xs
xsm
sm
md
lg

ราชินีเสด็จงานศพน้องโบว์ทรงชม"เด็กดี"รักษาสถาบันกษัตริย์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงทอดผ้าไตร ในพิธีพระราชทานเพลิงศพ “น้องโบว์-อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ” ก่อนเสด็จฯ กลับ ทรงมีพระราชปฏิสันถาร กับ “สนธิ ลิ้มทองกุล” ด้วยสีพระพักตร์ยิ้มแย้ม พ่อน้องโบว์เผยทรงชมลูกสาวเป็นเด็กดี ช่วยชาติ ช่วยรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ เงินที่เป็นค่ารักษา ในหลวงเป็นผู้พระราชทานให้ ด้าน “สุริยะใส” เตรียมหลักฐานยื่นสภาคอเกรส ชี้ให้จับตาเจ็ดวันอันตราย ก่อนศาลตัดสินคดีที่ดินรัชดาฯ พร้อมเดินเรื่องชี้แจงต่อสภาสูง-สภาล่างเมืองลุงแซม แฉสมชายโทรหาทักษิณก่อนสั่งฆ่า รพ.วชิระสรุปผลการรักษาผู้บาดเจ็บเบื้องต้นทูลเกล้าฯ ถวายรายงาน

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศงานพิธีพระราชทานเพลิงศพ นางสาวอังคณา ระดับปัญญาวุฒิ หรือน้องโบว์ ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ต.ค.2551 ที่วัดศรีประวัติ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารี เสด็จฯ มาในพิธีในเวลาประมาณ 16.10 น. โดยคณะขององคมนตรีที่มาเฝ้ารับเสด็จ ประกอบด้วย พล.อ.อ.สิทธิ เศวตศิลา พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ น.พ.เกษม วัฒนชัย นายพลากร สุวรรณรัฐ นอกจากนี้ยังมี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม.และทีม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อาทิ นายกรณ์ จาติกวณิช นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กทม.และ นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา และกลุ่ม ส.ว.อาทิ นางสาวรสนา โตสิตระกูล, คุณหญิง จารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการ สตง. รวมไปถึงแกนนำและผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยรอรับเสด็จฯ ได้แก่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายพิภพ ธงไชย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และนายสุริยะใส กตะศิลา รวมทั้ง นายศรัณยู วงศ์กระจ่าง น.ส.ศิริลักษณ์ ผ่องโชค และประชาชนมาร่วมงานอย่างเนืองแน่น

ต่อมา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงขึ้นทอดผ้าไตร พร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ และองคมนตรี พล.อ.อ.สิทธิ เศวตศิลา นายพระนาย สุวรรณรัตน์ นายเกษม วัฒนชัย พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ หลังจากทรงเป็นองค์เป็นประธานถวายผ้าไตรแล้ว ได้เสด็จฯกลับมายังปะรำพิธี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ครอบครัว “ระดับปัญญาวุฒิ” เข้าเฝ้าฯอย่างใกล้ชิด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 16.40 น.สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ ได้เสด็จฯกลับ โดยมีแกนนำพันธมิตรฯ เข้าแถวเฝ้ารอส่งเสด็จฯ ระหว่างที่เสด็จพระราชดำเนินผ่าน สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชปฏิสันถาร กับ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ อยู่ชั่วครู่ ด้วยสีพระพักตร์ที่ยิ้มแย้มและทรงพระสรวล

หลังจากนั้น ผบ.เหล่าทัพได้ทยอยเดินทางกลับ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.เดินออกมา ประชาชนได้ชูมือตบขึ้นมาเขย่าไล่ พร้อมตะโกนถามว่าทหารยังอยู่ข้างประชาชนหรือเปล่า ยังทนไหวอีกเหรอ เห็นประชาชนเป็นอย่างนี้ ส่วน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ถูกประชาชนจำนวนมากได้ยกมือตบขึ้นมาเขย่าไล่ และตะโกนว่า ฆาตกร ตำรวจฆ่าประชาชน

ทรงชื่นชมน้องโบว์เด็กดี

นายจินดา ระดับปัญญาวุฒิ บิดา นางสาวอังคณา ระดับปัญญาวุฒิ หรือ น้องโบว์ เปิดเผยว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงรับสั่งและชม ว่า ลูกสาวเป็นเด็กดี ช่วยชาติ ช่วยรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งตนได้กราบทูลฯกลับไปว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูงที่ทั้งสองพระองค์เสด็จฯ มา

นอกจากนี้ท่านยังตรัสอีกว่า "เป็นห่วงพันธมิตรทุกคน ไว้จะฝากดอกไม้ไปเยี่ยมพันธมิตร"

       นายจินดา กล่าวอีกว่า พระองค์ท่านยังทรงรับสั่งว่า ขอให้กำลังใจกับครอบครัว และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับทราบแล้ว และเงินที่เป็นค่ารักษา ในหลวงเป็นผู้พระราชทานให้

พธม.แต่งชุดดำไว้อาลัย

สำหรับบรรยากาศกลุ่มผู้ชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลและบริเวณโดยรอบยังคงมี ผู้ชุมนุมนับพันคนแต่งกายด้วยชุดสีดำเป็นส่วนใหญ่เพื่อไว้อาลัยให้แก่น้องโบว์ หรือ น.ส. อังคนา ระดับปัญญาวุฒิ และ พ.ต.ท. เมธี ชาติมนตรี ตำรวจนอกราชการและหัวหน้าการ์ดพันธมิตรฯ ซึ่งเสียชีวิตในระหว่างเหตุการณ์ตำรวจสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่กลุ่มการ์ดพันธมิตรฯ มีการตรวจผู้เข้าออกอย่างเข้มงวดทุกประตู เพื่อป้องกันความปลอดภัย

พธม.ซาบซึ้งพระมหากรุณาธิคุณ

นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงว่า สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ทรงพระราชดำเนินพระราชทานเพลิงศพ น.ส.อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ กลุ่มพันธมิตรฯ มีความซาบซึ้งในกระมหากรุณาธิคุณอย่างยิ่ง และทำให้พันธมิตรฯ มีความเชื่อมั่นที่จะปกป้องชาติ สถาบันพระมหากษัตริย์ ส่วนการเคลื่อนไหวต่อจากนี้นั้น ทางพันธมิตรจะงดการเคลื่อนไหว จนกว่างานศพของ น.ส.อังคณา และ พ.ต.ท.เมธี ชาติมนตรี จะเสร็จสิ้น

นายสุริยะใส ยังกล่าวถึงคดีความที่ตำรวจใช้ความรุนแรงกับประชาชนว่า ได้ให้ทีมทนายความเตรียมข้อมูลหลักฐาน ของผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตแล้ว ทั้งนี้ คาดว่าในต้นสัปดาห์หน้าจะรวบรวมหลักฐานทั้งหมดเสร็จสิ้น เพื่อยื่นต่อศาลทุกศาล รวมถึง สำนักงานป้องกันปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) องค์กรระหว่างประเทศ

เตรียมแจงข้อเท็จจริงสภาคองเกรซ

นอกจากนี้ พันธมิตรจะทำจดหมายเปิดผนึกถึงสภาฯ คองเกรซ ของสหรัฐฯ อีกทั้งตนยังได้รับทราบจากพันธมิตรฯ ที่ประเทศอังกฤษ ขณะนี้ได้มีการคัดค้านการขอลี้ภัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีพร้อมครอบครัว กับสถานทูตอังกฤษ เนื่องจากมีส่วนเชื่อมโยงกับเหตุความรุนแรงเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ซึ่งจะนำภาพถ่าย และข้อเท็จจริงไปให้กับสถานฑูตได้รับทราบ

'สาเหตุที่เราต้องยื่นต่อสภาฯ คองเกรซ เพื่อให้ต่างประเทศได้เข้าใจเหตุการณ์ ปะทะที่เกิดขึ้น เนื่องจากในบางประเทศยังมีความสับสน และได้ข้อมูลผิดๆ ว่าเรามิคติกับกลุ่มที่เสียประโยชน์ และไม่ได้รับความชอบธรรมจากรัฐบาล พันธมิตรจึงตั้งใจให้ทั่วโลกทราบว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ได้สร้างปัญหาให้กับประเทศชาติ มากกว่ารัฐบาลที่มาจากการรัฐประหารเสียอีก เพื่อตีแผ่ความจริงให้ทั่วโลกได้รับทราบ'

มีผู้สูญหายประมาณ 20 คน

นายสุริยะใส กล่าวถึงผู้สูญหายจากเหตุการณ์วันที่ 7 ต.ค. ว่า มีคนหายไปประมาณ 20 คน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และพันธมิตรฯจะนำมาเปิดเผยวันที่ 15 ต.ค. นี้ และใน 1-2 วันนี้ ต้องมีความระมัดระวังโดยไม่มีการเคลื่อนไหวในช่วงนี้ แต่ในช่วงนี้เป็นช่วง 7 วันอันตราย ที่เสถียรภาพทางการเมืองอ่อนไหวมากที่สุด ยิ่งกว่าเมื่อครั้งรัฐประหาร 19 ก.ย. และยิ่งกว่ารัฐบาลขิงแก่ ดังนั้น การเคลื่อนไหวจะต้องมีความระมัดระวัง และควรอยู่ในที่ตั้ง

ปลุกผี นปก.สร้างเหตุช่วย 'แม้ว'

ส่วนที่นักการเมืองพรรคพลังประชาชนยังออกมาเคลื่อนไหวกับกลุ่ม นปช. อย่างชัดเจน ผู้ประสานงานฯ พันธมิตร กล่าวว่า ตามที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี บอกว่า นายณัฐวุฒิ ไสเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง กับกลุ่ม นปช. นั้นก็ไม่เป็นความจริง เพราะสิ่งสำคัญในการเคลื่อนไหวของ นปช. นั้น ต้องการให้เกิดการเผชิญหน้า สร้างสถานการณ์ เพื่อเป็นลู่ทางให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้ช่องทางดังกล่าวเพื่อขอลี้ภัย

นายสุริยะใส กล่าวว่า ถ้านายสมชายอยู่ต่อคิดว่าจะแก้ไขปัญหาได้หรือ สำคัญตัวเองผิดไปหรือเปล่า แต่ตรงกันข้ามถ้านายสมชายแสดงความกล้าหาญด้วยการลาออก ก็จะทำให้การเมือง บรรยากาศการเมืองคลี่คลายเป็นไปในทางที่ดี

พธม.เสนอตั้ง กก.อิสระสอบ

เวลา 10.00 น. ที่ห้องผู้สื่อข่าว ทำเนียบรัฐบาล นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงกรณีที่ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ตั้งคณะกรรมการกลาง สอบสวนเหตุการณ์การสลายการชุมนุมของพันธมิตรฯ เมื่อวันที่ 7 ต.ค. โดยมี นายปรีชา นิชวงศ์ เป็นประธานว่า ต้องรอดูผลงานของนายปรีชาก่อน เนื่องจาก นายปรีชา เป็นถึงอดีตรองประธานศาลฎีกา และมาจากกระบวนการยุติธรรม พันธมิตรฯ ต้องให้ความเชื่อถือในระดับหนึ่ง ซึ่งการที่รัฐบาลตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าวขึ้นมาอาจมีข้อกังขาได้

ดังนั้น ตนจึงขอเสนอให้ตั้งคณะกรรมการกลาง ที่มีความอิสระจากรัฐบาล เช่น สภาผู้แทนราษฎร์ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน วุฒิสมาชิก โดยไม่ควรให้ผู้ที่เกี่ยวกับพรรคพลังประชาชน อดีตพรรคไทยรักไทย หรือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คณะกรรมการทุกคนต้องมีความชัดเจนว่า และไม่เกี่ยวข้องกับบุคคลหรือพรรคเหล่านี้ ไม่ใช้เฉพาะประธานคณะกรรมการตรวจเท่านั้น หากประธานหรือคณะกรรมการ คนใดคนหนึ่งมีความเกี่ยวข้อง ตนคิดว่าการสอบสวนคงจะไม่ราบรื่นอย่างแน่นอน

นายพิภพกล่าวว่า นายสมชายและรัฐบาลเป็นผู้สร้างความขัดแย้งเอง โดยมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชน เป็นผู้สร้างความขัดแย้งในสังคมไทยตั้งแต่ต้น ในเรื่องที่พยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญ พยายามให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกจากกระบวนการยุติธรรม สนับสนุนกลุ่ม นปช. ต่อต้านพันธมิตรฯ รวมทั้งตั้งข้อหากบฏกับ 9 แกนนำพันธมิตรฯ เหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ต.ค. นายกฯ จะไม่รับผิดชอบไม่ได้ เพราะการใช้ความรุนแรง เข้าสลายการชุมนุม จนบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก ทำให้แผ่นดินมีแต่กลิ่น คาวเลือด จะต้องรับผิดชอบด้วยการลาออกสถานเดียว

นายพิภพ กล่าวว่า พันธมิตรฯไม่ยืนยันว่าจะคืนหรือไม่คืนทำเนียบฯ แต่ยืนยันจะชุมนุมอย่างสงบและสันติในทำเนียบฯ โดยทางพันธมิตรฯคำนึงถึงงานพระราชพิธีเช่นกัน อาทิ พันธมิตรฯ ได้มติจะเปิดถนนราชดำเนิน โดยการรื้อเวทีบริเวณสะพานมัฆวานฯ ในช่วงวันที่ 14 -19 พ.ย. ที่จะถึงนี้

แฉสมชายโทรหาแม้วก่อนสั่งฆ่า

นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวบนเวทีพันธมิตรฯที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อคืนนี้ว่า นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ต้องการจะใช้รัฐสภาเพื่อแถลงนโยบาย ซึ่งต้องการสลายม็อบพันธมิตร แต่มีคนทักท้วงว่าไม่ควรทำ ซึ่งในการประชุมครม.ครั้งนั้น นายสมชายจึงได้หมุนโทรศัพท์ไปที่ลอนดอนเพื่อขอคำปรึกษา เปิดเสียงออกมา เป็นเสียงพ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่า ให้ลุยได้เลย ถ้าไม่ทำก็ให้ปลด พล.ต.อ.พัชรวาท วงศ์สุวรรณ สั่งน้องเขยตัวเองเป็นนายก ส่งเงินเข้ามาช่วย ส่งเครือข่ายตัวเอง ก่อการจราจลในไทย ใช้ตำรวจมาทำร้ายประเทศไทย ให้เกิดความพินาศฉิบหาย คนๆนี้ต้องการให้ประเทศชาติฉิบหาย เพื่อกระเทือนไปถึงพระราชบัลลังก์ การที่สมชายเป็นฆาตรกรตัวจริงไม่ได้เป็นการกล่าวเกินเลย

นายสนธิกล่าวต่อว่า วานนี้เมื่อ พล.ต.อ. พัชรวาท รู้ข่าวว่าพวกเราจะไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เขาสั่ง ตชด.เข้ามา สั่งตำรวจเพิ่มเติม สั่งรถฉีดน้ำเข้าไป ซื้อวิทยุเพิ่มเติม ซื้อบลูธูท สั่งเหมือนคนบ้า เสียเงินเสียทอง ปรากฎว่า นั่งตบยุงกัน ทำไมพวกเราไม่มาสักที อย่าไปคิดว่าเราไม่ไปนั้นเราเสียศักดิ์ศรี เรามีความจำเป็นไม่ไปวานนี้และวันนี้เพราะอะไร ถ้าเราจะไป เราบอกแค่วันนี้ พรุ่งนี้เราก็ไปได้แล้ว

รพ.วชิระถวายรายงาน”พระราชินี”

นพ.ชัยวัน เจริญโชคทวี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เปิดเผยว่า วานนี้(13 ต.ค.) ได้ทูลเกล้าฯ ถวายรายงานเบื้องต้นผลการรักษาผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์การสลายการชุมนุมที่เข้ารักษาใน รพ.วชิรพยาบาล ผ่านไปทางกองงานราชเลขาธิการในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งทรงมีความห่วงใยพสกนิกรไทยทุกคน ส่วนฉบับสมบูรณ์นั้น คงต้องใช้เวลา ทั้งนี้ รพ.วชิรพยาบาล มีผู้บาดเจ็บเข้ารักษาทั้งหมด 169 ราย ประกอบด้วย วันที่ 7 ต.ค. ภาคเช้า 63 ราย ภาคบ่าย 101 ราย และวันที่ 8 ต.ค. 5 ราย

นับตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม จนถึงวันนี้ รพ.วชิรพยาบาล ยังมีผู้รักษาอยู่ 11 ราย ในจำนวนนี้ 4 ราย พักอยู่ในห้องไอซียู 4 ราย อาการหนักที่สุดยังเป็นนายธัญญา กุลแก้ว ขาขาด ยังไม่รู้สึกตัว แต่ไม่มีภาวะแทรกซ้อนอื่นหรือการติดเชื้อ สำหรับ  ส.ต.อ.จักรา ขันธชัย  อาการทั่วไปปกติ  หายใจทางคอที่เจาะไว้ ไม่มีภาวะการติดเชื้อ ส่วน น.ส.นาฏยา ธิญา อยู่ในห้องเบิร์นยูนิต เพราะมีบาดแผลลึก ต้องป้องกันการติดเชื้อ สภาพทั่วไปอาการดีขึ้น รู้สึกตัว พูดจากสื่อสารได้ และนายประภาส ศรีสุพัฒนกุล เดิมรักษาอยู่ในห้องทั่วไป แต่เพิ่งถูกย้ายเข้าไปห้องไอซียู เพราะมีไข้สูง จากภาวะการติดเชื้อ ซึ่งเกิดจากบาดแผลที่ฉีกขาดบริเวณเท้าข้างขวา

ส่วนรายอื่น ๆ ที่เหลือนั้น อาการดีขึ้นเป็นลำดับ แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านเป็นราย ๆ ไป ส่วนนายปิตินนท์ แก่นสาร นักข่าว จส.100  เดิมรักษาอยู่ในห้องไอซียู ขอย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลกรุงเทพ  เพราะมีสัญญาระหว่างบริษัทกับโรงพยาบาล

นพ.ธันต์ สุภัทร์พันธุ์ ผู้อำนวยการโรพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า อาการของนายชิงชัย อุดมเจริญกิจ หรือ “ตี๋” ยังคงมีไข้ต่ำๆ อาการทั่วไปดีขึ้น ไม่มีอาการแทรกซ้อน ไม่น่าเป็นห่วง แต่ต้องรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียูอย่างน้อย 2 สัปดาห์ และรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาล ไม่ต่ำกว่า 1 เดือน ส่วนผู้ป่วยรายอื่นๆ อาการทั่วไปดีขึ้นเป็นลำดับ ทั้งนี้ มีผู้ป่วยที่นอนรักษาตัวอยู่ไอซียูรวมทั้งสิ้น 7 ราย โดยมีผู้ป่วยยังคงรักษาที่โรงพยาบาล 10 คน

รศ.นพ.ธีระพงศ์ เจริญวิทย์ รักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้อาการของนางรุ่งทิวา ธาตุนิยม ยังไม่รู้สึกตัว ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง ส่วนรายอื่นๆ อาการทั่วไปดีขึ้นแล้ว

หมอประเวศชี้ทางออก

นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส เขียนบทความ “ทางออกจากวิกฤต” โดยชี้ว่าทางออกเฉพาะหน้าภายใต้สถานการณ์ของบ้านเมืองในขณะนี้ อาจสรุปเหลือสองเส้นทาง คือเส้นทางสันติวิธี กับเส้นทางนองเลือด

นพ. ประเวศ ระบุว่า รัฐไม่พึงเข้ามาแก้ปัญหาด้วยการใช้ความรุนแรง เพราะจะเพิ่มจำนวนผู้ต่อต้านมากขึ้น ทำนอง “ตายสิบเกิดแสน” แต่ต้องเป็นผู้นำในการแก้ปัญหาดัวยสันติวิธี บุคคลและองค์กรต่างๆ ควรเข้ามาส่งเสริมการเจรจาหาข้อยุติร่วมกัน.
กำลังโหลดความคิดเห็น