ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- กลุ่มองค์กรภาคประชาชน-นักธุรกิจหอการค้า-แพทย์พยาบาล ทนายความ และนักวิชาการโคราช ร่วมแถลงประณามรัฐบาลทรราชสามานย์ จัดฉากสร้างเหตุการณ์ป่าเถื่อนทำร้ายเข่นฆ่า ปชช.เพื่อเป็นข้ออ้างประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จี้นายกฯ “หมัก” กระหายเลือด และรัฐบาลรับผิดชอบลาออกทั้งคณะ พร้อมเรียกร้องทุกหมู่เหล่าสามัคคีต่อสู้ขับไล่ รบ.ทรราช ด้านหมอ รพ.มหาราช ลั่นยืนเคียงข้าง ปชช.ต่อสู้ตะเพิดรัฐบาลถึงที่สุด ส่วนนักธุรกิจระบุ ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ขัด รธน. และสุดทนกับรัฐบาล ชี้ หมดความชอบธรรมบริหารประเทศต่อไป เรียกร้องนักธุรกิจทั่ว ปท.ลุกฮือต่อต้านรัฐบาลที่กระทำกับ ปชช.
วันนี้ (2 ก.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่ศูนย์ข้อมูลท้องถิ่นเพื่อการพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา องค์กรภาคประชาชน นักธุรกิจ กลุ่มแพทย์พยาบาล และทนายความในจังหวัดนครราชสีมา ประกอบด้วย สมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย และสมัชชาประชาชนภาคอีสาน 19 จังหวัด, กลุ่มแพทย์พยาบาล โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา,หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา, นักธุรกิจจังหวัดนครราชสีมา, กลุ่มทนายความ และ กลุ่มนักวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
นำโดย ทพ.ศุภผล เอี่ยมเมธาวี เลขาธิการสมัชชาประชาชนประชาชนภาคอีสานฯ, นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ประจำโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา, นายทวิสันต์ โลณานุรักษ์ เลขาธิการหอการค้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ ที่ปรึกษาหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา, นายเพทาย คำภา เลขาธิการหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา, ตัวแทนกลุ่มทนายความ นักวิชาการ และนักธุรกิจชาวโคราช ได้ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน พร้อมออกแถลงการณ์เรื่อง “ประณามรัฐบาลทรราช สมัคร สุนทรเวช เข่นฆ่าประชาชน”
ทพ.ศุภผล เอี่ยมเมธาวี เลขาธิการสมัชชาประชาชนภาคอีสาน 19 จังหวัด ได้อ่านแถลงการณ์ฉบับดังกล่าว สรุปได้ว่า เหตุการณ์การปะทะกันของกลุ่ม นปก., นปช.กับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ถ.ราชดำเนิน กรุงเทพฯ เมื่อคืนนี้ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมากนั้น เป็นการกระทำที่มีรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช อยู่เบื้องหลังการกระทำอันป่าเถื่อนดังกล่าว
พวกเรา ขอประกาศประณามการจัดฉากสร้างเหตุการณ์ป่าเถื่อนร้ายแรงทำร้ายเข่นฆ่าประชาชนที่ถนนราชดำเนิน ของนายกรัฐมนตรีกระหายเลือดที่ชื่อ นายสมัคร สุนทรเวช ซึ่งบุคคลนี้ได้เคยร่วมกระทำการเข่นฆ่าประชาชนจนบาดเจ็บล้มตายมาแล้วเป็นจำนวนมากในเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519
พวกเราขอเรียกร้องให้ประชาชนทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ ลุกขึ้นมาดำเนินการในทางใดทางหนึ่ง เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่กำลังชุมนุมด้วยความสงบสันติในทำเนียบรัฐบาล และถนนราชดำเนิน จากเงื้อมมืออันอำมหิตโหดร้ายของรัฐบาลนายสมัคร ซึ่งกำลังวางแผนจะทำร้ายเข่นฆ่าประชาชนอย่างรุนแรงมากขึ้นในวันนี้
และขอเรียกร้องข้าราชการพลเรือน ทหาร และตำรวจ อย่าให้ความร่วมมือกับรัฐบาลทรราชพวกนี้ ได้โปรดช่วยเหลือประชาชนในทางใดทางหนึ่งที่สามารถจะทำได้ เพื่อต่อสู้กับทรราชภายใต้การนำของนายสมัคร สุนทรเวช ที่ขายชาติขายแผ่นดินและคดโกงคอร์รัปชัน โดยเฉพาะผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) จะต้องอยู่เคียงข้างประชาชน
“ประชาชนทุกหมู่เหล่า จงสามัคคีกัน ต่อสู้ขับไล่ รัฐบาลสามานย์ ทรราชสมัคร ให้ดำเนินการโดยเร่งด่วน จัดตั้งกันขึ้นมา กระทำการทุกวิถีทางที่ จะทำได้ในเขตพื้นที่และจังหวัดของตนเอง เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่กำลังจะถูกล้อมปราบ และเพื่อช่วยเหลือการต่อสู้ของพี่น้องประชาชนให้บรรลุผลสำเร็จ ในการขับไล่รัฐบาลมือเปื้อนเลือด ที่นำโดยนายกรัฐมนตรีที่เลวร้ายที่สุดคนหนึ่งในแผ่นดินไทย” ทพ.ศุภผล กล่าว
ทพ.ศุภผล กล่าวอีกว่า ในค่ำวันนี้พวกเราจะมีการเปิดเวทีปราศรัยใหญ่เพื่อเป็นศูนย์ประสานงานและศูนย์กลางในการเคลื่อนไหวปฏิบัติการอารยะขัดขืน ตั้งแต่ระดับเบาไปจนถึงระดับรุนแรงขั้นสูงสุด ที่บริเวณข้างลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) เพื่อแสดงพลังสนับสนุนการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่กรุงเทพฯ และประชาชนชาวโคราชส่วนหนึ่งได้เดินทางเข้าไปสมทบกับกลุ่มพันธมิตรฯ ที่กรุงเทพฯแล้วจำนวนมาก และยังคงเดินทางเข้าไปอย่างต่อเนื่อง
“พวกเราจะดำเนินการอารยะขัดคืนทุกวิถีทางจากระดับเบา จนถึงขั้นสูงสุดหากรัฐบาลยังคงออกมาปราบปรามประชาชนเช่นที่ทำอยู่นี้และก่อให้เกิดจลาจลขึ้นมาที่ทำเนียบรัฐบาล ประชาชนทุกหมู่เหล่าในจังหวัดนครราชสีมาและภาคอีสานจะรวมตัวกันเพื่อตั้งเป็นศูนย์กลางการต่อต้านรัฐบาลที่จังหวัดนครราชสีมา” ทพ.ศุภผล กล่าว
ด้าน นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แกนนำกลุ่มแพทย์พยาบาล โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา กล่าวว่า กลุ่มแพทย์พยาบาลรวมถึงบุคลากรในโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ไม่เห็นด้วยในการกระทำของรัฐบาล ในการทำร้ายเข่นฆ่าประชาชนและใช้อำนาจรัฐในทางที่ผิด ซึ่งก่อให้เกิดปัญหากับชาติบ้านเมือง และยังคงยืนยันข้อเรียกร้องเดิมคือ ให้รัฐบาลและคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้งคณะลาออกไป และพวกเราจะร่วมกับประชาชนในการต่อสู้กับรัฐบาลชุดนี้ภายใต้กรอบกติกาของกฎหมาย และ รัฐธรรมนูญจนถึงที่สุด ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยเข้าสู่จุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุด จะดีหรือเลวขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในช่วง 1-2 วันนี้
ขณะที่ นายทวิสันต์ โลณานุรักษ์ เลขาธิการหอการค้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ ที่ปรึกษาหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า การประกาศ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินเขตกรุงเทพมหานคร ของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีนั้น เป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2550 ที่ให้สิทธิเสรีภาพแก่ประชาชนในการเคลื่อนไหวตามระบอบประชาธิปไตย ในส่วนของภาคธุรกิจ ที่ผ่านมาได้เฝ้าดูสถานการณ์อยู่ห่าง ๆ แต่การออกมาเคลื่อนไหวในครั้งนี้เนื่องจากเหลืออดต่อสิ่งที่รัฐบาลกระทำกับประชาชน
“วันนี้นักธุรกิจซึ่งเป็นผู้ที่เสียภาษีให้กับประเทศ ต้องออกมาบอกว่าไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่รัฐบาลทำกับประชาชน โดยเฉพาะการปะทะกันของกลุ่ม นปก.กับกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อคืนนี้ ซึ่งไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจแม้แต่นายเดียวอยู่ดูแลความสงบเรียบร้อยในที่เกิดเหตุเลย เพราะตนเองก็อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย สิ่งที่เกิดขึ้นรัฐบาลจะต้องรับผิดชอบ” นายทวิสันต์ กล่าว
นายทวิสันต์ กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพวกเรานักธุรกิจเสียใจอย่างมาก หากเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ต่อไปคงไม่มีใครมาลงทุนในประเทศไทย เพราะรัฐบาลไม่มีระบบกลไกในการป้องกันแต่กลับปล่อยให้การปะทะเกิดขึ้นเหมือนบ้านป่าเมืองเถื่อน นักธุรกิจขอเรียกร้องว่ารัฐบาลควรจะแสดงความรับผิดชอบ และเคารพข้อเสนอแนะของที่ประชุม 2 สภาที่ผ่านมาด้วย
“ขอเรียกร้องไปยังนักธุรกิจทั่วประเทศให้ช่วยกันแสดงพลังเพื่อต่อต้านรัฐบาลที่กระทำต่อประชาชน เพราะคนที่ทำลายเศรษฐกิจวันนี้คือรัฐบาลไม่ใช่ประชาชน รัฐบาลต้องพิจารณาตัวเอง” นายทวิสันต์ กล่าว
ส่วน นายเพทาย คำภา เลขาธิการหอการค้าจังหวัดนครราชสีมาและทนายความ กล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้ทั้งนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี หมดความชอบธรรมที่จะบริหารประเทศต่อไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว ดังนั้น ตนในฐานะตัวแทนหอการค้าและนักธุรกิจในจังหวัดนครราชสีมา ขอเรียกร้องให้นายสมัคร สุนทรเวช ได้แสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยแนวทางที่ถูกต้องตามครรลองประชาธิปไตย คือ ลาออกจากตำแหน่งหรือยุบสภาผู้แทนราษฎรคืนอำนาจให้กับประชาชน