xs
xsm
sm
md
lg

“ชาย”สร้างภาพถกยุติรุนแรงแต่เดินหน้าลุยแก้รัฐธรรมนูญ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (31 ต.ค.) นพ.วันชัย วัฒนศัพท์ หัวหน้าทีมประสานเครือข่ายสานเสวนา เพื่อสันติธรรม พร้อมคณะได้เดินทางเข้าพบ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตี และ รมว.กลาโหม เพื่อเชิญนายกรัฐมนตรี ร่วมเวทีสานเสวนาเพื่อสันติธรรม
หลังการเข้าพบ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ แถลงข่าวร่วมกับ นพ.วันชัย วัฒนศัพท์ โดยนายกฯ กล่าวว่าที่ผ่านมา ตนได้พูดว่า สนับสนุนแนวทางของเครือข่ายนี้ เพราะเป็นวิธีการที่หาทางออก ให้ลดความขัดแย้งในบ้านเมือง มีอะไรก็หันหน้ามาพูดคุยกัน หาเหตุผลมาตกลงกันว่า เราจะเดินทางไปในแนวทางไหน เพื่อส่วนรวม เพื่อพี่น้องประชาชนให้ได้รับความสงบสุข และจะได้ทำมาหากินกัน โดยมีสมาธิ และก็เคยสนับสนุนแนวทางของพล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ และดร. สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ให้หันหน้าเข้าหากันเพื่อสันติสุข เป็นแนวทางที่ดี
นายสมชาย กล่าวว่า การพบกันครั้งนี้ เป็นการพูดคุยถึงทางออกของบ้านเมือง ว่าควรเป็นอย่างไร ได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ซึ่งท่านก็ได้ถามตนว่า แนวทางในทางออกของประเทศควรเป็นอย่างไร ซึ่งตนก็ได้เรียนไปว่า แนวทางการพูดจาหารือกัน ที่จะมีความปรองดองกัน ด้วยเหตุผลนั้น เป็นวิธีที่ตนคิดว่า เป็นแนวทางที่ดี และสุดท้าย แนวทางที่เราเห็นว่าเป็นช่องทางที่ดีที่สุดก็คือ เราเป็นประเทศที่อยู่ในสังคมโลก ต้องยึดหลัก ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อันนี้ทุกคนควรยึดถือหลักนี้เป็นเกณฑ์ และปัจจุบันนี้ เมื่อเรามีรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญที่ทุกคนยอมรับ รัฐบาลปัจจุบันก็ยอมรับ โดยการผ่านการเลือกตั้งเข้ามา
แต่เมื่อวันหนึ่งมีกลุ่มคนหรือหลายกลุ่ม หลายคณะ มีความรู้สึกว่าน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุงรัฐธรรมนูญ เพราะควรจะพัฒนาการเมืองใหม่ ผมได้ตอบอาจารย์ไปว่าแนวทางของผมที่รัฐบาลคิดว่าเป็นทางออกและกำลังทำอยู่คือ ต้องให้ประชาชนทั้งประเทศมีส่วนร่วมในการวินิจฉัยและตัดสินใจ ผมจึงได้สนับสนุนแนวทางการตั้งส.ส.ร. 3 ขึ้นมาเพื่อปรับปรุงรัฐธรรมนูญ ถ้าใครปรารถนาจะดำเนินการไปอย่างไร ก็สามารถแสดงความเห็นเข้ามาได้ หรือไปรับการคัดเลือกเป็นตัวแทนของประชาชนในการที่จะเข้ามาดำเนินการ เมื่อสุดท้ายผลออกมาแล้ว หากจะต้องไปทำประชาพิจารณ์เพื่อให้ประชาชนทั้งประเทศเห็นว่าเอาหรือไม่เอา คิดว่าตรงนี้ยุติก็จะไปดูในร่างของการแก้ไข และหากประชาชนทั้งประเทศรับได้ รัฐบาลก็ควรจะคืนอำนาจให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ
ทุกวันนี้เราต้องยุติความรุนแรง อย่างที่สื่อได้สวมเสื้อยุติความรุนแรง ที่สวยงามอยู่ ผมก็ได้รับแจก กลับไปบ้านแล้วจะใส่ แต่ไม่ใช่ว่าใส่อยู่บ้าน แต่จะใส่ไปเดินที่อื่น และเป็นวิถีทางที่ผมเห็นด้วยว่าเราต้องอยู่ด้วยความสงบและเคารพกฎหมาย ถ้าส่วนใดที่ไม่สงบ ไม่เคารพกฎหมายนั้นก็ให้ปรับปรุง จะได้ถูกต้องตามกฎหมาย
นพ.วันชัย ได้กล่าวเสริมว่า ตนไม่ได้มาแนะนำว่ารัฐบาลควรทำอะไรหรือ ไม่ควรทำอะไร แต่เรามาฟังว่า รัฐบาลมองประเด็นต่างๆ เหล่านี้อย่างไร ซึ่งนายกฯ ก็ได้ตอบคำถาม เช่นการเตรียมความพร้อมในการยุติความรุนแรงไว้อย่างไรบ้าง ซึ่งนายกฯก็ไดพูดถึงการประชุมสภากลาโหมที่ได้มีบัญชาให้เจ้าหน้าที่ไปดูในเรื่องของ ระเบิดที่เกิดขึ้น รวมถึงการป้องกัน และคาดหวังว่าจะไม่เกิดอะไรขึ้น
นพ.วันชัย กล่าวว่า ในสิ่งที่หลายคนเกรงว่าจะเกิด เรื่องที่รัฐบาลอยากให้ เครือข่ายทำ หรือช่วยหรือไม่ทำอะไรบ้าง ซึ่งนายกฯก็บอกว่า อยากให้เราช่วย ในแนวทางที่ทางรัฐบาลกำลังหาทางออก พร้อมทั้งปัญหาความขัดแย้งเรื่องของการพัฒนา ในหลาย ๆ กลุ่ม ที่กำลังมองว่า เป็นทางตัน เรื่องของประชาธิปไตยหรืออะไรก็แล้วแต่ ในกระบวนการเสวนา
นพ.วันชัย กล่าวว่า ประเด็นที่เราอยากจะถามท่านก็คือ ถ้าเราสามารถที่จะพูดคุยกับทุกฝ่ายที่พร้อมเข้าสู่เวทีสานเสวนาฯ ซึ่งเวทีนี้ ไม่ใช่จะให้มาเถียงกัน เอาแพ้ เอาชนะกัน แต่สานเสวนามาจากความคิดว่า ต่างจากดีเบต ที่ไม่ได้มาเถียงกันแต่มาฟังกันและฟังอย่างเข้าใจ ซึ่งนายกฯเองก็ยินดี และพร้อมที่จะเข้าสู่เวทีดังกล่าว
นพ.วันชัย กล่าวว่า คำถามต่อไปก็คือว่าในใจท่านมีใครหรือไม่ ที่จะเป็นตัวกลาง นายกฯก็บอกว่าการมาเป็นกลุ่มดีกว่าจะมีใครสักคนเพราะใครสักคนนั้นอาจเป็นเป้าหรือถูกมองไปในทางไม่ดี ก็ต้องขอขอบคุณนายกฯ มีความไว้วางใจ ถ้าบังเอิญทุกฝ่ายพร้อมที่จะสานเสวนา ทางเราก็คงจะประสานต่อ และนายกฯก็กรุณา ให้ความเห็น สนับสนุนแนวทางดังกล่าว ซึ่งพอจะสรุปได้ว่า หลายคำถามที่สำคัญ ที่เราได้ถามไป
ผู้สื่อข่าวถามว่าเวทีเสวนาจะเกิดขึ้นได้เมื่อไร ศ.น.พ.วันชัย กล่าวว่า เราไม่ได้เร่งรัด และเราไม่ได้เร่งรีบ ขบวนการจะทำอะไรก็แล้วแต่ต้องเข้าใจตรงกันไว้ก่อนและเมื่อทุกๆฝ่ายเห็นฟ้องต้องกัน เราจะไปพบกับแต่ละกลุ่มไม่ว่าจะเป็นผู้นำฝ่ายค้าน พันธมิตรญ รวมทั้ง นปช.หรือไม่ว่ากลุ่มไหน อาจจะรวมถึงประธานวุฒิ แม้แต่ทหารหรือตำรวจ ในขบวนการภาคประชาชนเรามีสภาพัฒนาการเมือง ซึ่งเป็นภาคประชาชนอยู่แล้ว เมื่อหลายๆ ฝ่ายเห็นฟ้องกัน เมื่อเราพร้อม ก็คงเริ่มได้เมื่อนั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการสอบถามนายกฯหรือมว่าเงื่อนไขที่จะนำไปสู่ความรุนแรงอย่างเช่น การโฟนอินของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นพ.วันชัย กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องให้นายกฯเป็นคนตอบ ซึ่งนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้ตอบไปแล้วว่าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลไม่ให้เกิดความรุนแรง เมื่อถามว่า มั่นใจว่าจะไม่เกิดความรุนแรงขึ้น นายสมชาย กล่าวว่า ไม่มีอะไร จากนั้นเดินขึ้นห้องทำงานทันที ขณะที่ผู้สื่อข่าวยังถามต่ออีกหลายๆคำถาม
นพ.วันชัย ให้สัมภาษณเพิ่มเติมว่าไม่จำเป็นต้องเชิญ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้าร่วมสานเสวนาเพื่อสันติธรรม เพราะได้หลุดจากการเมืองไปแล้ว แต่หากพ.ต.ท.ทักษิณ สนใจก็ต้องไปเสวนาที่อังกฤษคงเป็นไปไม่ได้
ส่วนที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยระบุว่าไม่ไปร่วมเพราะผ่านจุดนั้นไปแล้ว นพ.วันชัย กล่าวว่า กำลังประสานอยู่เพราะยังไม่ได้เริ่ม แต่จะประสานในหลายๆ ทาง ซึ่งการที่พวกตนเข้าไปนั้นไม่ได้บังคับให้ไปทำนั้นทำนี้ แต่เราก็จะไปฟังแล้วจะมีคำถามเหมือนที่ยื่นให้นายกฯ หากพร้อมตอบก็ตอบ จะไม่ไปบอกว่า ควรทำหรือไม่ควรทำสิ่งใด
ส่วนที่ส.ส.พรรคพลังประชาชนบางคนจะไปร่วมเวทีความจริงวันนี้ ที่อาจเกิดความขัดแย้ง แต่นายกฯกลับพร้อมจะใช้เวทีสานเสวนา มันคล้ายจะขัดแย้งกัน นพ.วันชัย กล่าวว่า ตรงนี้อยู่ที่ว่าหัวหน้ารัฐบาลตัดสินใจ กติกาการสานเสวนานั้นจะต้องไม่มีกระบวนการบั่นทอนความสำเร็จ หากทุกคนในสังคมพูดเป็นเสียงเดียวกันคงไม่มีใครกล้าบั่นทอน และนายกฯรับปากจะไปดูแลเรื่องนี้
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่าจุดยืนของพรรค1.ยืนยันพรรคจะไม่เป็นส่วนหนึ่งของวิกฤติความขัดแย้งทางการเมืองที่จะเกิดขึ้นในขณะน 2. พรรคเห็นว่าทางออกของปัญหาในขณะนี้คือการยอมรับกระบวนการที่จะนำไปสู่การยุติความรุนแรงด้วยการพูดคุยกันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะคู่ขัดแย้ง พรรคยินดีที่จะเข้าร่วมกระบวนการในการพูดคุย เพื่อหาทางออก และแก้ไขความขัดแย้งภายใต้เงื่อนไขที่รัฐบาลจะต้องแสดงความรับผิดชอบอย่างชัดเจนต่อเหตุการณวันที่ 7 ต.ค.ก่อน
นอกจากนี้พรรคยังมีข้อเสนอต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง 4 ข้อคือ 1.ขอให้รัฐบาลลดเงื่อนไขที่นำไปสู่ความขัดแย้งและการเผชิญหน้าลงคือ ต้องไม่สนับสนุนทั้งต่อหน้าและลับหลังของกลุ่มมวลชนที่เกี่ยวเนื่องมีการเคลื่อนไหวเพิ่มเติมจนกระทั่งอาจนำไปสู่การปะทะและขัดแย้งรุนแรงขึ้นในประเทศ 2.กลุ่มพันธมิตรฯ ต้องลดเงื่อนไขความขัดแย้งที่อาจนำไปสู่การเผชิญได้อีก และสนับสนุนท่าทีของพันธมิตรฯ ที่ยินดีจะเข้าร่วมหากมีการเจรจาภายใต้เงื่อนไขที่กลุ่มพันธมิตรฯ และรัฐบาลสามารถที่จะตกลงและอยู่ในเวทีการเจรจากันได้
3.พรรคร่วมรัฐบาล ไม่ควรสนับสนุนให้เกิดการเผชิญหน้าและปลุกระดมมาสู่ความรุนแรง รวมทั้งขอให้ลดเงื่อนไขการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 และ4.ขอเรียกร้องต่อรายการความจริงวันนี้ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 1 พ.ย.นี้ เพราะคิดว่าจะต้องมีการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาในรายการนี้อย่างแน่นอน แต่ถ้ามีการลด หรือตัดการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณออกไปก็เป็นเรื่องที่ดี หากมีการโฟนอิน เข้ามาจริง ขอตั้งคำถามถึงพ.ต.ท.ทักษิณ ว่าภายใต้สถานการณ์ที่มีความขัดแย้งรุนแรงและอาจนำประเทศไปสู่ความเสื่อมสลายได้ ในฐานะที่ยังมีคนในประเทศสนับสนุนอยู่เป็นจำนวนมาก ที่ผ่านมาพ.ต.ท.ทักษิณจะ พยายามเรียกร้อง ความสนใจว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูกกระทำมาโดยตลอด มีการพูดถึงแต่การปกป้องตัวเอง ผลประโยชน์ตัวเอง จึงขอถามจะมีข้อเสนอใดที่เป็นข้อเสนอเพื่อประเทศชาติและประชาชนในการเสนอทางออกของการแก้ไขปัญหาวิกฤติความขัดแย้งในประเทศบ้าง
กำลังโหลดความคิดเห็น