ระบอบทักษิณหรือระบอบทุนสามานย์ในวันนี้ได้กลายเป็นระบอบทุนทรราชไปแล้ว เป็นระบอบทุนทรราชที่เป็นฆาตกรมือเปื้อนเลือด ที่สังหารโหดประชาชน กลางเมืองหลวง และมีเป้าหมายโค่นล้มสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างชัดเจน
ประชาชนชาวไทยผู้จงรักภักดีทุกชนชั้น ทุกชนชาติ ทุกศาสนา ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยมีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเป็นแกนนำ จึงได้ลุกขึ้นต่อสู้โค่นล้มระบอบทุนทรราชอย่างเด็ดเดี่ยว
ระบอบทุนทรราชไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ดื้อด้านดึงดันที่จะกระทำกรรมชั่วต่อบ้านเมืองและประชาชนต่อไป โดยไม่สำนึกผิดชอบชั่วดีเลย
กลยุทธ์ของระบอบทุนทรราชมีอยู่ 3 กลยุทธ์คือ
ใช้เงินซื้อเสียงเพื่อยึดครองสภาและรัฐบาลไว้ให้ได้ตลอดไป
สร้างรัฐตำรวจเป็นเครื่องมือโดยมีแก๊งอันธพาลเป็นกองกำลังเถื่อนประสานงานกันอย่างใกล้ชิด
สร้างแนวรบสื่อมวลชน ปิดกั้นการรับรู้ของประชาชน บิดเบือนและใส่ร้ายประชาชนเพื่อปกปิดความชั่วร้ายและภาพอสูรร้ายของตน
ขณะนี้มวลชนฝ่ายพันธมิตรฯ เติบใหญ่ ขยายตัวไปอย่างกว้างขวาง จนมีปริมาณเกินระดับ 20 ล้านคนไปแล้ว และมีขีดความสามารถที่จะยืนหยัดต่อสู้กับระบอบทุนทรราชอย่างยืดเยื้อยาวนาน
ระบอบทุนทรราชหมายจะปราบปรามประชาชนให้สิ้นซาก แต่ยังไม่สามารถทำได้สำเร็จ เพราะยังไม่สามารถควบคุมกองทัพได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด และยังไม่สามารถสร้างมวลชนที่สนับสนุนอย่างแท้จริงได้อย่างเพียงพอ
จึงใช้ได้แต่เฉพาะอำนาจรัฐเถื่อน อำนาจเงิน อันธพาล และสื่อมวลชนทรยศชาติและใช้เงินซื้อคนเข้ามาเป็นพวก
เพราะเหตุนี้สถานการณ์จึงถูกกำหนดให้ยืดเยื้อ และเพิ่มความรุนแรงขึ้นจนใกล้ที่จะเป็นสงครามกลางเมืองทุกขณะแล้ว
กองทัพแห่งชาติมีอำนาจหน้าที่โดยตรงที่จะต้องหยุดยั้งสงครามกลางเมือง ทำหน้าที่พิทักษ์ปกป้องชาติ พระมหากษัตริย์ และประชาชน ซึ่งหากกองทัพสำนึกในหน้าที่รับผิดชอบและไม่ทรยศต่อพระบรมราชจักรีวงศ์แล้วก็จะเป็นปมเงื่อนสำคัญที่หยุดยั้งสงครามกลางเมืองได้
ซึ่งจะต้องติดตามดูกันต่อไปว่ากรณีจะเป็นประการใด และคงจะได้เห็นกันในเวลาไม่ไกลจากนี้แล้ว
ไม่ว่าจะเป็นประการใด พลังของมวลมหาประชาชนที่มีพันธมิตรฯ เป็นแกนนำจะเป็นหลักประกันความอยู่รอดปลอดภัยของชาติ พระมหากษัตริย์ อย่างแท้จริง และนี่คือภารกิจที่ยิ่งใหญ่ มีเกียรติ และมีนัยยะสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของชาติไทย
เพื่อขับเคลื่อนภารกิจที่ยิ่งใหญ่ มีเกียรติและศักดิ์สิทธิ์นี้ไปสู่ความสำเร็จ ประชาชนผู้รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ จะต้องเข้าแบกรับภารกิจนี้ร่วมกันและพร้อมเพรียงกันทั่วประเทศ ด้วยวีรภาพอันกล้าหาญชาญชัย และทรหดอดทน ทั้งต้องประกอบด้วยความเพียรอันยิ่งยวด
มิฉะนั้นก็จะ “สิ้นชาติ สิ้นแผ่นดิน สิ้นกษัตริย์” ดังที่พี่น้องสื่อมวลชนบางท่านได้นำเสนอไว้แล้ว และหากแผ่นดินสิ้นสูญสถาบันเหล่านี้แล้ว ประชาชนก็เหมือนตายทั้งเป็น ประเทศไทยจะต้องเป็นสนามรบ ที่มีแต่ความพินาศและโศกาอาดูรที่ทุกแห่งหนเต็มไปด้วยเลือดและน้ำตา
ดังนั้นพี่น้องร่วมชาติทุกคนทั่วประเทศจึงต้องละวางอาชีพการงานประจำลงชั่วคราว พิทักษ์รักษาชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และความปลอดภัยของประชาชนให้รอดปลอดภัยเป็นลำดับแรก
โค่นล้มระบอบทุนทรราช ขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติฆาตกรมือเปื้อนเลือดนี้อย่างเด็ดเดี่ยว ถึงที่สุด อย่างพร้อมเพรียงกัน
เพื่อภารกิจอันยิ่งใหญ่นี้ ประชาชนจำต้องตระหนักรู้ถึงภาระหน้าที่และวิธีทำงานบางอย่างเพื่อปฏิบัติให้เป็นผลสำเร็จอย่างรวดเร็วดังต่อไปนี้
ประการหนึ่ง จะต้องเร่งขยายมวลชนพันธมิตรฯ ให้กว้างขวางทุกแห่งหน ช่วงชิงผู้ที่ยังไม่ตื่นรู้ให้มาเข้าร่วม ช่วงชิงผู้ที่ยังเฉยเมยให้มาเข้าร่วม ช่วงชิงผู้ที่ยังทำตัวเป็นกลางอยู่มาเข้าร่วม โดยแต่ละคนต้องทำหน้าที่นี้อย่างเด็ดเดี่ยว และขยายมวลชนให้ได้อย่างน้อยวันละ 2 คนทุก ๆ วัน นี่คือภารกิจที่จะชี้ขาดอนาคตและจะมีผลต่อการขุดรากถอนโคนหากว่ามีการเลือกตั้งเกิดขึ้น จะต้องทำให้ระบอบทุนทรราชแพ้เลือกตั้งด้วย
ประการหนึ่ง เมื่อขยายมวลชนให้ตื่นรู้และยินดีเข้าร่วมแล้ว ให้พยายามจับเป็นกลุ่มเป็นก้อน เหมือนกับเอาไม้ไผ่แต่ละกิ่งมามัดรวมเข้าเป็นฟ่อน หรือเอาด้ายเล็กๆ มารวมกันเป็นเกลียวเชือก ก็จะสามารถรับกับน้ำหนักและภารกิจอันยิ่งใหญ่ได้
แต่ละกลุ่มให้จัดขึ้นตามความเป็นจริง เช่นอาจจะมีกลุ่มละ 3 คน หรือ 5 คน หรือ 7 คน หรือ 10 คน โดยมีผู้ทำหน้าที่หัวหน้ากลุ่มและผู้ประสานงาน
ประการหนึ่ง แต่ละกลุ่มจะมีหน้าที่หลัก 3 ประการคือ
(1) สมาชิกแต่ละคนของกลุ่มจะต้องไปขยายงานเพิ่มสมาชิกเป็นอีกกลุ่มหนึ่ง โดยตนเองทำหน้าที่หัวหน้ากลุ่มเพื่อประสานงานให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และหมั่นปรึกษาหารือภายในกลุ่มอย่างสม่ำเสมอ และสมาชิกของกลุ่มย่อยก็ต้องไปจัดตั้งกลุ่มของตนเองลดหลั่นลงไปอย่างไม่หยุดยั้ง ด้วยวิธีการนี้มวลชนพันธมิตรฯ ก็จะขยายตัวเติบใหญ่ไปทุกหนทุกแห่ง
(2) ปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของแกนนำให้เป็นผล เช่น การไม่ซื้อหนังสือพิมพ์ 3 ฉบับที่แกนนำได้เรียกร้อง เพราะเป็นหนังสือพิมพ์ที่ใส่ยาพิษให้กับความคิดและความรู้ของประชาชน เมื่อรณรงค์ให้ได้ผลแล้ว หนังสือพิมพ์ชั่วเหล่านี้ก็จะไม่มีใครซื้ออ่านอีกต่อไป
(3) ปฏิบัติการอารยะขัดขืนต่อต้าน ขับไล่ นักการเมืองโฉดชั่วทุกหนทุกแห่ง ไม่ให้ทำหน้าที่เถื่อนได้อีกต่อไป โดยพร้อมไปรวมตัวกันทันทีที่ทราบข่าว นอกจากนี้แต่ละกลุ่มจะต้องผลัดเวรกันไปร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ และเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในกรณีแกนนำเรียกร้องให้ระดมพลขนาดใหญ่ ก็ระดมทุกหน่วยทุกกลุ่มที่เกี่ยวข้องไปร่วมอย่างพร้อมเพรียงกัน
ประการหนึ่ง แต่ละกลุ่มสามารถร่วมกันคิด ร่วมกันปรึกษาเพื่อกำหนดมาตรการเฉพาะเพื่อใช้ในการเคลื่อนไหวของกลุ่มตน เช่น การทำเอกสารเพื่อแจกจ่ายให้ประชาชนได้รับรู้ความจริง หรือเชิญชวนตามเว็บไซต์ต่าง ๆ หรือช่วยกันประจานพวกโจรชั่ว เป็นต้น ทั้งนี้จะต้องสอดคล้องกับภารกิจหลักคือโค่นระบอบทุนทรราช ขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติ พิทักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ด้วย
กลุ่มใดที่มีความรู้ในการรักษาความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนก็ต้องร่วมกันคิดอ่านวิธีการรักษาความปลอดภัย และเข้ารับภารกิจนี้ในพื้นที่ที่ตัวเองรับผิดชอบ
กลุ่มใดที่มีความสามารถในเรื่องข่าวสารข้อมูล ก็อาจทำหน้าที่หาข้อมูลข่าวสารแล้วรายงานให้กับผู้เกี่ยวข้องทราบ
พี่น้องร่วมชาติทุกคนจึงต้องทำความรู้ ทำความเข้าใจ และนำวิธีการเหล่านี้ไปใช้ตลอดจนพัฒนาและปรับปรุงให้สอดคล้องกับความเป็นจริงของแต่ละชุมชนหรือแต่ละพื้นที่ต่อไป.
ประชาชนชาวไทยผู้จงรักภักดีทุกชนชั้น ทุกชนชาติ ทุกศาสนา ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยมีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเป็นแกนนำ จึงได้ลุกขึ้นต่อสู้โค่นล้มระบอบทุนทรราชอย่างเด็ดเดี่ยว
ระบอบทุนทรราชไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ดื้อด้านดึงดันที่จะกระทำกรรมชั่วต่อบ้านเมืองและประชาชนต่อไป โดยไม่สำนึกผิดชอบชั่วดีเลย
กลยุทธ์ของระบอบทุนทรราชมีอยู่ 3 กลยุทธ์คือ
ใช้เงินซื้อเสียงเพื่อยึดครองสภาและรัฐบาลไว้ให้ได้ตลอดไป
สร้างรัฐตำรวจเป็นเครื่องมือโดยมีแก๊งอันธพาลเป็นกองกำลังเถื่อนประสานงานกันอย่างใกล้ชิด
สร้างแนวรบสื่อมวลชน ปิดกั้นการรับรู้ของประชาชน บิดเบือนและใส่ร้ายประชาชนเพื่อปกปิดความชั่วร้ายและภาพอสูรร้ายของตน
ขณะนี้มวลชนฝ่ายพันธมิตรฯ เติบใหญ่ ขยายตัวไปอย่างกว้างขวาง จนมีปริมาณเกินระดับ 20 ล้านคนไปแล้ว และมีขีดความสามารถที่จะยืนหยัดต่อสู้กับระบอบทุนทรราชอย่างยืดเยื้อยาวนาน
ระบอบทุนทรราชหมายจะปราบปรามประชาชนให้สิ้นซาก แต่ยังไม่สามารถทำได้สำเร็จ เพราะยังไม่สามารถควบคุมกองทัพได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด และยังไม่สามารถสร้างมวลชนที่สนับสนุนอย่างแท้จริงได้อย่างเพียงพอ
จึงใช้ได้แต่เฉพาะอำนาจรัฐเถื่อน อำนาจเงิน อันธพาล และสื่อมวลชนทรยศชาติและใช้เงินซื้อคนเข้ามาเป็นพวก
เพราะเหตุนี้สถานการณ์จึงถูกกำหนดให้ยืดเยื้อ และเพิ่มความรุนแรงขึ้นจนใกล้ที่จะเป็นสงครามกลางเมืองทุกขณะแล้ว
กองทัพแห่งชาติมีอำนาจหน้าที่โดยตรงที่จะต้องหยุดยั้งสงครามกลางเมือง ทำหน้าที่พิทักษ์ปกป้องชาติ พระมหากษัตริย์ และประชาชน ซึ่งหากกองทัพสำนึกในหน้าที่รับผิดชอบและไม่ทรยศต่อพระบรมราชจักรีวงศ์แล้วก็จะเป็นปมเงื่อนสำคัญที่หยุดยั้งสงครามกลางเมืองได้
ซึ่งจะต้องติดตามดูกันต่อไปว่ากรณีจะเป็นประการใด และคงจะได้เห็นกันในเวลาไม่ไกลจากนี้แล้ว
ไม่ว่าจะเป็นประการใด พลังของมวลมหาประชาชนที่มีพันธมิตรฯ เป็นแกนนำจะเป็นหลักประกันความอยู่รอดปลอดภัยของชาติ พระมหากษัตริย์ อย่างแท้จริง และนี่คือภารกิจที่ยิ่งใหญ่ มีเกียรติ และมีนัยยะสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของชาติไทย
เพื่อขับเคลื่อนภารกิจที่ยิ่งใหญ่ มีเกียรติและศักดิ์สิทธิ์นี้ไปสู่ความสำเร็จ ประชาชนผู้รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ จะต้องเข้าแบกรับภารกิจนี้ร่วมกันและพร้อมเพรียงกันทั่วประเทศ ด้วยวีรภาพอันกล้าหาญชาญชัย และทรหดอดทน ทั้งต้องประกอบด้วยความเพียรอันยิ่งยวด
มิฉะนั้นก็จะ “สิ้นชาติ สิ้นแผ่นดิน สิ้นกษัตริย์” ดังที่พี่น้องสื่อมวลชนบางท่านได้นำเสนอไว้แล้ว และหากแผ่นดินสิ้นสูญสถาบันเหล่านี้แล้ว ประชาชนก็เหมือนตายทั้งเป็น ประเทศไทยจะต้องเป็นสนามรบ ที่มีแต่ความพินาศและโศกาอาดูรที่ทุกแห่งหนเต็มไปด้วยเลือดและน้ำตา
ดังนั้นพี่น้องร่วมชาติทุกคนทั่วประเทศจึงต้องละวางอาชีพการงานประจำลงชั่วคราว พิทักษ์รักษาชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และความปลอดภัยของประชาชนให้รอดปลอดภัยเป็นลำดับแรก
โค่นล้มระบอบทุนทรราช ขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติฆาตกรมือเปื้อนเลือดนี้อย่างเด็ดเดี่ยว ถึงที่สุด อย่างพร้อมเพรียงกัน
เพื่อภารกิจอันยิ่งใหญ่นี้ ประชาชนจำต้องตระหนักรู้ถึงภาระหน้าที่และวิธีทำงานบางอย่างเพื่อปฏิบัติให้เป็นผลสำเร็จอย่างรวดเร็วดังต่อไปนี้
ประการหนึ่ง จะต้องเร่งขยายมวลชนพันธมิตรฯ ให้กว้างขวางทุกแห่งหน ช่วงชิงผู้ที่ยังไม่ตื่นรู้ให้มาเข้าร่วม ช่วงชิงผู้ที่ยังเฉยเมยให้มาเข้าร่วม ช่วงชิงผู้ที่ยังทำตัวเป็นกลางอยู่มาเข้าร่วม โดยแต่ละคนต้องทำหน้าที่นี้อย่างเด็ดเดี่ยว และขยายมวลชนให้ได้อย่างน้อยวันละ 2 คนทุก ๆ วัน นี่คือภารกิจที่จะชี้ขาดอนาคตและจะมีผลต่อการขุดรากถอนโคนหากว่ามีการเลือกตั้งเกิดขึ้น จะต้องทำให้ระบอบทุนทรราชแพ้เลือกตั้งด้วย
ประการหนึ่ง เมื่อขยายมวลชนให้ตื่นรู้และยินดีเข้าร่วมแล้ว ให้พยายามจับเป็นกลุ่มเป็นก้อน เหมือนกับเอาไม้ไผ่แต่ละกิ่งมามัดรวมเข้าเป็นฟ่อน หรือเอาด้ายเล็กๆ มารวมกันเป็นเกลียวเชือก ก็จะสามารถรับกับน้ำหนักและภารกิจอันยิ่งใหญ่ได้
แต่ละกลุ่มให้จัดขึ้นตามความเป็นจริง เช่นอาจจะมีกลุ่มละ 3 คน หรือ 5 คน หรือ 7 คน หรือ 10 คน โดยมีผู้ทำหน้าที่หัวหน้ากลุ่มและผู้ประสานงาน
ประการหนึ่ง แต่ละกลุ่มจะมีหน้าที่หลัก 3 ประการคือ
(1) สมาชิกแต่ละคนของกลุ่มจะต้องไปขยายงานเพิ่มสมาชิกเป็นอีกกลุ่มหนึ่ง โดยตนเองทำหน้าที่หัวหน้ากลุ่มเพื่อประสานงานให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และหมั่นปรึกษาหารือภายในกลุ่มอย่างสม่ำเสมอ และสมาชิกของกลุ่มย่อยก็ต้องไปจัดตั้งกลุ่มของตนเองลดหลั่นลงไปอย่างไม่หยุดยั้ง ด้วยวิธีการนี้มวลชนพันธมิตรฯ ก็จะขยายตัวเติบใหญ่ไปทุกหนทุกแห่ง
(2) ปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของแกนนำให้เป็นผล เช่น การไม่ซื้อหนังสือพิมพ์ 3 ฉบับที่แกนนำได้เรียกร้อง เพราะเป็นหนังสือพิมพ์ที่ใส่ยาพิษให้กับความคิดและความรู้ของประชาชน เมื่อรณรงค์ให้ได้ผลแล้ว หนังสือพิมพ์ชั่วเหล่านี้ก็จะไม่มีใครซื้ออ่านอีกต่อไป
(3) ปฏิบัติการอารยะขัดขืนต่อต้าน ขับไล่ นักการเมืองโฉดชั่วทุกหนทุกแห่ง ไม่ให้ทำหน้าที่เถื่อนได้อีกต่อไป โดยพร้อมไปรวมตัวกันทันทีที่ทราบข่าว นอกจากนี้แต่ละกลุ่มจะต้องผลัดเวรกันไปร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ และเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในกรณีแกนนำเรียกร้องให้ระดมพลขนาดใหญ่ ก็ระดมทุกหน่วยทุกกลุ่มที่เกี่ยวข้องไปร่วมอย่างพร้อมเพรียงกัน
ประการหนึ่ง แต่ละกลุ่มสามารถร่วมกันคิด ร่วมกันปรึกษาเพื่อกำหนดมาตรการเฉพาะเพื่อใช้ในการเคลื่อนไหวของกลุ่มตน เช่น การทำเอกสารเพื่อแจกจ่ายให้ประชาชนได้รับรู้ความจริง หรือเชิญชวนตามเว็บไซต์ต่าง ๆ หรือช่วยกันประจานพวกโจรชั่ว เป็นต้น ทั้งนี้จะต้องสอดคล้องกับภารกิจหลักคือโค่นระบอบทุนทรราช ขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติ พิทักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ด้วย
กลุ่มใดที่มีความรู้ในการรักษาความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนก็ต้องร่วมกันคิดอ่านวิธีการรักษาความปลอดภัย และเข้ารับภารกิจนี้ในพื้นที่ที่ตัวเองรับผิดชอบ
กลุ่มใดที่มีความสามารถในเรื่องข่าวสารข้อมูล ก็อาจทำหน้าที่หาข้อมูลข่าวสารแล้วรายงานให้กับผู้เกี่ยวข้องทราบ
พี่น้องร่วมชาติทุกคนจึงต้องทำความรู้ ทำความเข้าใจ และนำวิธีการเหล่านี้ไปใช้ตลอดจนพัฒนาและปรับปรุงให้สอดคล้องกับความเป็นจริงของแต่ละชุมชนหรือแต่ละพื้นที่ต่อไป.