xs
xsm
sm
md
lg

"เรืองไกร"ชูโมเดลขจัดนักการเมืองโกง ต้องระบุที่มาทรัพย์สิน-เสียภาษีแล้วหรือยัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว. สรรหา เปิดเผยว่า ตนทราบมาว่าขณะนี้พรรคร่วมรัฐบาลกำลังผลักดันให้มีการแก้รัฐธรรมนูญโดยเร็วที่สุด เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะไม่ทันสมัยประชุมนี้ ซึ่งตนเองในฐานะที่มีประสบการณ์ในการตรวจสอบนักการเมืองอยู่บ้าง ขอเสนอให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมโดยเฉพาะในหมวดการตรวจสอบอำนาจรัฐ เนื่องจากสิ่งที่มีอยู่ในรัฐธรรมนูญในเรื่องการตรวจสอบทรัพย์สินของนักการเมือง ยังมีรายละเอียดไม่ครบ โดยเฉพาะเรื่องการได้มาของทรัพย์สินของนักการเมืองว่า มีที่มาที่ไปอย่างไร สามารถชี้แจงได้หรือไม่ ที่สำคัญมีการเสียภาษีแล้วหรือยัง
นายเรืองไกร กล่าวว่า ตนได้ทำโมเดลตรวจสอบทรัพย์สินผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และผู้บริหารท้องถิ่น ที่มีส่วนในการใช้อำนาจรัฐ และงบประมาณแผ่นดินให้ได้รับการตรวจสอบกันอย่างถ้วนหน้า ซึ่งโมเดลที่วางไว้จะเป็นระบบที่ทำให้การตรวจสอบทรัพย์สินของนักการเมืองเป็นไปโดยอัตโนมัติ โดยเริ่มจากตรวจสอบดูว่า ทรัพย์สินที่มีอยู่นั้น ชี้แจงที่มาที่ไปได้หรือไม่ ถ้าชี้ได้ คือการได้มาโดยชอบ และต้องตรวจสอบต่อไปว่า เสียภาษีแล้วหรือไม่ ถ้าเสียภาษีแล้วถือว่าจบ แต่ถ้ายังไม่เสียภาษีต้องยึด หรืออายัดตามกฎหมายภาษีแล้วมาตรวจสอบอีกครั้ง
ทั้งนี้ หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีความจงใจที่จะเลี่ยงการเสียภาษี ต้องมีการลงโทษโดยการเก็บภาษีเงินเพิ่มเบี้ยปรับ และฟ้องศาล และต้องมีโทษอาญาตาม มาตรา 37 ตามประมวลรัษฎากร แต่หากพบว่าไม่จงใจหลีกเลี่ยง ก็ให้เก็บเงินภาษีเพิ่ม พร้อมค่าปรับ และมีการดำเนินคดีในศาลภาษีเท่านั้น
แต่ถ้าทรัพย์นั้นชี้แจงไม่ได้ ต้องถือว่าได้มาทรัพย์มาโดยไม่ชอบ ต้องมีการอายัดไว้ก่อน หลังจากนั้นให้มีการตรวจทรัพย์ตรงนั้นว่า ทรัพย์ที่ได้มามีข้อเท็จจริงอย่างไร ผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือไม่ อาทิ กฎหมาย ป.ป.ช. , กฎหมายปปง. , กฎหมายของกรมสอบสวนคดีพิเศษ, กฎหมายตลาดหลักทรัพย์ กฎหมายสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน เป็นต้น ถ้าไม่ผิดก็คืนทรัพย์ให้ แต่ถ้าผิด ต้องลงโทษทางแพ่ง และอาญาพร้อมกับยึดทรัพย์
อีกทั้งการเสนอว่า ต้องการแสดงรายการทรัพย์สินทุกปี ระหว่างการดำรงตำแหน่งโดยต้องยื่นพร้อมพร้อมเอกสารประกอบซึ่งเป็นสำเนาหลักฐานที่พิสูจน์ความมีอยู่จริงของทรัพย์สิน และหนี้สินดังกล่าว รวมทั้งสำเนาแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ทุกรอบปีภายใน 30 วัน นับแต่วันครบรอบแต่ละปี ไม่ใช่ตรวจเฉพาะแค่หลังเข้ารับตำแหน่ง และหลังพ้นจากตำแหน่งเท่านั้น เพื่อควบคุมความเปลี่ยนแปลงของทรัพย์สิน และหนี้สิน ให้เป็นไปโดยชอบและป้องกันการทุจริตในระหว่างการดำรงตำแหน่ง และต้องตรวจสอบการมีอยู่จริงของทรัพย์ย้อนหลังไป 2 ปีด้วย โดยดูว่าทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้น ตรงกับแบบภาษีหรือไม่ ถ้าไม่ตรงกันถือว่าเป็นการได้ทรัพย์มาโดยมิชอบ และถ้าผิดจริง ต้องถูกยึดทรัพย์
ระบบการตรวจสอบที่โมเดลนี้วางไว้จะตรวจสอบอย่างละเอียดว่า ก่อนเลือกตั้งคุณมีทรัพย์สินเท่าใด เข้ามาแล้วเหลืออยู่เท่าไร ยกตัวอย่างเช่น ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 50 โดยคุณรายงานต่อป.ป.ช.ว่า เดือน ม.ค. 50 มีทรัพย์สิน 150 ล้านบาท แต่พอเดือนม.ค.51 กลับรายงานว่ามีทรัพย์สินเหลืออยู่ 95 ล้าน หรือมีทรัพย์ลดลง 55 ล้านบาท แต่กลับไปแจ้งต่อ กกต. ว่าใช้เงินหาเสียงแค่ 1.5 ล้านบาท ถามว่าแล้วอีก 53.5 ล้านบาท หายไปไหน เอาไปซื้อเสียงใช่หรือไม่ หากไม่มีการแสดงที่มาที่ไปก็แสดงว่ามีการปกปิดทรัพย์สินหรือเปล่า
" การตรวจสอบที่ว่านี้ ไม่ใช่ว่าจะต้องผิดทุกเรื่อง ถ้าไม่ผิดก็จะได้รับทรัพย์สินที่ถูกอายัดไว้ก่อนคืน แต่ต้องได้รับการตรวจสอบ ซึ่งผมพร้อมที่จะชี้แจงด้วยตนเองในทุกเวที แต่ว่าพรรคร่วมรัฐบาล ที่อยากจะแก้รัฐธรรมนูญทุกวันจนตัวสั่น จะกล้าแก้เรื่องนี้ด้วยการรับโมเดลนี้หรือไม่ ท่านผู้มีเกียรติ ขอให้กล้าๆ กันหน่อย และสังคมเห็นด้วยกับผมหรือไม่ ผมเองได้ยกร่างรัฐธรรมนูญไว้แล้ว" นายเรืองไกรกล่าว
นายเรืองไกร กล่าวด้วยว่า เหตุที่ได้ตกผลึกออกมาเป็นโมเดลนี้ เพราะเห็นว่า ป.ป.ช. มีคดีค้างเป็นหมื่นคดี ประชาชนจึงควรเข้ามาตรวจสอบนักการเมืองเหล่านี้ เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระของ ป.ป.ช. โดยตรวจสอบแค่ ส.ส. , ส.ว. คณะรัฐมนตรี และผู้มีส่วนในการใช้อำนาจรัฐอื่นๆ รวมแล้วไม่เกิน1,000 คน ซึ่งคนเหล่านี้คือผู้ใช้อำนาจบริหาร อำนาจนิติบัญญัติ ควรเอาคนเหล่านี้มาตรวจก่อนเพื่อที่จะช่วย ป.ป.ช. เคลียร์คดีที่ค้างคาออกไป เพื่อเราจะได้คนดีมาบริหารบ้านเมือง และหากประชาชนสามารถตรวจสอบนักการเมืองระดับชาติได้อย่างจริงจัง ต่อไปประชาชนในท้องถิ่นต่างๆ ก็จะสามารถตรวจสอบผู้บริหารท้องถิ่นของตัวเองได้ เพราะผู้บริหารท้องถิ่นเหล่านี้ก็มีส่วนในการใช้อำนาจรัฐ และงบประมาณแผ่นดินซึ่งเป็นภาษีของประชาชนเช่นกัน การตรวจสอบก็จะกระจายไปทุกพื้นที่ที่
"ผมอยากบอกว่า ตรงนี้คือใบเสร็จ ซึ่งใบเสร็จไม่กระดาษ แต่ใบเสร็จคือสิ่งที่ท่านครอบครองอยู่ หรือร่องรอยของการกระทำผิดที่ถูกค้นพบ ซึ่งก็เป็นลักษณะเดียวกันกับทรัพย์สินที่ท่านครอบครองอยู่ ว่าได้มาโดยชอบหรือไม่ชอบ หรือทรัพย์สินที่หายไปอย่างผิดปกติ สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ ส.ส.ร.3 ควรจะเขียนลงไป แต่ถามว่าท่านกล้าหรือไม่ ขอให้เขียนเรื่องนี้หน่อย แน่จริงต้องกล้าที่จะตรวจสอบตัวเองก่อน อย่าเพิ่งไปเขียนอย่างอื่น โมเดล ที่ผมเสนอไปนี้ จะไม่มีทำให้นักการเมืองคนใดคนหนึ่งหลุดจากการตรวจสอบนี้แน่นอน รวมทั้งตัวผมด้วย หากถ้าทำได้การเมืองไทยจะดีขึ้น เนื่องจากวิกฤตที่เกิดในวันนี้ ก็มาจากนักการเมืองฉ้อฉล ทุจริตคอร์รัปชั่น โกงกินบ้านเมืองเหล่านี้ทั้งนั้น เราต้องผลักดันคนเหล่านี้ออกไป โดยทันทีที่นักการเมืองเข้ามาระบบที่วางไว้จะตรวจสอบโดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะไปเอื้อประโยชน์ให้ใคร การใช้เงินมากมายต้องตอบให้ได้ว่าเงินใคร ต่อจากนี้ไปแทนที่จะไปบอกว่านักการเมืองโกงโฉนดที่ดิน ก็เปลี่ยนมาถามเลยว่าทรัพย์สินที่บรรดานักการเมืองมีอยู่มากมาย คฤหาสน์ รถ ที่ดิน ทรัพย์เหล่านี้มาจากไหน ตรวจสอบได้หรือไม่ ถ้าชี้แจงไม่ได้ก็ต้องถูกยึดให้เป็นของแผ่นดิน ซึ่งการตรวจสอบตรงนี้จะมีการกระทบกลับมาที่ยอดทรัพย์สินที่มีอยู่เดิมนี่คือระบบ (back bone) ที่จะต้องวางให้เสร็จ"นายเรืองไกรกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น