ผู้จัดการรายวัน-กินเจปีนี้คาดเงินสะพัด 2.5 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% เผยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมาจากสินค้าอาหารที่แพงขึ้น ไม่ใช่เงินสะพัดที่แท้จริง อีกทั้งคนไม่มั่นใจเศรษฐกิจ ยังระมัดระวังในเรื่องการใช้จ่าย
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลกินเจปีนี้ ว่า จะมีการใช้จ่ายช่วงเทศกาลกินเจระหว่าง 29 ก.ย.-7 ต.ค.2551 รวม 9 วัน โดยคาดว่าจะมีเงินสะพัด 25,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 10-13% แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายซื้ออาหารเจ 10,000-15,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% และค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด อาทิ การเดินทางไปทำบุญ ค่าที่พัก ค่าทำบุญ อีก 10,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.7%
สาเหตุสำคัญที่ทำให้มูลค่าการใช้จ่ายเทศกาลกินเจเพิ่มขึ้น นอกจากจะมาจากราคาอาหารสด และอาหารสำเร็จรูปที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาลแล้ว ปีนี้หลายพื้นที่เพาะปลูกประสบปัญหาน้ำท่วม ทำให้ราคา ผัก ผลไม้ ปรับเพิ่มขึ้นจากเดิม นอกจากนี้ ยังพบว่าในขณะที่เศรษฐกิจไม่ดี และการเมืองขาดเสถียรภาพ ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจ ทำให้คนไทยหันไปทำบุญ ใช้ศาสนาเป็นที่พึ่งทางใจแทน โดยผลสำรวจระบุว่าประชาชนยอมใช้จ่ายเพื่อการทำบุญช่วงเทศกาลกินเจปีนี้เพิ่มขึ้นถึง 58.2%
นายธนวรรธน์กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้ประชาชนเลือกซื้อสินค้าปริมาณน้อยลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ทั้ง ผัก ผลไม้ อาหารเจสำเร็จรูปและกึ่งสำเร็จรูป อาหารกระป๋อง เต้าหู้หรือนมถั่วเหลือง และโปรตีนเกษตร เนื่องจากราคาสินค้าสูงขึ้น ที่ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายโดยรวมเพิ่ม 14.63% รวมถึงส่วนใหญ่ต้องการประหยัด เพราะไม่เชื่อมั่นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
“ภาพรวมการบริโภค แม้จะมีเม็ดเงินใช้จ่ายเพิ่มขึ้น แต่เป็นการเพิ่มในแง่มูลค่าเท่านั้น เพราะค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่มาจากราคาสินค้า อาหารที่สูงขึ้น โดยเฉพาะผักและผลไม้ ส่วนในแง่ปริมาณลดลง 5-7% เพราะคนยังกังวลปัญหาเศรษฐกิจและระมัดระวังการใช้จ่ายอยู่ สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจภาคประชาชนยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัว ทำให้ปริมาณการซื้อสินค้าลดลง”นายธนวรรธน์กล่าว
สำหรับกลุ่มตัวอย่างที่สำรวจปีนี้มาจากคน 1,200 คนทั่วประเทศ โดย 89.5% ระบุว่าไม่กินเจ และอีก 10.5% จะกินเจ ส่งผลให้ช่วงเทศกาลกินเจ 9 วันจะมีประชาชนกินเจทั่วประเทศ 5-6 ล้านคน มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยคนละ 6,155 บาท โดยแยกเป็นค่าอาหารเฉลี่ยคนละ 213 บาทต่อวัน โดยส่วนใหญ่ซื้ออาหารสำเร็จรูปมารับประทานหรือซื้อของมาปรุงเอง ส่วนค่าใช้จ่ายเพื่อทำบุญอยู่ที่ 933 บาท ค่าเดินทางไปทำบุญต่างจังหวัด 2,419 บาท ค่าที่พักขณะเดินทางไปทำบุญต่างจังหวัด 2,863 บาท รวมทั้งสิ้น 6,115 บาทต่อคน ซึ่งค่าใช้จ่ายทั้งหมดได้เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว
ส่วนพรศักดิ์สิทธิที่ขอในช่วงกินเจ 4 ข้อ คือ ขอให้มีความสามัคคี ลดความขัดแย้ง ขอให้มีความสงบสุข ขอให้ไม่มีการคอรัปชั่น โกงกินบ้านเมือง และขอให้เศรษฐกิจดี โดยสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงที่สุดของประเทศไทยในขณะนี้ คือ สถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศ และสถานการณ์ทางการเมือง ระดับราคาสินค้าและราคาน้ำมัน รวมถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ขณะที่ความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลชุดใหม่ อยากให้แก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองมากที่สุด รองลงมาเป็น การแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจ และความโปร่งใสในการบริหารงานของรัฐบาล
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลกินเจปีนี้ ว่า จะมีการใช้จ่ายช่วงเทศกาลกินเจระหว่าง 29 ก.ย.-7 ต.ค.2551 รวม 9 วัน โดยคาดว่าจะมีเงินสะพัด 25,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 10-13% แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายซื้ออาหารเจ 10,000-15,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% และค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด อาทิ การเดินทางไปทำบุญ ค่าที่พัก ค่าทำบุญ อีก 10,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.7%
สาเหตุสำคัญที่ทำให้มูลค่าการใช้จ่ายเทศกาลกินเจเพิ่มขึ้น นอกจากจะมาจากราคาอาหารสด และอาหารสำเร็จรูปที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาลแล้ว ปีนี้หลายพื้นที่เพาะปลูกประสบปัญหาน้ำท่วม ทำให้ราคา ผัก ผลไม้ ปรับเพิ่มขึ้นจากเดิม นอกจากนี้ ยังพบว่าในขณะที่เศรษฐกิจไม่ดี และการเมืองขาดเสถียรภาพ ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจ ทำให้คนไทยหันไปทำบุญ ใช้ศาสนาเป็นที่พึ่งทางใจแทน โดยผลสำรวจระบุว่าประชาชนยอมใช้จ่ายเพื่อการทำบุญช่วงเทศกาลกินเจปีนี้เพิ่มขึ้นถึง 58.2%
นายธนวรรธน์กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้ประชาชนเลือกซื้อสินค้าปริมาณน้อยลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ทั้ง ผัก ผลไม้ อาหารเจสำเร็จรูปและกึ่งสำเร็จรูป อาหารกระป๋อง เต้าหู้หรือนมถั่วเหลือง และโปรตีนเกษตร เนื่องจากราคาสินค้าสูงขึ้น ที่ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายโดยรวมเพิ่ม 14.63% รวมถึงส่วนใหญ่ต้องการประหยัด เพราะไม่เชื่อมั่นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
“ภาพรวมการบริโภค แม้จะมีเม็ดเงินใช้จ่ายเพิ่มขึ้น แต่เป็นการเพิ่มในแง่มูลค่าเท่านั้น เพราะค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่มาจากราคาสินค้า อาหารที่สูงขึ้น โดยเฉพาะผักและผลไม้ ส่วนในแง่ปริมาณลดลง 5-7% เพราะคนยังกังวลปัญหาเศรษฐกิจและระมัดระวังการใช้จ่ายอยู่ สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจภาคประชาชนยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัว ทำให้ปริมาณการซื้อสินค้าลดลง”นายธนวรรธน์กล่าว
สำหรับกลุ่มตัวอย่างที่สำรวจปีนี้มาจากคน 1,200 คนทั่วประเทศ โดย 89.5% ระบุว่าไม่กินเจ และอีก 10.5% จะกินเจ ส่งผลให้ช่วงเทศกาลกินเจ 9 วันจะมีประชาชนกินเจทั่วประเทศ 5-6 ล้านคน มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยคนละ 6,155 บาท โดยแยกเป็นค่าอาหารเฉลี่ยคนละ 213 บาทต่อวัน โดยส่วนใหญ่ซื้ออาหารสำเร็จรูปมารับประทานหรือซื้อของมาปรุงเอง ส่วนค่าใช้จ่ายเพื่อทำบุญอยู่ที่ 933 บาท ค่าเดินทางไปทำบุญต่างจังหวัด 2,419 บาท ค่าที่พักขณะเดินทางไปทำบุญต่างจังหวัด 2,863 บาท รวมทั้งสิ้น 6,115 บาทต่อคน ซึ่งค่าใช้จ่ายทั้งหมดได้เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว
ส่วนพรศักดิ์สิทธิที่ขอในช่วงกินเจ 4 ข้อ คือ ขอให้มีความสามัคคี ลดความขัดแย้ง ขอให้มีความสงบสุข ขอให้ไม่มีการคอรัปชั่น โกงกินบ้านเมือง และขอให้เศรษฐกิจดี โดยสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงที่สุดของประเทศไทยในขณะนี้ คือ สถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศ และสถานการณ์ทางการเมือง ระดับราคาสินค้าและราคาน้ำมัน รวมถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ขณะที่ความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลชุดใหม่ อยากให้แก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองมากที่สุด รองลงมาเป็น การแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจ และความโปร่งใสในการบริหารงานของรัฐบาล
