ศูนย์ข่าวภูมิภาค – พันธมิตรฯทั่วประเทศทุบหม้อข้าวยกทัพเข้ากรุงอีกครั้งหลังรัฐตำรวจจับ “พล.ต.จำลอง-ไชยวัฒน์” 2 ใน 9 แกนนำพันธมิตรฯในข้อหา “กบฏ” เรียกร้องให้ปล่อยตัวโดยไม่มีเงื่อนไข ออกแถลงการณ์อัดแหลกรัฐตำรวจเลือกปฏิบัติ-ขาดมารยาท เชื่อเป็นใบสั่งจากต่างแดนถึง ”นายกฯน้องเขย” ให้ลงมือ ลั่นพร้อมลุกฮือเคลื่อนไหวโดยสันติอหิงสาทุกรูปแบบทั่วประเทศปลุกพลัง ปชช.ผู้รักความเป็นธรรมรักชาติรักแผ่นดินก้าวออกมาปกป้องชาติให้รอดพ้นจากอุ้งมือมารของ “รัฐบาลน้องเขย” ขายชาติทรราชหน้าเนื้อใจเสือปากว่าตาขยิบ มือถือสากปากถือศีลชุดนี้
กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทั่วทุกภาคจำนวนมาก ได้มีการเคลื่อนไหวเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯส่วนกลางที่ทำเนียบรัฐบาลและบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ทันทีที่ข่าวการจับกุม พล.ต.จำลอง ศรีเมือง 1 ใน 9 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในข้อหากบฏต่อฝ่ายรัฐบาล หลังจากไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เมื่อเช้าวานนี้ (5 ต.ค.) ได้แพร่สะพัดออกไป ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการจับกุมนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ 1 ใน 9 แกนนำพันธมิตรฯในข้อหาเดียวกันไปแล้วคนหนึ่ง
**พธม.ใต้เข้ากรุงลั่นพร้อมแตกหัก!
เริ่มที่ความเคลื่อนไหวกลุ่มพันธมิตรฯสงขลา ทางแกนนำได้เรียกประชุมด่วนทันทีที่ลานการเมืองภาคประชาชน หน้าสถานีรถไฟหาดใหญ่ ก่อนจะมีมติรวบรวมอาสาสมัครพันธมิตรฯเดินทางขึ้นกรุงเทพฯด้วยรถไฟขบวนที่ 172 สุไหงโก-ลก-กรุงเทพฯอย่างน้อย 2 โบกี้ ซึ่งได้ออกจากสถานีหาดใหญ่ในเวลา 15.26 น.เพื่อไปร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯทั่วประเทศที่ทำเนียบรัฐบาล เช่นเดียวกับกลุ่มพันธมิตรฯทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งได้ทยอยเดินทางขึ้นไปร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯในวันเดียวกัน
นายสุนทร รักษ์รงค์ แกนนำพันธมิตรฯชุมพรและผู้ประสานงานพันธมิตรฯ 14 จังหวัดภาคใต้ กล่าวว่า ขณะนี้มีพันธมิตรฯและประชาชนจากภาคใต้ไม่ต่ำกว่า 10,000 คน ทยอยเดินทางเข้าไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯที่ทำเนียบรัฐบาลแล้ว เพื่อกดดันให้รัฐบาลปล่อย พล.ต.ต.จำลอง และนายไชยวัฒน์ อย่างไม่มีเงื่อนไข ถ้าไม่มีการปล่อยตัว 2 แกนนำตามข้อเรียกร้อง พันธมิตรฯทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้จะไม่รับประกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งอาจเป็นเหมือนเหตุการณ์วันที่ 6 ตุลาคม 2519 และวันที่ 14 ตุลาคม 2516 เพราะคิดว่าคงถึงเวลาของการแตกหักระหว่างรัฐบาลกับพันธมิตรฯ แล้ว
นายสุนทร กล่าวต่อว่า หลังจาก พล.ต.จำลอง ถูกจับกุมขณะไปใช้สิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.แกนนำพันธมิตรฯ 14 จังหวัดภาคใต้ได้มีการโทรศัพท์ติดต่อพูดคุยปรึกษาหารือกันแล้วมีมติว่า จะมีการระดมคนจาก 14 จังหวัดภาคใต้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ตั้งแต่วานนี้ (5 ต.ค.) เป็นต้นไปใครปลูกยางก็ขอให้หยุดการตัดยางไว้ก่อน ใครทำงานอะไรก็ขอให้หยุดพักไว้ก่อน เพราะสิ่งที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ในขณะนี้คงต้องการเห็นว่าจะมีคนเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯที่ทำเนียบรัฐบาลเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหน
นายโอสถ สุวรรณเศวต แกนนำพันธมิตรฯนครศรีธรรมราช กรรมการพันธมิตรฯ14 จังหวัดใต้ เผยว่า ตามกำหนดการเดิมวันที่ 6 ต.ค.นี้พันธมิตร 14 จังหวัดใต้จะมีการประชุมกันที่ จ.นครศรีธรรมราช แต่ได้ปรับแผนทันทีหลังจากที่ พล.ต.จำลอง ถูกจับโดยหันมารวมพลประชาชนเข้ากรุงเทพฯแทนเพื่อร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯทั่วประเทศ และนับตั้งแต่วันนี้พันะมิตรฯภาคใต้จะมีการเดินทางตามหลังไปสมทบอย่างต่อเนื่อง
ส่วนที่มีความเป็นห่วงว่าจะมีการปิดถนน ปิดสนามบิน หรือสถานที่ราชการอื่นๆ เพื่อประท้วงการจับกุม พล.ต.จำลองนั้น ขอยืนยันว่าได้มีการประสานงานกันเป็นการภายในแล้วว่าจะไม่มีการปิดสถานที่ใดๆ ทั้งสิ้นเป้าหมายในการเดินทางนั้นคือที่ทำเนียบรัฐบาลเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
“การเดินทางไปครั้งนี้เราเชื่อว่าทุกคนพร้อมที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของการต่อสู้โดยประชาชน ซึ่งผู้ที่เดินทางไปนั้นเชื่อว่าพร้อมที่จะรับกับสถานการณ์ทุกรูปแบบที่อาจเกิดขึ้นได้ เพราะในเวลานี้รัฐบาลไม่สามารถเชื่ออะไรได้เลย ปากพูดว่าสมานฉันท์แต่ในความเป็นจริงนั้นพร้อมที่จะลุยกับพันธมิตรฯ ทุกเมื่อ ดังนั้น การพุดคุยเจรจาของ พล.อ.ชวลิต หรือใครก็ตารมพันธมิตรฯ ใต้ไม่เชื่อน้ำยาอย่างเด็ดขาด แนวของ พล.อ.ชวลิตหลายครั้งที่ผ่านมาสวยหรูอลังการ แต่ท้ายที่สุดเละทุกที พันธมิตรฯ ภาคใต้พร้อมแลกทุกอย่างกับความถูกต้องและความเป็นธรรม รวมทั้งประเทศไทยต้องปราศจากนักการเมืองโกงชาติ ขายชาติกินบ้านกินเมือง” นายโอสถกล่าว
**รถไฟหาดใหญ่ยันไม่หยุดเดินรถ
นายสุพิเชษฐ สุวรรณชาตรี ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย สาขาหาดใหญ่ เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการจับกุม พล.ต.จำลอง ในส่วนของสหภาพรถไฟแห่งประเทศไทยยังไม่มีมติหรือคำสั่งให้เคลื่อนไหวแต่อย่างใด ขณะนี้พนักงานทุกส่วนยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ และรถไฟสายใต้ยังคงให้บริการทุกขบวนจะไม่มีการหยุดเดินรถ เนื่องจากไม่ต้องการสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนผู้ใช้บริการ
แต่ยอมรับว่าทางแกนนำสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟ สาขาหาดใหญ่ ส่วนหนึ่งจะร่วมเดินทางขึ้นไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯที่ทำเนียบรัฐบาล ร่วมกับอาสาสมัครพันธมิตรฯ สงขลา ในขณะที่แกนนำอีกส่วนหนึ่งจะยังคงปักหลักเคลื่อนไหวโดยการเปิดเวทีที่หน้าสถานีหาดใหญ่ต่อไป ที่สำคัญหลังจากนี้ทางกลุ่มพันธมิตรฯจะทยอยเดินทางขึ้นกรุงเทพฯ ด้วยขบวนรถไฟในทุกๆ วัน
**พันธมิตรฯภูเก็ตเคลื่อนพลสมทบ
ด้านนางวราภรณ์ เกิดทรัพย์ พันธมิตรฯภูเก็ต กล่าวว่า ในส่วนของกลุ่มพันธมิตรฯภูเก็ตนั้น ก็ได้เดินทางไปร่วมชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลปล่อยตัว 2 แกนนำพันธมิตรฯอย่างไม่มีเงื่อนไขด้วยแน่นอน เนื่องจากเห็นว่าการจับกุม 2 แกนนำไม่มีความเป็นธรรม เป็นการปฏิบัติที่ไม่เท่าเทียมกันกับอดีตนายกรัฐมนตรีขายชาติ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่มีหมายจับเหมือนกัน แต่ทางตำรวจกลับไม่มีการดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น ยังปล่อยให้อดีตนายกฯและครอบครัวอยู่อย่างสุขสบายที่ต่างประเทศ แต่ในทางกลับกันมีการจับกุมตัวแกนนำพันธมิตรฯ
หลังจากทราบข่าวการจับกุม 2 แกนนำพันธมิตรฯทำให้ขณะนี้ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต กลุ่มพันธมิตรฯได้ตื่นตัวอย่างมาก มีบางส่วนได้ทยอยเดินทางไปแล้วทั้งทางรถยนต์ส่วนตัว สายการบินต่างๆ และรถทัวร์โดยสารประจำทาง และในวันที่ 8 ต.ค.นี้เวลา 07.00 น.จะมีพันธมิตรฯเดินทางตามไปสมทบอีกกว่า 100-200 คน เพราะทุกคนจะไม่ยอมให้แกนนำและพันธมิตรฯที่ทำเนียบฯต่อสู้เพียงลำพังแน่นอน เพราะทุกคนต้องเสียสละเพื่อชาติ” นางวราภรณ์ กล่าว
**พธม.กระบี่เชื่อใบสั่งจากต่างแดน
นายจเร แก้วสม ผู้ประสานพันธมิตรฯกระบี่ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าการจับนายไชยวัฒน์ และ พล.ต.จำลอง เป็นใบสั่งจากต่างประเทศ ไม่ได้เป็นความคิดของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เองเพียงฝ่ายเดียว อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าแกนนำพันธมิตรฯจะถูกจับอีกกี่คนทางกลุ่มพันธมิตรฯ กระบี่ก็จะสู้ไม่ถอย และพร้อมจะร่วมต่อสู้กับพันธมิตรฯส่วนกลาง ขุดรากถอนโคนรากเหง้าของทักษิณ ให้หมดไปจากประเทศไทยอย่างไม่ลดละความพยายามถึงแม้ว่าหนทางจะลำบากสักแค่ไหน เพราะการต่อสู้ในครั้งนี้ทางกลุ่มพันธมิตรฯไม่ได้ต่อสู้เพื่อตัวเองแต่จะตกไปสู่ลูกหลานให้อยู่เย็นเป็นสุขด้วย
“ผมเชื่อว่าการจับนายไชยวัฒน์ และ พล.ต.จำลอง เป็นใบสั่งจากทักษิณ แต่ก็นับถือน้ำใจที่ทั้ง 2 คนถูกจับแล้วก็ไม่ยอมประกันตัว ซึ่งต่างกับ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างสิ้นเชิงที่ต้องหนีหัวซุกหัวซุน แต่ผมเชื่อว่าความยุติธรรมมีจริง และทุกคนก็รักความยุติธรรม” นายจเร กล่าว และว่า
ในที่ประชุมของพันธมิตรฯกระบี่วานนี้ได้ข้อยุติว่า ทางกลุ่มจะรวมตัวกันเช่าเหมารถบัสเดินทางเข้ากรุงเทพฯ โดยเปลี่ยนแปลงกำหนดการเดิมที่จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ในวันที่ 10 ต.ค.เพื่อไปให้กำลังใจนายไชยวัฒน์ ที่ถูกจับไปก่อนหน้านี้แต่เมื่อ พล.ต.จำลอง ถูกจับก็ต้องเปลี่ยนแปลงกำหนดการขึ้นกรุงเทพฯเร็วขึ้น โดยได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯทันทีเมื่อเย็นวานนี้ (5 ต.ค.) โดยในเบื้องต้น ได้มีผู้ร่วมเดินทางไม่น้อยกว่า 100 คน และจะไปปักหลักร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯส่วนกลางอย่างไม่ถ้อถอย
“เป็นเรื่องที่น่าสงสัยมากว่าทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรีบจัดการกับกลุ่มพันธมิตรฯทั้งที่บุคคลอื่นที่อยู่ใกล้ชิดรัฐบาล มีความคดีติดตัวกันหลายคน แต่ทุกคนก็ยังลอยนวล ไม่มีการดำเนินการใดๆ จากรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงอยากจะเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอย่าเลือกปฏิบัติ เพราะกฎหมายไม่ได้มีไว้ใช้เฉพาะกลุ่มบุคคล แต่มีไว้เพื่อจัดการกับคนไม่ดีทุกคน” นายจเร กล่าวย้ำ
**สมัชชาฯจวกรบ.-ตร.ขาดมารยาท
ที่ จ.นครราชสีมา ทพ.ศุภผล เอี่ยมเมธาวี เลขาธิการสมัชชาประชาชนภาคอีสาน 19 จังหวัด พร้อมแกนนำสมัชชาประชาชนภาคอีสาน 19 จังหวัดได้มีการประชุมกำหนดมาตรการและวางแนวทางต่อสู้ของภาคประชาชน พร้อมกับออกแถลงการณ์ในสถานการณ์สู้รบ 2551 เรื่อง “การจับกุมนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ และ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ของรัฐบาลด้อยคุณภาพที่หน้าเนื้อใจเสือ”
ในแถลงการณ์ระบุว่า การจับกุมแกนนำดังกล่าวเป็นการเลือกปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ขาดความชอบธรรมและขาดมารยาท ทั้งอาจมิชอบด้วยกฎหมาย กล่าวคือ ขาดมารยาทเพราะทำการจับกุม ในขณะที่รอคำสั่งอุทธรณ์หมายจับของศาลอาญา อีกทั้งในขณะนี้ยังมีคดีสำคัญร้ายแรงกว่านี้อีกมาก แต่รัฐบาลแฟมิลี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และรัฐตำรวจกลับนิ่งเฉย ไม่ดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น เช่น กรณีมีหมายจับ 4 หมายของ พ.ต.ต.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีกับการเพิกถอนหนังสือเดินทาง และหมายจับของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภรรยา พ.ต.ท.ทักษิณ กระทั่งการดำเนินการในกรณีคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของ นายจักรภพ เพ็ญแข เป็นต้น
การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจครั้งนี้เกิดข้อสงสัย หรืออาจถือได้ว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ให้เกิดความวุ่นวาย เพื่อหวังให้เกิดผลกระทบต่อการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯและประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุมในทำเนียบรัฐบาล อันจะนำไปสู่การเคลื่อนไหว ของประชาชนทั่วประเทศ ที่รักความเป็นธรรม เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจและเป็นเหตุให้มีการสร้างเงื่อนไขเพื่อใช้ความรุนแรงเข้าปราบปราม สลายการชุมนุมของประชาชนเหมือนที่ผ่านมา
อันเป็นอีกเงื่อนไขหนึ่งที่ “ระบอบทักษิณ” และ “รัฐบาลน้องเขยปากว่าตาขยิบ” นี้จะสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายขึ้นจนกลายเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการบรรจุญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญของประธานสภาฯหรือสถานการณ์ชายแดน เรื่อง เขาพระวิหาร ซึ่งจะเป็นการสร้างความชอบธรรม ในการปราบปรามประชาชนให้แก่รัฐบาลขายชาติมือถือสากปากถือศีล นายสมชาย และสุดท้ายคือการเอื้อประโยชน์ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพรรคพวก ในที่สุด
**ปลุกคนอีสานเข้ากรุงตะเพิดรัฐบาล
สมัชชาประชาชนภาคอีสาน 19 จังหวัด จึงขอเตือนและเรียกร้องต่อรัฐตำรวจของระบอบทักษิณ ดังต่อไปนี้ 1.ให้รัฐบาลนายสมชาย โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการปล่อยตัว นายไชยวัฒน์ และ พล.ต.จำลอง ในทันทีโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ เพราะนายไชยวัฒน์ และ พล.ต.จำลอง ไม่เคยมีพฤติกรรมของกบฏ ดังที่ตำรวจกล่าวหาและยังได้เคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อ ปกป้องรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 มาโดยตลอด หรือว่าการปกป้องรัฐธรรมนูญคือ กบฏ ก็ขอให้รัฐบาลด้อยคุณภาพชุดนี้ บอกกล่าวประชาชนออกมาให้ชัดเจน
2.หากไม่มีการดำเนินการใดๆ ตามข้อ 1.ทางสมัชชาประชาชนภาคอีสานฯจะทำการเคลื่อนไหวโดยสันติอหิงสาในทุกรูปแบบ ตามขอบเขตของกฎหมาย ในขอบข่ายทั่วประเทศ ร่วมกับพี่น้องประชาชนในภาคใต้ ภาคเหนือและภาคกลาง ต่อไป
3.สมัชชาประชาชนภาคอีสานฯ ขอเรียกร้องประชาชนผู้รักความเป็นธรรมและรักชาติรักแผ่นดิน จงก้าวออกมาร่วมกันปกป้องบ้านเมืองและประเทศชาติ ให้รอดพ้นจากอุ้งมือมารของรัฐบาลขายชาติ หน้าเนื้อใจเสือ พูดอย่างทำอย่างแบบปากว่าตาขยิบชุดนี้
“แต่ละครอบครัว แต่ละอาชีพ จงช่วยกันบอกกล่าวเล่าข้อมูลรัฐบาลมือถือสากปากถือศีล และการคดโกงคอร์รัปชั่นของเหล่ารัฐมนตรีด้อยค่าเสียราคาทั้งหลาย จากปากต่อปาก มือสู่มือ บ้านต่อบ้าน จนกลายเป็นพลังประชาชนมหาศาลในการต่อสู้กับพวกทรราชเหล่านี้” แถลงการณ์ ระบุ
ทพ.ศุภผล กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ตลอดทั้งวานนี้สมัชชาประชาชนภาคอีสาน 19 จังหวัดและองค์กรเครือข่ายพันธมิตรฯทุกจังหวัดทั่วเพื่อภาคอีสาน ได้ระดมพี่น้องประชาชนเดินทางเข้ากรุงเทพฯให้มากที่สุดทั้งโดยรถยนต์ส่วนตัว รถตู้ รถบัสและรถไฟ เพื่อร่วมชุมนุมกดดันรัฐบาลที่ทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพฯ
**พธม.ศรีสะเกษจี้ปล่อย 2 แกนนำ
บ่ายวันเดียวกันที่โรงแรมเกษสิริ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายสุพล เพ็ชรรินทร์ แกนนำเครือข่ายพันธมิตรฯศรีสะเกษ พร้อมแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯศรีสะเกษ ประมาณ 30 คน ได้ประชุมร่วมกันเพื่อร่วมกันหาแนวทางในการที่จะชุมนุมใหญ่เรียกร้องให้รัฐบาลปล่อยตัว พล.ต.จำลอง และนายไชยวัฒน์ นอกจากนี้ ยังได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 8/2551 ในนามกลุ่มคนศรีสะเกษ สมัชชาประชาชนจังหวัดศรีสะเกษ โจมตีการทำงานของรัฐบาลไม่สามารถที่จะแก้ปัญหาของประเทศชาติได้
นายสุพล กล่าวว่า การที่รัฐบาลได้จับกุมตัว พล.ต.จำลอง และนายไชยวัฒน์ ทำให้พวกตนเห็นว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ตำรวจไปจับกุมตัว พล.ต.จำลอง ขณะที่ไปลงคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ถือว่า พล.ต.จำลอง เป็นนายทหารนักประชาธิปไตยที่ยิ่งใหญ่ของโลก แต่กลับมาถูกตำรวจฉวยโอกาสบุกเข้าจับกุมตัวไป
ดังนั้น พวกตนจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ปล่อยตัว พล.ต.จำลอง และนายไชยวัฒน์ ทันทีโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ เพราะว่าทั้ง 2 คนได้เคลื่อนไหวเพื่อปกป้องรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 โดยชอบธรรม และถ้าไม่มีการดำเนินการใด ๆ ดังกล่าวข้างต้น พวกตนจะนัดชุมนุมใหญ่และจะเคลื่อนไหวในทุกรูปแบบโดยสันติอหิงสาตามขอบเขตของกฎหมายต่อไป อีกทั้งขอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาเขาพระวิหารให้แล้วเสร็จโดยด่วนด้วย
**อัด"รบ.น้องเขยแม้ว”น้ำเน่าไหลลึก
นายนพสณฑ์ เสฏฐรังสี แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯชัยภูมิ และรองประธานสมัชชาประชาชนภาคอีสาน 19 จังหวัด เปิดเผยว่า แกนนำองค์กรเครือข่ายพันธมิตรฯ และสมัชชาประชาชนจังหวัดชัยภูมิ ได้ประสานงานหารือกันและกำหนดแนวทางการเคลื่อนไหวร่วมกันเรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ เนื่องจากการจับกุมดังกล่าวเป็นการเลือกปฏิบัติ ขาดความชอบธรรม เพราะยังอยู่ระหว่างการรอคำสั่งอุทธรณ์หมายจับของศาลอาญา และในทางกลับกันคดีที่ร้ายแรง กรณีออกหมายจับของ พ.ต.ต.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร รวมถึงคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ของนายจักรภพ เพ็ญแข กลับเงียบเฉยไม่มีความคืบหน้าในการดำเนินการใดๆ จากรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจ
"แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าถึงแม้ภาพลักษณ์ภาพนอกของรัฐบาลน้องเขยทักษิณ ที่จะไม่บู๊ล้างผลาญเหมือนรัฐบาลสมัคร แต่เป็นรัฐบาลน้ำเน่าไหลลึกไม่แตกต่างจากรัฐบาลทรราชนอมินีชุดเดิมเลยแม้แต่น้อย" นายนพสณฑ์ กล่าว และว่า
แกนนำองค์กรเครือข่ายพันธมิตรฯ ทุกองค์กรใน จ.ชัยภูมิ ต่างเห็นพ้องกันว่า จะเคลื่อนไหวระดมพลเข้าปักหลักชุมนุมร่วมกับพันธมิตรฯทั่วประเทศที่ทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพฯ ให้มากที่สุด เพื่อแสดงพลังบริสุทธิ์ที่แท้จริง และพร้อมเสียสละทุกรูปแบบเพื่อปกป้องสถาบัน ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ รวมทั้งร่วมกันสร้างการเมืองใหม่ ขับไล่รัฐบาลที่มาจากระบอบทักษิณอันชั่วร้าย ไม่เช่นนั้นการเมืองไทยก็ยังคงวนเวียนในแบบเก่าๆ คดโกง คอร์รัปชัน เห็นประโยชน์แก่พวกพ้องตน ไม่สนใจ และมีความจริงใจแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน ปัญหาประเทศอย่างจริงจัง ไม่มีที่สิ้นสุด
**คนขอนแก่นเดือดเข้าร่วมทำเนียบฯ
ส่วนที่ จ.ขอนแก่น ภายหลังข่าว พล.ต.จำลอง ถูกจับกุมสะพัดออกไป ได้มีการเคลื่อนไหวของเครือข่ายพันธมิตรฯในพื้นที่ จ.ขอนแก่นและใกล้เคียงอย่างคึกคัก ทั้งนี้ เนื่องจากไม่พอใจที่ พล.ต.จำลอง ถูกจับด้วยข้อกล่าวหาที่ไม่มีข้อเท็จจริง หลังจากเมื่อ 2 วันก่อนนายไชยวัฒน์ ถูกดักจับไปแล้ว โดยได้มีการเคลื่อนขบวนเข้ากรุงเทพฯอย่างต่อเนื่องเพื่อสมทบกับพันธมิตรฯส่วนกลางที่ทำเนียบรัฐบาล
ขณะเดียวกันได้มีเจ้าของกิจการ นักธุรกิจใน จ.ขอนแก่น หลายรายได้ยื่นความจำนงที่จะออกค่าใช้จ่ายเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับชาวพันธมิตรฯ ขอนแก่น เดินทางเข้าร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะบริษัทรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่แห่งหนึ่งแจ้งว่า พร้อมให้การสนับสนุนเหมาตั๋วรถบัสประจำทาง หรือเหมารถบริการให้อย่าง “ไม่อั้น” เพราะต้องการมีส่วนร่วมในการสร้างการเมืองใหม่ ขับไล่รัฐบาลที่มาจากระบอบทักษิณ ซึ่งบริหารประเทศเพียงเพราะประโยชน์ของพวกพ้องและปกป้องผลประโยชน์ให้กับตระกูลชินวัตร
**พธม.เหนือระดมพลร่วมชุมนุม กทม.
นายสมโชค จันทร์ทอง ผู้ประสานงานองค์กรสัมพันธ์การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเหมืองแม่เมาะ จ.ลำปาง ในฐานะเลขาธิการแกนนำพันธมิตรฯภาคเหนือ กล่าวว่า หลังเจ้าหน้าที่จับกุมตัว พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ซึ่งถือเป็นแกนนำพันธมิตรฯ คนสำคัญในระหว่างที่ศาลอุทธรณ์ได้รับคำร้องไตร่สวนเพิกถอนข้อหากบฎไว้แล้ว รวมทั้งอยู่ในขั้นของการเจรจา ถือเป็นการกลั่นแกล้งกัน ส่งผลให้พันธมิตรฯภาคเหนือโกธรแค้นมาก เพราะรัฐบาลบิดพลิ้วและหักหลัง
“แรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าฝ่ายผลิต การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และพันธมิตร 17 จังหวัดภาคเหนือจึงต้องเดินทางมุ่งหน้าไปร่วมชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพฯ โดยได้เดินทางเข้ามาแล้วตั้งแต่บ่ายวานนี้ (5) ซึ่งเป็นการเดินทางโดยรถส่วนตัว เครื่องบิน รวมถึงการจัดรถตู้มาบริการรับสมาชิกพันธมิตรฯที่ต้องการร่วมเดินทางเข้ากรุงเทพฯในครั้งนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม คาดว่าใน 1-2 วันนี้จะมีพันธมิตรฯจาก 17 จังหวัดภาคเหนือหลายพันคนเดินทางไปร่วมชุมนุมใหญ่กันอย่างหนาแน่น จึงขอให้ตำรวจ-ทหารได้ช่วยเปิดทางคุ้มครองไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามเข้ามาทำร้ายระหว่างเดินทางด้วย ซึ่งผมเองคาดว่าต้องมีแน่นอน” นายสมโชค กล่าว
ด้านนายสมเกียรติ โสภณพงศ์พิพัฒน์ แกนนำพันธมิตรฯภาคเหนือตอนล่าง 9 จังหวัด และสมัชชาประชาชนภาคเหนือตอนล่าง ก็ได้สั่งเครือข่ายพันธมิตรฯ ทุกจังหวัดให้ระดมพลเข้ากรุงเทพฯโดยด่วนเช่นกัน อย่างน้อยไม่ต่ำกว่าจังหวัดละ 200 คน
**เมียทหารแหกค่ายชุมนุมทำเนียบฯ
ส่วนที่ จ.ชลบุรี เหล่าพันธมิตรฯได้มารวมตัวกันหลายแห่งเพื่อเดินทางเข้าร่วมชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล ส่วนมากเป็นพ่อค้า แม่ค้า ครอบครัวข้าราชการทหารเรือ ทำให้บรรยากาศใน จ.ชลบุรี โดยเฉพาะในตลาดสัตหีบ อ.สัตหีบ เงียบไปอย่างสิ้นเชิง เพราะพ่อค้า แม่ค้า เจ้าของกิจการร้านขายของส่วนมากเป็นพันธมิตรฯที่เป็น “ลูกจีนรักชาติ”ไม่พอใจอย่างมากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุม 2 แกนนำโดยมิชอบในข้อหากบฏ และกลุ่มพันธมิตรฯ สัตหีบได้บอกว่าถ้าการกู้ชาติเป็นพวกกบฏ พวกตนก็พร้อมที่จะเป็นกบฏเพื่อกู้ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และพร้อมที่จะต่อต้านการกระทำของภาครัฐที่ให้การสนับสนุนรัฐบาลชั่วร้าย
แหล่งข่าวเผยว่า สำหรับในพื้นที่ อ.สัตหีบ ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ทางด้านการทหาร มีเพียงครอบครัวเท่านั้นที่แหกด่านแหกค่ายหนีสามีไปกู้ชาติในทำเนียบรัฐบาล และเท่าที่ทราบเป็นการยินยอมและให้การสนับสนุนภรรยาจากสามี เพราะข้าราชการทหารส่วนมากไม่เห็นชอบในเรื่องของการเสียดินแดน เสียเอกภาพในความเป็นไทย โดยไม่ได้มีการวัดพลังอำนาจในทุกด้านทางการทหาร หรือการเสียดินแดนไปโดยที่ไม่มีการรบ ซึ่งถือว่าทหารถูกเหยียดหยาม ไร้ค่า เพราะไม่มีแผ่นดินใดในโลกนี้ที่เสียดินแดนโดยไม่การสูญเสียกำลังทหารและประชาชน มีเมืองไทยในยุคนี้เท่านั้นที่เสียดินแดน หรือเสียสิทธิทางทหารไปโดยไม่มีการวัดสรรพกำลังทางทหารกับกัมพูชา
**พธม.ปราจีนฯขนคน10คันรถสมทบ
นายสำรวย ปัญสารท แกนนำเครือข่ายพันมิตรฯ ปราจีนบุรี กล่าวว่า ทางแกนนำพันธมิตรฯปราจีนบุรี เรียกร้องขอให้ประชาชนออกมารวมตัวเคลื่อนไหวเข้าร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯ ร่วมกับจังหวัดอื่น ๆ โดยได้จัดรถไว้บริการประชาชนให้เดินทางประกอบด้วย จาก อ.กบินทร์บุรี รวม 3 คัน และจากข้างศาลพระหลักเมือง อ.เมืองปราจีนบุรีอีก 7 คัน
นอกจากนี้ ยังมีเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวและรถไฟโดยสารอย่างต่อเนื่องมากกว่า 100 คน ก่อนมาสมทบกันที่ทำเนียบรัฐบาลเป็นวันแรก โดยในวันนี้ (6 ต.ค.) จะมีการเดินทางเข้าร่วมชุมนุมโดยใช้ขบวนรถไฟโดยสารมากว่าในวันแรกนี้ พร้อมๆกับการเดินทางโดยรถตู้ ที่จะเริ่มออกเดินทางตั้งแต่เช้าเป็นต้นไป
ด้านนายณัฐวุฒิ เชษฐ์วงศ์ แกนนำพันธมิตรฯปราจีนบุรีอีกคน กล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนในปราจีนบุรีกำลังเดินทางเข้าไปยังทำเนียบฯอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะมีประชาชนไปรวมกันตัวเป็นจำนวนมากอย่างแน่นอน เพราะพันธมิตรฯ จะถอยไม่ได้อีกแล้ว โดยจะต้องออกมากดดันหรือตอบโต้การกระทำในครั้งนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในส่วนความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรีได้มีการระดมกำลังจากทุกโรงพักเดินทางเข้ากรุงเทพฯก่อนหน้านี้เช่นกันเพื่ออำนวยการรักษาความเรียบร้อย
**พธม.สระแก้วกว่า 700 คนมาแล้ว
ทางด้านนายอัมรินทร์ ยี่เฮง แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯสระแก้ว เผยว่า หลังจากทราบข่าว พล.ต.จำลอง ถูกจับกุม กลุ่มพันธมิตรฯสระแก้วต่างทยอยเดินทางเข้าเมืองหลวงเพื่อร่วมชุมนุมใหญ่ที่หน้าทำเนียบรัฐบาลเป็นจำนวนมาก โดยมีทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตตัวเมืองสระแก้ว อ.อรัญประเทศ รวมถึงข้าราชการครูในเขตอำเภอวังน้ำเย็น ต่างเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว และรถบัสประจำทางกันแล้วตั้งแต่ทราบข่าว ซึ่งประเมินจำนวนประชาชนชาวสระแก้วที่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ แล้วประมาณ 600-700 คน เพื่อไปให้กำลังใจแกนนำพันธมิตรฯคนสำคัญ เพราะสิ่งที่ พล.ต.จำลอง ได้กระทำนั้นแสดงให้เห็นถึงคำว่า “นักประชาธิปไตย” ตัวจริง
“ในวันนี้ (6 ต.ค.) ทางกลุ่มได้มีการพูดคุยถึงการเดินทางเข้าร่วมชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล และจะได้เดินทางไปให้กำลังใจ พล.ต.จำลอง ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 เพื่อนำอาหารและเครื่องดื่มเข้าเยี่ยมและให้กำลังใจอย่างใกล้ชิด และจากการสอบถามพบว่าการเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ในครั้งนี้ไม่มีการขัดขวางของเจ้าหน้าที่ตำรวจเลยแม้แต่น้อย
เช่นเดียวกับ จ.กาญจนบุรี เครือข่ายพันธมิตรฯแต่ละอำเภอ ได้ทยอยมายังจุดนัดหมาย เช่น อ.ท่าม่วง รวมตัวกันที่หน้าตลาดท่าม่วง อ.เมือง ที่ศาลาขุนแผน หน้าหลักเมือง และ อ.ท่ามะกา บริเวณตลาดลูกแก จากนั้นได้ทยอยเดินทางเข้า กทม. ทั้งด้วยรถยนต์ส่วนตัวและรถโดยสารประจำทาง รวมทั้งรถตู้ที่กลุ่มพันธมิตรฯ จัดไว้ เพื่อเคลื่อนไหวในจุดมุ่งหมายเดียวกัน
กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทั่วทุกภาคจำนวนมาก ได้มีการเคลื่อนไหวเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯส่วนกลางที่ทำเนียบรัฐบาลและบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ทันทีที่ข่าวการจับกุม พล.ต.จำลอง ศรีเมือง 1 ใน 9 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในข้อหากบฏต่อฝ่ายรัฐบาล หลังจากไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เมื่อเช้าวานนี้ (5 ต.ค.) ได้แพร่สะพัดออกไป ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการจับกุมนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ 1 ใน 9 แกนนำพันธมิตรฯในข้อหาเดียวกันไปแล้วคนหนึ่ง
**พธม.ใต้เข้ากรุงลั่นพร้อมแตกหัก!
เริ่มที่ความเคลื่อนไหวกลุ่มพันธมิตรฯสงขลา ทางแกนนำได้เรียกประชุมด่วนทันทีที่ลานการเมืองภาคประชาชน หน้าสถานีรถไฟหาดใหญ่ ก่อนจะมีมติรวบรวมอาสาสมัครพันธมิตรฯเดินทางขึ้นกรุงเทพฯด้วยรถไฟขบวนที่ 172 สุไหงโก-ลก-กรุงเทพฯอย่างน้อย 2 โบกี้ ซึ่งได้ออกจากสถานีหาดใหญ่ในเวลา 15.26 น.เพื่อไปร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯทั่วประเทศที่ทำเนียบรัฐบาล เช่นเดียวกับกลุ่มพันธมิตรฯทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งได้ทยอยเดินทางขึ้นไปร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯในวันเดียวกัน
นายสุนทร รักษ์รงค์ แกนนำพันธมิตรฯชุมพรและผู้ประสานงานพันธมิตรฯ 14 จังหวัดภาคใต้ กล่าวว่า ขณะนี้มีพันธมิตรฯและประชาชนจากภาคใต้ไม่ต่ำกว่า 10,000 คน ทยอยเดินทางเข้าไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯที่ทำเนียบรัฐบาลแล้ว เพื่อกดดันให้รัฐบาลปล่อย พล.ต.ต.จำลอง และนายไชยวัฒน์ อย่างไม่มีเงื่อนไข ถ้าไม่มีการปล่อยตัว 2 แกนนำตามข้อเรียกร้อง พันธมิตรฯทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้จะไม่รับประกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งอาจเป็นเหมือนเหตุการณ์วันที่ 6 ตุลาคม 2519 และวันที่ 14 ตุลาคม 2516 เพราะคิดว่าคงถึงเวลาของการแตกหักระหว่างรัฐบาลกับพันธมิตรฯ แล้ว
นายสุนทร กล่าวต่อว่า หลังจาก พล.ต.จำลอง ถูกจับกุมขณะไปใช้สิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.แกนนำพันธมิตรฯ 14 จังหวัดภาคใต้ได้มีการโทรศัพท์ติดต่อพูดคุยปรึกษาหารือกันแล้วมีมติว่า จะมีการระดมคนจาก 14 จังหวัดภาคใต้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ตั้งแต่วานนี้ (5 ต.ค.) เป็นต้นไปใครปลูกยางก็ขอให้หยุดการตัดยางไว้ก่อน ใครทำงานอะไรก็ขอให้หยุดพักไว้ก่อน เพราะสิ่งที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ในขณะนี้คงต้องการเห็นว่าจะมีคนเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯที่ทำเนียบรัฐบาลเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหน
นายโอสถ สุวรรณเศวต แกนนำพันธมิตรฯนครศรีธรรมราช กรรมการพันธมิตรฯ14 จังหวัดใต้ เผยว่า ตามกำหนดการเดิมวันที่ 6 ต.ค.นี้พันธมิตร 14 จังหวัดใต้จะมีการประชุมกันที่ จ.นครศรีธรรมราช แต่ได้ปรับแผนทันทีหลังจากที่ พล.ต.จำลอง ถูกจับโดยหันมารวมพลประชาชนเข้ากรุงเทพฯแทนเพื่อร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯทั่วประเทศ และนับตั้งแต่วันนี้พันะมิตรฯภาคใต้จะมีการเดินทางตามหลังไปสมทบอย่างต่อเนื่อง
ส่วนที่มีความเป็นห่วงว่าจะมีการปิดถนน ปิดสนามบิน หรือสถานที่ราชการอื่นๆ เพื่อประท้วงการจับกุม พล.ต.จำลองนั้น ขอยืนยันว่าได้มีการประสานงานกันเป็นการภายในแล้วว่าจะไม่มีการปิดสถานที่ใดๆ ทั้งสิ้นเป้าหมายในการเดินทางนั้นคือที่ทำเนียบรัฐบาลเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
“การเดินทางไปครั้งนี้เราเชื่อว่าทุกคนพร้อมที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของการต่อสู้โดยประชาชน ซึ่งผู้ที่เดินทางไปนั้นเชื่อว่าพร้อมที่จะรับกับสถานการณ์ทุกรูปแบบที่อาจเกิดขึ้นได้ เพราะในเวลานี้รัฐบาลไม่สามารถเชื่ออะไรได้เลย ปากพูดว่าสมานฉันท์แต่ในความเป็นจริงนั้นพร้อมที่จะลุยกับพันธมิตรฯ ทุกเมื่อ ดังนั้น การพุดคุยเจรจาของ พล.อ.ชวลิต หรือใครก็ตารมพันธมิตรฯ ใต้ไม่เชื่อน้ำยาอย่างเด็ดขาด แนวของ พล.อ.ชวลิตหลายครั้งที่ผ่านมาสวยหรูอลังการ แต่ท้ายที่สุดเละทุกที พันธมิตรฯ ภาคใต้พร้อมแลกทุกอย่างกับความถูกต้องและความเป็นธรรม รวมทั้งประเทศไทยต้องปราศจากนักการเมืองโกงชาติ ขายชาติกินบ้านกินเมือง” นายโอสถกล่าว
**รถไฟหาดใหญ่ยันไม่หยุดเดินรถ
นายสุพิเชษฐ สุวรรณชาตรี ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย สาขาหาดใหญ่ เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการจับกุม พล.ต.จำลอง ในส่วนของสหภาพรถไฟแห่งประเทศไทยยังไม่มีมติหรือคำสั่งให้เคลื่อนไหวแต่อย่างใด ขณะนี้พนักงานทุกส่วนยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ และรถไฟสายใต้ยังคงให้บริการทุกขบวนจะไม่มีการหยุดเดินรถ เนื่องจากไม่ต้องการสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนผู้ใช้บริการ
แต่ยอมรับว่าทางแกนนำสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟ สาขาหาดใหญ่ ส่วนหนึ่งจะร่วมเดินทางขึ้นไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯที่ทำเนียบรัฐบาล ร่วมกับอาสาสมัครพันธมิตรฯ สงขลา ในขณะที่แกนนำอีกส่วนหนึ่งจะยังคงปักหลักเคลื่อนไหวโดยการเปิดเวทีที่หน้าสถานีหาดใหญ่ต่อไป ที่สำคัญหลังจากนี้ทางกลุ่มพันธมิตรฯจะทยอยเดินทางขึ้นกรุงเทพฯ ด้วยขบวนรถไฟในทุกๆ วัน
**พันธมิตรฯภูเก็ตเคลื่อนพลสมทบ
ด้านนางวราภรณ์ เกิดทรัพย์ พันธมิตรฯภูเก็ต กล่าวว่า ในส่วนของกลุ่มพันธมิตรฯภูเก็ตนั้น ก็ได้เดินทางไปร่วมชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลปล่อยตัว 2 แกนนำพันธมิตรฯอย่างไม่มีเงื่อนไขด้วยแน่นอน เนื่องจากเห็นว่าการจับกุม 2 แกนนำไม่มีความเป็นธรรม เป็นการปฏิบัติที่ไม่เท่าเทียมกันกับอดีตนายกรัฐมนตรีขายชาติ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่มีหมายจับเหมือนกัน แต่ทางตำรวจกลับไม่มีการดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น ยังปล่อยให้อดีตนายกฯและครอบครัวอยู่อย่างสุขสบายที่ต่างประเทศ แต่ในทางกลับกันมีการจับกุมตัวแกนนำพันธมิตรฯ
หลังจากทราบข่าวการจับกุม 2 แกนนำพันธมิตรฯทำให้ขณะนี้ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต กลุ่มพันธมิตรฯได้ตื่นตัวอย่างมาก มีบางส่วนได้ทยอยเดินทางไปแล้วทั้งทางรถยนต์ส่วนตัว สายการบินต่างๆ และรถทัวร์โดยสารประจำทาง และในวันที่ 8 ต.ค.นี้เวลา 07.00 น.จะมีพันธมิตรฯเดินทางตามไปสมทบอีกกว่า 100-200 คน เพราะทุกคนจะไม่ยอมให้แกนนำและพันธมิตรฯที่ทำเนียบฯต่อสู้เพียงลำพังแน่นอน เพราะทุกคนต้องเสียสละเพื่อชาติ” นางวราภรณ์ กล่าว
**พธม.กระบี่เชื่อใบสั่งจากต่างแดน
นายจเร แก้วสม ผู้ประสานพันธมิตรฯกระบี่ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าการจับนายไชยวัฒน์ และ พล.ต.จำลอง เป็นใบสั่งจากต่างประเทศ ไม่ได้เป็นความคิดของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เองเพียงฝ่ายเดียว อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าแกนนำพันธมิตรฯจะถูกจับอีกกี่คนทางกลุ่มพันธมิตรฯ กระบี่ก็จะสู้ไม่ถอย และพร้อมจะร่วมต่อสู้กับพันธมิตรฯส่วนกลาง ขุดรากถอนโคนรากเหง้าของทักษิณ ให้หมดไปจากประเทศไทยอย่างไม่ลดละความพยายามถึงแม้ว่าหนทางจะลำบากสักแค่ไหน เพราะการต่อสู้ในครั้งนี้ทางกลุ่มพันธมิตรฯไม่ได้ต่อสู้เพื่อตัวเองแต่จะตกไปสู่ลูกหลานให้อยู่เย็นเป็นสุขด้วย
“ผมเชื่อว่าการจับนายไชยวัฒน์ และ พล.ต.จำลอง เป็นใบสั่งจากทักษิณ แต่ก็นับถือน้ำใจที่ทั้ง 2 คนถูกจับแล้วก็ไม่ยอมประกันตัว ซึ่งต่างกับ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างสิ้นเชิงที่ต้องหนีหัวซุกหัวซุน แต่ผมเชื่อว่าความยุติธรรมมีจริง และทุกคนก็รักความยุติธรรม” นายจเร กล่าว และว่า
ในที่ประชุมของพันธมิตรฯกระบี่วานนี้ได้ข้อยุติว่า ทางกลุ่มจะรวมตัวกันเช่าเหมารถบัสเดินทางเข้ากรุงเทพฯ โดยเปลี่ยนแปลงกำหนดการเดิมที่จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ในวันที่ 10 ต.ค.เพื่อไปให้กำลังใจนายไชยวัฒน์ ที่ถูกจับไปก่อนหน้านี้แต่เมื่อ พล.ต.จำลอง ถูกจับก็ต้องเปลี่ยนแปลงกำหนดการขึ้นกรุงเทพฯเร็วขึ้น โดยได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯทันทีเมื่อเย็นวานนี้ (5 ต.ค.) โดยในเบื้องต้น ได้มีผู้ร่วมเดินทางไม่น้อยกว่า 100 คน และจะไปปักหลักร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯส่วนกลางอย่างไม่ถ้อถอย
“เป็นเรื่องที่น่าสงสัยมากว่าทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรีบจัดการกับกลุ่มพันธมิตรฯทั้งที่บุคคลอื่นที่อยู่ใกล้ชิดรัฐบาล มีความคดีติดตัวกันหลายคน แต่ทุกคนก็ยังลอยนวล ไม่มีการดำเนินการใดๆ จากรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงอยากจะเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอย่าเลือกปฏิบัติ เพราะกฎหมายไม่ได้มีไว้ใช้เฉพาะกลุ่มบุคคล แต่มีไว้เพื่อจัดการกับคนไม่ดีทุกคน” นายจเร กล่าวย้ำ
**สมัชชาฯจวกรบ.-ตร.ขาดมารยาท
ที่ จ.นครราชสีมา ทพ.ศุภผล เอี่ยมเมธาวี เลขาธิการสมัชชาประชาชนภาคอีสาน 19 จังหวัด พร้อมแกนนำสมัชชาประชาชนภาคอีสาน 19 จังหวัดได้มีการประชุมกำหนดมาตรการและวางแนวทางต่อสู้ของภาคประชาชน พร้อมกับออกแถลงการณ์ในสถานการณ์สู้รบ 2551 เรื่อง “การจับกุมนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ และ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ของรัฐบาลด้อยคุณภาพที่หน้าเนื้อใจเสือ”
ในแถลงการณ์ระบุว่า การจับกุมแกนนำดังกล่าวเป็นการเลือกปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ขาดความชอบธรรมและขาดมารยาท ทั้งอาจมิชอบด้วยกฎหมาย กล่าวคือ ขาดมารยาทเพราะทำการจับกุม ในขณะที่รอคำสั่งอุทธรณ์หมายจับของศาลอาญา อีกทั้งในขณะนี้ยังมีคดีสำคัญร้ายแรงกว่านี้อีกมาก แต่รัฐบาลแฟมิลี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และรัฐตำรวจกลับนิ่งเฉย ไม่ดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น เช่น กรณีมีหมายจับ 4 หมายของ พ.ต.ต.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีกับการเพิกถอนหนังสือเดินทาง และหมายจับของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภรรยา พ.ต.ท.ทักษิณ กระทั่งการดำเนินการในกรณีคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของ นายจักรภพ เพ็ญแข เป็นต้น
การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจครั้งนี้เกิดข้อสงสัย หรืออาจถือได้ว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ให้เกิดความวุ่นวาย เพื่อหวังให้เกิดผลกระทบต่อการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯและประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุมในทำเนียบรัฐบาล อันจะนำไปสู่การเคลื่อนไหว ของประชาชนทั่วประเทศ ที่รักความเป็นธรรม เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจและเป็นเหตุให้มีการสร้างเงื่อนไขเพื่อใช้ความรุนแรงเข้าปราบปราม สลายการชุมนุมของประชาชนเหมือนที่ผ่านมา
อันเป็นอีกเงื่อนไขหนึ่งที่ “ระบอบทักษิณ” และ “รัฐบาลน้องเขยปากว่าตาขยิบ” นี้จะสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายขึ้นจนกลายเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการบรรจุญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญของประธานสภาฯหรือสถานการณ์ชายแดน เรื่อง เขาพระวิหาร ซึ่งจะเป็นการสร้างความชอบธรรม ในการปราบปรามประชาชนให้แก่รัฐบาลขายชาติมือถือสากปากถือศีล นายสมชาย และสุดท้ายคือการเอื้อประโยชน์ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพรรคพวก ในที่สุด
**ปลุกคนอีสานเข้ากรุงตะเพิดรัฐบาล
สมัชชาประชาชนภาคอีสาน 19 จังหวัด จึงขอเตือนและเรียกร้องต่อรัฐตำรวจของระบอบทักษิณ ดังต่อไปนี้ 1.ให้รัฐบาลนายสมชาย โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการปล่อยตัว นายไชยวัฒน์ และ พล.ต.จำลอง ในทันทีโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ เพราะนายไชยวัฒน์ และ พล.ต.จำลอง ไม่เคยมีพฤติกรรมของกบฏ ดังที่ตำรวจกล่าวหาและยังได้เคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อ ปกป้องรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 มาโดยตลอด หรือว่าการปกป้องรัฐธรรมนูญคือ กบฏ ก็ขอให้รัฐบาลด้อยคุณภาพชุดนี้ บอกกล่าวประชาชนออกมาให้ชัดเจน
2.หากไม่มีการดำเนินการใดๆ ตามข้อ 1.ทางสมัชชาประชาชนภาคอีสานฯจะทำการเคลื่อนไหวโดยสันติอหิงสาในทุกรูปแบบ ตามขอบเขตของกฎหมาย ในขอบข่ายทั่วประเทศ ร่วมกับพี่น้องประชาชนในภาคใต้ ภาคเหนือและภาคกลาง ต่อไป
3.สมัชชาประชาชนภาคอีสานฯ ขอเรียกร้องประชาชนผู้รักความเป็นธรรมและรักชาติรักแผ่นดิน จงก้าวออกมาร่วมกันปกป้องบ้านเมืองและประเทศชาติ ให้รอดพ้นจากอุ้งมือมารของรัฐบาลขายชาติ หน้าเนื้อใจเสือ พูดอย่างทำอย่างแบบปากว่าตาขยิบชุดนี้
“แต่ละครอบครัว แต่ละอาชีพ จงช่วยกันบอกกล่าวเล่าข้อมูลรัฐบาลมือถือสากปากถือศีล และการคดโกงคอร์รัปชั่นของเหล่ารัฐมนตรีด้อยค่าเสียราคาทั้งหลาย จากปากต่อปาก มือสู่มือ บ้านต่อบ้าน จนกลายเป็นพลังประชาชนมหาศาลในการต่อสู้กับพวกทรราชเหล่านี้” แถลงการณ์ ระบุ
ทพ.ศุภผล กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ตลอดทั้งวานนี้สมัชชาประชาชนภาคอีสาน 19 จังหวัดและองค์กรเครือข่ายพันธมิตรฯทุกจังหวัดทั่วเพื่อภาคอีสาน ได้ระดมพี่น้องประชาชนเดินทางเข้ากรุงเทพฯให้มากที่สุดทั้งโดยรถยนต์ส่วนตัว รถตู้ รถบัสและรถไฟ เพื่อร่วมชุมนุมกดดันรัฐบาลที่ทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพฯ
**พธม.ศรีสะเกษจี้ปล่อย 2 แกนนำ
บ่ายวันเดียวกันที่โรงแรมเกษสิริ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายสุพล เพ็ชรรินทร์ แกนนำเครือข่ายพันธมิตรฯศรีสะเกษ พร้อมแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯศรีสะเกษ ประมาณ 30 คน ได้ประชุมร่วมกันเพื่อร่วมกันหาแนวทางในการที่จะชุมนุมใหญ่เรียกร้องให้รัฐบาลปล่อยตัว พล.ต.จำลอง และนายไชยวัฒน์ นอกจากนี้ ยังได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 8/2551 ในนามกลุ่มคนศรีสะเกษ สมัชชาประชาชนจังหวัดศรีสะเกษ โจมตีการทำงานของรัฐบาลไม่สามารถที่จะแก้ปัญหาของประเทศชาติได้
นายสุพล กล่าวว่า การที่รัฐบาลได้จับกุมตัว พล.ต.จำลอง และนายไชยวัฒน์ ทำให้พวกตนเห็นว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ตำรวจไปจับกุมตัว พล.ต.จำลอง ขณะที่ไปลงคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ถือว่า พล.ต.จำลอง เป็นนายทหารนักประชาธิปไตยที่ยิ่งใหญ่ของโลก แต่กลับมาถูกตำรวจฉวยโอกาสบุกเข้าจับกุมตัวไป
ดังนั้น พวกตนจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ปล่อยตัว พล.ต.จำลอง และนายไชยวัฒน์ ทันทีโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ เพราะว่าทั้ง 2 คนได้เคลื่อนไหวเพื่อปกป้องรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 โดยชอบธรรม และถ้าไม่มีการดำเนินการใด ๆ ดังกล่าวข้างต้น พวกตนจะนัดชุมนุมใหญ่และจะเคลื่อนไหวในทุกรูปแบบโดยสันติอหิงสาตามขอบเขตของกฎหมายต่อไป อีกทั้งขอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาเขาพระวิหารให้แล้วเสร็จโดยด่วนด้วย
**อัด"รบ.น้องเขยแม้ว”น้ำเน่าไหลลึก
นายนพสณฑ์ เสฏฐรังสี แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯชัยภูมิ และรองประธานสมัชชาประชาชนภาคอีสาน 19 จังหวัด เปิดเผยว่า แกนนำองค์กรเครือข่ายพันธมิตรฯ และสมัชชาประชาชนจังหวัดชัยภูมิ ได้ประสานงานหารือกันและกำหนดแนวทางการเคลื่อนไหวร่วมกันเรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ เนื่องจากการจับกุมดังกล่าวเป็นการเลือกปฏิบัติ ขาดความชอบธรรม เพราะยังอยู่ระหว่างการรอคำสั่งอุทธรณ์หมายจับของศาลอาญา และในทางกลับกันคดีที่ร้ายแรง กรณีออกหมายจับของ พ.ต.ต.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร รวมถึงคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ของนายจักรภพ เพ็ญแข กลับเงียบเฉยไม่มีความคืบหน้าในการดำเนินการใดๆ จากรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจ
"แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าถึงแม้ภาพลักษณ์ภาพนอกของรัฐบาลน้องเขยทักษิณ ที่จะไม่บู๊ล้างผลาญเหมือนรัฐบาลสมัคร แต่เป็นรัฐบาลน้ำเน่าไหลลึกไม่แตกต่างจากรัฐบาลทรราชนอมินีชุดเดิมเลยแม้แต่น้อย" นายนพสณฑ์ กล่าว และว่า
แกนนำองค์กรเครือข่ายพันธมิตรฯ ทุกองค์กรใน จ.ชัยภูมิ ต่างเห็นพ้องกันว่า จะเคลื่อนไหวระดมพลเข้าปักหลักชุมนุมร่วมกับพันธมิตรฯทั่วประเทศที่ทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพฯ ให้มากที่สุด เพื่อแสดงพลังบริสุทธิ์ที่แท้จริง และพร้อมเสียสละทุกรูปแบบเพื่อปกป้องสถาบัน ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ รวมทั้งร่วมกันสร้างการเมืองใหม่ ขับไล่รัฐบาลที่มาจากระบอบทักษิณอันชั่วร้าย ไม่เช่นนั้นการเมืองไทยก็ยังคงวนเวียนในแบบเก่าๆ คดโกง คอร์รัปชัน เห็นประโยชน์แก่พวกพ้องตน ไม่สนใจ และมีความจริงใจแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน ปัญหาประเทศอย่างจริงจัง ไม่มีที่สิ้นสุด
**คนขอนแก่นเดือดเข้าร่วมทำเนียบฯ
ส่วนที่ จ.ขอนแก่น ภายหลังข่าว พล.ต.จำลอง ถูกจับกุมสะพัดออกไป ได้มีการเคลื่อนไหวของเครือข่ายพันธมิตรฯในพื้นที่ จ.ขอนแก่นและใกล้เคียงอย่างคึกคัก ทั้งนี้ เนื่องจากไม่พอใจที่ พล.ต.จำลอง ถูกจับด้วยข้อกล่าวหาที่ไม่มีข้อเท็จจริง หลังจากเมื่อ 2 วันก่อนนายไชยวัฒน์ ถูกดักจับไปแล้ว โดยได้มีการเคลื่อนขบวนเข้ากรุงเทพฯอย่างต่อเนื่องเพื่อสมทบกับพันธมิตรฯส่วนกลางที่ทำเนียบรัฐบาล
ขณะเดียวกันได้มีเจ้าของกิจการ นักธุรกิจใน จ.ขอนแก่น หลายรายได้ยื่นความจำนงที่จะออกค่าใช้จ่ายเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับชาวพันธมิตรฯ ขอนแก่น เดินทางเข้าร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะบริษัทรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่แห่งหนึ่งแจ้งว่า พร้อมให้การสนับสนุนเหมาตั๋วรถบัสประจำทาง หรือเหมารถบริการให้อย่าง “ไม่อั้น” เพราะต้องการมีส่วนร่วมในการสร้างการเมืองใหม่ ขับไล่รัฐบาลที่มาจากระบอบทักษิณ ซึ่งบริหารประเทศเพียงเพราะประโยชน์ของพวกพ้องและปกป้องผลประโยชน์ให้กับตระกูลชินวัตร
**พธม.เหนือระดมพลร่วมชุมนุม กทม.
นายสมโชค จันทร์ทอง ผู้ประสานงานองค์กรสัมพันธ์การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเหมืองแม่เมาะ จ.ลำปาง ในฐานะเลขาธิการแกนนำพันธมิตรฯภาคเหนือ กล่าวว่า หลังเจ้าหน้าที่จับกุมตัว พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ซึ่งถือเป็นแกนนำพันธมิตรฯ คนสำคัญในระหว่างที่ศาลอุทธรณ์ได้รับคำร้องไตร่สวนเพิกถอนข้อหากบฎไว้แล้ว รวมทั้งอยู่ในขั้นของการเจรจา ถือเป็นการกลั่นแกล้งกัน ส่งผลให้พันธมิตรฯภาคเหนือโกธรแค้นมาก เพราะรัฐบาลบิดพลิ้วและหักหลัง
“แรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าฝ่ายผลิต การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และพันธมิตร 17 จังหวัดภาคเหนือจึงต้องเดินทางมุ่งหน้าไปร่วมชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพฯ โดยได้เดินทางเข้ามาแล้วตั้งแต่บ่ายวานนี้ (5) ซึ่งเป็นการเดินทางโดยรถส่วนตัว เครื่องบิน รวมถึงการจัดรถตู้มาบริการรับสมาชิกพันธมิตรฯที่ต้องการร่วมเดินทางเข้ากรุงเทพฯในครั้งนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม คาดว่าใน 1-2 วันนี้จะมีพันธมิตรฯจาก 17 จังหวัดภาคเหนือหลายพันคนเดินทางไปร่วมชุมนุมใหญ่กันอย่างหนาแน่น จึงขอให้ตำรวจ-ทหารได้ช่วยเปิดทางคุ้มครองไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามเข้ามาทำร้ายระหว่างเดินทางด้วย ซึ่งผมเองคาดว่าต้องมีแน่นอน” นายสมโชค กล่าว
ด้านนายสมเกียรติ โสภณพงศ์พิพัฒน์ แกนนำพันธมิตรฯภาคเหนือตอนล่าง 9 จังหวัด และสมัชชาประชาชนภาคเหนือตอนล่าง ก็ได้สั่งเครือข่ายพันธมิตรฯ ทุกจังหวัดให้ระดมพลเข้ากรุงเทพฯโดยด่วนเช่นกัน อย่างน้อยไม่ต่ำกว่าจังหวัดละ 200 คน
**เมียทหารแหกค่ายชุมนุมทำเนียบฯ
ส่วนที่ จ.ชลบุรี เหล่าพันธมิตรฯได้มารวมตัวกันหลายแห่งเพื่อเดินทางเข้าร่วมชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล ส่วนมากเป็นพ่อค้า แม่ค้า ครอบครัวข้าราชการทหารเรือ ทำให้บรรยากาศใน จ.ชลบุรี โดยเฉพาะในตลาดสัตหีบ อ.สัตหีบ เงียบไปอย่างสิ้นเชิง เพราะพ่อค้า แม่ค้า เจ้าของกิจการร้านขายของส่วนมากเป็นพันธมิตรฯที่เป็น “ลูกจีนรักชาติ”ไม่พอใจอย่างมากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุม 2 แกนนำโดยมิชอบในข้อหากบฏ และกลุ่มพันธมิตรฯ สัตหีบได้บอกว่าถ้าการกู้ชาติเป็นพวกกบฏ พวกตนก็พร้อมที่จะเป็นกบฏเพื่อกู้ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และพร้อมที่จะต่อต้านการกระทำของภาครัฐที่ให้การสนับสนุนรัฐบาลชั่วร้าย
แหล่งข่าวเผยว่า สำหรับในพื้นที่ อ.สัตหีบ ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ทางด้านการทหาร มีเพียงครอบครัวเท่านั้นที่แหกด่านแหกค่ายหนีสามีไปกู้ชาติในทำเนียบรัฐบาล และเท่าที่ทราบเป็นการยินยอมและให้การสนับสนุนภรรยาจากสามี เพราะข้าราชการทหารส่วนมากไม่เห็นชอบในเรื่องของการเสียดินแดน เสียเอกภาพในความเป็นไทย โดยไม่ได้มีการวัดพลังอำนาจในทุกด้านทางการทหาร หรือการเสียดินแดนไปโดยที่ไม่มีการรบ ซึ่งถือว่าทหารถูกเหยียดหยาม ไร้ค่า เพราะไม่มีแผ่นดินใดในโลกนี้ที่เสียดินแดนโดยไม่การสูญเสียกำลังทหารและประชาชน มีเมืองไทยในยุคนี้เท่านั้นที่เสียดินแดน หรือเสียสิทธิทางทหารไปโดยไม่มีการวัดสรรพกำลังทางทหารกับกัมพูชา
**พธม.ปราจีนฯขนคน10คันรถสมทบ
นายสำรวย ปัญสารท แกนนำเครือข่ายพันมิตรฯ ปราจีนบุรี กล่าวว่า ทางแกนนำพันธมิตรฯปราจีนบุรี เรียกร้องขอให้ประชาชนออกมารวมตัวเคลื่อนไหวเข้าร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯ ร่วมกับจังหวัดอื่น ๆ โดยได้จัดรถไว้บริการประชาชนให้เดินทางประกอบด้วย จาก อ.กบินทร์บุรี รวม 3 คัน และจากข้างศาลพระหลักเมือง อ.เมืองปราจีนบุรีอีก 7 คัน
นอกจากนี้ ยังมีเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวและรถไฟโดยสารอย่างต่อเนื่องมากกว่า 100 คน ก่อนมาสมทบกันที่ทำเนียบรัฐบาลเป็นวันแรก โดยในวันนี้ (6 ต.ค.) จะมีการเดินทางเข้าร่วมชุมนุมโดยใช้ขบวนรถไฟโดยสารมากว่าในวันแรกนี้ พร้อมๆกับการเดินทางโดยรถตู้ ที่จะเริ่มออกเดินทางตั้งแต่เช้าเป็นต้นไป
ด้านนายณัฐวุฒิ เชษฐ์วงศ์ แกนนำพันธมิตรฯปราจีนบุรีอีกคน กล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนในปราจีนบุรีกำลังเดินทางเข้าไปยังทำเนียบฯอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะมีประชาชนไปรวมกันตัวเป็นจำนวนมากอย่างแน่นอน เพราะพันธมิตรฯ จะถอยไม่ได้อีกแล้ว โดยจะต้องออกมากดดันหรือตอบโต้การกระทำในครั้งนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในส่วนความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรีได้มีการระดมกำลังจากทุกโรงพักเดินทางเข้ากรุงเทพฯก่อนหน้านี้เช่นกันเพื่ออำนวยการรักษาความเรียบร้อย
**พธม.สระแก้วกว่า 700 คนมาแล้ว
ทางด้านนายอัมรินทร์ ยี่เฮง แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯสระแก้ว เผยว่า หลังจากทราบข่าว พล.ต.จำลอง ถูกจับกุม กลุ่มพันธมิตรฯสระแก้วต่างทยอยเดินทางเข้าเมืองหลวงเพื่อร่วมชุมนุมใหญ่ที่หน้าทำเนียบรัฐบาลเป็นจำนวนมาก โดยมีทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตตัวเมืองสระแก้ว อ.อรัญประเทศ รวมถึงข้าราชการครูในเขตอำเภอวังน้ำเย็น ต่างเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว และรถบัสประจำทางกันแล้วตั้งแต่ทราบข่าว ซึ่งประเมินจำนวนประชาชนชาวสระแก้วที่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ แล้วประมาณ 600-700 คน เพื่อไปให้กำลังใจแกนนำพันธมิตรฯคนสำคัญ เพราะสิ่งที่ พล.ต.จำลอง ได้กระทำนั้นแสดงให้เห็นถึงคำว่า “นักประชาธิปไตย” ตัวจริง
“ในวันนี้ (6 ต.ค.) ทางกลุ่มได้มีการพูดคุยถึงการเดินทางเข้าร่วมชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล และจะได้เดินทางไปให้กำลังใจ พล.ต.จำลอง ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 เพื่อนำอาหารและเครื่องดื่มเข้าเยี่ยมและให้กำลังใจอย่างใกล้ชิด และจากการสอบถามพบว่าการเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ในครั้งนี้ไม่มีการขัดขวางของเจ้าหน้าที่ตำรวจเลยแม้แต่น้อย
เช่นเดียวกับ จ.กาญจนบุรี เครือข่ายพันธมิตรฯแต่ละอำเภอ ได้ทยอยมายังจุดนัดหมาย เช่น อ.ท่าม่วง รวมตัวกันที่หน้าตลาดท่าม่วง อ.เมือง ที่ศาลาขุนแผน หน้าหลักเมือง และ อ.ท่ามะกา บริเวณตลาดลูกแก จากนั้นได้ทยอยเดินทางเข้า กทม. ทั้งด้วยรถยนต์ส่วนตัวและรถโดยสารประจำทาง รวมทั้งรถตู้ที่กลุ่มพันธมิตรฯ จัดไว้ เพื่อเคลื่อนไหวในจุดมุ่งหมายเดียวกัน