ชทพ.สรุปเสนอ 7 ประเด็นแก้ รธน. ตั้งแท่นแยก 3 ฉบับ ยื่นพร้อมกัน เชื่อจะทำให้พิจารณาง่ายขึ้น
วันนี้ (2 พ.ค.) นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เปิดเผยถึงการเสนอประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญในส่วนพรรคชาติไทยพัฒนา ว่า ขณะนี้ทางพรรคได้สรุปประเด็นที่เห็นควรจะแก้ไขเรียบร้อยแล้ว รอปรับปรุงในรายละเอียดอีกเล็กน้อย ในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนา สรุปได้ 7 ประเด็น ประกอบด้วย คือ ประเด็นที่ต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา มาตรา 190 ประเด็นที่นำไปสู่การยุบพรรค มาตรา 237 ประเด็นข้อห้ามส.ส.ไปดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรี มาตรา 265 และ 266 ประเด็นการแบ่งเขตเลือกตั้งส.ส. ประเด็นส.ส.สัดส่วนควรกลับไปเป็นแบบระบบบัญชีรายชื่อ ประเด็นอำนาจของส.ส.ในการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ และประเด็นที่มาส.ว.ที่ควรจะมาจากการเลือกตั้ง โดย 4 ประเด็นหลังควรจะกลับไปใช้แบบเดิมในรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540
นายชุมพล กล่าวต่อว่า เพื่อให้การพิจารณาประเด็นแก้ไขสามารถทำได้อย่างราบรื่นในช่วงการอภิปรายในแต่ละประเด็น และเพื่อให้เกิดเป็นสัมฤทธิ์ผล ทางพรรคจึงคิดกันว่าควรนำทั้ง 7 ประเด็นทั้งหมด ที่จะเสนอไปในคราวเดียวกันนั้น แต่แยกประเด็นไว้เป็น 3 ฉบับ โดยฉบับแรกคือประเด็นที่คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา เพราะหลายฝ่ายก็มีความคิดเห็นตรงกัน คือ มาตรา 190 , 237 , 265 , 266 ส่วนฉบับที่ 2 คือ ประเด็นเรื่องที่มาและและส.ว.รวมทั้งอำนาจของส.ส. และฉบับสุดท้ายคือ เรื่ององค์กรอิสระ ซึ่งหากแยกเป็นรายฉบับอย่างนี้เชื่อว่าจะสามารถทำงานได้ง่าย รวดเร็ว เพราะเมื่ออภิปรายจะไม่ปะปนประเด็นกัน ส่วนพรรคอื่นจะเสนอในรูปแบบเดียวกันนี้ด้วยหรือไม่ ตนไม่ทราบ
เมื่อถามว่าในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนาจะสามารถส่งข้อเสนอดังกล่าวได้เมื่อใด นายชุมพลกล่าว เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น แต่ตอนนี้ยัง เพราะต้องขอดูรายละเอียดอีกเล็กน้อย ทั้งนี้เมื่อแต่ละพรรคส่งข้อเสนอไปให้นายกรัฐมนตรี จากนั้นรัฐบาลก็รวบรวมส่งมอบให้กับรัฐสภาเป็นผู้ดำเนินการต่อไป สำหรับการประสานงาน พรรคฯได้มอบให้นายอรรคพล สรสุชาติ ร่วมในคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นตัวแทนของพรรคที่จะร่วมหารือกับวิปฯ
เผย“อภิสิทธิ์”เลิกไปดูไบ
นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงกำหนดการเดินทางไปโรดโชว์ที่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 5-8 พ.ค.นี้ ว่า เนื่องจากมีปัญหาขัดข้องในเรื่องสถานการณ์ประเทศระหว่างสองประเทศ นายกรัฐมนตรี จึงแจ้งให้ทราบว่าขณะนี้ยังไม่พร้อมจะเดินทาง แต่ตนยังคงเดินทางตามกำหนดการเดิม ร่วมคณะเป็นกำลังใจกับคณะ ทั้งนี้ตามปกติงานประจำปีของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นั้นจะมีผู้หลักผู้ใหญ่ของไทยด้วยทางไปร่วมด้วยทุกครั้ง ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรี จึงตอบรับจะเดินทางไปด้วยเพื่อสร้างความเชื่อมั่น แต่เมื่อสถานการณ์เราเป็นเช่นนี้ จึงแจ้งให้ทราบว่าไม่พร้อม