xs
xsm
sm
md
lg

สมาคมนักวิเคราะห์เฟ้น 14 หุ้นเด็ด ช่วยนักลงทุนเลือกผลตอบแทนดี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมาคมนักวิเคราะห์เฟ้น 14 หุ้นเด็ด หวังช่วยนักลงทุนเลือกลงทุนในหุ้นที่ให้ผลตอบแทนดี ราคาหุ้นฟื้นตัวง่าย ชี้ต่างชาติยังคงขายหุ้นต่อเนื่องจากนี้ เหตุปัญหาสถาบันการเงินยังไม่จบ -มียอดซื้อสุทธิหุ้นไทยอีก 2 แสนล้านบาท "สมบัติ" เผย เตรียมสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์ ต.ค.นี้ เชื่อปรับลดดัชนีประมาณ 700 จุด จากเดิม 828 จุด คาดจีดีพีปีหน้าโต 4%

นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการ สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ เปิดเผยว่า จากการที่นักลงทุนต่างประเทศมีการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยต่อเนื่องจากปัญหาวิกฤตสถาบันการเงินของสหรัฐต่อเนื่อง และนักลงทุนไทยมีการเข้าไปซื้อสุทธิต่อเนื่องเช่นเดียวกันจากที่มีเงินที่จะลงทุน แต่ติดปัญหาที่นักลงทุนไม่ทราบว่าจะซื้อหุ้นอะไรดี ทำให้อาจมีการซื้อหุ้นที่ไม่ควรลงทุนทำให้ได้รับผลขาดทุนได้ ทางสมาคมนักวิเคราะห์ จึงมีการคัดเลือกหุ้นที่น่าลงทุน เพื่อเป็นทางเลือกแก่นักลงทุน

ทั้งนี้ ได้คัดเลือกหุ้นที่มีจากที่มีผลตอบแทนเงินปันผลสูง มีหนี้สินต่อทุนที่ต่ำ และราคาหุ้นยังต่ำกว่ามูลค่าเหมาะสมประมาณ 30-40% ธุรกิจมีการเติบโต ถึง 14 บริษัท คือ KBANK ,SCB ,PTT ,TOP RATCH, EGCO, BANPU, PTTEP, SCC, PS, TTA, CCET ,DELTE ,PSL และเมื่อราคาหุ้นดังกล่าวมีการปรับตัวลดลงแต่ราคาหุ้นก็สามารถกลับมาเพิ่มขึ้นได้ง่ายกว่าหุ้นอื่นๆ

"หุ้นที่รอดจากช่วงที่มีวิกฤตได้นั้นธุรกิจจะต้องดีมาก ผู้บริหารเก่ง มีความน่าเชื่อถือ มีทุนเยอะกว่าหนี้ ซึ่งการที่สมาคมได้มีการคัดหุ้นเด็ดนั้นเพื่อเป็นการช่วยเหลือนักลงทุนให้เลือกซื้อหุ้นที่ดี เพราะ ที่ผ่านมานักลงทุนไทยซื้อต่อเนื่อง จากที่ฝรั่งขาย แต่นักลงทุนไทยอาจจะไม่รู้ว่าจะซื้อหุ้นอะไรดี ซึ่งนักลงทุนก็สามารถเลือกลงทุนในหุ้นที่ชอบได้" นายสมบัติ กล่าว

สำหรับการขายของนักลงทุนต่างประเทศนั้นส่วนตัวเชื่อว่าจะยังคงมีอีกต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมีการขายเฉลี่ยวันละประมาณ 700 ล้านบาท ไปอีก 2 เดือนข้างหน้า ทำให้มีมูลค่าที่จะขายออกมาประมาณ 34,000 ล้านบาท จากที่ปัญหาสถาบันการเงินนั้นยังไม่จบซึ่งจะต้องใช้เวลาที่นาน และจากการที่เศรษฐกิจโลก สหรัฐอเมริกา มีการชะลอตัวลงทำให้ไม่นักลงทุนไม่สนใจที่จะลงทุนในหุ้น

อย่างไรก็ตามตั้งแต่เกิดวิกฤตปัญหาสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์คุณภาพต่ำ (ซับไพรม์)ตั้งแต่เดือนส.ค. 2550 ถึงขณะนี้ต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นไทยแล้ว 2 แสนล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าแรงขายยังมีต่อเนื่อง เพราะ เม็ดเงินของนักลงทุนต่างประเทศที่เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยตั้งแต่เดือนก.ค. 47-ก.ค. 50 พบว่าซื้อสุทธิหุ้นไทย 4 แสนล้านบาท ถึงแม้ขายออกมา 2 แสนล้านบาทแล้ว แต่ก็ยังคงมีเงินเหลืออีก 2 แสนล้านบาท

นายสมบัติ กล่าวว่าในเดือนตุลาคมทางสมาคมนักวิเคราะห์จะมีการสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์ในเรื่องแนวโน้มการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ แนวโน้มเศรษฐกิจ และประเมินนโยบายของรัฐบาลใหม่ ผลกระทบปัญหาสถาบันการเงิน โดยส่วนตัวเชื่อว่านักวิเคราะห์จะมีการปรับลดเป้าดัชนีปีนี้ลดลงเหลือประมาณ 700 จุด จากเดิมที่คาดว่าจะอยู่ที่ 828 จุด จากผลกระทบปัญหาสถาบันการเงินสหรัฐฯและปัญหาภายในประเทศ โดยคาดว่าการเติบโตเศรษฐกิจปีหน้าจะอยู่ที่ 4%

" การประกาศผลสำรวจนักวิเคราะห์ จะประกาศหลังที่รัฐบาลมีการประกาศนโยบาย เพื่อให้นักวิเคราะห์ประเมินนโยบายรัฐบาล และคาดว่าจะปรับเป้าดัชนีสิ้นปีนี้เหลือประมาณ 700 จุดกว่าแต่เชื่อไม่ต่ำกว่า 700 จุด " นายสมบัติ กล่าว

ทั้งนี้ ส่วนตัวเชื่อว่าจากนี้ถึงสิ้นเดือนพ.ย. ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะเคลื่อนไหวในรอบแคบ ๆ แต่ในช่วงเดือนธ.ค. จะสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ จากเกิด December Effect เพราะ จากสถิติตั้งแต่ปี 2530 นั้นพบว่าในปีที่หุ้นมีการปรับตัวลดลงต่อเนื่องนั้น ในช่วงเดือนธ.ค.จะมีการแรงซื้อเข้ามา
กำลังโหลดความคิดเห็น