พรรคการเมืองและนักการเมืองใด ได้อำนาจรัฐมาด้วยการซื้อเสียงและโกงการเลือกตั้ง
ต้องถือว่า..อำนาจรัฐที่นักการเมืองโกงได้นั้น คือ อำนาจรัฐ-เถื่อน!!!
ดังนั้น..จึงสมเหตุผลประการทั้งปวง ที่ข้าราชการทุกส่วนจะไม่ยอมรับ และปฏิเสธการชี้นิ้วสั่งการของรัฐบาลเถื่อน อย่างรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร สมัคร สุนทรเวช สมชาย วงศ์สวัสดิ์!
แถมการกระทำมิบังควรมากครั้งที่ผ่านมา ในช่วงเป็นนายกรัฐมนตรี ของ“ทักษิณ ชินวัตร” ที่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ได้ทำให้คนไทยแตกแยกกันอย่างหนักตราบจนบัดนี้
ดังเช่นทักษิณและญาติพี่น้องในตระกูลชินวัตรบางคน ประกาศผ่านสื่อมวลชนในทำนองไม่มีใครในประเทศนี้จะใหญ่คับฟ้าเท่าทักษิณ ในกรณีโยกย้ายนายทหารว่า
นายกฯ ทักษิณเซ็นอนุมัติการโยกย้ายนายทหารแล้ว ใครหน้าไหนจะบังอาจมาแก้ไขโผโยกย้ายนายทหารได้อีกล่ะ?
นั่นเป็นคำพูดที่ไม่แยแสและมิบังควรอย่างยิ่ง ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงเป็นจอมทัพไทย!
ในการพบผู้ประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่ (ที่จัดตั้งมา) ทักษิณยังได้พูดอย่างหยาบช้าในทำนองว่า
“ถ้านายกฯ ไม่จงรักภักดี แล้วผีที่ไหนจะจงรักภักดี”
ในงานดังกล่าวทักษิณยังได้เซ็นชื่อของตนลงไปบนธนบัตร ที่มีพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวงประทับอยู่ ก่อนจะแจกจ่ายให้บรรดาคนขับรถแท็กซี่อีกด้วย!
เมื่อทักษิณมีปัญหาทางการเมือง สื่อมวลชนและประชาชนได้เรียกร้องให้ทักษิณลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ทักษิณกลับกระทำการมิบังควรอย่างยิ่งอีกครา ด้วยการพูดผ่านสื่อมวลชนว่า
“ถ้าพระเจ้าอยู่หัวกระซิบรับสั่งกับผมคำเดียว ทักษิณออกเถอะ รับรองกราบพระบาทออกแน่นอน”
ยามทักษิณเพลี่ยงพล้ำทางการเมือง แทนที่จะยอมรับข้อผิดพลาดของตน ทักษิณกลับประ
กาศกร้าวว่า มีมือที่มองไม่เห็นและคนมีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ คอยทำลายรัฐบาลของตน!
การจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ของทักษิณ ทั้งลับและเปิดเผยผุดโผล่ขึ้นมากมาย จนสร้างความไม่พอใจต่อผู้คนทุกวงการ นำไปสู่การประท้วงของพันธมิตรฯ และประชาชนอย่างกว้างขวางต่อเนื่อง
ในที่สุดการจาบจ้วงหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ ก็กลายเป็นหนึ่งในปัญหาใหญ่นอกจากการโกงกินบ้านเมือง ที่ทำให้ทักษิณกลายเป็น “โมฆบุรุษ” จนถูกคณะทหารรัฐประหารในที่สุด
ห้วงนั้นเอง..ที่คณะทหาร คมช. ได้แต่งตั้งคณะบุคคลที่สังคมยอมรับ ถึงความสุจริตยุติธรรม เข้าตรวจสอบ-สืบสว นถึงพฤติกรรม การคอร์รัปชันของทักษิณ-ภริยาในโครงการต่างๆ ทันที
ในขณะเดียวกันพรรคไทยรักไทยของ “คนหน้าเหลี่ยม” ก็ถูกยุบ จากกรณีกรรมการบริ
หารพรรคบางคนโกงการเลือกตั้ง จากคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญว่า มีการกระทำเป็นอันตรายร้ายแรงต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
แต่คณะรัฐประหาร คมช.มิได้กระทำการทำลายระบอบทักษิณอย่างจริงจังเท่าที่ควร “คน
หน้าเหลี่ยม” จึงมีโอกาสใช้เงินซื้อเสียงและโกงการเลือกตั้งอีกครั้ง จนสามารถยึดอำนาจรัฐมาไว้ในกำมืออีกครา
ทว่า..รัฐบาลหุ่นเชิด สมัคร สุนทรเวช เป็นโรคดื้อไม่ฟังคำสั่งทักษิณเท่าที่ควร “คนหน้าเหลี่ยม” เลยเอาน้องเขยสุดเลิฟ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ขึ้นเป็นนายกฯ แทนทันที
ขณะที่ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ผู้น้องเขยเป็นนายกรัฐมนตรีนี่เอง ที่ทักษิณถูกศาลฏีกาแผนกคดี
อาญานักการเมือง พิพากษาให้จำคุก 2 ปี ในคดีซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก
ทักษิณ ณ ลอนดอน ก็ถูกเปลี่ยนคำนำหน้าจากพ.ต.ท.มาเป็น นช. (นักโทษชาย) ทันที และนั่นทำให้ทักษิณออกคำแถลงในทำนองว่า
..มีขบวนการชนชั้นสูงในประเทศไทย รวมหัวกันทำร้ายเขาและครอบครัว..
ชนชั้นสูงที่ทักษิณระบุ..ผู้คนในประเทศไทยไม่อาจตีความเป็นอื่นไปได้ นอกจากทักษิณบังอาจและไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงนั่นเอง
ที่สำคัญ..ทักษิณไม่เคยมองเห็น หรือยอมรับการกระทำความผิดของตนเองแม้นแต่น้อย
ล่าสุดในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2551 ที่ผ่านมา
ทักษิณยังทุ่มเงินกว่า 200 ล้านบาท จัดมหกรรมคนเสื้อแดงมาสนับสนุนตน โดยทักษิณโฟนอินเข้ามาพูดคุยกับผู้ชุมนุม ด้วยถ้อยคำละเมิดทั้งต่อศาลสถิตยุติธรรม และบังอาจกล่าวถ้อยคำมิบังควรต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อีกด้วย
การพูดละเมิดอำนาจศาลนั้น ทักษิณพูดผ่านโทรศัพท์มากมายหลายประเด็น..แต่สุดท้ายสรุปได้ว่า..
“เรื่องกระบวนการยุติธรรมน่ะเหรอ..น่าจะเรียกว่า..กระบวนการยุติความเป็นธรรม”
คงไม่ต้องสรุปอะไรอีกแล้ว..เพราะถ้อยคำสุดท้าย คือ คำตอบที่สมบูรณ์ที่สุดของคนชื่อทักษิณ ชินวัตร ที่มีต่อศาลสถิตยุติธรรมของชาติไทยครับ
ส่วนการพูดที่มิบังควรอย่างยิ่งต่อสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น คือ
“..ไม่มีใครเอาผมกลับมาได้ นอกจากพระบารมีที่จะทรงมีพระเมตตา หรือพลังของพี่น้องประชาชนที่จะนำผมกลับ..”
การพูดเช่นนั้นของทักษิณ แสดงความไม่ได้หวังดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์แม้นแต่น้อย เพราะตามตัวบทกฎหมายแล้ว..พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทรงอภัยโทษให้กับนักโทษ ต่อเมื่อ นักโทษผู้นั้นต้องรับโทษกรรมตามความผิด ที่ตนกระทำเสียก่อน จากนั้นกรมราชทัณฑ์จึงพิจารณาความประพฤติ ว่านักโทษผู้นั้นอยู่ในข่ายที่สมควรเสนออภัยโทษให้หรือไม่
อีกทั้งที่ผ่านมา..พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยังไม่เคยอภัยโทษให้นักโทษคดีคอร์รัปชันโกงกินบ้านเมืองเลย
ดังนั้นการโฟนอินผ่านสาธารณชนของทักษิณ เท่ากับเป็นการบีบบังคับในสิ่งที่ไม่อาจกระทำได้ และส่งผลให้ผู้คนที่ไม่เข้าใจและสนับสนุนทักษิณ เข้าใจผิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจทันทีครับ
ส่วนคำต่อท้ายของทักษิณที่ว่า..พลังของพี่น้องประชาชนที่จะนำผมกลับนั้น
ตีความได้สถานเดียวว่า หากทักษิณไม่ได้รับการช่วยดังที่เขาหวัง ทักษิณจะทำอะไรก็ได้ ด้วยพลังประชาชน (ทั้งจ้างมาและสนับสนุนทักษิณ) ของเขา เพื่อบีบคั้นต่อทุกสถาบันให้เขาพ้นจากความผิด พ้นจากการเป็นนักโทษชาย และกลับมาเป็นใหญ่อีกครั้งในประเทศนี้ครับ
ถือได้ว่า..ทักษิณได้ประกาศปลุกระดมประชาชน (ทั้งรับจ้างและบริสุทธิ์ที่สนับสนุนเขา)ให้พร้อมทำสงครามเพื่อประโยชน์ของตัวเขาเพียงคนเดียว โดยไม่คำนึงว่า..สถาบันพระมหากษัตริย์และชาติบ้านเมืองจะล่มจมวายป่วงสักปานใด
ทักษิณ ชินวัตรกับสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยนั้น ต้องระบุไว้ตรงนี้เลยว่า
ทักษิณ-มีการกระทำที่มิบังควร-เหิมเกริม-บังอาจ-ชั่วช้าสามานย์ยิ่งนัก เขาทำให้คนไทยต้องแตกแยกเป็นสองฝ่าย จนเกิดวิกฤตการณ์อันมีโอกาส เกิดเหตุเลือดนองท้องช้าง..เพราะคนไทยฆ่ากันเองครับ
นี่ยังไม่รวมเรื่องคนสนิทของทักษิณ ในนาม นปช.หรือกลุ่มอันธพาลการเมืองเสื้อแดง อย่างนายวีระ มุสิกพงศ์ นายจักรภพ เพ็ญแข นายสุชาติ นาคบางไทร และ “ดา ตอร์ปิโด” ฯลฯ ที่บังอาจด่าสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างสาดเสียเทเสียในที่สาธารณะ รวมทั้งใช้เว็บไซต์มากมาย สื่อสิ่งพิมพ์สารพัดชนิด วีซีดี วิทยุ และโทรทัศน์ ฯลฯ จาบจ้วงทำร้ายทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์
การกระทำดังกล่าวทั้งหมด มิใช่ปัญหาการเมืองที่ขุนทหารบางคนชอบอ้าง เพื่อจะเอาตัวรอดไม่ยอมเข้าไปจัดการปัญหาให้ยุติลง เพราะทั้งหมดนี้คือปัญหาความมั่นคง ที่จอมทัพของกอง
ทัพไทยหรือพระมหากษัตริย์ อันถือเป็นหนึ่งในสถาบันหลักของชาติ ถูกทักษิณและพลพรรคทำร้ายทำลายอย่างหยาบช้าครั้งแล้วครั้งเล่ามาหลายปีแล้ว
จนพันธมิตรฯ และประชาชนที่รับรู้..ทนไม่ได้ จนต้องออกมาต่อสู้เปิดโปงด้วยสองมือเปล่าแทนกองทัพไทย จนโดนรัฐบาลเถื่อนสมชายสั่งให้ตำรวจเข่นฆ่า ถึงกับตายและบาดเจ็บเกือบ 500 คน
วันนี้-ผู้นำกองทัพไทย..จะยังทำตัวไม่รู้ไม่ชี้ ทำตัวนิ่งเฉยเป็นทองไม่รู้ร้อน ปล่อยให้จอมทัพของกองทัพตนและสถาบันพระมหากษัตริย์ ถูกทำร้ายทำลายอย่างสามานย์ต่อไปอีกหรือ?
ขุนทหารของกองทัพไทยต้องรู้ว่า การกระทำของทักษิณต่อชาติบ้านเมือง และสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ผ่านมาทั้งในอดีตตราบทุกวันนี้..
สุดแสนอำมหิต-เลือดเย็น-ชั่วช้าสามานย์ฯลฯ จนต้องถือว่า ทักษิณ ชินวัตร คนนี้..มิใช่คนไทยอีกต่อไปแล้วครับ!
ต้องถือว่า..อำนาจรัฐที่นักการเมืองโกงได้นั้น คือ อำนาจรัฐ-เถื่อน!!!
ดังนั้น..จึงสมเหตุผลประการทั้งปวง ที่ข้าราชการทุกส่วนจะไม่ยอมรับ และปฏิเสธการชี้นิ้วสั่งการของรัฐบาลเถื่อน อย่างรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร สมัคร สุนทรเวช สมชาย วงศ์สวัสดิ์!
แถมการกระทำมิบังควรมากครั้งที่ผ่านมา ในช่วงเป็นนายกรัฐมนตรี ของ“ทักษิณ ชินวัตร” ที่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ได้ทำให้คนไทยแตกแยกกันอย่างหนักตราบจนบัดนี้
ดังเช่นทักษิณและญาติพี่น้องในตระกูลชินวัตรบางคน ประกาศผ่านสื่อมวลชนในทำนองไม่มีใครในประเทศนี้จะใหญ่คับฟ้าเท่าทักษิณ ในกรณีโยกย้ายนายทหารว่า
นายกฯ ทักษิณเซ็นอนุมัติการโยกย้ายนายทหารแล้ว ใครหน้าไหนจะบังอาจมาแก้ไขโผโยกย้ายนายทหารได้อีกล่ะ?
นั่นเป็นคำพูดที่ไม่แยแสและมิบังควรอย่างยิ่ง ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงเป็นจอมทัพไทย!
ในการพบผู้ประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่ (ที่จัดตั้งมา) ทักษิณยังได้พูดอย่างหยาบช้าในทำนองว่า
“ถ้านายกฯ ไม่จงรักภักดี แล้วผีที่ไหนจะจงรักภักดี”
ในงานดังกล่าวทักษิณยังได้เซ็นชื่อของตนลงไปบนธนบัตร ที่มีพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวงประทับอยู่ ก่อนจะแจกจ่ายให้บรรดาคนขับรถแท็กซี่อีกด้วย!
เมื่อทักษิณมีปัญหาทางการเมือง สื่อมวลชนและประชาชนได้เรียกร้องให้ทักษิณลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ทักษิณกลับกระทำการมิบังควรอย่างยิ่งอีกครา ด้วยการพูดผ่านสื่อมวลชนว่า
“ถ้าพระเจ้าอยู่หัวกระซิบรับสั่งกับผมคำเดียว ทักษิณออกเถอะ รับรองกราบพระบาทออกแน่นอน”
ยามทักษิณเพลี่ยงพล้ำทางการเมือง แทนที่จะยอมรับข้อผิดพลาดของตน ทักษิณกลับประ
กาศกร้าวว่า มีมือที่มองไม่เห็นและคนมีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ คอยทำลายรัฐบาลของตน!
การจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ของทักษิณ ทั้งลับและเปิดเผยผุดโผล่ขึ้นมากมาย จนสร้างความไม่พอใจต่อผู้คนทุกวงการ นำไปสู่การประท้วงของพันธมิตรฯ และประชาชนอย่างกว้างขวางต่อเนื่อง
ในที่สุดการจาบจ้วงหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ ก็กลายเป็นหนึ่งในปัญหาใหญ่นอกจากการโกงกินบ้านเมือง ที่ทำให้ทักษิณกลายเป็น “โมฆบุรุษ” จนถูกคณะทหารรัฐประหารในที่สุด
ห้วงนั้นเอง..ที่คณะทหาร คมช. ได้แต่งตั้งคณะบุคคลที่สังคมยอมรับ ถึงความสุจริตยุติธรรม เข้าตรวจสอบ-สืบสว นถึงพฤติกรรม การคอร์รัปชันของทักษิณ-ภริยาในโครงการต่างๆ ทันที
ในขณะเดียวกันพรรคไทยรักไทยของ “คนหน้าเหลี่ยม” ก็ถูกยุบ จากกรณีกรรมการบริ
หารพรรคบางคนโกงการเลือกตั้ง จากคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญว่า มีการกระทำเป็นอันตรายร้ายแรงต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
แต่คณะรัฐประหาร คมช.มิได้กระทำการทำลายระบอบทักษิณอย่างจริงจังเท่าที่ควร “คน
หน้าเหลี่ยม” จึงมีโอกาสใช้เงินซื้อเสียงและโกงการเลือกตั้งอีกครั้ง จนสามารถยึดอำนาจรัฐมาไว้ในกำมืออีกครา
ทว่า..รัฐบาลหุ่นเชิด สมัคร สุนทรเวช เป็นโรคดื้อไม่ฟังคำสั่งทักษิณเท่าที่ควร “คนหน้าเหลี่ยม” เลยเอาน้องเขยสุดเลิฟ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ขึ้นเป็นนายกฯ แทนทันที
ขณะที่ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ผู้น้องเขยเป็นนายกรัฐมนตรีนี่เอง ที่ทักษิณถูกศาลฏีกาแผนกคดี
อาญานักการเมือง พิพากษาให้จำคุก 2 ปี ในคดีซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก
ทักษิณ ณ ลอนดอน ก็ถูกเปลี่ยนคำนำหน้าจากพ.ต.ท.มาเป็น นช. (นักโทษชาย) ทันที และนั่นทำให้ทักษิณออกคำแถลงในทำนองว่า
..มีขบวนการชนชั้นสูงในประเทศไทย รวมหัวกันทำร้ายเขาและครอบครัว..
ชนชั้นสูงที่ทักษิณระบุ..ผู้คนในประเทศไทยไม่อาจตีความเป็นอื่นไปได้ นอกจากทักษิณบังอาจและไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงนั่นเอง
ที่สำคัญ..ทักษิณไม่เคยมองเห็น หรือยอมรับการกระทำความผิดของตนเองแม้นแต่น้อย
ล่าสุดในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2551 ที่ผ่านมา
ทักษิณยังทุ่มเงินกว่า 200 ล้านบาท จัดมหกรรมคนเสื้อแดงมาสนับสนุนตน โดยทักษิณโฟนอินเข้ามาพูดคุยกับผู้ชุมนุม ด้วยถ้อยคำละเมิดทั้งต่อศาลสถิตยุติธรรม และบังอาจกล่าวถ้อยคำมิบังควรต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อีกด้วย
การพูดละเมิดอำนาจศาลนั้น ทักษิณพูดผ่านโทรศัพท์มากมายหลายประเด็น..แต่สุดท้ายสรุปได้ว่า..
“เรื่องกระบวนการยุติธรรมน่ะเหรอ..น่าจะเรียกว่า..กระบวนการยุติความเป็นธรรม”
คงไม่ต้องสรุปอะไรอีกแล้ว..เพราะถ้อยคำสุดท้าย คือ คำตอบที่สมบูรณ์ที่สุดของคนชื่อทักษิณ ชินวัตร ที่มีต่อศาลสถิตยุติธรรมของชาติไทยครับ
ส่วนการพูดที่มิบังควรอย่างยิ่งต่อสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น คือ
“..ไม่มีใครเอาผมกลับมาได้ นอกจากพระบารมีที่จะทรงมีพระเมตตา หรือพลังของพี่น้องประชาชนที่จะนำผมกลับ..”
การพูดเช่นนั้นของทักษิณ แสดงความไม่ได้หวังดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์แม้นแต่น้อย เพราะตามตัวบทกฎหมายแล้ว..พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทรงอภัยโทษให้กับนักโทษ ต่อเมื่อ นักโทษผู้นั้นต้องรับโทษกรรมตามความผิด ที่ตนกระทำเสียก่อน จากนั้นกรมราชทัณฑ์จึงพิจารณาความประพฤติ ว่านักโทษผู้นั้นอยู่ในข่ายที่สมควรเสนออภัยโทษให้หรือไม่
อีกทั้งที่ผ่านมา..พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยังไม่เคยอภัยโทษให้นักโทษคดีคอร์รัปชันโกงกินบ้านเมืองเลย
ดังนั้นการโฟนอินผ่านสาธารณชนของทักษิณ เท่ากับเป็นการบีบบังคับในสิ่งที่ไม่อาจกระทำได้ และส่งผลให้ผู้คนที่ไม่เข้าใจและสนับสนุนทักษิณ เข้าใจผิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจทันทีครับ
ส่วนคำต่อท้ายของทักษิณที่ว่า..พลังของพี่น้องประชาชนที่จะนำผมกลับนั้น
ตีความได้สถานเดียวว่า หากทักษิณไม่ได้รับการช่วยดังที่เขาหวัง ทักษิณจะทำอะไรก็ได้ ด้วยพลังประชาชน (ทั้งจ้างมาและสนับสนุนทักษิณ) ของเขา เพื่อบีบคั้นต่อทุกสถาบันให้เขาพ้นจากความผิด พ้นจากการเป็นนักโทษชาย และกลับมาเป็นใหญ่อีกครั้งในประเทศนี้ครับ
ถือได้ว่า..ทักษิณได้ประกาศปลุกระดมประชาชน (ทั้งรับจ้างและบริสุทธิ์ที่สนับสนุนเขา)ให้พร้อมทำสงครามเพื่อประโยชน์ของตัวเขาเพียงคนเดียว โดยไม่คำนึงว่า..สถาบันพระมหากษัตริย์และชาติบ้านเมืองจะล่มจมวายป่วงสักปานใด
ทักษิณ ชินวัตรกับสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยนั้น ต้องระบุไว้ตรงนี้เลยว่า
ทักษิณ-มีการกระทำที่มิบังควร-เหิมเกริม-บังอาจ-ชั่วช้าสามานย์ยิ่งนัก เขาทำให้คนไทยต้องแตกแยกเป็นสองฝ่าย จนเกิดวิกฤตการณ์อันมีโอกาส เกิดเหตุเลือดนองท้องช้าง..เพราะคนไทยฆ่ากันเองครับ
นี่ยังไม่รวมเรื่องคนสนิทของทักษิณ ในนาม นปช.หรือกลุ่มอันธพาลการเมืองเสื้อแดง อย่างนายวีระ มุสิกพงศ์ นายจักรภพ เพ็ญแข นายสุชาติ นาคบางไทร และ “ดา ตอร์ปิโด” ฯลฯ ที่บังอาจด่าสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างสาดเสียเทเสียในที่สาธารณะ รวมทั้งใช้เว็บไซต์มากมาย สื่อสิ่งพิมพ์สารพัดชนิด วีซีดี วิทยุ และโทรทัศน์ ฯลฯ จาบจ้วงทำร้ายทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์
การกระทำดังกล่าวทั้งหมด มิใช่ปัญหาการเมืองที่ขุนทหารบางคนชอบอ้าง เพื่อจะเอาตัวรอดไม่ยอมเข้าไปจัดการปัญหาให้ยุติลง เพราะทั้งหมดนี้คือปัญหาความมั่นคง ที่จอมทัพของกอง
ทัพไทยหรือพระมหากษัตริย์ อันถือเป็นหนึ่งในสถาบันหลักของชาติ ถูกทักษิณและพลพรรคทำร้ายทำลายอย่างหยาบช้าครั้งแล้วครั้งเล่ามาหลายปีแล้ว
จนพันธมิตรฯ และประชาชนที่รับรู้..ทนไม่ได้ จนต้องออกมาต่อสู้เปิดโปงด้วยสองมือเปล่าแทนกองทัพไทย จนโดนรัฐบาลเถื่อนสมชายสั่งให้ตำรวจเข่นฆ่า ถึงกับตายและบาดเจ็บเกือบ 500 คน
วันนี้-ผู้นำกองทัพไทย..จะยังทำตัวไม่รู้ไม่ชี้ ทำตัวนิ่งเฉยเป็นทองไม่รู้ร้อน ปล่อยให้จอมทัพของกองทัพตนและสถาบันพระมหากษัตริย์ ถูกทำร้ายทำลายอย่างสามานย์ต่อไปอีกหรือ?
ขุนทหารของกองทัพไทยต้องรู้ว่า การกระทำของทักษิณต่อชาติบ้านเมือง และสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ผ่านมาทั้งในอดีตตราบทุกวันนี้..
สุดแสนอำมหิต-เลือดเย็น-ชั่วช้าสามานย์ฯลฯ จนต้องถือว่า ทักษิณ ชินวัตร คนนี้..มิใช่คนไทยอีกต่อไปแล้วครับ!