ชัยภูมิ - “เป็ดเหลิม รปภ.แม้ว” เดินสายมอบนโยบาย 13 จังหวัดอีสาน เลือกชัยภูมิเป็นด่านแรก ด้าน พันธมิตรฯ ลูกเจ้าพ่อพญาแล รู้ข่าวเตรียมระดมพลแสดงพลังตะเพิดอย่างอารยะและสุภาพที่สุดเท่าที่จะอดใจไหว พร้อมร่อน จม.เปิดผนึกไล่รัฐบาล “หมัก” หยุดขายชาติ หยุดสร้างความอัปยศเหยียบย่ำหัวใจไทย ชี้ คำตัดสินศาล รธน.กรณีประสาทพระวิหาร ทำรัฐบาลหมดสภาพโดยสิ้นเชิงแล้ว
วันนี้ (8 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดชัยภูมิ ว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (รมว.มหาดไทย) มีกำหนดเดินทางมาปฏิบัติราชการ ในพื้นที่ 13 จังหวัดภาคอีสาน คือ จ.ชัยภูมิ, ขอนแก่น, อุดรธานี, เลย, หนองคาย, สกลนคร, นครพนม, มุกดาหาร, อุบลราชธานี, ศรีสะเกษ, สุรินทร์, บุรีรัมย์ และ จ.นครราชสีมา ระหว่างวันที่ 9-16 ก.ค.นี้ โดยในวันพรุ่งนี้ (9 ก.ค.) เวลาประมาณ 14.30 น. ร.ต.อ.เฉลิม จะเดินทางมาถึงศาลากลางจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเป็นจังหวัดแรกในการลงพื้นที่ภาคอีสานครั้งนี้ เพื่อประชุม และมอบนโยบายให้กับผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ปลัดจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธร ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งจะเน้นเรื่อง การแก้ไขปัญหาความยากจน, ปัญหายาเสพติด, ปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน และเรื่องป่าเฉลิมพระเกียรติ 76 พรรษา พระบาทสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ
ด้าน นายนพสณฑ์ เสฏฐรังสี แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดชัยภูมิ และรองประธานสมัชชาประชาชนภาคอีสาน 19 จังหวัด เปิดเผยว่า ทันทีที่ได้รับทราบข่าวการมาเยือนจังหวัดชัยภูมิของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ทางกลุ่มพันธมิตรฯชัยภูมิ ยามเฝ้าแผ่นดินชัยภูมิ และเครือข่ายสมัชชาประชาชนชนภาคอีสานจังหวัดชัยภูมิ ได้ประสานงานไปยังจังหวัดใกล้เคียง เพื่อร่วมเตรียมชุมนุมเคลื่อนไหว แสดงพลังแห่งศีลธรรมขับไล่ “เป็ดเหลิม” ออกจากพื้นที่อย่างอารยะและสุภาพที่สุด เท่าที่พวกเราจะอดทน และอดใจได้ เมื่อได้เห็นหน้า “เป็ดเหลิม รปภ.แม้ว” คนนี้
โดยจุดแรกพวกเราจะนัดระดมพลชุมนุมกันประมาณ 300 คน ที่บริเวณหน้าอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพระยาแล เจ้าเมืองคนแรกของชัยภูมิ ซึ่งเป็นเส้นทางที่ขบวนรถของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ต้องเดินทางผ่านเข้าศาลากลางจังหวัดชัยภูมิ เพื่อให้เจ้าพ่อพระยาแลได้เป็นพยานว่า ชาวชัยภูมิ ไม่ต้อนรับคณะรัฐมนตรี ของ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี รัฐบาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณอันชั่วร้าย ที่ได้ครอบงำ ทำลายประเทศชาติในทุกด้าน
“รัฐบาลหุ่นเชิดชุดนี้ ไม่เหลือความชอบธรรม และหมดสภาพการเป็นรัฐบาลไปโดยสิ้นเชิงแล้ว ตั้งแต่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์ 8 ต่อ 1 วินิจฉัยชี้ขาดว่าแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา ฉบับวันที่ 18 มิ.ย.2551 กรณีปราสาทพระวิหารมีลักษณะครบองค์ประกอบเป็นสนธิสัญญาตามอนุสัญญากรุงเวียนนา และมีมติเป็นเอกฉันท์ เห็นว่า แถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา เป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 190 วรรค 2 ของรัฐธรรมนูญที่ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา” นายนพสณฑ์ กล่าว
นายนพสณฑ์ กล่าวต่อว่า พร้อมกันนี้ วันนี้ (8 ก.ค.) พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดชัยภูมิ สมัชชาประชาชนจังหวัดศรีสะเกษ และ เครือข่ายแนวร่วมรักษ์แผ่นดินชัยภูมิ ได้ร่วมกันส่งจดหมายเปิดผนึก ฉบับที่ 1 ผ่านสื่อมวลชน ถึง นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ คณะรัฐมนตรี เรื่อง ขอให้รัฐบาลลาออก หยุดพฤติกรรมขายชาติ
โดยเนื้อหาสรุปได้ ว่า จากการที่รัฐบาลชุดนี้ที่มี นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี ได้สมรู้ร่วมคิดกันมีมติที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ออกแถลงการณ์ร่วมที่เป็นผลต่อการเสียดินแดนเขาพระวิหารที่รายรอบปราสาทพระวิหารให้แก่กัมพูชา แสดงถึงเจตนาที่ฉ้อฉลไม่โปร่งใส โยงใยผลประโยชน์ ก๊าซ และน้ำมันในอ่าวไทย บริเวณใกล้เกาะกง ดังที่เป็นข่าวอยู่ทั่วไป
บัดนี้เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า คณะกรรมการมรดกโลก องค์การยูเนสโก มีมติประกาศรับขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกของกัมพูชาแล้วแต่ฝ่ายเดียว ในการประชุมที่เมืองควิเบก ประเทศแคนนาดา แล้ว นับเป็นความอัปยศอดสูหลู่เกียรติของประชาชาติไทยอีกครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ชาติไทย ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศไทยครั้งนี้ มันเปรียบได้กับการตบหน้าเหยียบย่ำหัวใจของคนไทยทั้งชาติ โดยรัฐบาลของ นายสมัคร สุนทรเวช ไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้เลย
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดชัยภูมิ, สมัชชาประชาชนเพื่อประชาธิปไตยชัยภูมิ และชาวชัยภูมิทั้งมวล ขอประณามการกระทำที่ปล้นชาติ ปล้นประชาชนของรัฐบาลชุดนี้ และขอขับไล่ให้ออกไปทันที เพื่อหยุดพฤติกรรมขายชาติเสียตั้งแต่บัดนี้ ก่อนที่คณะรัฐมนตรีชุดนี้จะทำสิ่งเลวร้ายกว่านี้ให้เกิดแก่บ้านเมืองอีก จดหมายเปิดผนึกระบุในตอนท้าย
ด้าน พล.ต.ต.เดชา ชวยบุญชุม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) ชัยภูมิ เปิดเผยว่า ด้านการเตรียมการรักษาความปลอดภัยให้กับ มท.1 ในการเดินทางมาปฏิบัติราชการ จ.ชัยภูมิ พรุ่งนี้ (9 ก.ค.) ไม่ได้เตรียมมาตรการอะไรเป็นพิเศษ ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ เมื่อมีรัฐมนตรี หรือผู้หลักผู้ใหญ่ เดินทางมาปฏิบัติงานในพื้นที่ เพื่อเป็นการรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในการเดินทาง ซึ่งคาดว่าคงไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นในระหว่างที่ มท.1 ลงพื้นที่ชัยภูมิ แต่อย่างใด
ทั้งนี้ เนื่องจากตลอดเวลาที่ผ่านมา การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ชัยภูมิ ดำเนินการด้วยความสงบ สันติ ไม่มีเหตุการณ์รุนแรง หรือมีการกระทบกระทั่งจากอีกกลุ่ม แต่เพื่อความไม่ประมาท เพราะไม่สามารถคาดเดาได้ว่าวันนั้นจะมีอะไรเกิดขึ้นหรือไม่อย่างไร ทางตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ จึงได้เตรียมหน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ (นปพ.) ไว้พร้อมทุกเวลา หากมีเหตุการณ์รุนแรง หรือมีการปะทะเกิดขึ้น
“ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยทั้งของคณะรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย และกลุ่มพันธมิตรฯ ชัยภูมิ ซึ่งเป็นประชาชนในพื้นที่ เช่นเดียวกัน” พล.ต.ต.เดชา กล่าว
