xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นภาคบ่ายปิดบวก 1.20% แนวเดียวกับภูมิภาค-พรุ่งนี้ลุ้นขึ้นต่อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หุ้นภาคบ่ายปิดบวก 1.20% แนวเดียวกับตลาดในภูมิภาคที่รีบาวนด์เล็กน้อย คาดรับผลจากดาวโจนส์ฟิวเจอร์ และตลาดยุโรปต่างปรับตัวดีขึ้น สะท้อนจากการดีดตัวของราคาน้ำมัน ขณะเดียวกัน การประกาศผลประกอบการของแบงก์ Q3 ก็ออกมาดี เกินกว่าที่คาดเอาไว้ สำหรับแนวโน้มพรุ่งนี้ ลุ้นบวกได้ต่อ

ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วันนี้ (20 ต.ค.) ดัชนีปิดตลาดภาคบ่ายที่ระดับ 476.95 จุด เพิ่มขึ้น 5.64 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +1.20% มูลค่าการซื้อขาย 9,050.84 ล้านบาท แนวเดียวกับตลาดภูมิภาคที่รีบาวน์เล็กน้อย ซึ่งเชื่อว่าได้รับผลจากดาวโจนส์ฟิวเจอร์ และตลาดหุ้นในยุโรปที่ต่างปรับตัวดีขึ้น

นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซิกโก้ กล่าวว่า ภาพรวมตลาดหลักทรัพย์วันนี้ ดัชนีปรับตัวทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากผลของมาตรการจากธนาคารกลางและรัฐบาลต่างๆ ที่อัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบสถาบันการเงินเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาวิกฤตการเงิน ทำให้ปัญหาดังกล่าวเริ่มคลี่คลายและสามารถเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับมา

ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และจากการคาดการณ์ว่าในการประชุมโอเปกจะมีการเสนอเพื่อลดกำลังการผลิตน้ำมัน ซึ่งจะทำให้พยุงราคาน้ำมันไม่ให้ต่ำเกินไป ทำให้ราคาน้ำมันมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อีก ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยเชิงบวกต่อนักลงทุน เพราะช่วยให้เข้ามาเก็งกำไรในกลุ่มพลังงานจากข่าวดังกล่าว และช่วยหนุนให้ดัชนีวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ ขณะเดียวกัน การประกาศผลประกอบการของธนาคารพาณิชย์ไตรมาส 3/51 ก็ออกมาดี เกินกว่าที่นักวิเคราะห์คาด จากเดิมคาดว่าจะประสบผลขาดทุน ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับระบบสถาบันการเงิน ทำให้วันนี้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นทิศทางในภูมิภาคเอเชีย

สำหรับแนวโน้มในวันพรุ่งนี้ คาดว่า ดัชนีหุ้นไทย น่าจะยืนอยู่ในแดนบวกได้ เนื่องจากปัญหาวิกฤตขณะนี้ก็เริ่มคลี่คลายลง ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่คลายความกังวล เพราะภายหลังจากที่รัฐบาลต่างๆ พยายามอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบสถาบันการเงินเพื่อเสริมสภาพคล่องเป็นการรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจ แสดงให้เห็นว่าปัญหาดังกล่าวได้ถูกคลี่คลายไปในทางที่ดีแล้ว ประกอบกับคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนหันมาเก็งกำไรในกลุ่มพลังงาน ซึ่งเป็นหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปใหญ่ และจะช่วยให้ดัชนีปรับตัวอยู่ในแดนบวกได้

ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ ราคาน้ำมันว่าจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นหรือไม่ หลังโอเปกพยายามลดการผลิตน้ำมันเพื่อพยุงราคาน้ำมันไม่ให้อยู่ในระดับต่ำเกินไป ขณะที่ปัญหาภายในประเทศ คือ การเมืองยังคงเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะหลังจาก ผบ.เหล่าทัพออกมากดดันให้นายกรัฐมนตรี ตัดสินใจจบปัญหาทางการเมืองโดยการยุบสภา หรือลาออก จะทำให้ปัญหาทางการเมืองคลี่คลายลง ซึ่งบทสรุปจะเป็นอย่างไรนั้นต้องติดตามว่ารัฐบาลจะมีวิธีรับมืออย่างไร โดยกลยุทธ์การลงทุน แนะนำเก็งกำไรหุ้นกลุ่มพลังงาน ประเมินแนวรับอยู่ที่ 470 จุด และแนวต้านอยู่ที่ 484 จุด
กำลังโหลดความคิดเห็น