ผู้จัดการรายวัน – บล.ซีมิโก้ ส่งซิก ควบรวมกับบล.เคทีบี ภายในสิ้นปีนี้ หลังเข้าถือหุ้น 49% จากบริษัทไม่มีนโยบายทำธุรกิจหลักทรัพย์ 2 บริษัท ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับธนาคารกรุงไทยในการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ชี้ แม้ “ชาญชัย กุลถาวรากร”ยกทีมมาร์เกตติ้งออกไปซบบล.อื่นไม่ห่วงจากมีมาร์เกตแชร์ต่ำ
แหล่งข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์ (บล.)เคทีบี กล่าวว่า ในเดือนตุลาคมนี้ทางบล.เคทีบีจะมีการปรับโครงสร้างคณะกรรมการบริหาร หลังจากที่บล.ซีมิโก้ได้เข้ามาถือหุ้นในสัดส่วน48.81%ของจำนวนหุ้นทั้งหมดซึ่งจะส่งตัวแทนเข้ามาร่วมบริหาร ซึ่งทางธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)หรือ KBANK ที่ถือหุ้นในบล.เคทีบีมากที่สุดในสัดส่วน 50%
ทั้งนี้จากการที่กลุ่มนายชาญชัย กุลถาวรากร มีการขายหุ้นออกมาให้ทางบล.ซีมิโก้ซึ่งในช่วงที่ผ่านมามีกระแสข่าวว่ากลุ่มของนายชาญชัย ได้รับการติดต่อจากบล.หลายแห่งในการให้เข้าไปร่วมบริหารบล. ซึ่ง 1 ใน นั้น คือ บล.แอ๊คคิดซัน ซึ่งการลาออกของนายชาญชัยนั้น ก็จะพาทีมเจ้าหน้าที่การตลาด (มาร์เกตติ้ง) ของบล.เคทีบีในปัจจุบันทั้งหมด ออกไปด้วย
นอกจากนี้จะดึงทีมวาณิชธกิจภายใต้การนำของนายชูพงศ์ ธนเศรษฐกร ออกไปด้วยเช่นกันและจะนำงานด้านที่ปรึกษาอยู่ในมือตามออกไปด้วย เพราะ ก่อนที่นายชูพงษ์ จะย้ายมาทำงานที่บล.เคทีบีนั้นได้เคยทำงานที่บล.ซีมิโก้มาก่อน และจากที่มีปัญหากับทางบล.ซีมิโก้จึงลากออกมา จึงทำให้เมื่อบล.ซีมิโก้ มาถือหุ้นในบล.เคทีบีนั้นจึงทำให้ไม่สามารถทำงานร่วมกันได้
“ทันที่ที่ซีมิโก้ได้เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบล.เคทีบีนั้น ก็เริ่มมีปฏิกิริยาที่ชัดเจนว่าทางบล.ซิมิโก้ ไม่ต้องการทีมวาณิชธนกิจของนายชูพงศ์ จนมีการกระทำจนถึงขั้นปิดประตูเพื่อไม่ให้ทีมของนายชูพงศ์ เข้ามาทำงาน” แหล่งข่าวกล่าวว่า
สำหรับการที่บล.หลายแห่งสนใจที่จะชวนนายชาญชัย เข้าไปร่วมบริหารนั้นเนื่องจาก ต้องการหวังส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เกตแชร์)ของทีมมาร์เกตติ้งของบล.เคทีบีในปัจจุบันมาเสริมธุรกิจหลักทรัพย์ และมีกระแสข่าวทางบล.เคทีบีจะมีการเพิ่มทุนจดทะเบียน เพื่อนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนไปลงทุนในหุ้นของบล.ซีมิโก้ซึ่งเป็นลักษณะการในการถือหุ้นไขว้กัน
แหล่งข่าวกล่าวว่า ในระยะยาวนั้นทางบล.ซีมิโก้และบล.เคทีบีจะมีการควบรวมกัน ซึ่งขณะนี้ทางบล.ซีมิโก้ ยังไม่สามารถที่จะดำเนินการดังกล่าวได้เต็มที่จากที่ธนาคารกรุงไทย ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ของรัฐยังคงถือหุ้นใหญ่ ในบล.เคทีบี ซึ่งจะมีการดำเนินการอย่างไรนั้นมีขั้นตอนการดำเนินงานที่มาก จากต้องขอมติจากผู้ถือหุ้นใหญ่
นายชัยภัทร ศรีวิสารวาจา ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน)หรือ ZMICO กล่าวว่าขณะนี้ทางบล.ซีมิโก้ได้ส่งตัวแทนเข้าไปเป็นคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด)ในบล.เคทีบี 2 ท่าน ในการร่วมบริหารงาน ส่วนตัวนั้นยังไม่สามารถที่จะเข้าไปร่วมบริหารได้ คงต้องรอให้เกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ในการให้กรรมการ ผู้จัดการหรือบุคคลผู้มีอำนาจในการจัดการสามารถดำรงตำแหน่งในบริษัทหลักทรัพย์มากกว่า 1 แห่งได้ซึ่งคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ก่อนในอีก 1 เดือนข้างหน้า
ทั้งนี้จากการที่นายชาญชัยมีการขายหุ้นที่ถือหุ้นในบล.เคทีบีให้กับบริษัทนั้นในที่สุดก็ต้องมีการถอนตัวออกไป ซึ่งหากนายชาญชัย มีการดึงทีมมาร์เกตติ้งปัจจุบันของบล.เคทีบีออกไปด้วยก็ไม่น่าห่วงจากที่มาร์เกตแชร์ของทางบล.เคทีบีไม่สูง แต่ต้องขึ้นอยู่กับพนักงานจะต้องมีการพิจารณาที่รอบคอบว่าไปแล้วจะมีที่ทำงานใหม่ที่มั่นคงและสามารถอยู่รอดได้ในอนาคตหรือไม่จากที่จะมีการแข่งขันสูงจากการเปิดเสรีค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์ (ค่าคอมมิชชั่น)และใบประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ (ใบไลเซ่นส์)
ทั้งนี้ทางบล.ซีมิโก้นั้นไม่มีแนวคิดที่จะต้องดำเนินธุรกิจหลักทรัพย์ 2 บริษัท ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับทางธนาคารกรุงไทยในการร่วมเป็นพันธมิตรทางธูรกิจด้วยกัน ในการที่จะได้สนันสนุนทางด้านการเงินและฐานลูกค้าจากธนาคารกรุงไทย และเป็นการลดค่าใช้จ่าย ซึ่งคาดว่าจะได้ผลสรุปภายในสิ้นปีนี้
“หลังจากที่เข้าไปซื้อหุ้น บล.เคทีบี ซึ่งขณะนี้ถือหุ้นอยู่ 49% นั้นเราไม่คิดที่จะทำธุรกิจเดียวกัน 2 บริษัท โดยตอนนี้ยังไม่สามารถจะพูดอะไรได้มาก จากที่จะต้องมีการดำเนินตามขั้นตอน โดยคาดว่าจะชัดเจนได้ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับทางธนาคารกรุงไทยในการที่จะเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งทางธนาคารกรุงไทยก็ยืนยันที่จะไม่มีการขายหุ้น 50%ที่ถืออยู่ในบล.เคทีบีออก ” นายชัยภัทร กล่าว
แหล่งข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์ (บล.)เคทีบี กล่าวว่า ในเดือนตุลาคมนี้ทางบล.เคทีบีจะมีการปรับโครงสร้างคณะกรรมการบริหาร หลังจากที่บล.ซีมิโก้ได้เข้ามาถือหุ้นในสัดส่วน48.81%ของจำนวนหุ้นทั้งหมดซึ่งจะส่งตัวแทนเข้ามาร่วมบริหาร ซึ่งทางธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)หรือ KBANK ที่ถือหุ้นในบล.เคทีบีมากที่สุดในสัดส่วน 50%
ทั้งนี้จากการที่กลุ่มนายชาญชัย กุลถาวรากร มีการขายหุ้นออกมาให้ทางบล.ซีมิโก้ซึ่งในช่วงที่ผ่านมามีกระแสข่าวว่ากลุ่มของนายชาญชัย ได้รับการติดต่อจากบล.หลายแห่งในการให้เข้าไปร่วมบริหารบล. ซึ่ง 1 ใน นั้น คือ บล.แอ๊คคิดซัน ซึ่งการลาออกของนายชาญชัยนั้น ก็จะพาทีมเจ้าหน้าที่การตลาด (มาร์เกตติ้ง) ของบล.เคทีบีในปัจจุบันทั้งหมด ออกไปด้วย
นอกจากนี้จะดึงทีมวาณิชธกิจภายใต้การนำของนายชูพงศ์ ธนเศรษฐกร ออกไปด้วยเช่นกันและจะนำงานด้านที่ปรึกษาอยู่ในมือตามออกไปด้วย เพราะ ก่อนที่นายชูพงษ์ จะย้ายมาทำงานที่บล.เคทีบีนั้นได้เคยทำงานที่บล.ซีมิโก้มาก่อน และจากที่มีปัญหากับทางบล.ซีมิโก้จึงลากออกมา จึงทำให้เมื่อบล.ซีมิโก้ มาถือหุ้นในบล.เคทีบีนั้นจึงทำให้ไม่สามารถทำงานร่วมกันได้
“ทันที่ที่ซีมิโก้ได้เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบล.เคทีบีนั้น ก็เริ่มมีปฏิกิริยาที่ชัดเจนว่าทางบล.ซิมิโก้ ไม่ต้องการทีมวาณิชธนกิจของนายชูพงศ์ จนมีการกระทำจนถึงขั้นปิดประตูเพื่อไม่ให้ทีมของนายชูพงศ์ เข้ามาทำงาน” แหล่งข่าวกล่าวว่า
สำหรับการที่บล.หลายแห่งสนใจที่จะชวนนายชาญชัย เข้าไปร่วมบริหารนั้นเนื่องจาก ต้องการหวังส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เกตแชร์)ของทีมมาร์เกตติ้งของบล.เคทีบีในปัจจุบันมาเสริมธุรกิจหลักทรัพย์ และมีกระแสข่าวทางบล.เคทีบีจะมีการเพิ่มทุนจดทะเบียน เพื่อนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนไปลงทุนในหุ้นของบล.ซีมิโก้ซึ่งเป็นลักษณะการในการถือหุ้นไขว้กัน
แหล่งข่าวกล่าวว่า ในระยะยาวนั้นทางบล.ซีมิโก้และบล.เคทีบีจะมีการควบรวมกัน ซึ่งขณะนี้ทางบล.ซีมิโก้ ยังไม่สามารถที่จะดำเนินการดังกล่าวได้เต็มที่จากที่ธนาคารกรุงไทย ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ของรัฐยังคงถือหุ้นใหญ่ ในบล.เคทีบี ซึ่งจะมีการดำเนินการอย่างไรนั้นมีขั้นตอนการดำเนินงานที่มาก จากต้องขอมติจากผู้ถือหุ้นใหญ่
นายชัยภัทร ศรีวิสารวาจา ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน)หรือ ZMICO กล่าวว่าขณะนี้ทางบล.ซีมิโก้ได้ส่งตัวแทนเข้าไปเป็นคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด)ในบล.เคทีบี 2 ท่าน ในการร่วมบริหารงาน ส่วนตัวนั้นยังไม่สามารถที่จะเข้าไปร่วมบริหารได้ คงต้องรอให้เกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ในการให้กรรมการ ผู้จัดการหรือบุคคลผู้มีอำนาจในการจัดการสามารถดำรงตำแหน่งในบริษัทหลักทรัพย์มากกว่า 1 แห่งได้ซึ่งคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ก่อนในอีก 1 เดือนข้างหน้า
ทั้งนี้จากการที่นายชาญชัยมีการขายหุ้นที่ถือหุ้นในบล.เคทีบีให้กับบริษัทนั้นในที่สุดก็ต้องมีการถอนตัวออกไป ซึ่งหากนายชาญชัย มีการดึงทีมมาร์เกตติ้งปัจจุบันของบล.เคทีบีออกไปด้วยก็ไม่น่าห่วงจากที่มาร์เกตแชร์ของทางบล.เคทีบีไม่สูง แต่ต้องขึ้นอยู่กับพนักงานจะต้องมีการพิจารณาที่รอบคอบว่าไปแล้วจะมีที่ทำงานใหม่ที่มั่นคงและสามารถอยู่รอดได้ในอนาคตหรือไม่จากที่จะมีการแข่งขันสูงจากการเปิดเสรีค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์ (ค่าคอมมิชชั่น)และใบประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ (ใบไลเซ่นส์)
ทั้งนี้ทางบล.ซีมิโก้นั้นไม่มีแนวคิดที่จะต้องดำเนินธุรกิจหลักทรัพย์ 2 บริษัท ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับทางธนาคารกรุงไทยในการร่วมเป็นพันธมิตรทางธูรกิจด้วยกัน ในการที่จะได้สนันสนุนทางด้านการเงินและฐานลูกค้าจากธนาคารกรุงไทย และเป็นการลดค่าใช้จ่าย ซึ่งคาดว่าจะได้ผลสรุปภายในสิ้นปีนี้
“หลังจากที่เข้าไปซื้อหุ้น บล.เคทีบี ซึ่งขณะนี้ถือหุ้นอยู่ 49% นั้นเราไม่คิดที่จะทำธุรกิจเดียวกัน 2 บริษัท โดยตอนนี้ยังไม่สามารถจะพูดอะไรได้มาก จากที่จะต้องมีการดำเนินตามขั้นตอน โดยคาดว่าจะชัดเจนได้ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับทางธนาคารกรุงไทยในการที่จะเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งทางธนาคารกรุงไทยก็ยืนยันที่จะไม่มีการขายหุ้น 50%ที่ถืออยู่ในบล.เคทีบีออก ” นายชัยภัทร กล่าว