xs
xsm
sm
md
lg

ชายแดนไทย-กัมพูชาปะทุท่องเที่ยวซบ บ.ทัวร์ปรับแผนตลาดขายลาวแทนเขมร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อุบลราชธานี-นักธุรกิจท่องเที่ยวอีสานใต้โดน 2 เด้ง ทั้งแรงเสียดสีด้านเศรษฐกิจและการปะทะด้วยอาวุธชายแดนเขมร ส่งผลนักท่องเที่ยวต่างชาติตกวูบวาบ เร่งปรับเส้นทางมุ่งเข้าลาว ส่วน ททท.ยันธุรกิจท่องเที่ยวปี 52 ยังโตต่อเนื่อง ตั้งเป้ามูลค่าท่องเที่ยวเฉียด 4,000 ล้านบาท

นางสิริกัญญา พิริยะกิจไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทอุบลสุรชัยทัวร์กล่าวถึงการพิพาทระหว่างไทยกับทหารกัมพูชา กรณีพื้นที่ทับซ้อนปราสาทพระวิหารที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจการท่องเที่ยวของจังหวัดในเส้นทางการเที่ยวชมปราสาทพระวิหารค่อนข้างมาก เพราะนักท่องเที่ยวที่มาจังหวัดอุบลราชธานี มีเส้นทางท่องเที่ยวหลัก 2 เส้นทางคือ เส้นทางท่องเที่ยวผาแต้มและเส้นทางท่องเที่ยวปราสาทเขาพระวิหาร

เส้นทางท่องเที่ยวปราสาทพระวิหาร จะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งต้องการเที่ยวชมเส้นทางอารยธรรมขอม แต่เมื่อเกิดการปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา ทำให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยยกเลิกการมาท่องเที่ยว แต่มีนักท่องเที่ยวบางส่วนยอมเปลี่ยนเส้นทางท่องเที่ยวปราสาทพระวิหาร หรือชมปราสาทนครวัดนครธม จ.เสียมราฐ ไปท่องเที่ยวในสปป.ลาวแทน

ทำให้ภาพรวมการท่องเที่ยวปี 2551-2552 ปริมาณนักท่องเที่ยวชาวไทยลดลงไม่มาก แต่มีผลกับปริมาณนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ลดลงอย่างมาก

นางสิริกัญญากล่าวต่อว่า นอกจากปัญหาเรื่องของเขาพระวิหารที่มีผลกระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยวแล้ว ยังมีอีกปัญหาที่น่าเป็นห่วงนั่นคือสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ทำให้นักท่องเที่ยวไม่กล้าใช้จ่าย เพราะรอดูสภาวะเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร แต่ยังมีตลาดอีกกลุ่มที่สามารถท่องเที่ยวได้คือ กลุ่มที่ให้รางวัลชีวิตแก่ตนเองในวันหยุด

อย่างไรก็ตาม บริษัทมีแผนเตรียมรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ทั้งเรื่องการกำหนดเส้นทางการท่องเที่ยวแทนเส้นทางปราสาทพระวิหาร และการรับมือกับสภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มตกต่ำ ตั้งแต่ต้นปีนี้ไปจนถึงต้นปีหน้าไว้แล้วด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยภาคตะวันออกเฉียงเหนือเขต 2 จ.อุบลราชธานี ตั้งเป้าหมายการท่องเที่ยวปี 2552 จะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2551 อีกร้อยละ 7.5 โดยมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวกว่า 1.6 ล้านคน และคาดมีรายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 3,900 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากปีก่อนราว 12%"
กำลังโหลดความคิดเห็น