ชัยภูมิ - ชาวเมืองลูกเจ้าพ่อพญาแล เฮ เคเบิลชัยภูมิ กลับมาถ่ายทอดรายการ “ASTV” ตามปกติแล้ว หลัง ผู้ว่าฯ ยันไม่ได้สั่งระงับถ่ายทอดสัญญาณ “เอเอสทีวี” และปฏิเสธไม่ได้ส่ง “ปลัดอาวุโส” อันธพาลบุกคุกคามข่มขู่เคเบิลแน่นอน พร้อมตั้ง กก.สอบข้อเท็จจริง เพราะทำให้จังหวัดเสียหาย ระบุ เพียงส่งหนังสือพร้อมข้อกฎหมายขอความร่วมมือเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารให้ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น และไม่ได้เจาะจงชื่อรายการใดด้วย
วันนี้ (18 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดชัยภูมิ ว่า จากการที่กระทรวงมหาดไทยได้พยายามกดดันบีบบังคับผู้ประกอบการ เคเบิลทีวี ให้ระงับการถ่ายทอดสัญญาณสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี (ASTV) และได้มีบุคคลอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ระดับปลัดอาวุโสอำเภอเมืองชัยภูมิ บุกข่มขู่คุกคามผู้ประกอบการเคเบิลท้องถิ่น จ.ชัยภูมิ จนต้องระงับถ่ายทอดสัญญาณ ASTV เหลือเพียงภาพและคาดแถบดำทับข้อความที่ส่งผ่าน SMS ด้านล่างจอภาพ ตั้งแต่คืนวันที่ 16 มิ.ย.เป็นต้นมา
ทำให้กลุ่มประชาชนสมาชิกเคเบิลที่เดือดร้อน และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.ชัยภูมิ กว่า 50 คน รวมตัวกันบุกห้องทำงานผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ บนศาลากลางจังหวัด เพื่อขอคำชี้แจง และยื่นข้อเรียกร้องให้เคเบิลสามารถถ่ายทอดสัญญาณ ASTV ได้ตามปกติ นั้น
ล่าสุด นายถาวร พรหมมีชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่า ตนได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับกลุ่มประชาชนที่เดินทางมาพบแล้ว และยืนยันว่า ทางจังหวัดไม่มีอำนาจสั่งให้เคบิลทีวีระงับถ่ายทอดสัญญาณรายการของสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม เอเอสทีวี (ASTV) และไม่มีอำนาจสั่งให้ปิดเคเบิลทีวีแต่อย่างใด
เพียงแต่เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้เชิญตัวแทนผู้ให้บริการเคเบิลทีวีในจังหวัด ร่วมประชุมกับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และสมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อสร้างความเข้าใจเท่านั้น และได้ส่งหนังสือของทางจังหวัดที่ ชย 0017/1283 ลงวันที่ 16 มิ.ย.2551 ไปถึงผู้ประกอบการเคเบิลทีวีทุกแห่ง เพื่อขอความร่วมมือในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยได้ส่งหลักกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ รัฐธรรมนูญ มาตรา 46, 63 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 85, 113, 115, 116, 215 และ 216 รวมถึงเงื่อนไขการเผยแพร่เคเบิลทีวีของกรมประชาสัมพันธ์
ทั้งนี้ เพื่อเป็นข้อมูลให้แก่ผู้ประกอบการเคเบิลทีวีทุกแห่ง โดยให้พิจารณาใช้ระบบมอนิเตอร์เพื่อควบคุมภาพหรือเสียงของการถ่ายทอดรายการต่างๆ อันจะเป็นการป้องกันการกระทำผิดกฎหมายด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งในหนังสือไม่ได้ระบุ หรือชี้เฉพาะรายใดรายการหนึ่ง
นายถาวร กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่มีผู้แอบอ้างว่าเป็นปลัดอาวุโส ได้รับคำสั่งจากจังหวัดชัยภูมิ และมีพฤติกรรมบุกข่มขู่ผู้ประกอกบการเคเบิลทีวี ถึงสำนักงาน ให้ระงับสัญญาณการถ่ายทอดรายการของ สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม เอเอสทีวี ไม่เช่นนั้นจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายนั้น ขอยืนยันว่า ทางจังหวัดไม่ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ หรือจ้องจับผิดการนำเสนอของเคเบิลทีวี ซึ่งเรื่องนี้จะได้สั่งตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมด เพราะทำให้จังหวัดเสียหาย
พร้อมกันนี้ ขอให้ทุกฝ่ายสบายใจได้ ซึ่งทางจังหวัดชัยภูมิจะทำหนังสืออีกหนึ่งฉบับเพื่อแจ้งเคเบิลทีวีทุกแห่ง ในกรณีดังกล่าวถ้าหากมีบุคคลที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของจังหวัดไปแอบอ้าง ข่มขู่เช่นนี้ ขอให้แจ้งมาที่ผู้ว่าราชการจังหวัด โดยตรง ตนจะดำเนินการขั้นเด็ดขาด
“ส่วนการที่เคเบิลทีวี ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ จะถ่ายทอดสัญญาณของสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV ตามปกติหรือไม่นั้น ทางจังหวัดไม่สามารถบังคับได้เช่นเดียวกันไม่มีอำนาจในการระงับหรือสั่งปิดรายการ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้ประกอบการเคเบิลทีวีแต่ละแห่งเอง” นายถาวร กล่าว
นายนพสณฑ์ เสฏฐรังสี แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.ชัยภูมิ กล่าวว่า การกระทำลักษณะ “อีแอบ” ที่เลือกปฏิบัติ ใช้อำนาจมาบังคับข่มขู่คุกคามสื่อเคเบิลทีวีท้องถิ่นเพื่อตัดการถ่ายทอดสัญญาณ ASTV นั้น ถือเป็นกระบวนการคุกคามสื่อและประชาชนอย่างชัดเจน เพราะเป็นเพียงการถ่ายทอดสดการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งร่วมกันชุมนุมอย่างสงบสันติภายใต้กฎหมาย และรัฐธรรมนูญ เพื่อร่วมกันแสดงพลังปกป้องชาติ ศาสน์ กษัตริย์
“ในฐานะที่ตนเป็นสื่อมวลชนคนหนึ่ง ยอมไม่ได้อย่างเด็ดขาด ที่สื่อในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิถูกกระทำเช่นนี้ ซึ่งทางจังหวัดต้องตามล่าหาตัว อีแอบ ที่ข่มขู่คุกคามสื่อมาลงโทษให้ได้ หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก สมาชิกเคเบิลที่เดือดร้อนทั้ง 4 แห่งในจังหวัดชัยภูมิ และกลุ่มพันธมิตรฯชัยภูมิ ให้คำสัญญาต่อกันว่าจะปักหลักกินนอน รวมตัวกันชุมนุมใหญ่ปิดล้อมบริเวณหน้าจวนผู้ว่าฯ พร้อมตั้งเวทีปราศรัยและจัดถ่ายทอดสัญญาณเอเอสทีวี การชุมนุมของพันธมิตรฯจากกรุงเทพฯ และพร้อมใจกันยกเลิกการเป็นสมาชิกเคเบิลทีวีทั้งหมด แต่จะหันไปติดตั้งจานดาวเทียม ASTV แทน” นายนพสณฑ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ล่าสุด ขณะนี้ (18 มิ.ย.) เคเบิลทีวีท้องถิ่นใน จ.ชัยภูมิ ได้กลับมาถ่ายทอดสัญญาณรายการของสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV ทั้งภาพและเสียงตามปกติแล้ว และไม่มีการคาดแถบดำปิดทับข้อความ SMS ด้านล่างหน้าจอด้วย ทำให้ประชาชนชาวชัยภูมิโดยเฉพาะสมาชิกเคบิลทีวีทุกคนดีใจที่ได้กลับมาติดตามชมการถ่ายทอดเวทีการชุมนุมของพันธมิตรฯ จากกรุงเทพฯ ได้ตามเดิม
รวมทั้งผู้ประกอบการเคเบิลท้องถิ่นเอง ก็เกิดความสบายใจ หลังจากผู้ว่าราชการจังหวัดออกมายืนยันว่า ไม่ได้มีการบีบบังคับ จึงได้ปล่อยสัญญาณภาพและเสียงรายการ ASTV ให้สมาชิกทุกคนได้ดูตามปกติ ซึ่งทำให้สมาชิกจำนวนมากที่ขอถอนตัวจากการเป็นสมาชิก ก็เริ่มแจ้งขอกลับการเป็นสมาชิกเคเบิลเกือบหมดแล้ว
