้ยังใช้วิธีแยบยลนอกสภารับลูกกลุ่มนักวิชาการ “กลาง-กลวง” โดดรับลูกทำทียอมรับเจรจาลดความรุนแรง ขณะเดียวกันยังเปิดไฟเขียวให้ ส.ส.ในพรรคพลังประชาชน รวบรวมรายชื่อเรียกร้องให้ “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ลงมาเป็นคนกลางในการไกล่เกลี่ย
ถ้าพิจารณาอย่างรู้ทัน ถือว่าหมากเกมนี้ อำมหิตมาก เพราะเท่ากับว่า มีเจตนาดึงประธานองคมนตรียุ่งการเมือง สร้างภาพกระทบชิ่งไปไกลกว่านั้น
ดังนั้นนาทีนี้ถ้าให้สรุปถือว่า “นายหน้าเหลี่ยม” เปิดเกมรุกเต็มพิกัด พยายามรวบรวมกำลังตีโอบเข้ามาครั้งสุดท้าย และพร้อมเทหมดหน้าตัก เพราะถ้าพิจารณาจากเงื่อนไขด้านเวลามันก็รุมเร้า งวดเข้ามาแล้ว
อีกมุมหนึ่งการโฟนอินเข้ามาก่อให้เกิดประเด็นอ่อนไหว ถูกสังคมตั้งคำถามถึงเรื่องความ “ไม่บังควร” มีเสียงวิจารณ์ กระจายลงไปในวงกว้าง จากเดิมที่มีข้อสังเกตกันในวงแคบๆ แต่คราวนี้มีเสียงยืนยัน เห็นตัวตนชัดเจน และก็มีไม่น้อยที่เป็นคนเสื้อแดง ที่เห็นท่าไม่ดีเริ่มถอยฉาก ตั้งแต่แกนนำ นปก.หลายคนถูกดำเนินคดีในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
หลายคนเริ่มตั้งหลัก ฉุกคิดไปไกลว่า ข้อกล่าวหาว่า “แม้วชนฟ้า” หรือทำตัว “เผยอเทียมฟ้า” มันชักเข้าเค้า !!
ถึงอย่างไรไม่มีเวลามาแทงกั๊ก จำเป็นต้องเปิดหน้าชก ลุ้นได้เสียกันไปเลย จะได้รู้กันไปว่าใครจะแน่กว่ากัน เพราะมั่นใจว่าทุนที่ยังมีเหลืออยู่เต็มหน้าตัก บันดาลอะไรก็ได้ จึงไฟเขียวเดินหน้าเต็มพิกัด
แต่นาทีนี้เชื่อว่า เมื่อสังคมได้รับข้อมูลใหม่เรื่องกระแสชนฟ้า โอกาสที่จะสวิงพลิกกลับมีได้ทุกเมื่อเช่นเดียวกัน ให้ระวังไม่มีแผ่นดินอยู่แบบถาวร !!
กำลังโหลดความคิดเห็น