xs
xsm
sm
md
lg

‘น้ำหอมแห้ง’ นวัตกรรมใหม่ เพิ่มเสน่ห์ความหอมดั่งใจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน – ความคิดของคนที่ชื่นชอบดอกไม้ไทย โดยเฉพาะกลิ่นที่มีความหอมเฉพาะตัว จนปลูกไว้ในบริเวณบ้าน รวมถึงยังนำไปไว้บนหัวนอน เพราะหลงใหลในกลิ่นดอกไม้ไทย จึงคิดนำมาทำน้ำปรุง หวังนำมาใช้เอง แต่สุดท้ายก็ประยุกต์เป็น “น้ำหอมแห้ง” จนกลายเป็นธุรกิจของครอบครัวอย่างในปัจจุบัน พร้อมถ่ายทอดธุรกิจนี้ให้กับลูกชายสานต่อ โดยต่อยอดเป็นน้ำหอมแบรนด์นอก มาเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าด้วย

ฤทธิยุทธ วนเมธิน หรือน้องจิ๋ว นักเรียนโรงเรียนยอแซฟอุปถัมภ์ สามพราน และทายาทธุรกิจน้ำหอมแห้ง เล่าว่า แนวคิดการทำน้ำหอมแห้งเกิดจากมารดา (นางกุสุมา คุปตจิต) ที่ชอบกลิ่นหอมของดอกไม้ไทย จนกระทั่งเมื่อปลูกบ้านใหม่มีพื้นที่บริเวณสำหรับปลูกต้นไม้ จึงเลือกที่จะนำดอกไม้หอมมาปลูก เช่น ดอกจำปี จำปา กระดังงา ซึ่งต้นไม้เหล่านี้ก็เติบโตมาพร้อมกับนายฤทธิยุทธ และเป็นที่คุ้นตากับพฤติกรรมของผู้เป็นแม่ ที่มักจะนำดอกไม้ไทยๆ นี้ มาวางไว้บนหัวนอน เพื่อให้ได้กลิ่นหอมของดอกไม้อยู่ตลอดเวลา จนมีความคิดที่จะนำดอกไม้มาทำเป็นเครื่องหอม และน้ำปรุง เพื่อใช้เอง โดยอาศัยการที่ได้มีโอกาสไปอบรมการทำโลชั่น และนำมาประยุกต์เป็นน้ำหอมกลิ่นดอกไม้ไทยซึ่งก็ไม่แตกต่างจากสินค้าที่มีอยู่ในตลาด จึงคิดทำเป็นน้ำหอมแห้ง เพื่อความสะดวกในการพกพาของลูกค้า

“น้ำหอมแห้ง ถือว่าในต่างประเทศมีการผลิตกันอยู่บ้าง ส่วนใหญ่เป็นน้ำหอมแบรนด์ดังๆ ที่ผู้คนรู้จักกันดี เราจึงคิดนำดอกไม้ไทยมาทำเป็นน้ำหอมแห้งบ้าง ซึ่งใช้เวลาลองผิดลองถูกมานาน เพราะเกิดปัญหาระหว่างการผลิตอยู่บ่อยครั้ง เช่น เนื้อครีมไม่แข็งตัว กลิ่นเพี้ยนไปบ้าง แต่เราก็ไม่ย่อท้อ พยายามคิดค้นกรรมวิธีให้สามารถใช้งานได้จริง และเป็นที่พอใจของลูกค้า ทั้งน้ำหอมแห้งกลิ่นดอกไม้ไทย และน้ำหอมแห้งที่เกิดจากการนำน้ำหอมแบรนด์นอก กลิ่นยอดนิยม มาทำเป็นน้ำหอมแห้งด้วย”

คำว่า “น้ำหอมแห้ง” ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักของคนไทยมากนัก ดังนั้นการที่จะทำให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายเข้าใจ และยอมจ่ายเงินซื้อสินค้า จึงไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนัก ส่งผลให้ในช่วงแรกช่องทางการทำตลาด ต้องอาศัยการแจกให้กับผู้ใกล้ชิดได้ทดลองใช้ อย่าง เพื่อนๆ ครูที่โรงเรียน และคนรู้จัก โดยแจกจ่ายให้ทดลองใช้ เพื่อขอคำติชม แต่ไม่บอกว่าเป็นผู้ทำเอง เพื่อต้องการคำวิจารณ์สินค้าที่แท้จริง ซึ่งเสียงตอบรับที่ได้ก็เป็นที่น่าพอใจ ทำให้ 2 แม่ลูก มั่นใจที่จะผลิตน้ำหอมแห้งเพื่อจำหน่ายอย่างจริงจัง

“ในช่วงๆ ผมยอมรับว่ายากเหมือนกันในการที่จะสื่อสาร และทำให้สินค้าเป็นที่รู้จักของลูกค้า เพราะถือว่าเป็นสินค้าที่ค่อนข้างใหม่สำหรับคนไทยแต่ด้วยความที่เราได้แสดงความจริงใจให้กับลูกค้าด้วยการยินดีให้คืนสินค้าได้หากเมื่อนำไปใช้แล้วไม่พอใจ หรือคุณภาพของน้ำหอม ไม่ตรงกับกลิ่นดั้งเดิม เป็นต้น โดยขายในราคา 199 บาท (ขนาด 10 กรัม) ในกล่องรูปหัวใจ”

ปัจจุบันน้ำหอมแห้งจากดอกไม้ไทย มีทั้งหมด 9 กลิ่น คือ กลิ่นดอกกระดังงา, จำปี, จำปา, ราตรี, ลีลาวดี, โมก, ชมนาด, มะลิ และกุหลาบ ในขณะที่น้ำหอมแห้งที่ใช้น้ำหอมแบรนด์ต่างประเทศเป็นหลัก มีประมาณกว่า 10 กลิ่น เช่น แฟนตาซี และ คิวเรียส ของ บริทนีย์ สเปียร์, จัสมี และ เคน เคน ของปารีส ฮิวตัน,เจนนิเฟอร์ Live, Lalph,นิน่า ริชชี่ , คูวอเตอร์ และลังโคม ซึ่งน้ำหอมที่กล่าวมาทั้งหมดคือน้ำหอมที่ได้รับความนิยมอันดับต้นๆ เจาะกลุ่มลูกค้าทุกวัย

สำหรับแผนธุรกิจในอนาคต นายฤทธิยุทธ บอกว่า จะคิดพัฒนาน้ำหอมแห้งกลิ่นใหม่ๆ เพิ่มเติม เช่น กลิ่นช็อคโกแลต และกลิ่นนม ซึ่งที่ผ่านมาในต่างประเทศมีน้ำหอมกลิ่นเหล่านี้แล้ว แต่เป็นชนิดน้ำหอมน้ำแบบทั่วไป โดยคาดว่าน่าจะนำมาพัฒนาเป็นน้ำหอมแห้งได้ เพื่อสร้างความแปลกใหม่ ในขณะที่แพคเกจ ก็ได้การปรับเปลี่ยนเพื่อให้สะดุดตากับลูกค้าด้วยเช่นกัน คือ จากเดิมที่นำน้ำหอมแห้งมาบรรจุลงในตลับพลาสติกธรรมดา แต่ล่าสุดได้มีการนำตุ๊กตาปั้นมาทำเป็นฝาของบรรจุภัณฑ์ด้วย ซึ่งก็สร้างความฮือฮาให้กับลูกค้ากลุ่มวัยรุ่นได้ไม่น้อย

“ขณะนี้ถือว่าน้ำหอมแห้งของเราได้เป็นที่รู้จักของลูกค้ามากขึ้น ทั้งจากการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อ ขายสินค้าเว็บไซต์ ซึ่งเน้นไปที่การขายส่ง ส่วนการขายปลีกจะตั้งขายที่หน้าห้างเซ็นทรัลเวิร์ล งานตลาดอินดี้ อินทาวน์ ทุกวันศุกร์ ซึ่งเป็นแหล่งรวมสินค้าไอเดียจากฝีมือวัยรุ่น”

แม้ธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่ใหม่สำหรับคนไทย ต้องอาศัยกลยุทธ์ในการรับรู้สินค้าอีกระยะหนึ่ง แต่ยอดขายก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนในเรื่องของกำไรก็ถือว่ายังไม่หวือหวามากนัก แต่ความสุขของทั้งสองแม่ลูกคู่นี้ อยู่ที่การได้มีโอกาสทำกิจกรรมร่วมกัน มีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น ทำให้เกิดความรัความอบอุ่นในครอบครัว ที่หลายคนต้องอิจฉา

สนใจติดต่อ 08-6677-4358 หรือที่ http://perfume-solid.hi5.com/
กำลังโหลดความคิดเห็น