ซีพีเอ็นทุ่ม 300 ล้านบาท โหมอีเวนท์โค้งท้ายปี เน้นกิจกรรมต่อเนื่องกระตุ้นคนเข้าศูนย์ฯ ส่วนสาขาใหม่แจ้งวัฒนะเตรียมอัดงบตลาด 200 ล้านบาทใช้ทั้งปี ย้ำต้องหากิจกรรมแปลกใหม่ไม่งั้นไม่ได้ผล
นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารธุรกิจและบริหารโครงการก่อสร้าง และ ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ร่วมกันเปิดเผยว่า ในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี 2551 นี้ ซีพีเอ็นจะใช้งบการตลาดรวมทั้งสิ้น 300 ล้านบาท เพื่อจัดกิจกรรมและอีเว้นท์ต่างๆในช่วงเทศกาลเพื่อกระตุ้นให้คนเข้าศูนย์มากขึ้นในทุกสาขา ไม่ว่าจะเป็นเซ็นทรัลเวิลด์ที่เพิ่งเปิดบริการมาเพียงปีเศษ ก็มีกิจกรรมเคานท์ดาวน์
อีกทั้งงบตลาดอีก 200 ล้านบาทที่ใช้ทั้งปีในส่วนของเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะที่ะเปิดสาขาใหม่วันที่ 27 พฤศจิกายนนี้ที่มีมากวก่า 30 อีเว้นท์ โดยรวมแล้วคาดว่าทุกศูนย์ฯรวมกันจะมีกิจกรรมรวมทั้งสิ้นมากกว่า 100 อีเว้นท์
“จริงๆแล้วคนยังมีกำลังซื้ออยู่ อยากพักผ่อน แต่ไม่อยากซื้อของ แต่ว่าอารมณ์มันไม่ค่อยมี ตอนนี้อยู่ที่เราจะจัดหากิจกรรมที่แปลกใหม่เพื่อสร้างแรงดึงดูดให้คนเข้าศูนย์อ่ยางไร เพราะเมื่อคนเดินเข้าศูนย์ฯมากขึ้นก็จะทำให้เกิดการจับจ่ายซื้อของต่อเนื่อง”
จากสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซาและปัญหาการเมืองในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้การจับจ่ายใช้สอยของลูกค้ามีอัตราลดลงจากเดิมที่ใช้จ่ายเฉลี่ย 1,200 บาทต่อคนต่อครั้ง ลดลงเหลือ 1,000 บาทต่อคนต่อครั้ง ในขณะที่ปริมาณลูกค้าที่เข้าศูนย์นั้นไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด ทั้งนี้บริษัทฯจับกลุ่มเป้าหมายหลัก 2 กลุ่มคือ เอกับบี ดังนั้น ถือเป็นฐานที่กว้างพอสมคร ดังนั้นเมื่อเศรษฐกิจไม่ดีกระทบกับคนกลุ่มหนึ่ง เราก็ยังมีตลาดอีกกลุ่มรองรับอยู่
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์เช่นนี้บริษัทฯให้ความสำคัญกับกลยุทธ์การดึงคนเข้าศูนยฯให้มากที่สุดก่อน ยังไม่ได้มุ่งหวังยอดขายมากนัก โดยงบตลาดที่มีอยู่นั้นจะเน้นหนักไปใช้กับการทำอีเว้นท์มากขึ้น จากเดิมที่จะใช้งบประมาณหนักทางด้านโฆษณา ประชาสัมพันธ์
นางสาววัลยากล่าวว่า ถึงแม้ว่าปีนี้จะมีปัจจัยลบในตลาดเข้ามามาก อาทิ ราคาน้ำมัน ภาวะทางการเมืองซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคในตลาด แต่ผลการดำเนินงานของซีพีเอ็นก็ยังคงเป็นไปตามเป้าหมาย เนื่องจากคนไทยมีไลฟ์สไตล์ผูกติดกับศูนย์การค้า
ดร.ณัฐกิตติ์ กล่าวว่า ผู้ประกอบการจะต้องพยายามสร้างสรรค์กิจกรรมที่แปลกแหวกแนวใหม่ๆเพื่อมาเป็นแรงดึงดูดสร้างความสนใจให้ลูกค้าเดินเข้าศูนย์มากขึ้น
เศรษฐกิจปีหน้าก็ยังคงต้องจับตาดูอีกครั้ง เพราะขณะนี้ยังประเมินลำบาก การเมืองสหรัฐหลังเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ก็ยังมีผลเช่นกัน รวมทั้งปัญหาเรื่องค่าเงิน ซึ่งผู้ประกอบการทุกรายจำเป็นอย่างยิ่งจะต้องปรับตัว ผมว่าทุกบริษัทฯก็เคยผ่านพ้นวิกฤกตการณ์ที่รุนแรงเมื่อปี 2540 มากันแล้ว น่าจะมีความแข็งแกร่งและมีความพร้อมมากขึ้นกับครั้งนี้
สำหรับสาขาใหม่ที่แจ้งวัฒนะนั้น จะใช้กลยุทธ์เปิดตัวแบบ “The Best Interactive Lifestyle Shopping Complex in Bangkok” เพื่อสร้างกระแสระตุ้นกำลังซื้อช่วงปลายปี แนวทางการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายจะเน้นเรื่องดิจิตอลไฮเทคครีเอทีฟอิมเมจินชั่นและเพลย์อินเทอร์แอคทีฟ เป็นหลัก เช่น การนำเอาหุ่นยนต์แบบแผลจากทั้วโลกมาจัดแสดงท่ศูนยารค้าเ.นทรัลพาซ่แจ้งวัฒนะ
สาขาแจ้งวัฒนะลงทุนไปมากกว่า 6,200 ล้านบาท พื้นที่ 24 ไร่ พื้นที่การค้า 3 แสน ตร .ม.และยังมีพันธมิตรร้านค้าอีกมากมาย กว่า 500 ร้านค้า คาดว่าจะมีคนเข้าศูนย์มากกว่า 60,000 คนต่อวัน
นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารธุรกิจและบริหารโครงการก่อสร้าง และ ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ร่วมกันเปิดเผยว่า ในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี 2551 นี้ ซีพีเอ็นจะใช้งบการตลาดรวมทั้งสิ้น 300 ล้านบาท เพื่อจัดกิจกรรมและอีเว้นท์ต่างๆในช่วงเทศกาลเพื่อกระตุ้นให้คนเข้าศูนย์มากขึ้นในทุกสาขา ไม่ว่าจะเป็นเซ็นทรัลเวิลด์ที่เพิ่งเปิดบริการมาเพียงปีเศษ ก็มีกิจกรรมเคานท์ดาวน์
อีกทั้งงบตลาดอีก 200 ล้านบาทที่ใช้ทั้งปีในส่วนของเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะที่ะเปิดสาขาใหม่วันที่ 27 พฤศจิกายนนี้ที่มีมากวก่า 30 อีเว้นท์ โดยรวมแล้วคาดว่าทุกศูนย์ฯรวมกันจะมีกิจกรรมรวมทั้งสิ้นมากกว่า 100 อีเว้นท์
“จริงๆแล้วคนยังมีกำลังซื้ออยู่ อยากพักผ่อน แต่ไม่อยากซื้อของ แต่ว่าอารมณ์มันไม่ค่อยมี ตอนนี้อยู่ที่เราจะจัดหากิจกรรมที่แปลกใหม่เพื่อสร้างแรงดึงดูดให้คนเข้าศูนย์อ่ยางไร เพราะเมื่อคนเดินเข้าศูนย์ฯมากขึ้นก็จะทำให้เกิดการจับจ่ายซื้อของต่อเนื่อง”
จากสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซาและปัญหาการเมืองในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้การจับจ่ายใช้สอยของลูกค้ามีอัตราลดลงจากเดิมที่ใช้จ่ายเฉลี่ย 1,200 บาทต่อคนต่อครั้ง ลดลงเหลือ 1,000 บาทต่อคนต่อครั้ง ในขณะที่ปริมาณลูกค้าที่เข้าศูนย์นั้นไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด ทั้งนี้บริษัทฯจับกลุ่มเป้าหมายหลัก 2 กลุ่มคือ เอกับบี ดังนั้น ถือเป็นฐานที่กว้างพอสมคร ดังนั้นเมื่อเศรษฐกิจไม่ดีกระทบกับคนกลุ่มหนึ่ง เราก็ยังมีตลาดอีกกลุ่มรองรับอยู่
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์เช่นนี้บริษัทฯให้ความสำคัญกับกลยุทธ์การดึงคนเข้าศูนยฯให้มากที่สุดก่อน ยังไม่ได้มุ่งหวังยอดขายมากนัก โดยงบตลาดที่มีอยู่นั้นจะเน้นหนักไปใช้กับการทำอีเว้นท์มากขึ้น จากเดิมที่จะใช้งบประมาณหนักทางด้านโฆษณา ประชาสัมพันธ์
นางสาววัลยากล่าวว่า ถึงแม้ว่าปีนี้จะมีปัจจัยลบในตลาดเข้ามามาก อาทิ ราคาน้ำมัน ภาวะทางการเมืองซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคในตลาด แต่ผลการดำเนินงานของซีพีเอ็นก็ยังคงเป็นไปตามเป้าหมาย เนื่องจากคนไทยมีไลฟ์สไตล์ผูกติดกับศูนย์การค้า
ดร.ณัฐกิตติ์ กล่าวว่า ผู้ประกอบการจะต้องพยายามสร้างสรรค์กิจกรรมที่แปลกแหวกแนวใหม่ๆเพื่อมาเป็นแรงดึงดูดสร้างความสนใจให้ลูกค้าเดินเข้าศูนย์มากขึ้น
เศรษฐกิจปีหน้าก็ยังคงต้องจับตาดูอีกครั้ง เพราะขณะนี้ยังประเมินลำบาก การเมืองสหรัฐหลังเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ก็ยังมีผลเช่นกัน รวมทั้งปัญหาเรื่องค่าเงิน ซึ่งผู้ประกอบการทุกรายจำเป็นอย่างยิ่งจะต้องปรับตัว ผมว่าทุกบริษัทฯก็เคยผ่านพ้นวิกฤกตการณ์ที่รุนแรงเมื่อปี 2540 มากันแล้ว น่าจะมีความแข็งแกร่งและมีความพร้อมมากขึ้นกับครั้งนี้
สำหรับสาขาใหม่ที่แจ้งวัฒนะนั้น จะใช้กลยุทธ์เปิดตัวแบบ “The Best Interactive Lifestyle Shopping Complex in Bangkok” เพื่อสร้างกระแสระตุ้นกำลังซื้อช่วงปลายปี แนวทางการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายจะเน้นเรื่องดิจิตอลไฮเทคครีเอทีฟอิมเมจินชั่นและเพลย์อินเทอร์แอคทีฟ เป็นหลัก เช่น การนำเอาหุ่นยนต์แบบแผลจากทั้วโลกมาจัดแสดงท่ศูนยารค้าเ.นทรัลพาซ่แจ้งวัฒนะ
สาขาแจ้งวัฒนะลงทุนไปมากกว่า 6,200 ล้านบาท พื้นที่ 24 ไร่ พื้นที่การค้า 3 แสน ตร .ม.และยังมีพันธมิตรร้านค้าอีกมากมาย กว่า 500 ร้านค้า คาดว่าจะมีคนเข้าศูนย์มากกว่า 60,000 คนต่อวัน
