ผู้จัดการรายวัน- วิกฤติการเงินโลก-น้ำมัน กระทบผลประกอบการการบินไทยไม่หยุด “อภินันทน์”เผยไตรมาส 3 ได้อานิสงส์กำไรอัตราแลกเปลี่ยน มีกำไรสุทธิ 426 ล้านบาท แต่รวม 3 ไตรมาส ขาดทุนรวม 6,600 ล้านบาท ด้านบอร์ดกำชับลดค่าใช้จ่าย ศึกษารายละเอียดการลงทุนธุรกิจซ่อมบำรุงเพิ่มรายได้ พร้อมเห็นชอบแผนการเงินปี 2552 ประมาณการรายได้ 2.3 แสนล้านบาท เดินหน้าลดเที่ยวบินหั่นเส้นทางขาดทุน ลดอายุปลดระวางเครื่องบิน เหลือ 15 ปี เพื่อลดต้นทุน ประเมินสถานการณ์ 52 ไม่ดีขึ้นต้องทบทวนลดจำนวนการจัดหาเครื่องบิน ในแผน 10 ปีลง ด้าน”ชัยสวัสดิ์”ลาออกจากประธานบอร์ดหลังเกษียณ เปิดทางปลัดคมนาคมคนใหม่นั่งแทน
เรืออากาศโทอภินันทน์ สุมนะเศรณี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน)(THAI) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ บริษัท การบินไทย ที่มีนายชัยสวัสดิ์ กิตติพรไพบูลย์ เป็นประธานวานนี้ (5 พ.ย.) ว่า ที่ประชุมรับทราบผลประกอบการในไตรมาส 3 ปี 2551 ของบริษัทขาดทุน 3,000 ล้านบาท แต่มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 4,734 ล้านบาททำให้มีกำไรสุทธิ 426.2 ล้านาท ซึ่งเพิ่มจากไตรมาส 3 ของปีก่อน แต่ทั้งนี้ ผลประกอบการทั้ง 3 ไตรมาสของปี 2551 บริษัทยังคงมีผลขาดทุนรวม 6,600 ล้านบาท เนื่องจากช่วง 6 เดือนแรกต้องขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนกว่า 6,000 ล้านบาท
โดยผลการดำเนินงานในไตรมาส4 ของปี 2551 ขณะนี้แม้จะเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยว (High Season) แต่สถานการณ์จำนวนผู้โดยสารยังไม่เป็นไปตามที่ประมาณการณ์ไว้ โดย อัตราผู้โดยสารต่อเที่ยวบิน (Cabin Factor) ในเส้นทางในภูมิภาค เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี มาเสเซีย สิงคโปร์ Cabin Factor อยู่ที่ 60 % จากที่คาดไว้ว่าควรอยู่ที่ 70% หรือลดลงประมาณ 10% ส่วนเส้นทางยุโรป Cabin Factor ลดลงเหลือ 71-72% จากปีก่อนที่มี Cabin Factor 75-80% โดยผลประกอบการทั้งปี 2551 นั้นยังคาดไม่ได้ต้องดูสถานการณ์ในเดือน พ.ย.ด้วย
เดินหน้าลดเที่ยวบินหั่นเส้นทางขาดทุน
เรืออากาศโทอภินันทน์กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้ จำนวนผู้โดยสารลดลงมาจากปัจจัยปัญหาเศรษฐกิจโลกและปัญหาภายในประเทศ ซึ่งแนวทางรองรับคือต้องลดค่าใช้จ่ายลง นอกจากจะต้องปรับลดเที่ยวบินในเส้นทางที่ขาดทุนลง เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และหากในปี 2552 สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นก็ต้องปรับลดจำนวนเครื่องบินลง โดยการปลดระวางเครื่องบินให้เร็วขึ้นจากเดิมที่ปลดระวางเครื่องบินอายุ 20 ปี เหลือ 15 ปี ซึ่งการปละระวางเครื่องบินเร็วขึ้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานเพราะจะสอดคล้องกับการปรับลดเที่ยวบินและเส้นทางบินลงตามภาวะจำนวนผู้โดยสารที่ลดลง
“สถานการณ์นี้เกิดกับสายการบินทั่วโลก ซึ่งบางแห่งอาจปรับลดพนักงานลงแต่การบินไทยทำไมได้เพราะติดระเบียบรัฐวิสาหกิจ ซึ่งบอร์ดกำชับให้ลดการลงทุนที่ไม่จำเป็นลง” เรืออากาศโทอภินันทน์กล่าว
เรืออากาศโทอภินันทน์กล่าวว่า บอร์ดได้เห็นชอบแผนการเงินของบริษัทปี 2552 ซึ่งมีประมาณการรายได้ 2.3 แสนล้านบาท เพิ่มจากปี 2551 ซึ่งประมาณการรายได้ไว้ 2.1 แสนล้านบาท และเห็นชอบให้ให้บริษัทศึกษารายละเอียดการลงทุนในธุรกิจการซ่อมบำรุงเครื่องบิน เพื่อเป็นรายได้เสริมจากการขนส่งผู้โดยสาร ซึ่งเป็นแผนธุรกิจ (Business Plan) แผนวิสาหกิจ10 ปี (2551-2560) ของบริษัท ที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้ให้ความเห็นมา ซึ่งจะเน้นการสร้างแฮงก้าใหม่ เพิ่มการซ่อมบำรุงในการปรับเปลี่ยนเครื่องบินโดยสารไปเป็นเครื่องบินขนส่งสินค้า เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม หากในปี 2552 สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น จะต้องมีการทบทวนแผนการจัดหาเครื่องบินในแผน 10 ปี ลง ซึ่งกำหนดการจัดหาเพื่อทดแทนเครื่องบินที่ปลดระวางและตามอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจซึ่งวางไว้ที่ 4 -5 % ส่วนเครื่องบินที่อยู่ระหว่างจัดหารมีผลผูกพันแล้วเช่น แอร์บัส 380 ,330 ,320 นั้น จะนำมาใช้ในเส้นทางภูมิภาค ทั้งจีน และอินเดีย ซึ่งตลาดยังดีอยู่
“ชัยสวัสดิ์”ลาออกจากประธานบอร์ด
ด้านนายชัยสวัสดิ์ กิตติพรไพบูลย์ ประธานบอร์ดการบินไทย กล่าวว่า ตนได้ยื่นใบลาออกจากประธานบอร์ดแล้ว มีผลตั้งแต่วันนี้ (6 พ.ย.) เป็นต้นไป เนื่องจากเกษียณอายุราชการแล้วเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2551 ที่ผ่านมาและคาดว่ากระทรวงคมนาคมจะตั้งปลัดกระทรวงคมนาคมคนปัจจุบันคือนายสุรชัย ธารสิทธิพงษ์ เข้ามาเป็นประธานบอร์ด โดยในระหว่างนี้ นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลังทำหน้าที่รักษาการประธานบอร์ดแทน
เรืออากาศโทอภินันทน์ สุมนะเศรณี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน)(THAI) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ บริษัท การบินไทย ที่มีนายชัยสวัสดิ์ กิตติพรไพบูลย์ เป็นประธานวานนี้ (5 พ.ย.) ว่า ที่ประชุมรับทราบผลประกอบการในไตรมาส 3 ปี 2551 ของบริษัทขาดทุน 3,000 ล้านบาท แต่มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 4,734 ล้านบาททำให้มีกำไรสุทธิ 426.2 ล้านาท ซึ่งเพิ่มจากไตรมาส 3 ของปีก่อน แต่ทั้งนี้ ผลประกอบการทั้ง 3 ไตรมาสของปี 2551 บริษัทยังคงมีผลขาดทุนรวม 6,600 ล้านบาท เนื่องจากช่วง 6 เดือนแรกต้องขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนกว่า 6,000 ล้านบาท
โดยผลการดำเนินงานในไตรมาส4 ของปี 2551 ขณะนี้แม้จะเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยว (High Season) แต่สถานการณ์จำนวนผู้โดยสารยังไม่เป็นไปตามที่ประมาณการณ์ไว้ โดย อัตราผู้โดยสารต่อเที่ยวบิน (Cabin Factor) ในเส้นทางในภูมิภาค เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี มาเสเซีย สิงคโปร์ Cabin Factor อยู่ที่ 60 % จากที่คาดไว้ว่าควรอยู่ที่ 70% หรือลดลงประมาณ 10% ส่วนเส้นทางยุโรป Cabin Factor ลดลงเหลือ 71-72% จากปีก่อนที่มี Cabin Factor 75-80% โดยผลประกอบการทั้งปี 2551 นั้นยังคาดไม่ได้ต้องดูสถานการณ์ในเดือน พ.ย.ด้วย
เดินหน้าลดเที่ยวบินหั่นเส้นทางขาดทุน
เรืออากาศโทอภินันทน์กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้ จำนวนผู้โดยสารลดลงมาจากปัจจัยปัญหาเศรษฐกิจโลกและปัญหาภายในประเทศ ซึ่งแนวทางรองรับคือต้องลดค่าใช้จ่ายลง นอกจากจะต้องปรับลดเที่ยวบินในเส้นทางที่ขาดทุนลง เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และหากในปี 2552 สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นก็ต้องปรับลดจำนวนเครื่องบินลง โดยการปลดระวางเครื่องบินให้เร็วขึ้นจากเดิมที่ปลดระวางเครื่องบินอายุ 20 ปี เหลือ 15 ปี ซึ่งการปละระวางเครื่องบินเร็วขึ้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานเพราะจะสอดคล้องกับการปรับลดเที่ยวบินและเส้นทางบินลงตามภาวะจำนวนผู้โดยสารที่ลดลง
“สถานการณ์นี้เกิดกับสายการบินทั่วโลก ซึ่งบางแห่งอาจปรับลดพนักงานลงแต่การบินไทยทำไมได้เพราะติดระเบียบรัฐวิสาหกิจ ซึ่งบอร์ดกำชับให้ลดการลงทุนที่ไม่จำเป็นลง” เรืออากาศโทอภินันทน์กล่าว
เรืออากาศโทอภินันทน์กล่าวว่า บอร์ดได้เห็นชอบแผนการเงินของบริษัทปี 2552 ซึ่งมีประมาณการรายได้ 2.3 แสนล้านบาท เพิ่มจากปี 2551 ซึ่งประมาณการรายได้ไว้ 2.1 แสนล้านบาท และเห็นชอบให้ให้บริษัทศึกษารายละเอียดการลงทุนในธุรกิจการซ่อมบำรุงเครื่องบิน เพื่อเป็นรายได้เสริมจากการขนส่งผู้โดยสาร ซึ่งเป็นแผนธุรกิจ (Business Plan) แผนวิสาหกิจ10 ปี (2551-2560) ของบริษัท ที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้ให้ความเห็นมา ซึ่งจะเน้นการสร้างแฮงก้าใหม่ เพิ่มการซ่อมบำรุงในการปรับเปลี่ยนเครื่องบินโดยสารไปเป็นเครื่องบินขนส่งสินค้า เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม หากในปี 2552 สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น จะต้องมีการทบทวนแผนการจัดหาเครื่องบินในแผน 10 ปี ลง ซึ่งกำหนดการจัดหาเพื่อทดแทนเครื่องบินที่ปลดระวางและตามอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจซึ่งวางไว้ที่ 4 -5 % ส่วนเครื่องบินที่อยู่ระหว่างจัดหารมีผลผูกพันแล้วเช่น แอร์บัส 380 ,330 ,320 นั้น จะนำมาใช้ในเส้นทางภูมิภาค ทั้งจีน และอินเดีย ซึ่งตลาดยังดีอยู่
“ชัยสวัสดิ์”ลาออกจากประธานบอร์ด
ด้านนายชัยสวัสดิ์ กิตติพรไพบูลย์ ประธานบอร์ดการบินไทย กล่าวว่า ตนได้ยื่นใบลาออกจากประธานบอร์ดแล้ว มีผลตั้งแต่วันนี้ (6 พ.ย.) เป็นต้นไป เนื่องจากเกษียณอายุราชการแล้วเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2551 ที่ผ่านมาและคาดว่ากระทรวงคมนาคมจะตั้งปลัดกระทรวงคมนาคมคนปัจจุบันคือนายสุรชัย ธารสิทธิพงษ์ เข้ามาเป็นประธานบอร์ด โดยในระหว่างนี้ นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลังทำหน้าที่รักษาการประธานบอร์ดแทน