xs
xsm
sm
md
lg

ม็อบ“เขื่อนลำปะทาว”เดือดบุก สนง.ที่ดินชัยภูมิ - ทวงสัญญา รบ.“หุ่นเชิด”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กลุ่มราษฎรได้รับความเดือดร้อนจากการสร้างเขื่อนลำปะทาว 4 ตำบล จ.ชัยภูมิ กว่า 500 คน  สุดทนบุกชุมนุมหน้าสนง.ที่ดินจังหวัดฯ ถวงสัญญาแก้ปัญหาจากรัฐบาล วันนี้ ( 16 พ.ค.
ชัยภูมิ - กลุ่มชาวบ้านชัยภูมิ ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนลำปะทาวกว่า 500 คน สุดทนระดมพลบุกชุมนุมหน้า สนง.ที่ดินจังหวัดฯ ทวงสัญญาจากรัฐบาล“หุ่นเชิด” หลังปักหลักยึดประตูน้ำสันเขื่อนประท้วงมานานกว่า 8 เดือน แต่การแก้ปัญหาจ่ายค่าชดเชยไม่คืบหน้า ซัดรบ.“หมัก” มัวแต่มุ่งแก้ รธน.เพื่อพวกตนเอง ไม่ใส่ใจความเดือดร้อน ปชช. ทำให้บ้านเมืองวุ่นวายไม่จบ

วันที่ 16 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดชัยภูมิ ว่า ได้มีกลุ่มราษฎรผู้ได้รับความเดือดร้อนจากการสร้างเขื่อนลำปะทาว 4 ตำบล ประกอบด้วย ต.ซับสีทอง, ต.ท่าหินโงม , ต. เก่ายาดี และ ต. ท่ามะไฟหวาน พื้นที่คาบเกี่ยว 3 อำเภอ ประกอบด้วย อ.แก้งคร้อ ,อ.เกษตรสมบูรณ์ และ อ.เมืองชัยภูมิ กว่า 500 คน พากันเดินทางมาชุมนุมประท้วงที่หน้าสำนักงานที่ดินจังหวัดชัยภูมิ ติดกับสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดชัยภูมิ อ.เมือง จ.ชัยภูมิ

พร้อมเปิดเวทีใช้เครื่องขยายเสียงกล่าวปราศรัยโจมตีการทำงานของรัฐบาลนายสมัมคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี อย่างรุนแรงว่า ไม่สนใจแก้ปัญหาให้กับราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากโครงการของรัฐ ทั้งๆ ที่การดำเนินการในพื้นที่เสร็จสิ้นหมดแล้ว แต่ในระดับ คณะรัฐมนตรี (ครม.) และรัฐบาลไม่สนใจ มุ่งแต่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อตัวเอง

ทั้งนี้ราษฎรดังกล่าว ได้พากันออกมาชุมชนเรียกร้องจ่ายค่าชดเชยที่ดินที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนลำปะทาว ที่หน้าศาลากลางจ.ชัยภูมิเมื่อ 8 เดือนที่ผ่านมา แต่ไม่ได้รับคำตอบจึงพากันนำ หม้อ ไห ข้าวสารอาหารแห้ง เดินทางไปปักหลักชุมนุมยึดสันเขื่อนลำปะทาว บริเวณประตูเปิด- ปิดน้ำ บ้านท่ากอง หมู่ 3 ต.เก่าย่าดี อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ เพื่อประท้วงทวงคำตอบจากรัฐบาล จนถึงขณะนี้

โดยการประชุมแก้ปัญหากลุ่มผู้ได้รับความเดือดร้อนจากโครงการสร้างเขื่อนลำปะทาว จำนวน 499 ครัวเรือน ราษฎรเดือดร้อนกว่า 1,000 คน ร่วมกับอธิบดีกรมพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 31 พ.ค.50 ที่ผ่านมา มีผลสรุปร่วมกันว่า ทางภาครัฐจะนำเสนอเรื่องการจ่ายค่าชดเชยให้กับชาวบ้านทั้งหมดต่อ ครม. ภายใน 3 สัปดาห์ แต่แล้วเรื่องได้เงียบหายไปและไม่มีคำตอบที่ชัดเจนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมานานเกือบ 8 เดือน โดยเฉพาะที่ดินจังหวัดและทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลล้อมจังหวัดชัยภูมิ

ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่าน ชาวบ้านกลุ่มผู้เดือดร้อนได้พากันเดินทางมาชุมนุม ทวงคำตอบจากรัฐบาล ที่บริเวณ หน้าอานุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ซึ่งที่ดินจังหวัดชัยภูมิ รับปากว่า จะแจ้งผลความคืบหน้าให้ทราบภายใน 15 พ.ค.นี้ จึงได้พากันเดินทางมาชุมนุมฟังคำตอบพร้อมกัน

นางประยูร ศรีโนนทอง อายุ 63 ปี ชาวบ้านห้วยผักหนาม หมู่ 4 ต.ซับสีทอง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ กล่าวว่า จะให้รอไปถึงไหนอีก ภาครัฐดีแต่ซื้อเวลาว่ากำลังดำเนินการให้อยู่แล้วก็เงียบหายไป พวกเราปักหลักรออยู่บนสันเขื่อนมา 8 เดือนแล้ว ส่วนตนต่อสู้มาจนสามีตายอยู่บนสันเขื่อนแล้วจะให้รอจนตายไปอีกกี่คน ทั้งที่เขื่อนแห่งนี้สร้างเสร็จมาตั้งแต่ปี 2532 สิ่งที่ได้สัญญากลับพวกเราไว้ก่อนการสร้างเขื่อน มันอยู่ที่ไหน

ล่าสุดบอกว่าการแก้ปัญหาจะแล้วเสร็จภายในเมื่อ 10 วันที่ผ่านมา ก็เงียบหายไปอีก ทั้งที่เจ้าหน้าที่ภาพถ่ายความทางอากาศ ก็เข้ามาดำเนินการสำรวจตรวจสอบไปเสร็จหมดสิ้นแล้ว ยังจะมาติดเรื่องอะไรอีก หรือ รัฐบาลนี้ไม่สนใจ

นางประยูร กล่าวต่อว่า หรือว่ารัฐบาลชุดนี้เห็นแต่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ ยายอยากถามว่าไปแก้เพื่อใครเพื่อชาวบ้านหรือเปล่า ดีแต่จะเร่งแก้เพื่อคนในรัฐบาลให้พ้นผิดมากกว่า ใช่ว่าชาวบ้านไม่รู้เรื่อง แล้วอย่างนี้ชาวบ้านจะไปพึ่งใครถ้ารัฐบาลไม่สนใจเรื่องการแก้ไขปัญหาปากท้องความทุกข์ยากของประชาชน รัฐบาลควรรู้ได้แล้วว่าเข้าไปบริหารประเทศเพื่อใครไม่เช่นนั้นบ้านเมืองก็วุ่นวายไม่จบ คงไม่มีใครชาวบ้านที่ไหนเขาอยากออกมาชุมนุมเรียกร้องตากแดดตากฝนให้เหนื่อยอย่างนี้ หากไม่เดือดร้อนจริงๆ

“ยายจะไม่ปล่อยให้สามีที่ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม และร่วมกันอดทนรอความหวังมายาวนานตั้งแต่ปี 2532 ต้องมาจบชีวิตไปโดยเปล่าประโยชย์อย่างแน่นอน” นางประยูร กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาได้มีเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วย นายประชุม ชำนาญค้า ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดชัยภูมิ ออกมาติดต่อตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปชี้แจงความคืบหน้าในห้องประชุมสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด

โดยระบุว่า ขณะนี้มติคณะกรรมการการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ (กบร.) ตรวจสอบเรื่องการอ่านภาพถ่ายทางอากาศเสร็จสิ้นทั้งหมดแล้วและคณะกรรมการชุดใหญ่จะเดินทางมาลงพื้นที่อีกครั้งในวันที่ 24 พ.ค.นี้ ก่อนที่จะสรุปเรื่องทั้งหมดนำเสนอต่อสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อเสนอเข้า ครม.พิจาณาอนุมัติค่าชดเชยช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วนต่อไป

จากนั้นในช่วงบ่ายวันเดียวกัน เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมได้รับคำชี้แจงเป็นที่พอใจ จึงพากันสลายตัวกลับไปปักหลักชุมนุมอยู่บนสันเขื่อนลำปะทาว เพื่อรอฟังคำตอบอีกครั้งจากรัฐบาลต่อไป



กำลังโหลดความคิดเห็น