ผู้จัดการรายวัน -พันธมิตรฯ แฉนรกป่วนกรุงยังเดินเกมทำร้ายพันธมิตร ดอดจ้างมือปืนลอบสังหารแกนนำ “จำลอง”ฉะรัฐบาล”หมกเม็ดหวังตั้งส.ส.ร.3 เพื่อแก้รัฐธรรมนูญช่วยตนเองมากกว่าแก้ปัญหาชาติ ยังไม่ปักธงเคลื่อนขบวนกดดันหน้ารัฐสภา 28 ต.ค.นี้ “สนธิ” เผยแม้วเดินเกมรบสื่อต่างประเทศหนัก ต้องเร่งแจงความจริง ด้าน “สุริยะใส”ระบุแผนขบวนการใต้ดินหมิ่นสถาบัน ยั่วยุทหารปฏิวัติ สร้างเงื่อนไข “ทักษิณ” ลี้ภัยสำเร็จ แนะหน่วยงานความมั่นคงเร่งจัดการก่อน ร้อง 64 ส.ว.หยุดเคลื่อนไหวหนุนแก้ รธน.สร้างระบิดเวลา “วีระ” ร้องตุลาการศาลฎีกาดำเนินคดี “ทักษิณ” ออกแถลงการณ์ละเมิดอำนาจศาล หลังปากพล่อยป้ายสีสั่งจำคุกมิชอบ
วานนี้ (26 ต.ค.) ที่ห้องผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า ทางพันธมิตรฯ ได้อำนวยความสะดวกในการซ้อมสวนสนามของทหารรักษาพระองค์ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยได้มีการขนย้ายสิ่งของออกจากบริเวณถนนพิษณุโลก ตั้งแต่แยกมิสกวัน ถึงบริเวณหน้าสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.โดยพันธมิตรฯ จะอำนวยความสะดวกให้ทุกๆ วันอาทิตย์ โดยการขอพื้นที่จะใช้พื้นที่เฉพาะช่วงบ่ายของวันอาทิตย์หลังจากซ้อมเสร็จทหารจะคืนพื้นที่ให้พันธมิตรฯ ปักหลักชุมนุมตามปกติ
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า บริเวณแยกพระบรมรูปทรงม้า และแยกสวนมิสกวัน ถนนพิษณุโลก ตัดกับถนนราชดำเนิน ได้มีทหารจากกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ จำนวน 30 นาย เข้ามารื้อแผงเหล็ก รั้วลวดหนาม และกระสอบทรายที่กลุ่มพันธมิตรฯ นำมาปิดกั้น เพื่อเป็นจุดทางเข้าออกของสถานที่ชุมนุม เพื่อเปิดเส้นทางการจราจร
ส่วนถนนพิษณุโลกจะเปิดถนนตั้งแต่สี่แยกวังแดง ถึงด้านหน้าสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ทหารรักษาพระองค์ซ้อมพิธีสวนสนามเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยในช่วงสายเจ้าหน้าที่ของกรุงเทพมหานครได้เข้ามาทำความสะอาด ซึ่งในส่วนของผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯได้ให้ความร่วมมือ ช่วยกันรื้อย้ายเต็นท์ที่พัก ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าต่างรื้อย้ายแผงค้าขึ้นมาบนฟุตปาท
**ยันยังไม่สรุปชุมนุมหน้าสภา 28 ต.ค.
พล.ต.จำลอง กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ ในวันที่ 28 ต.ค.นี้ ซึ่งจะมีการประชุมร่วมกันของรัฐสภาว่า เรื่องการเคลื่อนไหวแกนนำต้องประชุมหารือกันก่อน โดยก่อนจะถึงวันประชุมสภา แกนนำจะติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด
เมื่อถามว่า ไม่กลัวจะซ้ำรอยเหตุสลายการชุมนุมวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมาหรือ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า การที่กลุ่มพันธมิตรฯจะเคลื่อนไหวต้องคิดให้รอบด้านและหลายเรื่อง เพราะที่ผ่านมาพันธมิตรฯ มีหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ให้เกิดต่อประเทศชาติและบ้านเมือง ทั้งนี้ ไม่อยากให้ทุกฝ่ายวิตกกังวลในเรื่องนี้ไปก่อน บางครั้งหากกังวลมากไปก็อาจทำให้เกิดความหวาดกลัวตามมา
สำหรับการกำหนดยุทธวิธีดาวกระจายนั้น พล.ต.จำลอง กล่าวว่า แกนนำยังไม่ได้หารือที่จะกำหนดกลยุทธ์การดาวกระจาย ทั้งนี้ ในปัจจุบันการพิจารณาที่จะเคลื่อนไหวอย่างไรจะนำปัจจัยเรื่องสภาพอากาศมาพิจารณาด้วย เพื่อไม่ให้เกิดความลำบากของผู้ชุมนุมด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ระบุว่า หากพันธมิตรฯ ไปเคลื่อนไหวที่หน้ารัฐสภาอีก ถือเป็นการกระทำนอกกฎหมาย พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ใครก็กล่าวใครก็ว่าได้ เพราะถ้าไปไปโดยสงบปราศจากอาวุธก็ทำได้ซึ่งที่ผ่านมา การชุมนุมบริเวณหน้ารัฐสภา กลุ่มพันธมิตรฯ ไม่ใช่กลุ่มแรกที่เข้าไปปักหลักชุมนุมเรียกร้อง เคยมีหลายกลุ่มที่เข้าไปปักหลักชุมนุม แต่การเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯในแต่ละครั้งต้องมีการพิจารณาให้รอบคอบก่อน
**”จำลอง”ลั่นไม่เชื่อโหรทำนาย
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่ นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ (โหรวารินทร์ ) ทำนายว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงก่อนวันที่ 1 พ.ย.นั้น พันธมิตรฯ ได้ประเมินสถานการณ์หรือไม่ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า การปฏิบัติของใครคงควบคุมหรือไปห้าม ไปบอกใครไม่ได้ เรามีหน้าที่อย่างเดียว คือ ชุมนุม การจะมีการเปลี่ยนแปลงคงขึ้นอยู่กับกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ หรือหลายๆ กลุ่มก็ได้
เมื่อถามต่อว่า จากคำทำนายของ นายวารินทร์ มีความเป็นไปได้ว่าจะมีการยุบสภา พันธมิตรฯ ได้ประเมินความเป็นไปได้ในเรื่องนี้หรือไม่ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า เรื่องของโหรหรือการทำนายทายทัก ไม่ได้หมายความว่าจะถูกต้องเสมอไป ไม่เช่นนั้นคงไม่ต้องมีงานข่าว ทั้งนี้ การเมืองเป็นเรื่องที่ยากจะทำนายทายทัก เพราะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง พันธมิตรฯ ไม่เคยเอาเรื่องของโหรมาประกอบการตัดสินใจ
**แฉแผนชั่วส่งมือปืนเก็บแกนนำ
ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ได้กล่าวบนเวทีปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาลว่า ขณะนี้มีกระแสข่าวว่ากำลังมีความพยายามที่จะจ้างมือปืนเข้ามาเพื่อเก็บแกนนำพันธมิตรฯ ซึ่งตนก็ไม่ได้ตกใจอะไร ส่วนการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงรัก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรในวันที่ 1 พ.ย.ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมากนั้น ก็ไม่ต้องกลัวว่าคนเหล่านั้นจะเคลื่อนขบวนมายังทำเนียบรัฐบาลเพื่อปะทะกับพันธมิตรฯ เพราะการเคลื่อนคนจำนวนมากนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
พล.ต.จำลอง กล่าวอีกว่า การเดินเกมตั้ง ส.ส.ร.3ของรัฐบาล โดยอ้างว่าเพื่อขจัดความขัดแย้งในประเทศนั้น คาดว่าจะไม่ประสบความสำเร็จ เพราะเริ่มต้นแล้วความขัดแย้งกลับเพิ่มมากขึ้นอีก โดยแม้แต่วุฒิสภาเองยังมีการแตกออกเป็น 3 ฝ่ายแล้ว นอกจากนี้ การประชุมน 4 ฝ่ายที่เกิดขึ้น กลับมีคนมาร่วมแค่ฝ่ายเดียวเท่านั้น
“การที่จะตั้ง สสร. 3 ต้องแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 291 ก่อน ซึ่งเราบอกตั้งแต่แรกแล้วว่ารัฐธรรมนูญไม่ได้ผิด ต้องแก้ที่นักการเมือง ซึ่งเขาจะหมกเม็ดแก้มาตร 237 309 ไปในตัว เพื่อผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง โดยพวกเราที่ชุมนุมอยู่นั้นต้องมีอีกหลายอย่างไปสู้กับเขา และการชุมนุมกันอย่างต่อเนื่อง จะเป็นการปราม และขัดค้านไม่ให้รัฐบาลทำเลวอีก โดยจะต้องไม่ถ้อ แม้จะผ่านมา 155 วันแล้วก็ตาม และเชื่อว่าคงจะเหลือเวลาอีกไม่นาน จะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน”พล.ต.จำลองกล่าว
**”สนธิ” ลุยชี้แจงต่างประเทศ
นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า ขณะนี้ตนเองกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อตรวจสอบข้อมูลข่าวสารต่างๆ ของประเทศไทยที่เผยแพร่โดยสื่อต่างประเทศ รวมทั้งชี้แจงข้อเท็จให้กับสื่อต่างประเทศให้เข้าใจสถานการณ์และข้อเท็จจริงที่เกิดในประเทศไทย เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณได้เปิดแนวรบด้านข่าวสารในต่างประเทศที่หนักมาก
ทั้งนี้ ยอมรับว่า การทำงานดังกล่าวเป็นงานที่เหนื่อยมาก แต่ก็ไม่ท้อใจ เพราะยึดเอาพระราชนิพนธ์เรื่องพระมหาชนกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นหลักในการทำงาน นั่นก็คือ ต้องมีความเพียรในการทำงาน ต้องทำด้วยความเชื่อ ความศรัทธาและทำอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ซึ่งการต่อสู้ของพันธมิตรฯ ที่ผ่านมาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เมื่อมีความเพียร แม้จะเจอแดด เจอฝน ถูกกลั่นแกล้งรังแก ในที่สุดก็จะได้รับชัยชนะกลับคืนมาก
“นอกจากพระราชนิพนธ์เรื่องพระมหาชนกแล้ว พระราชนิพนธ์เรื่องนายอินทร์ผู้ปิดทองหลังพระก็เป็นพระราชนิพนธ์อีกเล่มหนึ่งที่ทำให้ได้เข้าใจถึงนัยสำคัญ นั่นคือ การทำความดีเป็นหน้าที่ที่จะต้องทำ และจะต้องทำโดยไม่บ่น แต่ต้องทำโดยเพราะรู้ว่าตัวเองมีหน้าที่ที่ต้องทำ จะนานแค่ไหนก็ต้องทำ ต้องไม่ท้อ จบเมื่อไหร่ก็นั้น ความจริงการต่อสู้ของพันธมิตรฯ ไม่ใช่เรื่องของการแพ้ชนะ แต่เป็นเรื่องของความถูกผิด ซึ่งพันธมิตรฯ ทุกคนต่อสู้เพื่อความถูกต้อง”
นายสนธิกล่าวถึงเรื่องการจ้างมือปืนมาลอบสังหารด้วยว่า ความจริงไม่ใช่เป็นเรื่องใหม่อะไร เพราะที่ผ่านมาเขาเคยคิด และเคยพยายามมาแล้ว แต่ยังก็ยังไม่สำเร็จ ซึ่งสุดท้ายจะเป็นเช่นไรก็ขึ้นอยู่กับลิขิตของฟ้า”นายสนธิกล่าว
**”สุริยะใส” แฉแผนยุทหารปฏิวัติ
เมื่อเวลา 19.10 น.วันที่ 26 ต.ค.นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงข่าวที่ทำเนียบรัฐบาลว่า ขณะนี้สถานการณ์ที่น่าวิตก เพราะรับทราบว่ามีกระบวนการหมิ่นสถาบันเบื้องสูงและมีการโจมตีผ่านใบปลิว และสื่อใต้ดินในพื้นที่ชนบท ดังนั้น จึงอยากเรียกร้องให้ตำรวจ และหน่วยงานด้านความมั่นคง และกองทัพ ออกมาจัดการขบวนการเหล่านี้ โดยเป็นที่น่าสังเกตว่า ขบวนการเหล่านี้ต้องการให้มีการรัฐประหาร ซึ่งอาจจะส่งผลดีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นำไปกล่าวอ้างเพื่อลี้ภัยทางการเมือง ขณะที่พันธมิตรฯ ไม่เคยเรียกร้องการรัฐประหาร แต่ต้องการการเมืองใหม่ หรือเรียกว่า การปฏิวัติประชาชนเท่านั้น
นายสุริยะใส กล่าวต่อถึงการผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม.291 เพื่อจัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.) ว่า พันธมิตรฯ จะจับตาความเคลื่อนไหวดังกล่าวอย่างใกล้ชิด แต่ในเบื้องต้นอยากให้ ส.ว.กลุ่ม 24 ต.ค.51 ที่มี จำนวน 64 คน หยุดการเคลื่อนสนับสนุนการแก้รัฐธรรมนูญ ที่เปรียบเสมือนระเบิดเวลา จะทำให้เกิดการนองเลือด ทั้งนี้ ส.ว.กลุ่มดังกล่าวควรจะออกมากดดันรัฐบาลให้รับผิดชอบเหตุการณ์วันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา จะดีกว่า
สำหรับร่างรัฐธรรมนูญของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ (คปพร.) ของกลุ่ม นพ.เหวง โตจิราการ ที่มีการบรรจุวาระการพิจารณาในการประชุม 2 สภา ในวันที่ 28 ต.ค.นี้ นายสุริยะใส กล่าวว่า ในวันที่ 27 ต.ค.จะมีการหารือร่วมกับแกนนำเพื่อกำหนดท่าทีการเคลื่อนไหวคัดค้านต่อไป ซึ่งขณะนี้เรายังไม่ทราบว่าร่างดังกล่าวจะเข้าสู่การพิจารณาจริงหรือไม่ ส่วนจะเคลื่อนไหวไปปิดล้อมรัฐสภาเช่นวันที่ 7 ต.ค.หรือไม่นั้น อยากให้ทุกฝ่ายจำบทเรียนของวันดังกล่าวเอาไว้ เพราะอาจจะมีกลุ่ม นปช.มาให้กำลังใจ อย่างไรก็ตาม พันธมิตรฯ จะพยายามไม่ให้เหตุการณ์ซ้ำรอบเพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสีย
**พร้อมรับมือไข่แม้วบุกทำเนียบฯ
นายสุริยะใส กล่าวถึงกรณี พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค อดีตรองอธิปดีกรมตำรวจที่ระบุว่า ไม่เคยคิดบุกทวงทำเนียบฯ คืนว่า เรายังไม่ไว้วางใจ ซึ่งเราจะจับตาเป็นพิเศษช่วงวันที่ 30-31 ต.ค.ก่อนที่กลุ่ม นปช.จะชุมนุมใหญ่ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งขณะนี้พันธมิตรฯ ได้เตรียมความพร้อมโดยส่งหน่วยประจำจุดต่างพร้อมตรวจสอบข่าวอยู่ตลอดเวลา
“ขณะนี่เรามีการ์ดกว่า 1,500 คน โดยมีการ์ดอาสา 1,000 คน พร้อมจะดูแลความเรียบร้อยของผู้ชุมนุม”นายสุริยะใสกล่าว
**”วีระ” ร้องศาลจัดการทักษิณหมิ่น
นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้คณะตุลาการศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ทั้ง 9 คน ดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในข้อหาหมิ่นศาล จากเนื้อหาในแถลงการณ์ภายหลังจากที่ถูกตัดสินจำคุก 2 ปี ในคดีที่ดินรัชดาฯ แต่หากไม่มีการดำเนินการใดๆ ตนก็จะทำการตรวจสอบองค์คณะตุลาการ โดยอาจจะยื่นเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการ
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ออกแถลงการณ์ถึงสื่อมวลชนในอังกฤษ เมื่อวันที่ (23 ต.ค.) ระบุว่า การที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาจำคุก 2 ปี ในคดีทุจริตซื้อขายที่ดินย่านรัชดาภิเษก เพียงเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนักการเมือง และถูกกล่าวหาว่าเป็น "ภัยคุกคามคนชั้นสูง" ทั้งที่ไม่มีพยานหลักฐานที่แสดงถึงการทุจริต,การคอร์รัปชัน และการใช้อำนาจในทางมิชอบ
“ผมถูกตัดสินอย่างดื้อๆ ว่ามีความผิด เพราะผมเป็นนักการเมือง” ทักษิณกล่าวและย้ำด้วยว่า “ประเด็นที่น่าสนใจอยู่ที่ศาลไม่ได้ตัดสินว่าการดำเนินธุรกิจของคุณหญิงพจมานผิดกฎหมาย ศาลไม่ได้ลงโทษภรรยาของผม เพราะเธอไม่ใช่นักการเมือง แต่ว่าผมเป็น” ทักษิณ กล่าวในจดหมาย
วานนี้ (26 ต.ค.) ที่ห้องผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า ทางพันธมิตรฯ ได้อำนวยความสะดวกในการซ้อมสวนสนามของทหารรักษาพระองค์ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยได้มีการขนย้ายสิ่งของออกจากบริเวณถนนพิษณุโลก ตั้งแต่แยกมิสกวัน ถึงบริเวณหน้าสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.โดยพันธมิตรฯ จะอำนวยความสะดวกให้ทุกๆ วันอาทิตย์ โดยการขอพื้นที่จะใช้พื้นที่เฉพาะช่วงบ่ายของวันอาทิตย์หลังจากซ้อมเสร็จทหารจะคืนพื้นที่ให้พันธมิตรฯ ปักหลักชุมนุมตามปกติ
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า บริเวณแยกพระบรมรูปทรงม้า และแยกสวนมิสกวัน ถนนพิษณุโลก ตัดกับถนนราชดำเนิน ได้มีทหารจากกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ จำนวน 30 นาย เข้ามารื้อแผงเหล็ก รั้วลวดหนาม และกระสอบทรายที่กลุ่มพันธมิตรฯ นำมาปิดกั้น เพื่อเป็นจุดทางเข้าออกของสถานที่ชุมนุม เพื่อเปิดเส้นทางการจราจร
ส่วนถนนพิษณุโลกจะเปิดถนนตั้งแต่สี่แยกวังแดง ถึงด้านหน้าสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ทหารรักษาพระองค์ซ้อมพิธีสวนสนามเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยในช่วงสายเจ้าหน้าที่ของกรุงเทพมหานครได้เข้ามาทำความสะอาด ซึ่งในส่วนของผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯได้ให้ความร่วมมือ ช่วยกันรื้อย้ายเต็นท์ที่พัก ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าต่างรื้อย้ายแผงค้าขึ้นมาบนฟุตปาท
**ยันยังไม่สรุปชุมนุมหน้าสภา 28 ต.ค.
พล.ต.จำลอง กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ ในวันที่ 28 ต.ค.นี้ ซึ่งจะมีการประชุมร่วมกันของรัฐสภาว่า เรื่องการเคลื่อนไหวแกนนำต้องประชุมหารือกันก่อน โดยก่อนจะถึงวันประชุมสภา แกนนำจะติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด
เมื่อถามว่า ไม่กลัวจะซ้ำรอยเหตุสลายการชุมนุมวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมาหรือ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า การที่กลุ่มพันธมิตรฯจะเคลื่อนไหวต้องคิดให้รอบด้านและหลายเรื่อง เพราะที่ผ่านมาพันธมิตรฯ มีหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ให้เกิดต่อประเทศชาติและบ้านเมือง ทั้งนี้ ไม่อยากให้ทุกฝ่ายวิตกกังวลในเรื่องนี้ไปก่อน บางครั้งหากกังวลมากไปก็อาจทำให้เกิดความหวาดกลัวตามมา
สำหรับการกำหนดยุทธวิธีดาวกระจายนั้น พล.ต.จำลอง กล่าวว่า แกนนำยังไม่ได้หารือที่จะกำหนดกลยุทธ์การดาวกระจาย ทั้งนี้ ในปัจจุบันการพิจารณาที่จะเคลื่อนไหวอย่างไรจะนำปัจจัยเรื่องสภาพอากาศมาพิจารณาด้วย เพื่อไม่ให้เกิดความลำบากของผู้ชุมนุมด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ระบุว่า หากพันธมิตรฯ ไปเคลื่อนไหวที่หน้ารัฐสภาอีก ถือเป็นการกระทำนอกกฎหมาย พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ใครก็กล่าวใครก็ว่าได้ เพราะถ้าไปไปโดยสงบปราศจากอาวุธก็ทำได้ซึ่งที่ผ่านมา การชุมนุมบริเวณหน้ารัฐสภา กลุ่มพันธมิตรฯ ไม่ใช่กลุ่มแรกที่เข้าไปปักหลักชุมนุมเรียกร้อง เคยมีหลายกลุ่มที่เข้าไปปักหลักชุมนุม แต่การเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯในแต่ละครั้งต้องมีการพิจารณาให้รอบคอบก่อน
**”จำลอง”ลั่นไม่เชื่อโหรทำนาย
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่ นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ (โหรวารินทร์ ) ทำนายว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงก่อนวันที่ 1 พ.ย.นั้น พันธมิตรฯ ได้ประเมินสถานการณ์หรือไม่ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า การปฏิบัติของใครคงควบคุมหรือไปห้าม ไปบอกใครไม่ได้ เรามีหน้าที่อย่างเดียว คือ ชุมนุม การจะมีการเปลี่ยนแปลงคงขึ้นอยู่กับกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ หรือหลายๆ กลุ่มก็ได้
เมื่อถามต่อว่า จากคำทำนายของ นายวารินทร์ มีความเป็นไปได้ว่าจะมีการยุบสภา พันธมิตรฯ ได้ประเมินความเป็นไปได้ในเรื่องนี้หรือไม่ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า เรื่องของโหรหรือการทำนายทายทัก ไม่ได้หมายความว่าจะถูกต้องเสมอไป ไม่เช่นนั้นคงไม่ต้องมีงานข่าว ทั้งนี้ การเมืองเป็นเรื่องที่ยากจะทำนายทายทัก เพราะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง พันธมิตรฯ ไม่เคยเอาเรื่องของโหรมาประกอบการตัดสินใจ
**แฉแผนชั่วส่งมือปืนเก็บแกนนำ
ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ได้กล่าวบนเวทีปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาลว่า ขณะนี้มีกระแสข่าวว่ากำลังมีความพยายามที่จะจ้างมือปืนเข้ามาเพื่อเก็บแกนนำพันธมิตรฯ ซึ่งตนก็ไม่ได้ตกใจอะไร ส่วนการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงรัก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรในวันที่ 1 พ.ย.ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมากนั้น ก็ไม่ต้องกลัวว่าคนเหล่านั้นจะเคลื่อนขบวนมายังทำเนียบรัฐบาลเพื่อปะทะกับพันธมิตรฯ เพราะการเคลื่อนคนจำนวนมากนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
พล.ต.จำลอง กล่าวอีกว่า การเดินเกมตั้ง ส.ส.ร.3ของรัฐบาล โดยอ้างว่าเพื่อขจัดความขัดแย้งในประเทศนั้น คาดว่าจะไม่ประสบความสำเร็จ เพราะเริ่มต้นแล้วความขัดแย้งกลับเพิ่มมากขึ้นอีก โดยแม้แต่วุฒิสภาเองยังมีการแตกออกเป็น 3 ฝ่ายแล้ว นอกจากนี้ การประชุมน 4 ฝ่ายที่เกิดขึ้น กลับมีคนมาร่วมแค่ฝ่ายเดียวเท่านั้น
“การที่จะตั้ง สสร. 3 ต้องแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 291 ก่อน ซึ่งเราบอกตั้งแต่แรกแล้วว่ารัฐธรรมนูญไม่ได้ผิด ต้องแก้ที่นักการเมือง ซึ่งเขาจะหมกเม็ดแก้มาตร 237 309 ไปในตัว เพื่อผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง โดยพวกเราที่ชุมนุมอยู่นั้นต้องมีอีกหลายอย่างไปสู้กับเขา และการชุมนุมกันอย่างต่อเนื่อง จะเป็นการปราม และขัดค้านไม่ให้รัฐบาลทำเลวอีก โดยจะต้องไม่ถ้อ แม้จะผ่านมา 155 วันแล้วก็ตาม และเชื่อว่าคงจะเหลือเวลาอีกไม่นาน จะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน”พล.ต.จำลองกล่าว
**”สนธิ” ลุยชี้แจงต่างประเทศ
นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า ขณะนี้ตนเองกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อตรวจสอบข้อมูลข่าวสารต่างๆ ของประเทศไทยที่เผยแพร่โดยสื่อต่างประเทศ รวมทั้งชี้แจงข้อเท็จให้กับสื่อต่างประเทศให้เข้าใจสถานการณ์และข้อเท็จจริงที่เกิดในประเทศไทย เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณได้เปิดแนวรบด้านข่าวสารในต่างประเทศที่หนักมาก
ทั้งนี้ ยอมรับว่า การทำงานดังกล่าวเป็นงานที่เหนื่อยมาก แต่ก็ไม่ท้อใจ เพราะยึดเอาพระราชนิพนธ์เรื่องพระมหาชนกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นหลักในการทำงาน นั่นก็คือ ต้องมีความเพียรในการทำงาน ต้องทำด้วยความเชื่อ ความศรัทธาและทำอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ซึ่งการต่อสู้ของพันธมิตรฯ ที่ผ่านมาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เมื่อมีความเพียร แม้จะเจอแดด เจอฝน ถูกกลั่นแกล้งรังแก ในที่สุดก็จะได้รับชัยชนะกลับคืนมาก
“นอกจากพระราชนิพนธ์เรื่องพระมหาชนกแล้ว พระราชนิพนธ์เรื่องนายอินทร์ผู้ปิดทองหลังพระก็เป็นพระราชนิพนธ์อีกเล่มหนึ่งที่ทำให้ได้เข้าใจถึงนัยสำคัญ นั่นคือ การทำความดีเป็นหน้าที่ที่จะต้องทำ และจะต้องทำโดยไม่บ่น แต่ต้องทำโดยเพราะรู้ว่าตัวเองมีหน้าที่ที่ต้องทำ จะนานแค่ไหนก็ต้องทำ ต้องไม่ท้อ จบเมื่อไหร่ก็นั้น ความจริงการต่อสู้ของพันธมิตรฯ ไม่ใช่เรื่องของการแพ้ชนะ แต่เป็นเรื่องของความถูกผิด ซึ่งพันธมิตรฯ ทุกคนต่อสู้เพื่อความถูกต้อง”
นายสนธิกล่าวถึงเรื่องการจ้างมือปืนมาลอบสังหารด้วยว่า ความจริงไม่ใช่เป็นเรื่องใหม่อะไร เพราะที่ผ่านมาเขาเคยคิด และเคยพยายามมาแล้ว แต่ยังก็ยังไม่สำเร็จ ซึ่งสุดท้ายจะเป็นเช่นไรก็ขึ้นอยู่กับลิขิตของฟ้า”นายสนธิกล่าว
**”สุริยะใส” แฉแผนยุทหารปฏิวัติ
เมื่อเวลา 19.10 น.วันที่ 26 ต.ค.นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงข่าวที่ทำเนียบรัฐบาลว่า ขณะนี้สถานการณ์ที่น่าวิตก เพราะรับทราบว่ามีกระบวนการหมิ่นสถาบันเบื้องสูงและมีการโจมตีผ่านใบปลิว และสื่อใต้ดินในพื้นที่ชนบท ดังนั้น จึงอยากเรียกร้องให้ตำรวจ และหน่วยงานด้านความมั่นคง และกองทัพ ออกมาจัดการขบวนการเหล่านี้ โดยเป็นที่น่าสังเกตว่า ขบวนการเหล่านี้ต้องการให้มีการรัฐประหาร ซึ่งอาจจะส่งผลดีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นำไปกล่าวอ้างเพื่อลี้ภัยทางการเมือง ขณะที่พันธมิตรฯ ไม่เคยเรียกร้องการรัฐประหาร แต่ต้องการการเมืองใหม่ หรือเรียกว่า การปฏิวัติประชาชนเท่านั้น
นายสุริยะใส กล่าวต่อถึงการผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม.291 เพื่อจัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.) ว่า พันธมิตรฯ จะจับตาความเคลื่อนไหวดังกล่าวอย่างใกล้ชิด แต่ในเบื้องต้นอยากให้ ส.ว.กลุ่ม 24 ต.ค.51 ที่มี จำนวน 64 คน หยุดการเคลื่อนสนับสนุนการแก้รัฐธรรมนูญ ที่เปรียบเสมือนระเบิดเวลา จะทำให้เกิดการนองเลือด ทั้งนี้ ส.ว.กลุ่มดังกล่าวควรจะออกมากดดันรัฐบาลให้รับผิดชอบเหตุการณ์วันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา จะดีกว่า
สำหรับร่างรัฐธรรมนูญของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ (คปพร.) ของกลุ่ม นพ.เหวง โตจิราการ ที่มีการบรรจุวาระการพิจารณาในการประชุม 2 สภา ในวันที่ 28 ต.ค.นี้ นายสุริยะใส กล่าวว่า ในวันที่ 27 ต.ค.จะมีการหารือร่วมกับแกนนำเพื่อกำหนดท่าทีการเคลื่อนไหวคัดค้านต่อไป ซึ่งขณะนี้เรายังไม่ทราบว่าร่างดังกล่าวจะเข้าสู่การพิจารณาจริงหรือไม่ ส่วนจะเคลื่อนไหวไปปิดล้อมรัฐสภาเช่นวันที่ 7 ต.ค.หรือไม่นั้น อยากให้ทุกฝ่ายจำบทเรียนของวันดังกล่าวเอาไว้ เพราะอาจจะมีกลุ่ม นปช.มาให้กำลังใจ อย่างไรก็ตาม พันธมิตรฯ จะพยายามไม่ให้เหตุการณ์ซ้ำรอบเพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสีย
**พร้อมรับมือไข่แม้วบุกทำเนียบฯ
นายสุริยะใส กล่าวถึงกรณี พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค อดีตรองอธิปดีกรมตำรวจที่ระบุว่า ไม่เคยคิดบุกทวงทำเนียบฯ คืนว่า เรายังไม่ไว้วางใจ ซึ่งเราจะจับตาเป็นพิเศษช่วงวันที่ 30-31 ต.ค.ก่อนที่กลุ่ม นปช.จะชุมนุมใหญ่ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งขณะนี้พันธมิตรฯ ได้เตรียมความพร้อมโดยส่งหน่วยประจำจุดต่างพร้อมตรวจสอบข่าวอยู่ตลอดเวลา
“ขณะนี่เรามีการ์ดกว่า 1,500 คน โดยมีการ์ดอาสา 1,000 คน พร้อมจะดูแลความเรียบร้อยของผู้ชุมนุม”นายสุริยะใสกล่าว
**”วีระ” ร้องศาลจัดการทักษิณหมิ่น
นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้คณะตุลาการศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ทั้ง 9 คน ดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในข้อหาหมิ่นศาล จากเนื้อหาในแถลงการณ์ภายหลังจากที่ถูกตัดสินจำคุก 2 ปี ในคดีที่ดินรัชดาฯ แต่หากไม่มีการดำเนินการใดๆ ตนก็จะทำการตรวจสอบองค์คณะตุลาการ โดยอาจจะยื่นเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการ
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ออกแถลงการณ์ถึงสื่อมวลชนในอังกฤษ เมื่อวันที่ (23 ต.ค.) ระบุว่า การที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาจำคุก 2 ปี ในคดีทุจริตซื้อขายที่ดินย่านรัชดาภิเษก เพียงเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนักการเมือง และถูกกล่าวหาว่าเป็น "ภัยคุกคามคนชั้นสูง" ทั้งที่ไม่มีพยานหลักฐานที่แสดงถึงการทุจริต,การคอร์รัปชัน และการใช้อำนาจในทางมิชอบ
“ผมถูกตัดสินอย่างดื้อๆ ว่ามีความผิด เพราะผมเป็นนักการเมือง” ทักษิณกล่าวและย้ำด้วยว่า “ประเด็นที่น่าสนใจอยู่ที่ศาลไม่ได้ตัดสินว่าการดำเนินธุรกิจของคุณหญิงพจมานผิดกฎหมาย ศาลไม่ได้ลงโทษภรรยาของผม เพราะเธอไม่ใช่นักการเมือง แต่ว่าผมเป็น” ทักษิณ กล่าวในจดหมาย
