ชัยภูมิ - ชาวนาชัยภูมิกว่าพันคนรวมตัวชุมนุม โวยเร่งระบายออกจากตัวเมืองทำน้ำท่วมนาเสียหายหนัก ร้องรัฐแก้ไขปัญหาน้ำลำประทาวท่วมซ้ำซากทั้งระบบในระยะยาว ไม่ต้องการรับเงินชดเชยที่เป็นการแก้ที่ปลายเหตุ และไม่คุ้มค่ากับความสูญเสียของเกษตรกร
วันนี้ (30 ก.ย.) ชาวบ้านกว่า 1,000 คน จาก 2 ตำบล คือ ต.หนองไผ่ และ ต.กุดตุ้ม อ.เมือง จ.ชัยภูมิ นำโดย นายสมทรง สวัสดิสลุง นายกองค์กการบริหารส่วนตำบล (อบต.) หนองไผ่ และ ด.ต.อุทัย แต่งแดน นายก อบต.กุดตุ้ม ได้ออกมาชุมนุม ที่บริเวณถนนช่วงบ้านหนองแหน หมู่ 12 ต.หนองไผ่ เพื่อเรียกร้องให้ทางจังหวัดชัยภูมิ นำเสนอต่อรัฐบาลให้ช่วยเร่งหามาตรการแก้ไขปัญหา และป้องกันน้ำท่วมนาข้าวซ้ำซากในพื้นที่ ทำให้นาข้าวเสียหายกว่า 60,000 ไร่ เป็นประจำทุกปี
นายสมทรง สวัสดิสลุง นายก อบต.หนองไผ่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ชาวบ้านกำลังได้รับผลกระทบจากการเร่งระบายน้ำออกจากตัวเมืองชัยภูมิ มาตามคลองลำปะทาว ล่าสุด ในส่วนของ ต.หนองไผ่ มีพื้นที่นาข้าวไม่น้อยกว่า 8,000 ไร่ ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร จมน้ำมานานกว่า 2 สัปดาห์ และส่วนของ ต.กุดตุ้ม เสียหายกว่า 13,000 ไร่ ซึ่งชาวบ้านที่นี่เดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากเป็นประจำ มากว่า 5 ปีแล้ว เพราะพื้นที่ทั้ง 2 ตำบล ตั้งอยู่ใกล้กับลำปะทาว ขณะนี้ระดับน้ำที่ระบายออกมายังคงสูงขึ้นและท่วมนาข้าวขยายพื้นที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
พวกเราไม่ต้องการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ เมื่อมีน้ำท่วม เกิดความพอเสียหายก็มาสำรวจจ่ายเงินค่าชดเชยให้ แม้จะเพิ่มจาก 414 บาท มาเป็น 606 บาทต่อไร่ก็ไม่คุ้มกับการลงทุน ลงแรง และความหวังที่มีต่อผลผลิตของเกษตรกร
ดังนั้น เรื่องปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากของ จ.ชัยภูมิ จึงต้องการให้รัฐบาลหันมาใส่ใจ เพื่อหาแผน หรือมาตรการในแก้ไขอย่างเร่งด่วน ในการป้องกันน้ำท่วมในลุ่มน้ำลำปะทาวทั้งระบบ และเป็นการแก้ไขปัญหาในระยะยาวด้วย
ด้าน นายสมพล แสนคำ เกษตรจังหวัดชัยภูมิ ที่ได้เดินทางออกมาสำรวจความเสียหายพืชผลการเกษตรและนาข้าว ถูกน้ำท่วมใน จ.ชัยภูมิ และร่วมรับฟังปัญหาของชาวบ้านที่มาชุมนุมเรียกร้องในครั้งนี้เพื่อนำเสนอให้กับทางจังหวัดต่อไปนั้น เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางจังหวัดชัยภูมิ ได้สั่งการให้สำนักงานเกษตรจังหวัด เร่งออกสำรวจความเสียหายของพื้นที่ทางการเกษตรทั้งหมดในจังหวัดชัยภูมิ คาดว่าใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์
โดยเบื้องต้นมีพื้นที่การเกษตรประสบภัยน้ำท่วมทั้งหมด 437,330 ไร่ คาดว่า จะได้รับความเสียหาย 337,687 ไร่ แยกเป็นนาข้าวประสบภัยจาก 150,268 ไร่ เสียหาย 117,748 ไร่ ซึ่งจะได้เร่งให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบและเดือดร้อนโดยด่วนต่อไป
