รร.ภาษาจีนเหนือลุยเปิดแคมป์สอนเด็ก รับการค้า-การลงทุนมหาอำนาจใหม่โลก

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – เครือข่ายโรงเรียนสอนภาษาจีนภาคเหนือเดินหน้าเปิดแคมป์สอนภาษาครั้งแรก หนุนการค้า – การลงทุนไทย-จีนในอนาคต หลังจีน ก้าวขึ้นสู่ความเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ ขณะนี้มีผู้ใช้ภาษาจีนทั่วโลกมากกว่า 25%

รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่า ระหว่างวันที่ 11-18 ตุลาคม 51 ชมรมโรงเรียนสอนภาษาจีนภาคเหนือ ที่มีเครือข่ายทั้งหมด 14 โรงเรียน ได้ร่วมกันเปิดแคมป์ภาษาจีนขึ้นที่โรงเรียนช่องฟ้าซินเซิงวาณิชบำรุง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นการจัดแคมป์ภาษาจีนครั้งแรกในภาคเหนือ โดยได้มีพิธีเปิดเมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา มีนักเรียนเข้าร่วม 155 คน มีมาดามอู๋ ฮุ่ย ชิง กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำเชียงใหม่ นายปณิธิ ตั้งผาติ ประธานชมรมโรงเรียนสอนภาษาจีนฯ นายดิษฐ์ ลินพิศาล ประธานมูลนิธิช่องฟ้าซินเซิงฯ และนายธงชัย ทูนคำ ผอ.สพท.เชียงใหม่เขต 4 ร่วมเป็นประธานเปิดงาน

มาดามอู๋ ฮุ่ย ชิง กล่าวว่า ถือเป็นการเริ่มต้นพัฒนาการเรียนการสอนภาษาจีนในภาคเหนือของประเทศไทยครั้งสำคัญ ที่จะนำไปสู่การติดต่อสัมพันธ์กับจีน ต่อไปในอนาคต ซึ่งทางจีนก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ทั้งด้านบุคลากร – ตำราการเรียนการสอน ซึ่งในคราวนี้ก็ได้เป็นตัวแทนองค์กรชาวจีนโพ้นทะเล มอบหนังสือตำราเรียนภาษาจีนให้แก่ชมรมฯ 70,400 เล่มด้วยกัน

นายปณิธิ กล่าวว่า ชมรมโรงเรียนสอนภาษาจีนภาคเหนือแห่งประเทศไทย ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2546 เป็นโรงเรียนสอนภาษาจีนภาคเหนือ ผลักดันการเรียนการสอนภาษาจีนให้ได้มาตรฐาน ซึ่งปัจจุบันนี้ภาษาจีนเป็นภาษาที่ต้องการของคนทั่วโลก ชมรมฯต้องการให้การจัดค่ายเยาวชนภาษาจีน หรือแคมป์ภาษาจีนครั้งที่ 1 นี้จะเป็นค่ายที่รวมความพร้อม ความตั้งใจจริงของการเรียนการสอนภาษาจีนที่สมบูรณ์

เขาย้ำว่า การเรียนภาษาจีน จะแยกออกจากวัฒนธรรมจีนไม่ได้ ต้องเรียนรู้ไปพร้อมกับการเรียนรู้วัฒนธรรม ในกิจกรรมค่ายเยาวชนภาษาจีนในครั้งนี้ เราจึงจัดกิจกรรมที่เกี่ยวกับวัฒนธรรมจีนมากมาย เช่น การคัดพู่กันจีน ระบำจีน การวาดภาพจีน เป็นต้น

ขณะที่นายดิษฐ์ กล่าวว่า ขณะนี้ต้องยอมรับว่า จีน กำลังก้าวขึ้นเป็นประเทศอันดับ 1 ของโลก มีความก้าวหน้าทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง การปกครอง รวมทั้งวิทยาการต่าง ๆ ซึ่งล่าสุดจีนก็สามารถส่งมนุษย์ขึ้นไปในอวกาศแล้ว นอกจากนี้ยังมีประชากรมากกว่า 1,300 ล้านคน ถ้าหากคนจีนซื้อสินค้าไทยคนละ 1 บาท ก็มีมูลค่ากว่า 1,300 ล้านบาทแล้ว ดังนั้นการเรียนการสอนภาษาจีนจึงจำเป็นสำหรับเยาวชนไทย และประเทศไทย ที่จะติดต่อสัมพันธ์กับจีนในอนาคตมากขึ้น

ด้านผู้อำนวยการ สพท.ชม.เขต 4 ให้ความเห็นว่า การเรียนการสอนภาษาจีนในปัจจุบัน เกิดขึ้นอย่างแพร่หลายกว้างขวาง โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย และประเทศไทย รัฐบาลได้ให้ความสำคัญอย่างมาก โดยสัดส่วนประชากรทั้งโลก มีไม่น้อยกว่า 25%ที่ใช้ภาษาจีน ประกอบกับจีน เป็นประเทศที่มีการพัฒนาก้าวหน้าทุกด้าน หากใครได้ติดต่อค้าขายกับจีน ก็จะมีแต่รุ่งเรืองก้าวหน้า

สพท.เชียงใหม่ เขต 4 ก็ให้ความสำคัญกับการพัฒนาการเรียน การสอนภาษาจีนเช่นกัน จึงได้ส่งเสริมให้โรงเรียนในสังกัดเปิดหลักสูตรสอนภาษาจีนขึ้น และจัดกิจกรรมเกี่ยวกับภาษาและวัฒนธรรมจีนทุกสถาบัน นอกจากนี้ทางเขตยังได้ลงนามความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยหงเหอ และโรงเรียนภาษาและวัฒนธรรมจีนแห่งคุนหมิง เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนได้เรียนรู้ภาษา – วัฒนธรรมจีนด้วย