xs
xsm
sm
md
lg

โชว์ห่วยกระอัก ครม.เบรกหัวทิ่ม กม.แท้งซ้ำซาก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - รัฐบาลไม่เอาโชห่วย หวังอุ้มนายทุน หลังเบรกกฎหมายค้าปลีกหัวทิ่มเป็นรอบที่ 3 “โอฬาร”ให้เหตุผลง่าย ขอพาณิชย์ไปทำรายละเอียดมาตรการให้ชัดเจน ทั้งการดูแลค้าปลีกสมัยใหม่และโชห่วย “ไชยา”ไม่สนเดินหน้าช่วยโชห่วยต่อ ดิ้นออกกฎกระทรวงคุมการขยายสาขา ทูตอังกฤษได้ทีวิ่งล๊อบบี้ขอให้ชะลอการออกกฎหมาย ด้านโชห่วยบ่นผิดหวังรัฐบาลอุ้มแต่คนรวยเมินคนจน

นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ให้กระทรวงพาณิชย์กลับไปศึกษาร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่งใหม่อีกครั้ง หลังจากเห็นว่าไม่มีความชัดเจนในหลายด้าน โดยเฉพาะมาตรการดูแลผู้ค้าปลีกรายย่อย (โชห่วย) ของไทย โดยขอให้กระทรวงพาณิชย์กลับไปจัดทำรายละเอียดเพิ่มเติมให้มากกว่าฉบับที่เสนอมานี้ และเสนอเข้าสู่ครม.ใหม่อีกครั้ง แต่ไม่มีการกำหนดเงื่อนไขระยะเวลา

“ครม.ขอให้กลับไปทบทวนรายละเอียดเพิ่มเติม โดยเฉพาะนายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี อยากให้ดูรายละเอียดมาตรการมากกว่านี้ เพราะกฎหมายที่เสนอเข้าไปนั้น ครม.มองว่าเป็นการมุ่งเน้นดูแลค้าปลีกสมัยใหม่ (โมเดิร์นเทรด) ไม่มีการดูแลโชห่วยอย่างชัดเจน แต่กระทรวงยังยืนยันที่จะช่วยโชห่วยต่อไป โดยกำลังหาทางออกกฎกระทรวงภายใต้กฎหมายที่มีอยู่นำมาบังคับใช้ ในช่วงที่ไม่มีกฎหมายค้าปลีก”นายไชยากล่าว

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้นำเสนอร่างกฎหมายค้าปลีกค้าส่งให้ครม. พิจารณาครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 3 หลังจากที่ 2 ครั้งก่อนหน้านี้ ก็ถูกตีกลับ โดยครั้งแรกอ้างว่าควรจะให้ครม.ทุกคนได้พิจารณารายละเอียดของร่างกฎหมายก่อน ครั้งที่ 2 ขอให้กระทรวงพาณิชย์กลับไปพิจารณารายละเอียดให้ครบถ้วน

ฑูตอังกฤษพบไชยาถามความชัดเจน

นายควินตัน มาร์ก เควล เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักร ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ได้เข้าพบหารือนายไชยาเพื่อสอบถามความชัดเจนในการผลักดันกฎหมายค้าปลีก เพราะไม่เห็นว่ามีความจำเป็นในการเร่งรัดในขณะนี้ แต่หากจำเป็นต้องเร่งรัด ก็ขอให้ภาคเอกชนและตัวแทนสถานทูตได้เข้ามามีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนข้อมูล ส่วนการที่กระทรวงพาณิชย์จะออกกฎกระทรวงมาบังคับในช่วงที่ไม่มีกฎหมายค้าปลีกนั้น ขอให้พิจารณาด้วยความรอบคอบ ทางด้านการแก้ไขกฎหมายการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ได้รับคำยืนยันจากนายไชยาว่าจะไม่มีการแก้ไขในขณะนี้ ซึ่งถือเป็นข้อดีที่จะสนับสนุนบรรยากาศการลงทุน

นายพันธุ์เทพ สุลีสถิร ประธานสมาพันธ์คนไทยต้านค้าปลีกข้ามชาติ กล่าวว่า จะหารือกับตัวแทนสมาพันธ์ฯ ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป หลังจากที่ครม.สั่งให้กระทรวงพาณิชย์กลับมาทบทวนร่างกฎหมายค้าปลีกค้าส่งอีกครั้ง แต่ในเบื้องต้นเห็นว่าอาจจะมีการรวมตัวผู้ประกอบค้าปลีกรายย่อย เพื่อไปยื่นหนังสือให้นายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี ไม่เกินสัปดาห์หน้า เพื่อขอให้เร่งรัดผลักดันร่างกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาของครม. เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องจำเป็นที่รัฐบาลควรจะต้องเร่งทำ

“ผู้ค้ารายย่อยเกิดคำถามว่าทำไมกฎหมายฉบับนี้ถึงผลักดันยากเย็นเหลือเกิน ซึ่งทางสมาพันธ์ฯ ก็คงต้องทำทุกวิถีทางที่จะให้กฎหมายมีผลบังคับใช้” นายพันธุ์เทพกล่าว

จี้ออกกฎกระทรวงคุมขยายสาขา

นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย กล่าวว่า จะรอดูท่าทีจากกระทรวงพาณิชย์ก่อน เพราะทางรมว.พาณิชย์ได้รับปากว่าจะเร่งผลักดันกฎหมายให้มีผลบังคับใช้ หากมีเหตุขัดข้อง ก็จะออกเป็นกฎกระทรวงเพื่อคุมการขยายสาขาของค้าปลีกขนาดใหญ่ ดังนั้น หากระทรวงพาณิชย์ไม่ดำเนินการใดเลย คงต้องมีมาตรการต่างๆ ออกมา

“ผิดหวังกับท่าทีของนายโอฬาร ซึ่งมีหน้าที่ดูแลงานด้านเศรษฐกิจ แต่กลับดูแลแต่ตลาดทุน มุ่งปกป้องผลประโยชน์ของคนรวย ขณะที่คนจนรอการช่วยเหลือ แต่ก็ไม่ได้รับการช่วยเหลือ ซึ่งการแสดงออกที่ผ่านมา ก็รู้ได้ว่ารองนายกฯ เลือกช่วยข้างใด พอเวลาตลาดทุนมีปัญหาจะรีบออกมาตรการมาช่วยเหลือคนรวย ทั้งๆ ที่ยังไม่ร้องขอความช่วยเหลือ แต่ขณะที่กลุ่มโชห่วยร้องให้มีการออกกฎหมายมานาน ก็ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือเสียที” นายสมชายกล่าว

ชี้พ.ร.บ.ค้าปลีกข้อกม.ไม่ชัดเจน

ด้านแหล่งข่าวสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวถึง ครม.ตีกลับร่าง พ.ร.บ.ค้าปลีกฯ ว่ายังมีประเด็นและมาตรการที่ชัดเจนในการดูแลรายย่อยหรือโชห่วยอย่างจริงจัง เพราะไม่มีความชัดเจนว่าจะทำอย่างไรในการพัฒนาหรือปรับตัวให้อยู่รอดได้ ประกอบกฎหมายยังไม่ชัดเจนในหลายประเด็น เช่น เรื่องการให้อำนาจหน่วยงานรัฐในการอนุมัติเปิดปิดสาขา ซึ่งที่ผ่านมานักวิชาการได้คัดค้านว่าร่าง พ.ร.บ.ค้าปลีกฯนั้นต้องมีความเป็นธรรมสำหรับทุกฝ่าย ไม่ใช่กีดกั้นหรือช่วยเหลือรายใดรายหนึ่งเท่านั้น

ทางสมาคมฯมองว่าการมีกฎหมายค้าปลีกขึ้นมา ไม่ได้ช่วยโชห่วยให้อยู่รอดได้ ดังนั้นจึงมุ่งแนะนำในสิ่งที่โชห่วยต้องการมากกว่า เช่น รัฐควรให้การสนับสนุนหาแหล่งทุน ผ่อนผันภาษีให้ธุรกิจรายเล็ก ขณะเดียวกันทางสมาคมฯพร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางในการสัมมนาให้ความรู้ และเป็นเซ็นเตอร์ในการกระจายสินค้า จากผู้ผลิตไปยังรายย่อย แต่ที่ผ่านภาครัฐไม่มีความชัดเจนในเรื่องดังกล่าวเลย

“การที่ครม.ตีกลับมาเป็นสิ่งทีดี เพราะกระทรวงพาณิชย์ เร่งรีบยื่นพ.ร.บ.ค้าปลีกเข้าครม.นั้น เป็นการทำลายบรรยากาศการลงทุน แนวโน้มค้าปลีกที่จะชะลอแผนการขยายสาขาเชื่อว่าจะมีแน่นอน ขณะที่ทุกคนกำลังประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ น่าจะช่วยกันสร้างบรรยากาศในการลงทุนมากกว่า”
กำลังโหลดความคิดเห็น