ศูนย์ข่าวภูมิภาค - องค์กรภาค ปชช.-นักวิชาการ–นักธุรกิจ–ศิลปินโคราช ร่วมแถลงประณามรัฐบาลทรราชฆาตกรเข่นฆ่า ปชช.ผู้ชุมนุม ระบุ “นายกฯสมชาย” หมดความชอบธรรมสิ้นเชิงแล้ว พร้อมแต่งชุดดำไว้อาลัยให้วีรชนผู้ตาย-บาดเจ็บ แฉมีข่าวทหารนอกรีตในบุรีรัมย์ลอบส่วนขนระเบิดจากโรงโม่เข้ากรุงเพื่อก่อการร้าย ก่อนเกิดเหตุระเบิดรถจิ๊ป “พ.ต.ท.เมธี” ดับ ชี้เรื่องนี้ “เสธ.ด.”รู้ดีเพราะเชียวชาญเรื่องระเบิด ขณะที่พันธมิตรฯและองค์กรต่างๆ หลายจังหวัด ยังออกแถลงการณ์ประณามรัฐบาล-ตำรวจชั่ว พร้อมแต่งดำไว้อาลัยวีรชนทั่วเมือง
วานนี้ที่ศูนย์ข้อมูลท้องถิ่นเพื่อการพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา กลุ่มองค์กรภาคประชาชน, นักวิชาการ, ทนายความ, ครู, นักธุรกิจ, ศิลปินพื้นบ้านและกลุ่มแพทย์ใน จ.นครราชสีมา นำโดย ทพ.ศุภผล เอี่ยมเมธาวี เลขาธิการสมัชชาประชาชนอีสาน 19 จังหวัด, นายทวิสันต์ โลณานุรักษ์ เลขาธิการหอการค้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, นายกำปั่น บ้านแท่น ศิลปินพื้นบ้านเพลงโคราช, นายสันติ ถิระวงศ์ รองประธานสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และ ผศ.ดร.สามารถ จับโจร นักวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา
โคราชประณามรัฐบาลชั่ว-ตร.เลวฆ่าปชช.
ทั้งหมดได้ร่วมกันแถลงข่าวประณามการกระทำของรัฐบาล และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ใช้ความรุนแรง ยิงแก๊สน้ำตาและระเบิด สลายการชุมนุมของประชาชนกลุ่มพันธมิตรฯเมื่อวันที่ 7 ต.ค.อย่างโหดร้ายป่าเถื่อน จนทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ชุมนุมโดยสงบ สันติอหิงสา ปราศจากอาวุธ ต้องได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความสลดใจและไม่สบายใจให้แก่ประชาชนชาว จ.นครราชสีมา เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ใช้ความรุนแรงกับประชาชนนำมา ซึ่งการสูญเสียชีวิตของผู้บริสุทธิ์ และมีประชาชนได้รับบาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก
ในส่วนของ จ.นครราชสีมา จากการรวบรวมข้อมูลเบื้องต้นพบว่า มีชาวโคราชที่เข้าร่วมชุมนุมในวันดังกล่าวได้รับบาดเจ็บสาหัส 4 ราย คือ นางกุ๊ยบ้วย เทพิน ชาว อ.เมืองนครราชสีมา, นางรุ่งทิวา ธาตุวรกุล ชาว อ.ปากช่อง, นายชัยวัฒน์ บูรณศักดิ์ศรี และนางธนาพร วงษ์ชูเกียรติ ชาว อ.ปากช่อง ทุกคนยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลที่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะนางรุ่งทิวา ได้รับบาดเจ็บสาหัสมาก ถูกแรงอัดระเบิดใบหน้าเละหนึ่งข้าง ศีรษะซีกซ้าย กะโหลกแตก สมองบวมช้ำ ขณะนี้อาการเป็นตายเท่ากัน ดังนั้น ทุกองค์กรเครือข่ายใน จ.นครราชสีมาที่มาร่วมหารือกันในวันนี้จึงมีมีมติร่วมกันว่า พวกเราสนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯรวมทั้งเครือข่ายประชาชน, นักวิชาการ แพทย์พยาบาล และอธิการบดี 30 มหาวิทยาลัย ในการต่อสู้ขับไล่รัฐบาลและต่อต้านการใช้ความรุนแรงกับประชาชน อย่างถึงที่สุด
"รัฐบาลนายสมชาย หมดความชอบธรรมโดยสิ้นเชิงที่จะบริหารประเทศนี้ต่อไป สำหรับพวกเราใน จ.นครราชสีมา ขอเรียกร้องให้ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดต้องลาออกจากการร่วมรัฐบาลโดยทันทีเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อการเข่นฆ่าประชาชนโดยมือเปื้อนเลือดของรัฐบาล ถ้ายังไม่ลาออกพวกเราประชาชนในโคราชจะตราหน้าประณามอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การไปหาที่บ้าน ที่ทำงาน ที่โรงแรมและกิจการของพวกท่าน เพื่อวางพวงหรีดสีดำให้ รวมทั้งจะมีการจัดเวทีเปิดโปงการพฤติกรรมการเข่นฆ่าประชาชนของรัฐบาลชั่ว-ตำรวจเลวที่โคราชในเร็วๆ นี้ ซึ่งจะเชิญครอบครัวของผู้ที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากการกระทำของตำรวจมาขึ้นเวที ด้วย"
อัดรัฐตำรวจชั่วบิดเบือนข้อเท็จจริง
ทพ.ศุภผล กล่าวด้วยว่า ตนขอเชิญชวนกลุ่มแพทย์ พยาบาลโรงพยาบาลในนครราชสีมา รวมถึงพ่อค้า แม่ค้า นักธุรกิจ ประชาชนชาวโคราช ที่ไม่เห็นด้วยกับการเข่นฆ่าประชาชนของรัฐบาลครั้งนี้ขอให้แต่งชุดดำ ใช้สัญลักษณ์สีดำ พวงหรีดสีดา ป้ายผ้าสีดำ สติกเกอร์สีดำทุกอย่างที่เป็นกิจการ เพื่อไว้อาลัยแด่ผู้ที่เสียชีวิตและแสดงความเสียในต่อผู้ได้รับบาดเจ็บในครั้งนี้
พร้อมทั้งขอเรียกร้องให้สิทธิส่วนบุคคลให้เกิดประโยชน์ ในการใช้มาตรการตอบโต้ต่อต้านทางสังคมกับตำรวจ โดยไม่ให้บริการกับตำรวจในเครื่องแบบทุกคน เช่น ไม่รับตรวจรักษาแก่ตำรวจในเครื่องแบบ, ไม่ขายสินค้า ไม่ขายข้าวขายอาหารให้ ไม่ทำฟันให้ ไม่ให้บริการทุกอย่าง ไม่ทักทายพูดคุย และไม่ไหว้ไม่เคารพกับตำรวจในเครื่องแบบทุกคนเพื่อเป็นการสะท้อนให้เห็นว่า เวลานี้เครื่องแบบสีกากีนั้นเป็นเครื่องแบบเปื้อนเลือดและสกปรกมากแล้ว เราจึงไม่ให้การต้อนรับ ซึ่งเป็นการบอยคอตทางสังคม
"จากนั้นพวกเราจะเชิญชวนประชาชนชาวโคราชเดินทางไปร่วมวางพวงหรีด ให้แก่พรรคการเมืองทุกพรรคในจังหวัดนครราชสีมา ที่ยังดื้อด้านร่วมรัฐบาลทรราชฆาตกรเข่นฆ่าประชาชนต่อไป"
ทพ.ศุภผล กล่าวถึงเหตุระเบิดรถยนต์จี๊ปเชอโรกี ของนายไชยวัฒน์ งามจิตร ที่บริเวณหน้าที่ทำการพรรคชาติไทยทำให้ พ.ต.ท.เมธี ชาติมนตรี ผู้ประสานงานองค์กรเครือข่ายพันธมิตรฯบุรีรัมย์ และหัวหน้าการ์ดพันธมิตรฯเสียชีวิตว่า ขณะนี้ตำรวจพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงและใส่ร้ายป้ายสีว่าระเบิดที่เกิดขึ้นเป็นการเตรียมมาเพื่อก่อเหตุร้ายของผู้ตายและกลุ่มพันธมิตรฯ ทั้งที่เหตุที่เกิดขึ้นไม่มีใครทราบมาก่อน รวมทั้งตนในฐานะแกนนำที่ทำหน้าที่อยู่บนรถปราศรัยในที่เกิดเหตุด้วย อีกทั้งผู้ตายเองเป็นคนที่มีอุดมการณ์ รักความเป็นธรรม มุ่งมั่นทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติ จึงได้ลาออกจากข้าราชการตำรวจเพราะยอมรับระบบมาเฟียในวงการตำรวจไม่ได้ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่คนเช่นนี้ จะพลีชีพฆ่าตัวตายเพื่อก่อให้เกิดความเสียหายแก่คนอื่นหรือประเทศชาติ
ส่วนเจ้าของรถเองเป็นเพียงครูสอนในโรงเรียน จ.นครราชสีมาแห่งหนึ่งและเป็นผู้ที่มีจิตใจดีงามทำกิจกรรมเพื่อสังคม ทั้งด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และพัฒนาเยาวชน มาโดยตลอด นั้น ยิ่งไม่มีความเป็นไปได้ที่จะเกี่ยวข้องกับการขนระเบิดเข้าไปก่อเหตุระเบิดตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามใส่ร้ายป้ายสี และดำเนินการกดดันครูตัวเล็กๆ และครอบครัวเจ้าของรถคันที่เกิดเหตุอย่างหนักอยู่ในขณะนี้
แฉ "เสธ.ด." ผู้เชี่ยวชาญด้านระเบิดรู้ดี
ทพ.ศุภผล ตั้งข้อสังเกตว่า การระเบิดรถยนต์จี๊ปเชอโรกีดังกล่าวน่าจะเป็นส่วนหนึ่งของการเคลียร์พื้นที่บนเส้นทางถนนพิชัย ซึ่งเป็นเส้นทางหลักที่จะนำกลุ่มรัฐมนตรี ส.ส. และ ส.ว.ออกมาจากอาคารรัฐสภา เพื่อให้ผู้ชุมนุมทั้งหมดออกไปจากเส้นทางดังกล่าว ประกอบกับประมาณ 2-3 วัน ก่อนเกิดเหตุพวกเราได้รับรายงานข่าวว่า มีทหารประมาณ 17 คนจากกองร้อยหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์ ได้ประชุมกันแล้วหนึ่งในนั้นได้ส่งข่าวออกมา ว่า ได้มีการเอาแอมโมเนียมไนเตรท และดินประสิวจากโรงโม่แห่งหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์ ให้นำเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเตรียมก่อการร้าย โดยมีความเชื่อมโยงกับนายทหารคนดังที่ชื่อ "เสธ.ด." ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่ามีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับวัตถุระเบิด จึงมีความเป็นไปได้สูงว่า เหตุระเบิดครั้งนี้เกี่ยวข้องกับข่าวดังกล่าว
"ดังนั้น พวกเราขอเรียกร้องให้รัฐบาลตั้งคณะกรรมการกลางขึ้นมา เพื่อสืบสวนสอบสวนคดีเหตุระเบิดรถยนต์ดังกล่าวโดยตรงเนื่องจาก ประชาชนไม่มีความเชื่อมั่นหรือไว้วางใจเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกต่อไปแล้ว"
ขึ้นป้ายประจาน"ตร.-สมชาย"ทั่วเมืองแพร่
ที่ จ.แพร่ ตั้งแต่เช้าวานนี้ได้มีผู้นำป้ายผ้าเขียนข้อความด้วยสีดำว่า "ไว้อาลัยแต่พันธมิตรฯที่ล่วงลับและผู้บาดเจ็บ" นอกจากนั้น ยังมีป้ายประจานการทำงานของรัฐที่กระทำกับกลุ่มผู้ชุมนุมไปติดทั่วทั้ง 4 มุมเมืองของตัวเมือง จ.แพร่ เป็นการแสดงความรู้สึกของประชาชนที่สะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นให้สังคมและผู้บริหารประเทศได้รับรู้ ในกรณีที่รัฐตำรวจ และรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ใช้มาตรการรุนแรงสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจและนายกรัฐมนตรี ออกมาให้ข่าวทำนองบิดเบือนและไม่รับผิดชอบการกระทำที่รุนแรงในครั้งนี้และไม่ฟังเสียงประชาชนที่ได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารมากกว่าในอดีตที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจ สภ.เมืองแพร่ ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตระเวนปลดป้ายดังกล่าวทั้งหมดออกภายในระยะเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง หลังได้รับรายงาน
กระบี่แต่งดำยื่นประณามรัฐบาล-ตำรวจ
วันเดียวกันพันธมิตรฯกระบี่ พร้อมคณะข้าราชการครู นักเรียน นักศึกษา และพนักงานรัฐวิสาหกิจจังหวัดกระบี่ รวมทั้งประชาชนทั่วไปได้รวมตัวกันประมาณ 100 คน นำโดยนายอัมพร ตันบุตร แกนนำพันธมิตรฯกระบี่แต่งชุดดำเดินขบวนไปรอบๆ เทศบาลเมืองกระบี่ โดยมีจุดมุ่งหมายไปรวมตัวกันที่หน้าศาลากลางจังหวัดกระบี่ และสถานีตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ เพื่ออ่านแถลงการณ์การกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และรัฐบาล ต่อการใช้ความรุนแรงเข้าสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ
โดยในแถลงการณ์ระบุว่า 1.เจ้าหน้าที่ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ 2.ขอประณามการกระทำของตำรวจที่ไม่เพียงแต่ยิงแก๊สน้ำตาเท่านั้น แต่ยังใช้อาวุธสงครามที่มีอานุภาพร้ายแรงด้วย นอกจากนี้ตำรวจยังขัดขวางไม่ยอมให้รถพยาบาลเข้าออกและยิงใส่เจ้าหน้าที่พยาบาลจนได้รับบาดเจ็บ พร้อมทั้งขัดขวางทหารของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีให้เข้าไปช่วยผู้บาดเจ็บได้สะดวกนับเป็นพฤติกรรมที่ควรได้รับการประณามอย่างยิ่ง
3.การแถลงนโยบายของรัฐบาลเป็นไปด้วยความรีบร้อนในที่ประชุมไม่ครบองค์ประชุม ไม่มีฝ่ายค้าน ถือเป็นการแถลงนโยบายที่ไม่ชอบธรรมบนคราบน้ำตาและเลือดของประชาชน 4.เหตุการณ์ฆ่าประชาชนยังไม่มีใครออกมาแสดงความรับผิดชอบ ฝ่ายตำรวจยังแถลงข่าวบิดเบือนกล่าวหาประชาชนผู้บริสุทธิ์ด้วย ดังนั้น นายสมชาย ในฐานะผู้นำรัฐบาลต้องเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง และชาวกระบี่ขอประณามการกระทำที่โหดเหี้ยมไร้มนุษยธรรมของตำรวจในครั้งนี้ และขอแสดงความไม่ยอมรับรัฐบาลที่ไม่ชอบธรรมด้วย
นักรบลังกาสุกะปัตตานีต้าน รบ.ฆาตกร
ขณะที่พันธมิตรฯปัตตานี พร้อมด้วยมวลชนพ่อค้า แม่ค้า อ.เมือง จ.ปัตตานี รวมตัวกันที่บริเวณวัดหัวตลาด เทศบาลเมืองปัตตานี เพื่อเดินขบวนต่อต้านการกระทำของรัฐบาลที่สั่งให้ตำรวจสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯที่หน้ารัฐสภาเมื่อวันที่ 7 ต.ค.เป็นผลให้ประชาชนเสียชีวิต 2 ราย สูญเสียอวัยวะ และบาดเจ็บอีกหลายร้อยคนนั้น ทำให้พันธมิตรฯปัตตานีไม่พอใจกับเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างยิ่ง
จึงได้รวมพลังเดินขบวนเรียกร้องความเป็นธรรม ให้กับพี่น้องผู้รักชาติที่ถูกกระทำอันป่าเถื่อน จากฝีมือของรัฐบาล ซึ่งจะเดินจากวัดหัวตลาด ผ่านถนนนาเกลือและจะไปรวมกันที่ลานพระบรมรูป ร.5 หน้าศาลากลางจังหวัดปัตตานี โดยมีป้ายข้อความว่า "ถึงเวลาแล้วที่นักรบ "ลังกาสุกะปัตตานี" จะกู้ชาติ ทดแทนแผ่นดินเกิด ด้วยเลือดรักชาติ รักสถาบันพระมหากษัตริย์" และมีข้อความโจมตี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีด้วย ทั้งนี้ พันธมิตรฯปัตตานี ได้พร้อมใจกันแต่งชุดดำเพื่อไว้อาลัยแด่ วีรชนพันธมิตรฯที่เสียชีวิตด้วย
แพทย์ใต้เตรียมแต่งดำ-จี้รบ.รับผิดชอบ
นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ อดีตประธานชมรมแพทย์ชนบทในฐานะที่ปรึกษาชมรมแพทย์ชนบทแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นองค์กรแพทย์ได้เรียกร้องอย่างเป็นทางการออกมาแล้ว และในส่วนของแพทย์ชนบทในภาคใต้นั้นในทิศทางเดียวกันเราขอเรียกร้องให้รัฐบาลรับผิดชอบกับเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับประชาชน การสลายการชุมนุมถึงขั้นมีผู้สูญเสีย
นพ.อารักษ์กล่าวต่อว่า ขณะนี้เราได้ประสานงานกับแพทย์ชนบทในโรงพยาบาลชุมชนต่างๆ ทั่วภาคใต้จะแต่งชุดดำเพื่อไว้ทุกข์กับผู้เสียชีวิตและเตรียมที่จะขึ้นป้ายเพื่อร่วมแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์นี้รวมทั้งผู้ที่สูญเสียอวัยวะได้รับบาดเจ็บทุกคน ขณะเดียวกันเตรียมที่จะมีการหารือมาตรการเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีแสดงความรับผิดชอบ ซึ่งคาดว่าจะมีมาตรการที่จะกำหนดร่วมกันทั่วประเทศออกมาอีกครั้ง
ส่วนความเคลื่อนไหวขององค์กรแพทย์ รพ.ศูนย์ขนาดใหญ่โดยเฉพาะ รพ.มหาราช นครศรีธรรมราชนั้น นพ.สมชาย นิ้มวัฒนากุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครศรีธรรมราช ได้เรียกประชุมแพทย์ รพ.มหาราช ในฐานะองค์กรแพทย์ รพ.ศูนย์ เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และเตรียมที่จะออกแถลงการณ์หรือกำหนดท่าทีต่อสถานการณ์ความรุนแรง
นักศึกษาเมืองคอนนัดเคลื่อนไหววันนี้
ด้านความเคลื่อนไหวของนักศึกษาสถาบันอุดมศึกษาในนครศรีธรรมราช นายอรุณ แก้วประดับ นักศึกษาคณะเศรษฐศาสตร์ ปี 3 ม.วลัยลักษณ์ ในฐานะแกนนำกลุ่มนักศึกษาวลัยลักษณ์ รักษ์ประชาธิปไตย เปิดเผยว่า ในวันนี้ (10 ต.ค.) นักศึกษา 2 สถาบันคือ ม.วลัยลักษณ์ และ ม.ราชภัฎนครศรีธรรมราช จะร่วมกันเดินขบวนแสดงจุดยืนการต่อต้านการใช้ความรุนแรงในตัวเมืองนครศรีธรรมราช
พร้อมกันนั้นจะยื่นแถลงการณ์ ซึ่งออกโดยนักศึกษา องค์การบริหารองค์การนักศึกษา บุคลากร และสภาอาจารย์ทั้งหมดจากทั้ง 2 มหาวิทยาลัย ต่อ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช เพื่อแสดงถึงความไม่เห็นด้วยต่อการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจและแสดงถึงจุดยืนต่อสถานการณ์ หลังจากนั้นหากเกิดความรุนแรงขึ้นอีกนักศึกษาในนครศรีธรรมราช จะเดินทางไปร่วมกับกลุ่มนักศึกษาที่กรุงเทพฯ เพื่อร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยต่อไป
ขณะที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 7 ขอไว้อาลัยแก่วีรชนผู้เสียชีวิตจากการชุมนุม และประณามการใช้ความรุนแรงอย่างป่าเถื่อนของรัฐบาลสมชาย โดยให้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกโดยเร็วและเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการลงโทษผู้กระทำผิดทุกระดับด้วย
วานนี้ที่ศูนย์ข้อมูลท้องถิ่นเพื่อการพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา กลุ่มองค์กรภาคประชาชน, นักวิชาการ, ทนายความ, ครู, นักธุรกิจ, ศิลปินพื้นบ้านและกลุ่มแพทย์ใน จ.นครราชสีมา นำโดย ทพ.ศุภผล เอี่ยมเมธาวี เลขาธิการสมัชชาประชาชนอีสาน 19 จังหวัด, นายทวิสันต์ โลณานุรักษ์ เลขาธิการหอการค้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, นายกำปั่น บ้านแท่น ศิลปินพื้นบ้านเพลงโคราช, นายสันติ ถิระวงศ์ รองประธานสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และ ผศ.ดร.สามารถ จับโจร นักวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา
โคราชประณามรัฐบาลชั่ว-ตร.เลวฆ่าปชช.
ทั้งหมดได้ร่วมกันแถลงข่าวประณามการกระทำของรัฐบาล และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ใช้ความรุนแรง ยิงแก๊สน้ำตาและระเบิด สลายการชุมนุมของประชาชนกลุ่มพันธมิตรฯเมื่อวันที่ 7 ต.ค.อย่างโหดร้ายป่าเถื่อน จนทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ชุมนุมโดยสงบ สันติอหิงสา ปราศจากอาวุธ ต้องได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความสลดใจและไม่สบายใจให้แก่ประชาชนชาว จ.นครราชสีมา เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ใช้ความรุนแรงกับประชาชนนำมา ซึ่งการสูญเสียชีวิตของผู้บริสุทธิ์ และมีประชาชนได้รับบาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก
ในส่วนของ จ.นครราชสีมา จากการรวบรวมข้อมูลเบื้องต้นพบว่า มีชาวโคราชที่เข้าร่วมชุมนุมในวันดังกล่าวได้รับบาดเจ็บสาหัส 4 ราย คือ นางกุ๊ยบ้วย เทพิน ชาว อ.เมืองนครราชสีมา, นางรุ่งทิวา ธาตุวรกุล ชาว อ.ปากช่อง, นายชัยวัฒน์ บูรณศักดิ์ศรี และนางธนาพร วงษ์ชูเกียรติ ชาว อ.ปากช่อง ทุกคนยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลที่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะนางรุ่งทิวา ได้รับบาดเจ็บสาหัสมาก ถูกแรงอัดระเบิดใบหน้าเละหนึ่งข้าง ศีรษะซีกซ้าย กะโหลกแตก สมองบวมช้ำ ขณะนี้อาการเป็นตายเท่ากัน ดังนั้น ทุกองค์กรเครือข่ายใน จ.นครราชสีมาที่มาร่วมหารือกันในวันนี้จึงมีมีมติร่วมกันว่า พวกเราสนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯรวมทั้งเครือข่ายประชาชน, นักวิชาการ แพทย์พยาบาล และอธิการบดี 30 มหาวิทยาลัย ในการต่อสู้ขับไล่รัฐบาลและต่อต้านการใช้ความรุนแรงกับประชาชน อย่างถึงที่สุด
"รัฐบาลนายสมชาย หมดความชอบธรรมโดยสิ้นเชิงที่จะบริหารประเทศนี้ต่อไป สำหรับพวกเราใน จ.นครราชสีมา ขอเรียกร้องให้ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดต้องลาออกจากการร่วมรัฐบาลโดยทันทีเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อการเข่นฆ่าประชาชนโดยมือเปื้อนเลือดของรัฐบาล ถ้ายังไม่ลาออกพวกเราประชาชนในโคราชจะตราหน้าประณามอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การไปหาที่บ้าน ที่ทำงาน ที่โรงแรมและกิจการของพวกท่าน เพื่อวางพวงหรีดสีดำให้ รวมทั้งจะมีการจัดเวทีเปิดโปงการพฤติกรรมการเข่นฆ่าประชาชนของรัฐบาลชั่ว-ตำรวจเลวที่โคราชในเร็วๆ นี้ ซึ่งจะเชิญครอบครัวของผู้ที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากการกระทำของตำรวจมาขึ้นเวที ด้วย"
อัดรัฐตำรวจชั่วบิดเบือนข้อเท็จจริง
ทพ.ศุภผล กล่าวด้วยว่า ตนขอเชิญชวนกลุ่มแพทย์ พยาบาลโรงพยาบาลในนครราชสีมา รวมถึงพ่อค้า แม่ค้า นักธุรกิจ ประชาชนชาวโคราช ที่ไม่เห็นด้วยกับการเข่นฆ่าประชาชนของรัฐบาลครั้งนี้ขอให้แต่งชุดดำ ใช้สัญลักษณ์สีดำ พวงหรีดสีดา ป้ายผ้าสีดำ สติกเกอร์สีดำทุกอย่างที่เป็นกิจการ เพื่อไว้อาลัยแด่ผู้ที่เสียชีวิตและแสดงความเสียในต่อผู้ได้รับบาดเจ็บในครั้งนี้
พร้อมทั้งขอเรียกร้องให้สิทธิส่วนบุคคลให้เกิดประโยชน์ ในการใช้มาตรการตอบโต้ต่อต้านทางสังคมกับตำรวจ โดยไม่ให้บริการกับตำรวจในเครื่องแบบทุกคน เช่น ไม่รับตรวจรักษาแก่ตำรวจในเครื่องแบบ, ไม่ขายสินค้า ไม่ขายข้าวขายอาหารให้ ไม่ทำฟันให้ ไม่ให้บริการทุกอย่าง ไม่ทักทายพูดคุย และไม่ไหว้ไม่เคารพกับตำรวจในเครื่องแบบทุกคนเพื่อเป็นการสะท้อนให้เห็นว่า เวลานี้เครื่องแบบสีกากีนั้นเป็นเครื่องแบบเปื้อนเลือดและสกปรกมากแล้ว เราจึงไม่ให้การต้อนรับ ซึ่งเป็นการบอยคอตทางสังคม
"จากนั้นพวกเราจะเชิญชวนประชาชนชาวโคราชเดินทางไปร่วมวางพวงหรีด ให้แก่พรรคการเมืองทุกพรรคในจังหวัดนครราชสีมา ที่ยังดื้อด้านร่วมรัฐบาลทรราชฆาตกรเข่นฆ่าประชาชนต่อไป"
ทพ.ศุภผล กล่าวถึงเหตุระเบิดรถยนต์จี๊ปเชอโรกี ของนายไชยวัฒน์ งามจิตร ที่บริเวณหน้าที่ทำการพรรคชาติไทยทำให้ พ.ต.ท.เมธี ชาติมนตรี ผู้ประสานงานองค์กรเครือข่ายพันธมิตรฯบุรีรัมย์ และหัวหน้าการ์ดพันธมิตรฯเสียชีวิตว่า ขณะนี้ตำรวจพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงและใส่ร้ายป้ายสีว่าระเบิดที่เกิดขึ้นเป็นการเตรียมมาเพื่อก่อเหตุร้ายของผู้ตายและกลุ่มพันธมิตรฯ ทั้งที่เหตุที่เกิดขึ้นไม่มีใครทราบมาก่อน รวมทั้งตนในฐานะแกนนำที่ทำหน้าที่อยู่บนรถปราศรัยในที่เกิดเหตุด้วย อีกทั้งผู้ตายเองเป็นคนที่มีอุดมการณ์ รักความเป็นธรรม มุ่งมั่นทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติ จึงได้ลาออกจากข้าราชการตำรวจเพราะยอมรับระบบมาเฟียในวงการตำรวจไม่ได้ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่คนเช่นนี้ จะพลีชีพฆ่าตัวตายเพื่อก่อให้เกิดความเสียหายแก่คนอื่นหรือประเทศชาติ
ส่วนเจ้าของรถเองเป็นเพียงครูสอนในโรงเรียน จ.นครราชสีมาแห่งหนึ่งและเป็นผู้ที่มีจิตใจดีงามทำกิจกรรมเพื่อสังคม ทั้งด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และพัฒนาเยาวชน มาโดยตลอด นั้น ยิ่งไม่มีความเป็นไปได้ที่จะเกี่ยวข้องกับการขนระเบิดเข้าไปก่อเหตุระเบิดตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามใส่ร้ายป้ายสี และดำเนินการกดดันครูตัวเล็กๆ และครอบครัวเจ้าของรถคันที่เกิดเหตุอย่างหนักอยู่ในขณะนี้
แฉ "เสธ.ด." ผู้เชี่ยวชาญด้านระเบิดรู้ดี
ทพ.ศุภผล ตั้งข้อสังเกตว่า การระเบิดรถยนต์จี๊ปเชอโรกีดังกล่าวน่าจะเป็นส่วนหนึ่งของการเคลียร์พื้นที่บนเส้นทางถนนพิชัย ซึ่งเป็นเส้นทางหลักที่จะนำกลุ่มรัฐมนตรี ส.ส. และ ส.ว.ออกมาจากอาคารรัฐสภา เพื่อให้ผู้ชุมนุมทั้งหมดออกไปจากเส้นทางดังกล่าว ประกอบกับประมาณ 2-3 วัน ก่อนเกิดเหตุพวกเราได้รับรายงานข่าวว่า มีทหารประมาณ 17 คนจากกองร้อยหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์ ได้ประชุมกันแล้วหนึ่งในนั้นได้ส่งข่าวออกมา ว่า ได้มีการเอาแอมโมเนียมไนเตรท และดินประสิวจากโรงโม่แห่งหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์ ให้นำเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเตรียมก่อการร้าย โดยมีความเชื่อมโยงกับนายทหารคนดังที่ชื่อ "เสธ.ด." ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่ามีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับวัตถุระเบิด จึงมีความเป็นไปได้สูงว่า เหตุระเบิดครั้งนี้เกี่ยวข้องกับข่าวดังกล่าว
"ดังนั้น พวกเราขอเรียกร้องให้รัฐบาลตั้งคณะกรรมการกลางขึ้นมา เพื่อสืบสวนสอบสวนคดีเหตุระเบิดรถยนต์ดังกล่าวโดยตรงเนื่องจาก ประชาชนไม่มีความเชื่อมั่นหรือไว้วางใจเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกต่อไปแล้ว"
ขึ้นป้ายประจาน"ตร.-สมชาย"ทั่วเมืองแพร่
ที่ จ.แพร่ ตั้งแต่เช้าวานนี้ได้มีผู้นำป้ายผ้าเขียนข้อความด้วยสีดำว่า "ไว้อาลัยแต่พันธมิตรฯที่ล่วงลับและผู้บาดเจ็บ" นอกจากนั้น ยังมีป้ายประจานการทำงานของรัฐที่กระทำกับกลุ่มผู้ชุมนุมไปติดทั่วทั้ง 4 มุมเมืองของตัวเมือง จ.แพร่ เป็นการแสดงความรู้สึกของประชาชนที่สะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นให้สังคมและผู้บริหารประเทศได้รับรู้ ในกรณีที่รัฐตำรวจ และรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ใช้มาตรการรุนแรงสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจและนายกรัฐมนตรี ออกมาให้ข่าวทำนองบิดเบือนและไม่รับผิดชอบการกระทำที่รุนแรงในครั้งนี้และไม่ฟังเสียงประชาชนที่ได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารมากกว่าในอดีตที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจ สภ.เมืองแพร่ ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตระเวนปลดป้ายดังกล่าวทั้งหมดออกภายในระยะเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง หลังได้รับรายงาน
กระบี่แต่งดำยื่นประณามรัฐบาล-ตำรวจ
วันเดียวกันพันธมิตรฯกระบี่ พร้อมคณะข้าราชการครู นักเรียน นักศึกษา และพนักงานรัฐวิสาหกิจจังหวัดกระบี่ รวมทั้งประชาชนทั่วไปได้รวมตัวกันประมาณ 100 คน นำโดยนายอัมพร ตันบุตร แกนนำพันธมิตรฯกระบี่แต่งชุดดำเดินขบวนไปรอบๆ เทศบาลเมืองกระบี่ โดยมีจุดมุ่งหมายไปรวมตัวกันที่หน้าศาลากลางจังหวัดกระบี่ และสถานีตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ เพื่ออ่านแถลงการณ์การกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และรัฐบาล ต่อการใช้ความรุนแรงเข้าสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ
โดยในแถลงการณ์ระบุว่า 1.เจ้าหน้าที่ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ 2.ขอประณามการกระทำของตำรวจที่ไม่เพียงแต่ยิงแก๊สน้ำตาเท่านั้น แต่ยังใช้อาวุธสงครามที่มีอานุภาพร้ายแรงด้วย นอกจากนี้ตำรวจยังขัดขวางไม่ยอมให้รถพยาบาลเข้าออกและยิงใส่เจ้าหน้าที่พยาบาลจนได้รับบาดเจ็บ พร้อมทั้งขัดขวางทหารของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีให้เข้าไปช่วยผู้บาดเจ็บได้สะดวกนับเป็นพฤติกรรมที่ควรได้รับการประณามอย่างยิ่ง
3.การแถลงนโยบายของรัฐบาลเป็นไปด้วยความรีบร้อนในที่ประชุมไม่ครบองค์ประชุม ไม่มีฝ่ายค้าน ถือเป็นการแถลงนโยบายที่ไม่ชอบธรรมบนคราบน้ำตาและเลือดของประชาชน 4.เหตุการณ์ฆ่าประชาชนยังไม่มีใครออกมาแสดงความรับผิดชอบ ฝ่ายตำรวจยังแถลงข่าวบิดเบือนกล่าวหาประชาชนผู้บริสุทธิ์ด้วย ดังนั้น นายสมชาย ในฐานะผู้นำรัฐบาลต้องเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง และชาวกระบี่ขอประณามการกระทำที่โหดเหี้ยมไร้มนุษยธรรมของตำรวจในครั้งนี้ และขอแสดงความไม่ยอมรับรัฐบาลที่ไม่ชอบธรรมด้วย
นักรบลังกาสุกะปัตตานีต้าน รบ.ฆาตกร
ขณะที่พันธมิตรฯปัตตานี พร้อมด้วยมวลชนพ่อค้า แม่ค้า อ.เมือง จ.ปัตตานี รวมตัวกันที่บริเวณวัดหัวตลาด เทศบาลเมืองปัตตานี เพื่อเดินขบวนต่อต้านการกระทำของรัฐบาลที่สั่งให้ตำรวจสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯที่หน้ารัฐสภาเมื่อวันที่ 7 ต.ค.เป็นผลให้ประชาชนเสียชีวิต 2 ราย สูญเสียอวัยวะ และบาดเจ็บอีกหลายร้อยคนนั้น ทำให้พันธมิตรฯปัตตานีไม่พอใจกับเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างยิ่ง
จึงได้รวมพลังเดินขบวนเรียกร้องความเป็นธรรม ให้กับพี่น้องผู้รักชาติที่ถูกกระทำอันป่าเถื่อน จากฝีมือของรัฐบาล ซึ่งจะเดินจากวัดหัวตลาด ผ่านถนนนาเกลือและจะไปรวมกันที่ลานพระบรมรูป ร.5 หน้าศาลากลางจังหวัดปัตตานี โดยมีป้ายข้อความว่า "ถึงเวลาแล้วที่นักรบ "ลังกาสุกะปัตตานี" จะกู้ชาติ ทดแทนแผ่นดินเกิด ด้วยเลือดรักชาติ รักสถาบันพระมหากษัตริย์" และมีข้อความโจมตี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีด้วย ทั้งนี้ พันธมิตรฯปัตตานี ได้พร้อมใจกันแต่งชุดดำเพื่อไว้อาลัยแด่ วีรชนพันธมิตรฯที่เสียชีวิตด้วย
แพทย์ใต้เตรียมแต่งดำ-จี้รบ.รับผิดชอบ
นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ อดีตประธานชมรมแพทย์ชนบทในฐานะที่ปรึกษาชมรมแพทย์ชนบทแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นองค์กรแพทย์ได้เรียกร้องอย่างเป็นทางการออกมาแล้ว และในส่วนของแพทย์ชนบทในภาคใต้นั้นในทิศทางเดียวกันเราขอเรียกร้องให้รัฐบาลรับผิดชอบกับเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับประชาชน การสลายการชุมนุมถึงขั้นมีผู้สูญเสีย
นพ.อารักษ์กล่าวต่อว่า ขณะนี้เราได้ประสานงานกับแพทย์ชนบทในโรงพยาบาลชุมชนต่างๆ ทั่วภาคใต้จะแต่งชุดดำเพื่อไว้ทุกข์กับผู้เสียชีวิตและเตรียมที่จะขึ้นป้ายเพื่อร่วมแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์นี้รวมทั้งผู้ที่สูญเสียอวัยวะได้รับบาดเจ็บทุกคน ขณะเดียวกันเตรียมที่จะมีการหารือมาตรการเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีแสดงความรับผิดชอบ ซึ่งคาดว่าจะมีมาตรการที่จะกำหนดร่วมกันทั่วประเทศออกมาอีกครั้ง
ส่วนความเคลื่อนไหวขององค์กรแพทย์ รพ.ศูนย์ขนาดใหญ่โดยเฉพาะ รพ.มหาราช นครศรีธรรมราชนั้น นพ.สมชาย นิ้มวัฒนากุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครศรีธรรมราช ได้เรียกประชุมแพทย์ รพ.มหาราช ในฐานะองค์กรแพทย์ รพ.ศูนย์ เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และเตรียมที่จะออกแถลงการณ์หรือกำหนดท่าทีต่อสถานการณ์ความรุนแรง
นักศึกษาเมืองคอนนัดเคลื่อนไหววันนี้
ด้านความเคลื่อนไหวของนักศึกษาสถาบันอุดมศึกษาในนครศรีธรรมราช นายอรุณ แก้วประดับ นักศึกษาคณะเศรษฐศาสตร์ ปี 3 ม.วลัยลักษณ์ ในฐานะแกนนำกลุ่มนักศึกษาวลัยลักษณ์ รักษ์ประชาธิปไตย เปิดเผยว่า ในวันนี้ (10 ต.ค.) นักศึกษา 2 สถาบันคือ ม.วลัยลักษณ์ และ ม.ราชภัฎนครศรีธรรมราช จะร่วมกันเดินขบวนแสดงจุดยืนการต่อต้านการใช้ความรุนแรงในตัวเมืองนครศรีธรรมราช
พร้อมกันนั้นจะยื่นแถลงการณ์ ซึ่งออกโดยนักศึกษา องค์การบริหารองค์การนักศึกษา บุคลากร และสภาอาจารย์ทั้งหมดจากทั้ง 2 มหาวิทยาลัย ต่อ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช เพื่อแสดงถึงความไม่เห็นด้วยต่อการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจและแสดงถึงจุดยืนต่อสถานการณ์ หลังจากนั้นหากเกิดความรุนแรงขึ้นอีกนักศึกษาในนครศรีธรรมราช จะเดินทางไปร่วมกับกลุ่มนักศึกษาที่กรุงเทพฯ เพื่อร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยต่อไป
ขณะที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 7 ขอไว้อาลัยแก่วีรชนผู้เสียชีวิตจากการชุมนุม และประณามการใช้ความรุนแรงอย่างป่าเถื่อนของรัฐบาลสมชาย โดยให้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกโดยเร็วและเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการลงโทษผู้กระทำผิดทุกระดับด้วย