เดลิเมล์ - นี่อาจเป็นคำเตือนที่แม่ทุกคนจะบอกกับลูกชายเมื่อลูกโตเป็นหนุ่ม ‘อย่าโอดครวญ’ ‘เอาใจเขาใส่ใจเรา’ และ ‘ไม่ต้องกลัวว่าจะทำผิดพลาด’
แต่สำหรับซานดรา แครี-บ็อกแกนส์ เธอรู้ว่าจะไม่ได้อยู่สั่งสอนลูกถึงวันนั้น
หลังรู้ตัวว่าเป็นมะเร็งเมื่อสี่ปีที่แล้ว ซานดราทุ่มเทเวลาและจิตใจให้กับการสร้าง ‘กล่องความทรงจำ’ สำหรับจาค็อบและลูอิส ลูกชายวัย 13 ปี และ 10 ปีตามลำดับ
ก่อนจากไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (5) ขณะอายุเพียง 44 ปี ซานดราเติมเต็มกล่องความทรงจำด้วยสมุดภาพที่เป็นช่วงชีวิตสั้นๆ ที่เธอและลูกได้ใช้เวลาร่วมกัน
ในกล่องดังกล่าวยังมีน้ำหอม เพื่อให้ลูกจดจำกลิ่นเธอได้ และลิปสติก
ซานดรายังทิ้งจดหมายแนะแนวทางชีวิตคร่าวๆ ไว้ให้ลูกชาย
ความกลัวอย่างเดียวที่หลอกหลอนเธอคือ จาค็อบและลูอิสจะไม่ได้ยินเสียงเธออีก ดังนั้น ซานดราจึงเขียนและอัดเพลง ‘มาย เจอร์นีย์ (แองเจลส์ แอนด์ เมาเทนส์)’ ที่จะนำไปเปิดในงานศพของเธอด้วย
“เราไม่อาจหนีความจริงได้ว่าลูกๆ ของฉันกำลังจะผ่านหนึ่งในช่วงเวลาเลวร้ายที่สุดในชีวิตในอีกไม่กี่เดือนนี้ และฉันแค่อยากให้มันง่ายขึ้นสำหรับพวกเขา เพลงนี้จะบอกคนที่ห่วงฉันว่าทุกอย่างจะผ่านพ้นไปด้วยดีหลังจากที่ฉันจากไปแล้ว
“เพลงนี้ยังเป็นข้อความเสียงถึงทุกคนที่ดูแลฉันและคนที่ฉันรัก ฉันเชื่อว่าชีวิตคือการเดินทางอันยิ่งใหญ่ ฉันแค่มาถึงก้าวสุดท้ายของการเดินทางแล้วเท่านั้น
“ฉันรู้ว่าอาจฟังดูแปลกๆ แต่ฉันคิดว่าตัวเองโชคดีมาก ฉันมีชีวิตที่งดงามและไม่เคยนึกเสียใจเลย ถ้าคุณรู้ว่าตัวเองกำลังจะตาย นั่นคือโอกาสในการเตรียมพร้อมสำหรับคนรอบข้างและสำหรับฉันในการบอกลาทุกคน”
ซานดราได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเต้านมเมื่อเดือนพฤษภาคม 2004 เธอเข้ารับการผ่าตัดเต้านมทิ้งสองครั้ง รับการบำบัดทางเคมีและรังสีอีกหกเดือน
ตอนแรกการรักษาดูเหมือนได้ผลเป็นที่น่าพอใจ แต่ไม่กี่เดือนต่อมา แพทย์กลับพบว่ามะเร็งลุกลามไปยังกระดูกและท้องของซานดรา และเข้าสู่ขั้นสุดท้าย
จากจุดนั้น ซานดราที่อาศัยอยู่ในเซาท์วิก อังกฤษ ตัดสินใจว่าจะไม่ยอมเสียเวลาแม้แต่นาทีเดียวของชีวิต เธอใช้เวลาที่เหลือพายเรือคายัก ล่องเรือ ขี่จักรยานสี่ที่นั่ง และขึ้นบอลลูน
ครอบครัวแครี-บ็อกแกนส์ยังไปพักผ่อนที่นิวซีแลนด์ตามที่เคยฝันกันไว้
ซานดราแต่งงานกับทอม บ็อกแกนส์ ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการของบริษัทไฟฟ้าแห่งหนึ่ง หลังจากอยู่กินกันมานาน
เธอยังเขียนไดอารี่ลงในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น เดอะ ไบรตัน อาร์กัส
ในไดอารี่ฉบับสุดท้ายที่เขียนไว้เมื่อเดือนสิงหาคม เธอเล่าถึงความยากลำบากที่เพิ่มขึ้นในช่วงสัปดาห์ท้ายๆ ของชีวิต
“ฉันต้องอยู่แต่ในบ้านและแทบไม่ได้ลงไปข้างล่างเลยตอนนี้ ฉันยังคงพยายามอ่าน เขียน หรือคุยกับคนอื่นโดยแทบไม่ได้ขยับเขยื้อนไปไหน การนั่งๆ นอนๆ แบบนี้สร้างปัญหาได้อย่างน่าประหลาด
“ทอม แม่ และฉันต้องช่วยกันเรียบเรียงไดอารี่ ฉันไม่สามารถเขียนหรืออ่านหนังสือนานๆ ได้อีกต่อไป แต่ยังมีอีกหลายอย่างที่ฉันต้องทำ และมีคนอีกมากมายที่ฉันอยากคุยด้วย”
ซานดราเสียชีวิตที่โรงพยาบาลเซนต์ บาร์นาบาสในเวสต์ซัสเซ็กซ์เมื่อวันอาทิตย์ โดยมีครอบครัวห้อมล้อมอยู่รอบเตียง
“เราเสียใจมาก อย่างไรก็ตาม เราขอบคุณทุกคนที่คอยให้กำลังใจ
“หลานๆ ดีขึ้นแล้ว ทอมโทรหาฉันตอนหกโมงเช้าวันนั้น ฉันและเดวิด แล้วก็พ่อของซานดรากับภรรยา ไปอยู่ที่โรงพยาบาลทั้งวัน เรากุมมือเธอแต่เธอไม่รู้สึกตัวแล้ว
“เธอต่อสู้มานานเหลือเกิน ถึงป่วยหนักแต่เธอยังช่วยเหลือคนอื่นๆ
“มหัศจรรย์จริงๆ ที่เธออดทนมาได้ขนาดนี้ นั่นเป็นเพราะกำลังใจของเธอแท้ๆ” เมวิส แม่ของซานดรา บอก
“เธอเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนที่รู้จักเธอ และเป็นผู้หญิงที่ร่าเริงอย่างน่าอัศจรรย์” ทอมรำลึกถึงภรรยาสุดที่รัก
แต่สำหรับซานดรา แครี-บ็อกแกนส์ เธอรู้ว่าจะไม่ได้อยู่สั่งสอนลูกถึงวันนั้น
หลังรู้ตัวว่าเป็นมะเร็งเมื่อสี่ปีที่แล้ว ซานดราทุ่มเทเวลาและจิตใจให้กับการสร้าง ‘กล่องความทรงจำ’ สำหรับจาค็อบและลูอิส ลูกชายวัย 13 ปี และ 10 ปีตามลำดับ
ก่อนจากไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (5) ขณะอายุเพียง 44 ปี ซานดราเติมเต็มกล่องความทรงจำด้วยสมุดภาพที่เป็นช่วงชีวิตสั้นๆ ที่เธอและลูกได้ใช้เวลาร่วมกัน
ในกล่องดังกล่าวยังมีน้ำหอม เพื่อให้ลูกจดจำกลิ่นเธอได้ และลิปสติก
ซานดรายังทิ้งจดหมายแนะแนวทางชีวิตคร่าวๆ ไว้ให้ลูกชาย
ความกลัวอย่างเดียวที่หลอกหลอนเธอคือ จาค็อบและลูอิสจะไม่ได้ยินเสียงเธออีก ดังนั้น ซานดราจึงเขียนและอัดเพลง ‘มาย เจอร์นีย์ (แองเจลส์ แอนด์ เมาเทนส์)’ ที่จะนำไปเปิดในงานศพของเธอด้วย
“เราไม่อาจหนีความจริงได้ว่าลูกๆ ของฉันกำลังจะผ่านหนึ่งในช่วงเวลาเลวร้ายที่สุดในชีวิตในอีกไม่กี่เดือนนี้ และฉันแค่อยากให้มันง่ายขึ้นสำหรับพวกเขา เพลงนี้จะบอกคนที่ห่วงฉันว่าทุกอย่างจะผ่านพ้นไปด้วยดีหลังจากที่ฉันจากไปแล้ว
“เพลงนี้ยังเป็นข้อความเสียงถึงทุกคนที่ดูแลฉันและคนที่ฉันรัก ฉันเชื่อว่าชีวิตคือการเดินทางอันยิ่งใหญ่ ฉันแค่มาถึงก้าวสุดท้ายของการเดินทางแล้วเท่านั้น
“ฉันรู้ว่าอาจฟังดูแปลกๆ แต่ฉันคิดว่าตัวเองโชคดีมาก ฉันมีชีวิตที่งดงามและไม่เคยนึกเสียใจเลย ถ้าคุณรู้ว่าตัวเองกำลังจะตาย นั่นคือโอกาสในการเตรียมพร้อมสำหรับคนรอบข้างและสำหรับฉันในการบอกลาทุกคน”
ซานดราได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเต้านมเมื่อเดือนพฤษภาคม 2004 เธอเข้ารับการผ่าตัดเต้านมทิ้งสองครั้ง รับการบำบัดทางเคมีและรังสีอีกหกเดือน
ตอนแรกการรักษาดูเหมือนได้ผลเป็นที่น่าพอใจ แต่ไม่กี่เดือนต่อมา แพทย์กลับพบว่ามะเร็งลุกลามไปยังกระดูกและท้องของซานดรา และเข้าสู่ขั้นสุดท้าย
จากจุดนั้น ซานดราที่อาศัยอยู่ในเซาท์วิก อังกฤษ ตัดสินใจว่าจะไม่ยอมเสียเวลาแม้แต่นาทีเดียวของชีวิต เธอใช้เวลาที่เหลือพายเรือคายัก ล่องเรือ ขี่จักรยานสี่ที่นั่ง และขึ้นบอลลูน
ครอบครัวแครี-บ็อกแกนส์ยังไปพักผ่อนที่นิวซีแลนด์ตามที่เคยฝันกันไว้
ซานดราแต่งงานกับทอม บ็อกแกนส์ ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการของบริษัทไฟฟ้าแห่งหนึ่ง หลังจากอยู่กินกันมานาน
เธอยังเขียนไดอารี่ลงในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น เดอะ ไบรตัน อาร์กัส
ในไดอารี่ฉบับสุดท้ายที่เขียนไว้เมื่อเดือนสิงหาคม เธอเล่าถึงความยากลำบากที่เพิ่มขึ้นในช่วงสัปดาห์ท้ายๆ ของชีวิต
“ฉันต้องอยู่แต่ในบ้านและแทบไม่ได้ลงไปข้างล่างเลยตอนนี้ ฉันยังคงพยายามอ่าน เขียน หรือคุยกับคนอื่นโดยแทบไม่ได้ขยับเขยื้อนไปไหน การนั่งๆ นอนๆ แบบนี้สร้างปัญหาได้อย่างน่าประหลาด
“ทอม แม่ และฉันต้องช่วยกันเรียบเรียงไดอารี่ ฉันไม่สามารถเขียนหรืออ่านหนังสือนานๆ ได้อีกต่อไป แต่ยังมีอีกหลายอย่างที่ฉันต้องทำ และมีคนอีกมากมายที่ฉันอยากคุยด้วย”
ซานดราเสียชีวิตที่โรงพยาบาลเซนต์ บาร์นาบาสในเวสต์ซัสเซ็กซ์เมื่อวันอาทิตย์ โดยมีครอบครัวห้อมล้อมอยู่รอบเตียง
“เราเสียใจมาก อย่างไรก็ตาม เราขอบคุณทุกคนที่คอยให้กำลังใจ
“หลานๆ ดีขึ้นแล้ว ทอมโทรหาฉันตอนหกโมงเช้าวันนั้น ฉันและเดวิด แล้วก็พ่อของซานดรากับภรรยา ไปอยู่ที่โรงพยาบาลทั้งวัน เรากุมมือเธอแต่เธอไม่รู้สึกตัวแล้ว
“เธอต่อสู้มานานเหลือเกิน ถึงป่วยหนักแต่เธอยังช่วยเหลือคนอื่นๆ
“มหัศจรรย์จริงๆ ที่เธออดทนมาได้ขนาดนี้ นั่นเป็นเพราะกำลังใจของเธอแท้ๆ” เมวิส แม่ของซานดรา บอก
“เธอเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนที่รู้จักเธอ และเป็นผู้หญิงที่ร่าเริงอย่างน่าอัศจรรย์” ทอมรำลึกถึงภรรยาสุดที่รัก