ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ลิ่วล้อแม้วถ่อยไม่เลิก "เพชรวรรต-กลุ่มเสื้อแดง" ถล่มไทยพีบีเอสเชียงใหม่ ไล่พนักงานออกจากตึก-ใช้กุญแจล็อกประตูขู่เผาทิ้ง แค้นข่าวแฉรับจ้างร่วมเวทีความเท็จวันนี้เมื่อ 1 พ.ย.ทีผ่านมา จี้ "เทพชัย หย่อง" ขอโทษสถานเดียว "สมชาย" บอกขอเช็คข้อมูลก่อน ขณะที่ ASTV หนองคายโดยลอบกัดกระจกแตก ส่วนจันทบุรี นปก.นำพวงหรีดไปวางหน้าสำนักงาน TOT จังหวัด อ้างไม่พอใจพนักงานที่ใช้มือตบไล่ "สมชาย" เมื่อเดือนก่อน
เช้าวานนี้ (3 พ.ย.) นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ที่เป็นกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และรัฐบาลพรรคพลังประชาชน (พปช.) มาอย่างต่อเนื่องได้ใช้สถานีวิทยุชุมชน 92.5 เมกะเฮิร์ตซ เรียกระดมคนเสื้อแดงให้มารวมตัวกันที่หน้าโรงแรมแกรนวโรรสพาเลซ ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เพื่อเดินทางไปขอคำชี้แจงจากสถานีโทรทัศน์ TPBS ที่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ กรณีที่มีการออกข่าวว่ามีการใช้เงินว่าจ้างคนเสื้อแดงจากเชียงใหม่ให้ไปร่วมเวที "ความจริงวันนี้สัญจร" ที่สนามกีฬาหัวหมาก กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ในราคา 500 บาท/คน/วันโดยสามารถเรียกระดมคนเสื้อแดงมาร่วมได้ประมาณ 100 กว่าคน เดินทางด้วยรถยนต์จำนวน 13 คัน
โดยระหว่างที่ขบวนรถของกลุ่มคนเสื้อแดงขับผ่านบริเวณสี่แยกศาลเด็ก (ถนนเชียงใหม่-ดอยสะเก็ด-เชียงราย) เพื่อมุ่งหน้าไปสถานี TPBS นั้น ได้จอดรถบริเวณหน้าร้านจำหน่ายจานดาวเทียมของศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยแม่โจ้ ที่ขึ้นป้ายหน้าร้านว่า รับติดตั้งจานถ่ายทอดสัญญาณ ASTV ไว้หน้าร้าน กลุ่มคนเสื้อแดงได้พากันจอดรถ พร้อมกับมีทีท่าว่าจะบุกเข้าไปปลดป้ายไวนิลดังกล่าว ทำให้พนักงานในร้านได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนเสื้อแดง เพียงแต่นำท่อนเหล็กเดินไปที่หน้าร้านเท่านั้น ไม่ได้ปลดป้ายดังกล่าวแต่อย่างใด จากนั้นก็มุ่งหน้าไปที่สถานีโทรทัศน์ TPBS ต่อไป
เวลา 11.30 น. กลุ่มคนเสื้อแดงได้บุกพังประตูรั้วสถานีเข้าไปปิดล้อมอาคารของสถานีโทรทัศน์ TPBS พร้อมใช้เครื่องขยายเสียงปราศรัยเรียกร้องให้ผู้บริหารสูงสุดของสถานีคือ นายเทพชัย หย่อง ผู้อำนวยการสถานี TPBS, ผู้ประกาศข่าว และผู้ที่ให้ข่าวเรื่องนี้เดินทางมาชี้แจงเรื่องนี้ที่สถานีฯเชียงใหม่ ไม่เช่นนั้นตัดน้ำตัดไฟและห้ามคนเข้าออกสถานีโดยเด็ดขาด ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ของสถานีฯอยู่ภายในอาคารประมาณ 30 คน
พร้อมกันนั้นนายเพชรวรรต ยังประกาศว่า ขณะนี้พี่น้องคนเสื้อแดงเชียงใหม่จาก อ.สันกำแพง-ดอยสะเก็ดกำลังรวมกลุ่มกันเพื่อเดินทางมาสมทบเพิ่มอีกหลายร้อยคน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งกำลังเข้าไปดูสถานการณ์กว่า 30 นายเท่านั้น
ขณะที่ พล.ต.ต.สุเทพ เดชรักษา ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ กล่าวว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาได้ส่งกำลังตำรวจเข้ารักษาความสงบเรียบร้อยแล้ว 60 นาย แต่หลังจากที่กลุ่มผู้ชุมนุมได้พังรั้วเข้าไป จึงได้สั่งเพิ่มกำลังอีกจำนวน 60 นาย และสั่งการให้ชุดควบคุมฝูงชนกว่า 10 นาย เตรียมความพร้อม หากเกิดเหตุรุนแรงขึ้นก็จะเข้าสลายความรุนแรงได้ภายในเวลา 30 นาที ทั้งนี้ จากการคาดการณ์แล้ว ไม่น่าจะเกิดเหตุรุนแรงขึ้นและกลุ่มเสื้อแดงจะไม่มาเพิ่มเติมอย่างแน่นอน ส่วนเรื่องการเจรจานั้นเป็นหน้าที่ของปกครองจังหวัดจะเป็นผู้เจรจา
**บีบผู้บริหารTPBSขอโทษ
จนเวลา 14.30 น. นายอนุพงศ์ ชัยฤทธิ์ บรรณาธิการบริหารฝ่ายเนื้อหาข่าวสถานีโทรทัศน์ TPBS ได้เดินทางมาที่ศูนย์ข่าวภาคเหนือสถานีโทรทัศน์ TPBS พร้อมเจรจากับนายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริ แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 และกลุ่มผู้ชุมนุมที่ปักหลักอยู่ประมาณ 200 คน
โดยนายอนุพงศ์ ได้พยายามชี้แจงทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้ชุมนุม แต่ไม่เป็นผลเนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมยืนยันจะขอพบกับนายเทพชัย หย่อง ผู้อำนวยการและประธานกรรมการบริหาร TPBS พร้อมทั้งผู้ประกาศข่าวและแหล่งข่าวที่ให้ข่าวดังกล่าวเท่านั้น เพื่อให้แสดงความรับผิดชอบและขอโทษกับข่าวที่เผยแพร่ออกไป ไม่เช่นนั้นจะปักหลักชุมนุมต่อไป ตลอดจนจะทำการตัดน้ำตัดไฟของศูนย์ข่าวแห่งนี้ด้วย ซึ่งล่าสุดมีรายงานว่ามีผู้ไปปิดวาล์วน้ำของศูนย์ข่าว TPBS แห่งนี้แล้ว
แหล่งข่าวในกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 กล่าวว่า ต้องการให้ผู้บริหารสูงสุดของ TPBS ออกมาขอโทษและแสดงความผิดชอบกรณีที่ข่าวดังกล่าวเผยแพร่ออกไป พร้อมทั้งให้เปิดเผยว่า นักการเมืองท้องถิ่นในเชียงใหม่ที่ให้ข่าวดังกล่าวเป็นใคร ทั้งนี้ ทางกลุ่มกำลังปรึกษาฝ่ายกฎหมายเพื่อเตรียมที่จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากผู้ที่ให้ข่าวดังกล่าวด้วย ซึ่งเบื้องต้นน่าจะไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาประมาณ 16.30 น.กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ได้นำเต็นท์มากางพร้อมจะนำเครื่องครัวมาหุงหาอาหารและปักหลักชุมนุมจนกว่าจะได้รับคำตอบที่ชัดเจน นอกจากนี้ยังได้มีการระดมบริจาคเงินและข้าวกล่องสนับสนุนการชุมนุมและแกนนำยังได้ประสานขอรถสุขาเคลื่อนที่จาก อบจ.เชียงใหม่ ส่งเข้ามาให้บริการในที่ชุมนุม 1 คัน ขณะที่แกนนำผู้ชุมนุมยังคงเปิดเวทีปราศรัยกดดันประกาศที่จะให้นายเทพชัย เดินทางมาชี้แจงและขอโทษเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยตัวเอง
**ล็อกกุญแจ-ขู่เผาทิ้ง
เวลา 18.00 น.กลุ่มผู้ชุมนุมได้ประกาศให้พนักงาน TPBS ทั้งหมดออกมาจากตึก จากนั้นกลุ่มม็อบจึงได้นำแม่กุญแจดอกใหญ่ไปปิดล็อกประตูทางเข้า และประกาศใช้พื้นที่ถายในบริเวณหน้าตึกของสถานีโดยได้มีการย้ายเวทีปราศรัยใหญ่เดิมที่เคยตั้งอยู่ที่หน้าโรงแรมแกรนด์วโรรสมาปักหลักชุมนุมปราศรัยที่ TPBS แทน โดยบนเวทีปราศรัยแกนนำได้มีการประกาศขู่ว่าจะชุมนุมยึดพื้นที่อย่างต่อเนื่อง หากยังไม่ส่งนายเทพชัยหย่ง มาเจรจาก็จะปักหลักยึดพื้นที่อย่างไม่มีกำหนด และยังขู่ว่าอาจจะมีการเผาสถานีอีกด้วย
แหล่งข่าวพนักงาน TPBS เผยว่า หลังยอมออกมาจากตึกหัวหน้าศูนย์ข่าวพร้อมพนักงานและผู้บริหารระดับสูงที่บินมาจากกรุงเทพฯ ได้เดินทางไปยังเซฟเฮ้าส์แห่งหนึ่งเพื่อประชุมหารือกำหนดแนวทางในการแก้ปัญหากลุ่มม็อบ เบื้องต้นหลังสถานีถูกยึด ผู้สื่อข่าวไม่สามารถปฏิบัติงานรายงานภาพและข่าวออกอากาศตรงจากสถานีได้ต้องงดชั่วคราว แต่ก็อาจจะใช้ช่องทางการส่งข่าวทางอินเตอร์เน็ตแทน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ม็อบไล่พนักงาน TPBS ออกมาจากตึกนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระจายกำลังรักษาการณ์อยู่ไม่ห่าง แต่เหตุการณ์ไม่ได้รุนแรงหรือมีการปะทะ เจ้าหน้าที่จึงไม่ได้เข้าไปจับกุมตัวฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งและยอมให้กลุ่มม็อบล้อคกุญแจแต่โดยดี
**"เถกิง" ยันเสนอข่าวเป็นกลาง
ด้านนายเถกิง สมทรัพย์ ผู้อำนวยการฝ่ายข่าวสถานีโทรทัศน์ TPBS ยืนยันว่า ข่าวของทีวีไทยไม่ได้กล่าวหากลุ่มรักเชียงใหม่ 51 แต่รู้สึกเสียใจหากข่าวจ่ายหัวละ 500 บาทในการร่วมรายการความจริงวันนี้สัญจร ทำให้ชาวเชียงใหม่ที่เดินทางไปร่วมงานอย่างบริสุทธิ์ใจในวันที่ 1 พ.ย.ได้รับความกระทบกระเทือนและทีวีไทยขอเรียนว่า การนำเสนอข่าวดังกล่าวได้นำเสนออย่างสมดุลทั้ง 2 ด้าน
"โดยในข่าวชิ้นดังกล่าวมีบทสัมภาษณ์ของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ระบุว่า เป็นการจัดงานที่ประสบความสำเร็จตามที่ตั้งเป้าไว้ และไม่มีการว่าจ้างผู้เข้าร่วมชุมนุมแต่อย่างใด ส่วนข่าวเกี่ยวกับการว่าจ้างผู้ชุมนุมนั้น เป็นข้อมูลที่ผ่านการตรวจสอบอย่างรอบด้านก่อนนำเสนอ และยังปรากฏเป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์หลายฉบับ" นายเถกิงกล่าว
**ป่าเถื่อนบุกทุบ ASTV หนองคาย
ที่ จ.หนองคาย เวลา 01.30 น.ของวานนี้ ได้เกิดเหตุคนร้ายใช้กระถางต้นไม้ทุ่มใส่กระจกด้านหน้าสำนักงานสถานีโทรทัศน์อีสานทีวี 3 (อีสานดิสคัฟเวอรี่) จ.หนองคาย ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งโขงถนนริมโขง ต.ในเมือง อ.เมืองหนองคาย ทำให้กระจกสำนักงานแตกกระจาย กระถางถูกขาตั้งโทรทัศน์ที่ตั้งอยู่ริมกระจกงอเล็กน้อย ซึ่ง ร.ต.ต.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองหนองคายได้ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุในเวลาต่อมา
ผู้จัดการสถานีโทรทัศน์อีสานทีวี 3 กล่าวว่า ในช่วงเกิดเหตุพนักงานฝ่ายเทคนิคได้ยินเสียงกระจกด้านล่างแตกจึงรีบลงจากชั้น 2 มาดูเห็นรถจักรยานยนต์คันหนึ่งไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียนมีชาย 3 คนนั่งซ้อนท้ายกันขับขี่ออกไปจากหน้าสถานีด้วยความรวดเร็ว
ตรวจสอบพบว่า กระจกด้านหน้าบานใหญ่ภายในสถานีบริเวณที่ตั้งทีวี ซึ่งมีการรับสัญญาณการถ่ายทอดสดผ่านดาวเทียม ASTV จากทำเนียบฯตลอด 24 ชั่วโมงได้รับความเสียหาย คาดว่าเหตุการณ์ครั้งนี้น่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มที่ไม่พอใจถึงบทบาทการทำงานของสถานีฯ ที่ได้มีการถ่ายทอดสัญญาณภาพการชุมนุมของพันธมิตรฯและเป็นที่น่าสังเกตว่า อีสานทีวีมีการถ่ายทอดสัญญาณการชุมนุมตั้งแต่เริ่มต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันยังไม่เคยมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น
"แต่หลังจากมีการแสดงพลังของกลุ่มคนเสื้อแดงในจังหวัดต่างๆ เข้าร่วมชุมนุมของกลุ่ม นปช.ที่สนามกีฬารัชมังคลากีฬาสถานเพื่อฟังการปราศรัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อวันที่ 1 พ.ย.แล้วก็ถูกกลุ่มร้ายบุกรุกคุกคามทันที จึงมั่นใจได้ว่าน่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ต้องการข่มขู่คุกคามอย่างแน่นอน" เจ้าหน้าที่คนหนึ่งกล่าว
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานในทำนองเดียวกันว่า สาเหตุหลักน่าจะมาจากการถ่ายทอดสัญญาณการชุมนุมของพันธมิตรฯ จึงทำให้เกิดความไม่พอใจจากฝ่ายตรงข้าม แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีกลุ่มวัยรุ่นป่วนเมืองในช่วงกลางคืน แต่หากเป็นฝีมือกลุ่มวัยรุ่นคงจะทำลายรถยนต์ของพนักงานที่จอดด้านหน้าสถานีมากกว่า
**นปก.จันท์วางหรีดTOTป้อง"ชาย"
วันเดียวกันกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยไม่เอาเผด็จการ (นปก.) จังหวัดจันทบุรี ประมาณ 100 คนสวมใส่เสื้อสีแดงได้ร่วมตัวกันนำพวงหรีดพร้อมข้อความ "แด่การกระทำอันต่ำทราม" ไปวางไว้ที่หน้าสำนักงานองค์การโทรศัพท์จังหวัดจันทบุรี ถนนพระยาตรัง ซอย 3 หรือบริษัท TOT ประจำจังหวัดจันทบุรี พร้อมทั้งนำรถยนต์ติดเครื่องขยายเสียงกล่าวปราศรัยโจมตีการกระทำของพนักงานบริษัท TOT สำนักงานใหญ่ กรุงเทพฯ โดยอ้างว่าแสดงกิริยาไม่เหมาะสมในโอกาสที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เดินทางไปตรวจเยี่ยมด้วยการใช้มือตบขับไล่
นายสุธา ภาคการ ผู้จัดการใหญ่บริษัท TOT ประจำจังหวัดจันทบุรี ได้ออกมาชี้แจงทำความเข้าใจ ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ทางพนักงาน TOT ประจำจังหวัดจันทบุรี ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ การเดินทางมาวางพวงหรีดแสดงความไม่พอใจที่สำนักงานTOT ประจำจังหวัดจันทบุรี ของกลุ่ม นปก.จันทบุรี ทำให้ประชาชนที่มาติดต่อราชการเกี่ยวกับการขออนุมัติเลขหมายโทรศัพท์ การชำระค่าโทรศัพท์และอื่นๆ รวมทั้งพนักงานในบริษัท ต่างแตกตื่น ตกใจ
หลังจากนั้นนายประมวล เธียรประดิษฐ์ แกนนำ นปก.จันทบุรี พร้อมด้วยนายสำเริง ประจำเรือ และนายวันชัย แสงสุวรรณ ได้กล่าวปราศรัยโจมตีและยื่นหนังสือต่อผู้จัดการสาขาจันทบุรี ประมาณ 30 นาที จึงได้เดินทางออกจากบริษัท TOT จังหวัดจันทบุรีไปมอบดอกไม้ให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ราชการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ค่ายเจ้าพระยาบดินทร์เดชา สิงหเสนีย์ หรือ ตชด.11 จันทบุรี ที่เป็นกำลังผสมในการรักษาความสงบและสลายการชุมนุมที่อาคารรัฐสภาครั้งที่ผ่านมา.
เช้าวานนี้ (3 พ.ย.) นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ที่เป็นกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และรัฐบาลพรรคพลังประชาชน (พปช.) มาอย่างต่อเนื่องได้ใช้สถานีวิทยุชุมชน 92.5 เมกะเฮิร์ตซ เรียกระดมคนเสื้อแดงให้มารวมตัวกันที่หน้าโรงแรมแกรนวโรรสพาเลซ ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เพื่อเดินทางไปขอคำชี้แจงจากสถานีโทรทัศน์ TPBS ที่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ กรณีที่มีการออกข่าวว่ามีการใช้เงินว่าจ้างคนเสื้อแดงจากเชียงใหม่ให้ไปร่วมเวที "ความจริงวันนี้สัญจร" ที่สนามกีฬาหัวหมาก กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ในราคา 500 บาท/คน/วันโดยสามารถเรียกระดมคนเสื้อแดงมาร่วมได้ประมาณ 100 กว่าคน เดินทางด้วยรถยนต์จำนวน 13 คัน
โดยระหว่างที่ขบวนรถของกลุ่มคนเสื้อแดงขับผ่านบริเวณสี่แยกศาลเด็ก (ถนนเชียงใหม่-ดอยสะเก็ด-เชียงราย) เพื่อมุ่งหน้าไปสถานี TPBS นั้น ได้จอดรถบริเวณหน้าร้านจำหน่ายจานดาวเทียมของศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยแม่โจ้ ที่ขึ้นป้ายหน้าร้านว่า รับติดตั้งจานถ่ายทอดสัญญาณ ASTV ไว้หน้าร้าน กลุ่มคนเสื้อแดงได้พากันจอดรถ พร้อมกับมีทีท่าว่าจะบุกเข้าไปปลดป้ายไวนิลดังกล่าว ทำให้พนักงานในร้านได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนเสื้อแดง เพียงแต่นำท่อนเหล็กเดินไปที่หน้าร้านเท่านั้น ไม่ได้ปลดป้ายดังกล่าวแต่อย่างใด จากนั้นก็มุ่งหน้าไปที่สถานีโทรทัศน์ TPBS ต่อไป
เวลา 11.30 น. กลุ่มคนเสื้อแดงได้บุกพังประตูรั้วสถานีเข้าไปปิดล้อมอาคารของสถานีโทรทัศน์ TPBS พร้อมใช้เครื่องขยายเสียงปราศรัยเรียกร้องให้ผู้บริหารสูงสุดของสถานีคือ นายเทพชัย หย่อง ผู้อำนวยการสถานี TPBS, ผู้ประกาศข่าว และผู้ที่ให้ข่าวเรื่องนี้เดินทางมาชี้แจงเรื่องนี้ที่สถานีฯเชียงใหม่ ไม่เช่นนั้นตัดน้ำตัดไฟและห้ามคนเข้าออกสถานีโดยเด็ดขาด ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ของสถานีฯอยู่ภายในอาคารประมาณ 30 คน
พร้อมกันนั้นนายเพชรวรรต ยังประกาศว่า ขณะนี้พี่น้องคนเสื้อแดงเชียงใหม่จาก อ.สันกำแพง-ดอยสะเก็ดกำลังรวมกลุ่มกันเพื่อเดินทางมาสมทบเพิ่มอีกหลายร้อยคน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งกำลังเข้าไปดูสถานการณ์กว่า 30 นายเท่านั้น
ขณะที่ พล.ต.ต.สุเทพ เดชรักษา ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ กล่าวว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาได้ส่งกำลังตำรวจเข้ารักษาความสงบเรียบร้อยแล้ว 60 นาย แต่หลังจากที่กลุ่มผู้ชุมนุมได้พังรั้วเข้าไป จึงได้สั่งเพิ่มกำลังอีกจำนวน 60 นาย และสั่งการให้ชุดควบคุมฝูงชนกว่า 10 นาย เตรียมความพร้อม หากเกิดเหตุรุนแรงขึ้นก็จะเข้าสลายความรุนแรงได้ภายในเวลา 30 นาที ทั้งนี้ จากการคาดการณ์แล้ว ไม่น่าจะเกิดเหตุรุนแรงขึ้นและกลุ่มเสื้อแดงจะไม่มาเพิ่มเติมอย่างแน่นอน ส่วนเรื่องการเจรจานั้นเป็นหน้าที่ของปกครองจังหวัดจะเป็นผู้เจรจา
**บีบผู้บริหารTPBSขอโทษ
จนเวลา 14.30 น. นายอนุพงศ์ ชัยฤทธิ์ บรรณาธิการบริหารฝ่ายเนื้อหาข่าวสถานีโทรทัศน์ TPBS ได้เดินทางมาที่ศูนย์ข่าวภาคเหนือสถานีโทรทัศน์ TPBS พร้อมเจรจากับนายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริ แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 และกลุ่มผู้ชุมนุมที่ปักหลักอยู่ประมาณ 200 คน
โดยนายอนุพงศ์ ได้พยายามชี้แจงทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้ชุมนุม แต่ไม่เป็นผลเนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมยืนยันจะขอพบกับนายเทพชัย หย่อง ผู้อำนวยการและประธานกรรมการบริหาร TPBS พร้อมทั้งผู้ประกาศข่าวและแหล่งข่าวที่ให้ข่าวดังกล่าวเท่านั้น เพื่อให้แสดงความรับผิดชอบและขอโทษกับข่าวที่เผยแพร่ออกไป ไม่เช่นนั้นจะปักหลักชุมนุมต่อไป ตลอดจนจะทำการตัดน้ำตัดไฟของศูนย์ข่าวแห่งนี้ด้วย ซึ่งล่าสุดมีรายงานว่ามีผู้ไปปิดวาล์วน้ำของศูนย์ข่าว TPBS แห่งนี้แล้ว
แหล่งข่าวในกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 กล่าวว่า ต้องการให้ผู้บริหารสูงสุดของ TPBS ออกมาขอโทษและแสดงความผิดชอบกรณีที่ข่าวดังกล่าวเผยแพร่ออกไป พร้อมทั้งให้เปิดเผยว่า นักการเมืองท้องถิ่นในเชียงใหม่ที่ให้ข่าวดังกล่าวเป็นใคร ทั้งนี้ ทางกลุ่มกำลังปรึกษาฝ่ายกฎหมายเพื่อเตรียมที่จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากผู้ที่ให้ข่าวดังกล่าวด้วย ซึ่งเบื้องต้นน่าจะไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาประมาณ 16.30 น.กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ได้นำเต็นท์มากางพร้อมจะนำเครื่องครัวมาหุงหาอาหารและปักหลักชุมนุมจนกว่าจะได้รับคำตอบที่ชัดเจน นอกจากนี้ยังได้มีการระดมบริจาคเงินและข้าวกล่องสนับสนุนการชุมนุมและแกนนำยังได้ประสานขอรถสุขาเคลื่อนที่จาก อบจ.เชียงใหม่ ส่งเข้ามาให้บริการในที่ชุมนุม 1 คัน ขณะที่แกนนำผู้ชุมนุมยังคงเปิดเวทีปราศรัยกดดันประกาศที่จะให้นายเทพชัย เดินทางมาชี้แจงและขอโทษเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยตัวเอง
**ล็อกกุญแจ-ขู่เผาทิ้ง
เวลา 18.00 น.กลุ่มผู้ชุมนุมได้ประกาศให้พนักงาน TPBS ทั้งหมดออกมาจากตึก จากนั้นกลุ่มม็อบจึงได้นำแม่กุญแจดอกใหญ่ไปปิดล็อกประตูทางเข้า และประกาศใช้พื้นที่ถายในบริเวณหน้าตึกของสถานีโดยได้มีการย้ายเวทีปราศรัยใหญ่เดิมที่เคยตั้งอยู่ที่หน้าโรงแรมแกรนด์วโรรสมาปักหลักชุมนุมปราศรัยที่ TPBS แทน โดยบนเวทีปราศรัยแกนนำได้มีการประกาศขู่ว่าจะชุมนุมยึดพื้นที่อย่างต่อเนื่อง หากยังไม่ส่งนายเทพชัยหย่ง มาเจรจาก็จะปักหลักยึดพื้นที่อย่างไม่มีกำหนด และยังขู่ว่าอาจจะมีการเผาสถานีอีกด้วย
แหล่งข่าวพนักงาน TPBS เผยว่า หลังยอมออกมาจากตึกหัวหน้าศูนย์ข่าวพร้อมพนักงานและผู้บริหารระดับสูงที่บินมาจากกรุงเทพฯ ได้เดินทางไปยังเซฟเฮ้าส์แห่งหนึ่งเพื่อประชุมหารือกำหนดแนวทางในการแก้ปัญหากลุ่มม็อบ เบื้องต้นหลังสถานีถูกยึด ผู้สื่อข่าวไม่สามารถปฏิบัติงานรายงานภาพและข่าวออกอากาศตรงจากสถานีได้ต้องงดชั่วคราว แต่ก็อาจจะใช้ช่องทางการส่งข่าวทางอินเตอร์เน็ตแทน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ม็อบไล่พนักงาน TPBS ออกมาจากตึกนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระจายกำลังรักษาการณ์อยู่ไม่ห่าง แต่เหตุการณ์ไม่ได้รุนแรงหรือมีการปะทะ เจ้าหน้าที่จึงไม่ได้เข้าไปจับกุมตัวฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งและยอมให้กลุ่มม็อบล้อคกุญแจแต่โดยดี
**"เถกิง" ยันเสนอข่าวเป็นกลาง
ด้านนายเถกิง สมทรัพย์ ผู้อำนวยการฝ่ายข่าวสถานีโทรทัศน์ TPBS ยืนยันว่า ข่าวของทีวีไทยไม่ได้กล่าวหากลุ่มรักเชียงใหม่ 51 แต่รู้สึกเสียใจหากข่าวจ่ายหัวละ 500 บาทในการร่วมรายการความจริงวันนี้สัญจร ทำให้ชาวเชียงใหม่ที่เดินทางไปร่วมงานอย่างบริสุทธิ์ใจในวันที่ 1 พ.ย.ได้รับความกระทบกระเทือนและทีวีไทยขอเรียนว่า การนำเสนอข่าวดังกล่าวได้นำเสนออย่างสมดุลทั้ง 2 ด้าน
"โดยในข่าวชิ้นดังกล่าวมีบทสัมภาษณ์ของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ระบุว่า เป็นการจัดงานที่ประสบความสำเร็จตามที่ตั้งเป้าไว้ และไม่มีการว่าจ้างผู้เข้าร่วมชุมนุมแต่อย่างใด ส่วนข่าวเกี่ยวกับการว่าจ้างผู้ชุมนุมนั้น เป็นข้อมูลที่ผ่านการตรวจสอบอย่างรอบด้านก่อนนำเสนอ และยังปรากฏเป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์หลายฉบับ" นายเถกิงกล่าว
**ป่าเถื่อนบุกทุบ ASTV หนองคาย
ที่ จ.หนองคาย เวลา 01.30 น.ของวานนี้ ได้เกิดเหตุคนร้ายใช้กระถางต้นไม้ทุ่มใส่กระจกด้านหน้าสำนักงานสถานีโทรทัศน์อีสานทีวี 3 (อีสานดิสคัฟเวอรี่) จ.หนองคาย ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งโขงถนนริมโขง ต.ในเมือง อ.เมืองหนองคาย ทำให้กระจกสำนักงานแตกกระจาย กระถางถูกขาตั้งโทรทัศน์ที่ตั้งอยู่ริมกระจกงอเล็กน้อย ซึ่ง ร.ต.ต.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองหนองคายได้ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุในเวลาต่อมา
ผู้จัดการสถานีโทรทัศน์อีสานทีวี 3 กล่าวว่า ในช่วงเกิดเหตุพนักงานฝ่ายเทคนิคได้ยินเสียงกระจกด้านล่างแตกจึงรีบลงจากชั้น 2 มาดูเห็นรถจักรยานยนต์คันหนึ่งไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียนมีชาย 3 คนนั่งซ้อนท้ายกันขับขี่ออกไปจากหน้าสถานีด้วยความรวดเร็ว
ตรวจสอบพบว่า กระจกด้านหน้าบานใหญ่ภายในสถานีบริเวณที่ตั้งทีวี ซึ่งมีการรับสัญญาณการถ่ายทอดสดผ่านดาวเทียม ASTV จากทำเนียบฯตลอด 24 ชั่วโมงได้รับความเสียหาย คาดว่าเหตุการณ์ครั้งนี้น่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มที่ไม่พอใจถึงบทบาทการทำงานของสถานีฯ ที่ได้มีการถ่ายทอดสัญญาณภาพการชุมนุมของพันธมิตรฯและเป็นที่น่าสังเกตว่า อีสานทีวีมีการถ่ายทอดสัญญาณการชุมนุมตั้งแต่เริ่มต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันยังไม่เคยมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น
"แต่หลังจากมีการแสดงพลังของกลุ่มคนเสื้อแดงในจังหวัดต่างๆ เข้าร่วมชุมนุมของกลุ่ม นปช.ที่สนามกีฬารัชมังคลากีฬาสถานเพื่อฟังการปราศรัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อวันที่ 1 พ.ย.แล้วก็ถูกกลุ่มร้ายบุกรุกคุกคามทันที จึงมั่นใจได้ว่าน่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ต้องการข่มขู่คุกคามอย่างแน่นอน" เจ้าหน้าที่คนหนึ่งกล่าว
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานในทำนองเดียวกันว่า สาเหตุหลักน่าจะมาจากการถ่ายทอดสัญญาณการชุมนุมของพันธมิตรฯ จึงทำให้เกิดความไม่พอใจจากฝ่ายตรงข้าม แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีกลุ่มวัยรุ่นป่วนเมืองในช่วงกลางคืน แต่หากเป็นฝีมือกลุ่มวัยรุ่นคงจะทำลายรถยนต์ของพนักงานที่จอดด้านหน้าสถานีมากกว่า
**นปก.จันท์วางหรีดTOTป้อง"ชาย"
วันเดียวกันกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยไม่เอาเผด็จการ (นปก.) จังหวัดจันทบุรี ประมาณ 100 คนสวมใส่เสื้อสีแดงได้ร่วมตัวกันนำพวงหรีดพร้อมข้อความ "แด่การกระทำอันต่ำทราม" ไปวางไว้ที่หน้าสำนักงานองค์การโทรศัพท์จังหวัดจันทบุรี ถนนพระยาตรัง ซอย 3 หรือบริษัท TOT ประจำจังหวัดจันทบุรี พร้อมทั้งนำรถยนต์ติดเครื่องขยายเสียงกล่าวปราศรัยโจมตีการกระทำของพนักงานบริษัท TOT สำนักงานใหญ่ กรุงเทพฯ โดยอ้างว่าแสดงกิริยาไม่เหมาะสมในโอกาสที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เดินทางไปตรวจเยี่ยมด้วยการใช้มือตบขับไล่
นายสุธา ภาคการ ผู้จัดการใหญ่บริษัท TOT ประจำจังหวัดจันทบุรี ได้ออกมาชี้แจงทำความเข้าใจ ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ทางพนักงาน TOT ประจำจังหวัดจันทบุรี ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ การเดินทางมาวางพวงหรีดแสดงความไม่พอใจที่สำนักงานTOT ประจำจังหวัดจันทบุรี ของกลุ่ม นปก.จันทบุรี ทำให้ประชาชนที่มาติดต่อราชการเกี่ยวกับการขออนุมัติเลขหมายโทรศัพท์ การชำระค่าโทรศัพท์และอื่นๆ รวมทั้งพนักงานในบริษัท ต่างแตกตื่น ตกใจ
หลังจากนั้นนายประมวล เธียรประดิษฐ์ แกนนำ นปก.จันทบุรี พร้อมด้วยนายสำเริง ประจำเรือ และนายวันชัย แสงสุวรรณ ได้กล่าวปราศรัยโจมตีและยื่นหนังสือต่อผู้จัดการสาขาจันทบุรี ประมาณ 30 นาที จึงได้เดินทางออกจากบริษัท TOT จังหวัดจันทบุรีไปมอบดอกไม้ให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ราชการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ค่ายเจ้าพระยาบดินทร์เดชา สิงหเสนีย์ หรือ ตชด.11 จันทบุรี ที่เป็นกำลังผสมในการรักษาความสงบและสลายการชุมนุมที่อาคารรัฐสภาครั้งที่ผ่านมา.
