xs
xsm
sm
md
lg

ฮือประณามรัฐบาลโจร-รัฐตำรวจป่าเถื่อน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พันธมิตรฯเชียงใหม่และเครือข่ายองค์กรประชาชนภาคเหนือร่วมกันวางพวงหรีดไว้อาลัยให้กับผู้บริหารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่มีความคับแคบทางวิชาการไล่กลุ่มพันธมิตรฯออกจากห้องประชุมและห้ามแถลง
ศูนย์ข่าวภูมิภาค - กลุ่มพันธมิตรฯ ต่างจังหวัด และองค์กรต่างๆ ทั้งนักศึกษา และนักวิชาการทั่วทุกภาคออกแถลงการณ์ประณาม "รัฐบาลโจรน้องเขย" และ "รัฐตำรวจชั่ว" ใช้ความรุนแรงสลายกลุ่มชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯที่หน้ารัฐสภาจนมีผู้บาดเจ็บขาขาด-สาหัสจำนวนมาก ระบุเป็นการกระทำที่ "ป่าเถื่อน" พร้อมระดมพลังประชาชนเข้ากรุงเสริมทัพพันธมิตรฯร่วมตะเพิด "รัฐบาลมือเปื้อนเลือด" ไม่หยุด "ตำรวจภูเก็ต-หาดใหญ่" ผวาสั่งเจ้าหน้าที่ดูแลสถานที่สำคัญเข้มหวั่นโดนพันธมิตรฯฮือเข้ายึด แฉ"มช."ลุแก่อำนาจห้ามพันธมิตรฯเชียงใหม่และองค์กรเครื่อข่ายประชาชนภาคเหนือแถลงข่าวประณามรัฐตำรวจ อีกทั้งยังไล่ออกจากห้องประชุมด้วย

ประชาชนผู้รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ หลายหมื่นคนทั่วทุกภาคของประเทศไทย ยกทัพเข้ากรุงเทพฯร่วมขับไล่รัฐบาลทรราช "น้องเขยทักษิณ" ไม่หยุด หลังจากรัฐตำรวจทาสรับใช้ "รัฐบาลโจร" ใช้ความรุนแรงเข้าสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณหน้ารัฐสภาเมื่อวานนี้ (7 ต.ค.) จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสขาขาด และบาดเจ็บจำนวนมาก นอกจากนี้ กลุ่มพันธมิตรฯ และองค์กรต่างๆ รวมทั้งนักวิชาการ และนักศึกษาในแต่ละจังหวัดยังได้ร่วมกันออกแถลงการณ์ประณามการกระทำของรัฐบาลโจร และรัฐตำรวจชั่วด้วยว่า การกระทำดังกล่าวของตำรวจในครั้งนี้เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ ป่าเถื่อน เป็นการรับใช้พวกทรราช รัฐบาลโจรจนลืมสิ่งชั่ว-ดี

ภาคี นศ.อาจารย์โคราชจี้ รบ.หยุดทำชั่ว

ที่ จ.นครราชสีมา ภาคีนักศึกษา และคณาจารย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) นครราชสีมา ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์ประณามรัฐบาลในการสลายกลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าวจนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสขาขาด และบาดเจ็บจำนวนมาก โดยเรียกร้องให้รัฐบาลชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ประชาชนได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด หรือลื่นล้มตามคำสัมภาษณ์ของนายตำรวจบางคนที่ใช้ความรุนแรงในการปราบปรามผู้ชุมนุม ให้รัฐบาลเลิกการใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุมโดยทันที ให้รัฐบาลภายใต้การนำของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี รับผิดชอบต่อเหตุการณ์สลายการชุมนุมจนเป็นเหตุให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก โดยไม่มีข้อแม้ใดๆ ทั้งสิ้น

ให้รัฐบาลแสดงความชัดเจนในการจับกุมนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ และ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยข้อหากบฏ เนื่องจากข้อกล่าวหาดังกล่าวไม่ชอบธรรม และมิชอบด้วยกฎหมาย ขอให้รัฐบาลเร่งรัดเพิกถอนหนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ตทูต (เล่มแดง) ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และมิให้มีการเลือกปฏิบัติกับผู้ต้องหาในคดีร้ายแรงทุจริตโกงชาติบ้านเมือง อย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ และภริยา รวมทั้งแกนนำกลุ่มนำพันธมิตรฯ ที่ถูกกลั่นแกล้งตั้งข้อกล่าวหาเกินจริง รัฐบาลต้องจ่ายเงินชดเชยหรือสินไหมทดแทนแก่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมด้วยความรุนแรงในครั้งนี้โดยเร็ว

รัฐบาลต้องแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น ตามหลักจริยธรรมของสากล คือ การลาออกทั้งคณะ หรือ ยุบสภา อย่างไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น พร้อมชื่นชมวีรชนผู้เสียสละเลือดเนื้อชีวิตปกป้องชาติไม่ให้ตกเป็นของนักการเมืองชั่วและขอต่อสู้ร่วมเคียงข้างประชาชนจนถึงถึงที่สุด

พธม.-NGO ขอนแก่นประณามถ่อย

ส่วนที่ จ.ขอนแก่น นายสมภพ บุนนาค ผู้ประสานงานเครือข่ายพันธมิตรฯขอนแก่น และ นพ.ชวลิต ไพโรจน์กุล ผู้แทนกลุ่มนักวิชาการเพื่อประชาธิปไตย มหาวิทยาลัยขอนแก่น พร้อมตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชนในภาคอีสานหลายคน ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์ประณามรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจเช่นกัน

โดยนายสมภพ กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวของรัฐบาลภายใต้การนำของนายสมชาย และพรรคพลังประชาชน ถือเป็นการดิ้นเฮือกสุดท้ายของรัฐบาลนอมินีทักษิณ ที่จะรักษาอำนาจของตนที่ได้มาด้วยความฉ้อฉล เพื่อผลประโยชน์และการอ้างสิทธิเฉพาะตนและพวก โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายร้ายแรงที่จะส่งผลกระทบต่อสังคมและประเทศชาติ ดังนั้น ในนามเครือข่ายประชาชน องค์กรและสถาบันต่างๆ ในภาคอีสาน ขอเรียกร้องให้รัฐบาลนอมินี ที่ทุจริตคดโกง และบ้าอำนาจให้ยุติการสลายการชุมนุมของพันธมิตรฯที่ใช้สิทธิของตนตามกฎหมายรัฐธรรมนูญโดยทันที และขอให้รัฐบาลที่ขาดความชอบธรรมนี้ยุติความพยายามที่จะบริหารประเทศต่อไป โดยยอมรับการตัดสินในกระบวนการยุติธรรมของประเทศอย่างไม่มีเงื่อนไข

"เราขอประณามรัฐบาลพรรคพลังประชาชน และ ครม. ที่ร่วมตัดสินใช้กำลังรัฐตำรวจเข้าสลายการชุมนุมของพันธมิตรประชาชน ว่าเป็นความเลวร้ายอย่างถึงที่สุด และจะต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายทุกประการ ไม่ว่ากรณีใดๆ"

นายสมภพ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้พันธมิตรฯในทุกจังหวัดภาคอีสานได้ระดมกำลังเพื่อเดินทางไปสมทบการชุมนุมที่กรุงเทพฯอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่ จ.ขอนแก่น ได้มีประชาชนจำนวนมากร่วมเดินทางไปชุมนุมด้วย โดยมีพ่อค้านักธุรกิจใน จ.ขอนแก่น ร่วมลงขันบริจาคเงินรายละ 10,000-50,000 บาท เพื่อซื้อตั๋วรถทัวร์ปรับอากาศให้ประชาชนเดินทางไป

ทหารซัดตำรวจยิง ปชช.ทำเกินเหตุ

ขณะเดียวกันเครือข่ายสมาคมตัวแทนประกันชีวิต จ.ขอนแก่น ก็ได้ออกมาประณามพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจและรัฐบาลที่ใช้ความรุนแรงอย่างป่าเถื่อนด้วย โดยนายฐาปนา มีแก้ว ซึ่งเป็นตัวแทนเครือข่ายสมาคมฯ ระบุว่า การกระทำดังกล่าวถือเป็นพฤติกรรมยากที่คนไทยจะยอมรับในพฤติกรรมทำร้ายประชาชนเช่นนี้ได้ จึงขอเรียกร้องให้ตัวแทนประกันชีวิตทั่วประเทศให้หยุดการเสียภาษีอากรทั้งประเทศทันที

ด้านแหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายความมั่นคงใน จ.สุรินทร์ ชี้ว่า ปืนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ยิงสลายการชุมนุมหรือยิงแก๊สน้ำตานั้นเป็นปืนที่ใช้ยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 เป็นอาวุธสงคราม การนำมาใช้ยิงแก๊สน้ำตาไม่น่าจะถูกต้อง แก๊สน้ำตาแค่โยนออกไปกระแทกพื้นปูนก็ระเบิดแล้ว "สิ่งที่รัฐบาลทำลงไป ถือว่าทำเกินกว่าเหตุจริงๆ"

รถไฟใต้ยันวิ่งปกติให้ พธม.เข้ากรุง

นายสาโรจน์ รักษ์จันทร์ กรรมการสหภาพแรงงานและวิสาหกิจ การรถไฟแห่งประเทศ สาขาภาคใต้ กล่าวว่า สหภาพมีมติชัดเจนในการเข้าร่วมการชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯทุกรูปแบบ นื่องจากไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลใช้วิธีการนำกำลังเข้าสลายกลุ่มผู้ชุมนุมด้วยความรุนแรง ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก อีกทั้งไม่พอใจพฤติกรรมของรัฐบาลที่มุ่งแต่จะแถลงนโยบายโดยไม่สนใจการแก้ไขปัญหาสถานการณ์บ้านเมืองที่เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรง

"สหภาพจะเข้าร่วมชุมนุมทุกรูปแบบเคียงข้างประชาชนในการต่อสู้รัฐบาลที่ทำร้ายประชาชน โดยเฉพาะการเปิดการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการใช้บริการรถไฟ เพื่อเดินทางเข้ามาสมทบกับกลุ่มพันธมิตรฯ ที่กรุงเทพฯ โดยยืนยันว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะไม่มีการหยุดการเดินรถไฟเด็ดขาด เนื่องจากเราต้องการลำเลียงประชาชนเข้าไปกรุงเทพฯ ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อต่อสู้ขั้นแตกหัก"

ขณะที่ตำรวจสงขลา-ภูเก็ตคุมเข้มสถานที่ราชการ โดย พล.ต.ต.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร ผบก.ภ.จว.สงขลา กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าประจำการการรักษาความปลอดภัยตามสถานที่ราชการสำคัญทั่วจังหวัดสงขลา อาทิ สนามบินหาดใหญ่ และศาลากลางจังหวัดสงขลา พร้อมทั้งประสานความร่วมมือกับหน่วยงานแต่ละแห่ง เพื่อจัดวางกำลังและมาตรการป้องกันร่วมกันอย่างมีระบบ แม้จากการตรวจสอบจะพบว่ากลุ่มพันธมิตรสงขลา มีเป้าหมายลำเลียงกลุ่มประชาชนเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เป็นหลักก็ตาม

คปสม.ภูเก็ตจี้นายกฯ ลาออกทันที

วันเดี่ยวกันเครือข่ายชุมนุมเพื่อการปฏิรูปสังคมการเมือง จ.ภูเก็ต (คปสม.) นำโดยนายสุพัฒน์ นุ่นขาว ได้เข้ายืนแถลงการณ์ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต โดยมีวรพจน์ รัฐสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตลงมารับหนังสือ ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดภูเก็ต

ในแถลงการณ์ฉบับดังกล่าวมีการยื่นข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล 5 ข้อคือ 1.ให้ยุติการใช้ความรุนแรงต่อผู้ชุมนุมโดยเด็ดขาด 2.ให้นายกรัฐมนตรีลาออกโดยทันที เพราะหมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศ 3.ให้มีการหาตัวผู้สั่งการและมีมาตรการในการลงโทษที่ชัดเจน และ 4.ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการคัดค้านการลี้ภัยและติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายตามคำสั่งศาล

น.ส.อาภารัตน์ ชาติชุติกำจร แกนนำฝ่ายประชาสัมพันธ์กลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินฯภูเก็ต กล่าวว่า มีคนภูเก็ตจำนวนหนึ่งที่ขึ้นไปทำหน้าที่การ์ดอยู่แนวหน้าปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและได้รับบาดเจ็บในครั้งนี้ และจากการประสานงานกับกลุ่มการ์ดของภูเก็ต ทราบว่า อาวุธที่ที่ตำรวจยิงนั้นไม่ได้แก๊สน้ำตาเพียงอย่างเดียว แต่มีอาวุธสงครามอยู่ด้วย

อัดรัฐตำรวจทาสรับใช้"รัฐบาลโจร"

ด้านนายจเร แก้วสม ผู้ประสานงานเครือข่ายพันธมิตรฯกระบี่ (สองคาบสมุทร) กล่าวว่า การกระทำที่เกิดขึ้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ใช่เป็นการกระทำของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ แต่เป็นการกระทำของทาสรับใช้รัฐบาลโจร ถ้าเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์จะต้องไม่ทำกับประชาชนด้วยความรุนแรงอย่างแน่นอน พันธมิตรฯกระบี่จึงขอประณามการทำของตำรวจว่าเลวทรามที่สุด

ขณะที่นายสำเริง สุดสวาท ผู้ประสานงานศูนย์สันติยุติธรรมจังหวัดพัทลุง ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลปรับเปลี่ยนท่าทีต่อผู้ชุมนุมและขอให้ชี้แจงสาเหตุการสลายการชุมนุม จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย พร้อมกับออกแถลงการณ์ร่วมกับเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนพัทลุง 11 อำเภอ ประณามการใช้ความรุนแรงของรัฐบาล และแสดงยืนว่าจะเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯที่กรุงเทพฯ อย่างแน่นอน และหากสถานการณ์ยังไม่คลี่คลายทางเครือข่ายก็พร้อมจะปิดถนนสายเอเชียขาขึ้นจังหวัดพัทลุง เพื่อตอบโต้รัฐบาล

"ม.บูรพา"อัดรัฐบาลไม่ชอบธรรม

นายประเสริฐ ช่วยแก้ว อาจารย์ภาคประจำวิชานิเทศศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา จ.ชลบุรี กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่ารุนแรงมาก เนื่องจากมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส เช่น แขนขาด-ขาขาด สำหรับการสลายการชุมนุมโดยการใช้แก๊สน้ำตานั้น นานาประเทศก็ใช้แก๊สในการสลายการชุมนุมเช่นกัน แต่การสลายการชุมนุมทั่วไปไม่เห็นมีร่างกายหรืออวัยวะจะต้องสูญเสียเช่นดังกล่าวนี้เลย ซึ่งเรื่องนี้จะต้องดำเนินการตรวจสอบโดยละเอียดว่ามีสิ่งใดแอบแฝงหรือไม่

"รูปแบบการสลายการชุมนุมนั้น โดยส่วนใหญ่จะต้องมีขั้นตอนและวิธีการในการสลาย เช่น ต้องประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนหรือผู้ที่มาเดินขบวนทราบล่วงหน้า โดยหากเตือนแล้วและไปทำการสลายตัว ก็ต้องใช้น้ำความนุ่นนวลมากกว่านี้ แต่สำหรับในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ใช้แก๊สน้ำตายิงใส่ประชาชนในทันที ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องและไม่ชอบธรรมแต่อย่างไร"

นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า การสลายการชุมนุมนั้น ซึ่งมีหลายฝ่ายออกมาวิภาควิจารณ์ว่า เป็นการมุ่งทำร้ายประชาชนเพราะทิศทางในการยิงแก๊สน้ำตานั้น ไม่ใช่เพื่อให้ประชาชนหรือกลุ่มพันธมิตรฯสลายตัว แต่เป็นการมุ่งน้ำร้ายประชาชนเสียมากกว่า และที่สำคัญหากตำรวจไม่มีอะไรแอบแฝง ควรต้องใช้วิธีการเจรจา ก่อนจะใช้มาตรการขั้นรุนแรง

นักธุรกิจพัทยาไล่ รบ.ไปได้แล้ว

นายธเนศ ศุภรสหัสรังสี ที่ปรึกษาสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา กล่าวว่า การสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ครั้งนี้ ย่อมส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศโดยเฉพาะในแง่ของการท่องเที่ยวอย่างแน่นอน โดยเฉพาะสถานการณ์การท่องเที่ยวของเมืองพัทยาที่กำลังเข้าสู่ช่วงไฮซีซัน และก่อนหน้านี้สถานการณ์เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่เมื่อมีภาพสลายการชุมนุมด้วยวิธีรุนแรง ย่อมทำให้การตัดสินใจของกลุ่มนักท่องเที่ยวที่กำลังวางแผนจะเดินทางเข้ามาในเมืองพัทยาชะลอการเดินทาง

"ก่อนหน้านี้ภาวะท่องเที่ยวของเรากำลังจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หลังจากต้องเผชิญทั้งวิฤกตการเมืองในประเทศและสถานการณ์ทางเศรษฐกิจโลก ซึ่งตลาดหลักอย่างรัสเซียที่กำลังจะกลับเข้ามาก็ทำเรื่องขอยืดเวลาวางเงินมัดจำห้องพัก จากช่วงกลางเดือนกันยายนเป็นกลางเดือนตุลาคม และนี่ก็ใกล้ถึงเวลาแล้ว เมื่อมีภาพรุนแรงออกไปก็คาดว่าเอเยนซี่จะขยายเวลาออกไปอีกแน่"

พร้อมกับกล่าวถึงปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นในประเทศไทยว่า เป็นเพราะการขาดประสิทธิภาพและไม่ได้รับการยอมรับในการบริหารงานของรัฐบาล ที่สำคัญในวันนี้รัฐบาลเดินมาถึงทางตันแล้วและจะต้องรีบประกาศยุบสภาโดยด่วน เพื่อยุติปัญหาความรุนแรงต่างๆ ที่เกิดขึ้นในบ้านเมือง

มช.ลุอำนาจ ห้า พธม.แถลงข่าว

ส่วนที่ จ.เชียงใหม่ ตัวแทนกลุ่มพันธมิตรฯเชียงใหม่ พร้อมด้วยองค์กรเครือข่ายประชาชนภาคเหนือ เตรียมแถลงข่าวเพื่อการประณามรัฐตำรวจที่ทำร้ายประชาชนหน้ารัฐสภา โดยจะมีการแถลงข่าวที่ห้องฮานอย ของสถานบริการวิชาการนานาชาติ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

แต่ปรากฏว่าขณะที่จะทำการแถลงข่าว ปรากฏว่านายอนุรักษ์ ปัญญานุรักษ์ ผู้บริหารสำนักบริการวิชาการมหาวิยาลัยเชียงใหม่ ได้เข้าไปไล่ตัวแทนพันธมิตรฯ และองค์กรเครือข่ายฯทั้งหมดให้ออกไปนอกห้องประชุมดังกล่าว โดยอ้างว่าไม่ได้มีการประสานงานขอห้องประชุมมาก่อน นอกจากนี้ ยังได้กันผู้สื่อข่าวทั้งหมดที่เตรียมเข้าไปทำข่าวให้ออกไปนอกมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ไม่ให้ทำข่าวหรือถ่ายทอดภาพใดๆ ทั้งสิ้นด้วย

ต่อมากลุ่มพันธมิตรฯและองค์กรเครือข่ายฯ ได้ออกมาแถลงการณ์ที่ด้านหน้าอาคารแทน โดยระบุว่าการใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและความรุนแรงในการสลายการชุมนุมของพันธมิตรฯ เป็นการกระทำที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ และขาดความชอบธรรม โดยเรียกร้องร้องให้รัฐบาลรับผิดชอบต่อการกระทำที่เกิดขึ้นด้วยการลาออก

นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด 1 ในแกนนำพันธมิตรฯเชียงใหม่ กล่าวว่า การชุมนุมของพันธมิตรฯที่รัฐสภาเป็นไปตามรัฐธรรมนูญที่ประชาชนมีสิทธิที่จะชุมนุมต่อต้านรัฐบาลที่มาไม่โดยชอบตามรัฐธรรมนูญ เพราะอย่างเป็นที่ทราบโดยทั่วกันว่า นายกฯและรัฐบาลชุดนี้ล้วนมาจากการกำหนดของอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองอยู่ ดังนั้น จึงเป็นความชอบธรรมอยู่แล้วที่ประชาชนจะมาร่วมชุมนุมกัน ซึ่งการสลายการชุมนุมจึงเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องและรัฐบาลจะต้องแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

อัดรัฐบาลน้องเขย "มือเปื้อนเลือด"

ด้านนายสวิง ตันอุด ผอ.สถาบันการจัดการทางสังคมภาคเหนือ กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลของนายสมชาย อ้างมาตลอดว่าจะเจรจากับทางพันธมิตร แต่กลับสร้างเงื่อนไขที่ทำไปสู่ความรุนแรงตลอด จนกระทั่งใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสลายการชุมนุม ซึ่งเป็นการกระทำที่ขาดความชอบธรรมด้วยประการทั้งปวง และเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ เพราะเจ้าหน้าที่สามารถใช้วิธีการที่สันติกว่านี้ในการจัดการกับผู้ชุมนุมได้ จึงขอประณามการกระทำที่ใช้ความรุนแรงในครั้งนี้ พร้อมทั้งเห็นว่าเวลานี้รัฐบาลหมดความชอบธรรมที่จะบริหารบ้านเมืองต่อไปแล้วและจะต้องแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย

"ตอนนี้รัฐบาลกลายเป็นรัฐบาลที่มือเปื้อนเลือดแล้ว จากการใช้ความความรุนแรงกระทำกับประชาชน จึงหมดความชอบธรรมที่จะบริหารบ้านเมืองแล้ว"

ภายหลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าวพันธมิตรฯเชียงใหม่และเครือข่ายองค์กรประชาชนภาคเหนือ ได้ร่วมกันวางพวงหรีดไว้อาลัยให้กับผู้บริหารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่มีความคับแคบทางวิชาการ ตื้นเขินทางวิสัยทัศน์ และรับใช้รัฐบาลที่ไร้ความชอบธรรม ที่บริเวณหน้าสถานวิชาการนานาชาติ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ขณะที่องค์กรพัฒนาเอกชน และองค์กรชาวบ้านใน จ.แพร่ ได้ออกแถลงการณ์ร่วมประณามการกระทำของรัฐบาลนายสมชาย ที่มีการปราบปรามผู้ชุมนุมด้วยความรุนแรง โดยเรียกร้องให้นายสมชาย ลาออกจากตำแหน่งน่ายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า เป็นการกระทำที่ป่าเถื่อนไร้มนุษยธรรมอย่างยิ่ง

พันธมิตรฯ หลาย จว. ทะลักเข้ากรุง

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ที่บริเวณลานประวัติศาสตร์การเมือง ภาคประชาชน ซึ่งอยู่หน้าสถานีรถไฟหาดใหญ่ จ.สงขลา กลุ่มพันธมิตรฯสงขลา ได้มารวมตัวกันเพื่อขึ้นรถบัสที่มาจอดรออยู่ 5 คัน และออกเดินทางไปร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯ นอกจากนี้ในช่วงเย็นยังมีมีกลุ่มพันธมิตรฯสงขลา อีกจำนวนหนึ่งเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ด้วยขบวนรถไฟ

ส่วนกลุ่มพันธมิตรฯตรังกว่า 200 คนก็ได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯเช่นกัน เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลลาออก เพราะการใช้อำนาจและอาวุธปราบปรามประชาชน ถือว่าไม่ชอบธรรม พร้อมกับเรียกร้องให้คนใต้ทุกคนที่ไม่ติดภารกิจเร่งด่วนให้ช่วยกันเสียสละเวลาไปร่วมชุมนุมให้มากที่สุด เพราะถือว่ารัฐบาลนี้บริหารประเทศไปก็ขาดความชอบธรรม คนใต้หากไม่เดือดร้อนจริงๆ คงไม่แสดงออกเหมือนวันนี้

ส่วนความเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯในภาคอีสานที่ จ.ชัยภูมิ มีกลุ่มพันธมิตรประมาณ 300 คนขึ้นรถตู้กว่ากว่า 10 คันมุ่งหน้ากรุงเทพฯเช่นกันหลังจากเมื่อวันที่ 6 ต.ค.กลุ่มพันธมิตรฯบุรีรัมย์ ได้เดินทางไปล่วงหน้าไปแล้วกว่า 500 คน

ขณะที่ในพื้นที่ภาคเหนือนายสมโชค จันทร์ทอง เลขาธิการแกนนำพันธมิตรฯภาคเหนือ กล่าวว่า กลุ่มพันธมิตรภาคเหนือ 17 จังหวัด ได้ทยอยเดินทางไปสมทบกับกลุ่มพันธมิตรฯที่กรุงเทพฯแล้วกว่า 1 หมื่นคน โดยมีทั้งที่เดินทางด้วยเครื่องบิน รถไฟ รถตู้ รถบัส และรถยนต์ส่วนตัว

เช่นเดียวกับกลุ่มพันธมิตรพิจิตร ได้ระดมพลขึ้นรถไฟเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อสมทบกับพันธมิตรฯในกรุงเทพฯ โดยก่อนหน้านี้มีกลุ่มพันธมิตรฯกว่า 1,000 คน ออกเดินทางโดยรถบัสและรถยนต์ส่วนตัวแล้ว

ส่วนสถานีวิทยุชุมชนท้องถิ่นใน จ.ราชบุรี ได้ประกาศเชิญชวนให้ประชาชนไปร่วมสมทบกับพันธมิตรฯที่กรุงเทพฯ พร้อมกับขอบริจาคน้ำ ข้าวสาร อาหารแห้ง เพื่อนำไปช่วยกลุ่มพันธมิตรฯที่กรุงเทพฯ ซึ่งก็มีผู้นำสิ่งของดังกล่าวมาบริจาคให้เป็นจำนวนมากนอกจากนี้ยังมีประชาชนกว่า 2,000 คนเดินทางเข้ากรุงเทพฯ แล้วเพื่อร่วมขับไล่รัฐบาลโจร
กลุ่มพันธมิตรฯภาคใต้ประกาศแตกหักรัฐบาลโจร ระดมคนเข้ากรุงเทพฯเสริมทัพที่ทำเนียบฯไม่หยุด
กำลังโหลดความคิดเห็น