xs
xsm
sm
md
lg

คนไทยควรอ่าน ถ้าไม่อยากให้ลูกหลานบ้านเมืองฉิบหาย (2)

เผยแพร่:   โดย: ปราโมทย์ นาครทรรพ

ท่านผู้อ่านที่เคารพ ในตอนที่ 1 ผมจบด้วยคำถามของท่าน “พันธมิตรฯ คนหนึ่ง”
ฉบับนี้ผมขอต่อที่คำถามย้ำ และคำตอบของท่านผู้นั้นก่อน โดยมิได้ตัดทอนเช่นกัน ท่านที่ยังไม่ได้อ่าน หรืออ่านแล้วจำไม่ได้ โปรดหวนกลับไปอ่านอีกครั้ง

{--ดังนั้นเราต้องตั้งคำถามแล้วถามว่า ......
เราต้องการการเมืองและสังคมแบบนี้ต่อไปหรือไม่? อย่าคิดว่า .........สิ่งที่เราต้องการเป็นอุดมคติ ต้องเป็นยุคพระศรีอาริย์เท่านั้น เพราะในประเทศที่การเมืองเจริญแล้ว เขาสามารถทำได้ ประเทศไทยเราก็ต้องทำได้

เป็นกลาง ดีมั้ย ……………เป็นกลาง เพราะ …………..
เป็นกลาง เพราะไม่รู้ และไม่ยอมรับรู้ ข้อเท็จจริง
เป็นกลาง เพราะขี้ขลาด ไม่มีความกล้าต่อสู้กับความไม่ถูกต้อง
เป็นกลาง เพราะมีผลประโยชน์ร่วม แต่ไม่อยากเผยตัวตนให้เห็น
เป็นกลาง เพราะรอเข้าข้างฝ่ายมีชัย
เป็นกลาง เพราะไม่กล้าตัดสินใจ หวาดระแวงไปหมด
เป็นกลาง เพราะไม่ใส่ใจ ขี้เกียจ เห็นแก่ตัว คิดว่าธุระไม่ใช่
เป็นกลาง เพราะมองว่าคนอื่นเลวหมด ตัวเองดีอยู่คนเดียว
ผลสำรวจพบว่าคนไทยจำนวน 60% เป็นกลาง ถ้าจริง นับว่าน่าเป็นห่วงมาก ...

ผมคือ พันธมิตรฯ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข) ในสภาวการณ์ที่การเมืองไทยเป็นแบบนี้ (ระบอบการเมืองน้ำเน่า+ระบอบทักษิณ) ผมเชื่อมั่นว่า พันธมิตรฯ ได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง แม้อาจจะไม่ถูกกฎหมาย (ซึ่งถูกเรียกว่า “อารยะขัดขืน”) ซึ่งเราก็จะยอมรับผลจากการกระทำนั้น ไม่ว่าจะออกผลมาเป็นเช่นไรเรา พันธมิตร ต้องกล้าแสดงตน กล้าใส่เสื้อพันธมิตร กล้าแสดงความคิดหลักการของพันธมิตร ไม่มีเหตุผลที่ต้องอาย หรือกลัวตลอดเวลามีความพยายามอย่างยิ่งที่จะโจมตีการกระทำของเราว่า เป็นม็อบจัดตั้ง มีทุนใหญ่สนับ สนุน คนที่มาร่วมได้ตังค์ในกล่องข้าวบ้าง โอนเข้าบัญชีบ้างอ้างความชอบธรรมจากเบื้องสูง ต่างกรรมต่างวาระ

อ้างว่าทำลายความสงบสุข ทำให้บ้านเมืองแตกแยก เศรษฐกิจเสียหาย อ้างว่าทำลายทรัพย์สินทางราชการ ทำสถานที่สกปรก แสดงวาจาหยาบคาย ใช้ความรุนแรง มียาเสพ ติด อ้างว่าผู้ชุมนุมเข้าแล้วออกไม่ได้ มีโรคระบาด จะโดนข้อหากบฏ อ้างว่าจ้องล้มระบอบประชาธิปไตย เป็นเผด็จการ ไม่เคารพกฎหมาย เป็นพวกคนบ้า...จริงหรือไม่? จะเชื่อ เพราะเพียงได้ยินคนอื่นพูดกัน เพื่อนพูดกัน ครูเล่าว่า คนในเว็บบอร์ดว่า ในทีวีว่า หนังสือพิมพ์ว่า คนที่ไปมาว่า หรือจะเชื่อ เพราะได้สัมผัส ได้เห็นจริง รู้จริง เข้าใจจริง ลองไปพูดคุยกับผู้ชุมนุมคนไหนก็ได้

คนเหนือใต้กลางออกตกอีสาน ถามว่า เขามาชุมนุมทำไม? โดยไม่ต้องสนใจว่า สนธิ จำลอง อ.สมเกียรติ พิภพ สมศักดิ์จะเป็นใคร มาจากไหน เคยทำอะไร เพราะนั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็น คือ คนเป็นแสนๆ เป็นล้านๆ จากทั่วประเทศมาชุมนุมตั้ง 119 + วัน เขามีความต้องการอะไร เขามาทำไม มาเพื่ออะไร? แล้วท่านจะได้คำตอบ และจะรักเพื่อนพันธมิตรฯ-}

ท่านผู้อ่านที่เคารพ เมื่อท่านได้อ่านคำถามชุดแรกแล้ว ผมไม่อยากพูดว่าท่านผู้ถามถูกหรือผิด แต่จะพูดว่าท่านมองโลกในแง่ดีจนเกินไป เราอย่าพึ่งมองผู้ด้อยการศึกษาทั่วไปเลย หลานชายคนหนึ่งของภริยาผม เรียนจบชั้นปริญญาโท หากินอยู่กับระบบราชการ ในครอบครัวเป็นผู้มีปริญญาสูงๆ มีงานดีหมดตั้งแต่พ่อคือ พี่เขยผมลงมา หลานคนนี้เข้าขั้นบูชาและแก้ต่างทักษิณได้ทุก เรื่อง เขาบอกว่าไม่มีใครที่ไม่โกงกิน แต่ทักษิณดีกว่าคนอื่นที่โกงแล้วยังทำงานเป็น ส่วนเรื่องพจมานถูกจำคุกนั้นก็เป็นเรื่องหมายหัวแกล้งกัน ใครบ้างในประเทศไทยนี้ที่ไม่หนีภาษี

ผมอยากอ้วกที่ได้ยินทักษิณเองและกองเชียร์พยายามยกหางตัวเองขึ้นไปเทียบชั้นรัฐบุรุษอาวุโสปรีดี พนมยงค์ โดยอ้างความเฉลียวฉลาดและกล้าหาญนำการเปลี่ยนแปลง จนถูกอิดฉากลั่นแกล้งไม่สามารถอยู่ในบ้านเกิดเมืองนอนได้ คนพวกนี้เหมือนกับไอ้ลิงหัวเกรียนสามตัวที่เอาความจริงเสี้ยวเดียวมาประกอบกับความเท็จ แล้วตีขลุมสรุปเอาข้างดีทั้งหมด ความจริงคือทักษิณต้องหนีหมายศาลไปอยู่ต่างประเทศ ความเท็จคือโม้ว่าทักษิณเก่งหรือซื่อสัตย์เหมือนท่านปรีดี แท้จริงไม่ถึงเศษขี้ตีน ท่านปรีดีเป็นผู้สร้างประมวลรัษฎากรหรือระบบภาษีให้กับประเทศ ทักษิณกับเมียและบริวารละเมิดประมวลรัษฎากรหนีภาษี

ผมอยากอ้วกที่นักวิชาการเขียนบทความโจมตีพันธมิตรฯ ในหัวข้อประชาธิปไตยและอนาธิปไตยโดยยกข้อเขียนของท่านปรีดีมาอ้าง หวังหรือไม่หวัง จะใช้ข้อเขียนนั้นกำบังความผิดของทักษิณซึ่งเป็นฟาสซิสต์ทำลายประชาธิปไตย ละเมิดรัฐธรรมนูญ ฆ่าตัดตอน และคดโกงแผ่นดินอย่างมโหฬาร ถึงไม่หวังก็มีผลทำให้ผู้อ่านที่ไม่รู้จักคิดหลงคล้อยตามเพราะเคารพในปริญญาสูงๆ มหาวิทยาลัยดังๆ และตำแหน่งทางวิชาการของผู้เขียน

ถึงตรงนี้ผมชักจะไม่แน่ใจว่าผู้ที่ด้อยการศึกษา ยากจนอยู่ในชนบทหรือแหล่งเสื่อมโทรมในกรุงต่างกับผู้มีปริญญาอย่างไร ในสมัยโบราณไม่มีหนังสือ มีแต่ตัวบาลีหรืออักขระเลขยันต์ในเวทมนตร์ของพระหรือพ่อมดหมอผี ชาวบ้านจึงเคารพบูชา รับเป็นมรดกมาจนถึงวันนี้ ว่าเรื่องจะไม่จริงได้ยังไง ก็เขาเขียนไว้ในหนังสือ ด้วยเหตุนี้หนังสือพิมพ์จึงมีอิทธิพลมาก เสมือนหนึ่งเป็นมาตรฐานแห่งความเป็นจริง อนิจจา นอกจากนั้น ประกาศของทางราชการที่กระทำโดยการตีฆ้องร้องป่าว เรื่องป้องกันโรคระบาดบ้าง เรื่องให้มารับสงเคราะห์จากหลวงบ้าง ล้วนเป็นเรื่องมีประโยชน์น่าเชื่อถือ จนรับมรดกมาถึงทุกวันนี้เหมือนกันว่า ถ้าไม่จริงวิทยุหรือทีวีเขาจะเอามาออกหรือ อนิจจา อีกเหมือนกัน

ด้วยเหตุนี้ การปฏิรูปสื่อ ให้มีสื่อเสรีอย่างทั่วถึง จึงต้องเป็นวาระแห่งชาติหรือความต้องการที่เร่งด่วนของประเทศ หากเรารักษาการเมืองเก่าไว้ เราไม่มีทางจะแก้ไขหรือเปิดหูเปิดตาประชาชนเลย เพราะพรรคการเมืองที่แท้จริงเป็นแก๊งโจรปล้นเลือกตั้งมันต้องการจองจำประชาชน และประเทศไว้เป็นเครื่องมือหากิน นักวิชาการเก่งๆ พวกผู้มีอำนาจมันไม่ห่วงอยู่แล้ว เพราะส่วนใหญ่พวกนี้ชอบแสวงหาฐานันดร จึงติดเบ็ดอามิสของมันง่ายๆ อีกอย่างหนึ่ง ความรู้ที่พวกนี้ได้มาจากต่างประเทศก็ติดยึดเป็นทาสของเจ้าสำนักหรือครูใครครูมัน เป็นสมมติสัจจะเสียส่วนมาก ฟังแล้วศัพท์แสงและขี้ฟันฝรั่งเหม็นคลุ้ง

ผมไม่ได้หมายความว่าวิชาที่เรียนมาจากตะวันตกไม่มีความหมาย โดยเฉพาะสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต่างๆ แต่วิชาสังคมศาสตร์นั้นผมไม่เคยเชื่อภูมิฝรั่งง่ายๆ ดังนั้นลูกศิษย์ฝรั่งที่ได้ปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยดังๆ เช่น ฮาร์วาร์ด มิชิแกน หรือแม้แต่คอร์เนลโรงเรียนเก่าของผม รู้จักเมืองไทยโดยเอาตำราฝรั่งมากางจะให้ผมเชื่อได้อย่างไร ผมเป็นห่วงว่าบ้านเมืองเราจะล่มจมเพราะคนพวกนี้มากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกนักเศรษฐศาสตร์ รัฐศาสตร์และกฎหมาย ทีแรกก็นึกว่านักประวัติศาสตร์ค่อยยังชั่ว แต่เดี๋ยวนี้ต้องเปลี่ยนใจ เพราะส่วนใหญ่พากันตาบบอดหมด มองไม่เห็นความบกพร่องยุคทักษิณ เมื่อปัจจุบันยังมองบิด แล้วอดีตที่เอามาเล่าจะไม่เบี้ยวอย่างไรได้

นักสังคมศาสตร์ทาสฝรั่งพวกหนึ่ง พยายามตามแฟชัน Value Free Social Science` คือสังคมศาสตร์ที่ไม่เอาค่านิยมของตนเข้าไปเป็นเครื่องตัดสินสิ่งที่วิเคราะห์หรือศึกษา พวกนี้แหละ จะรู้ตัวหรือไม่ก็ไม่แน่ ที่ดัดจริตเอาผ้าขาวมาผูกหรือประกาศตัวเป็นกลาง ผมแผ่เมตตาให้ แต่ต้องบอกท่านผู้อ่านว่าอย่าหลงลมคนพวกนี้ จะเสียใจทีหลัง ถ้ายังไงๆ อ่านเรื่องความเป็นกลางข้างบนอีกครั้ง

ท่านผู้อ่านที่เคารพ ความเป็นกลางของทหารใหญ่และวินัยของทหารในสถานการณ์ที่ชาติและราชบัลลังก์ตกเป็นเป้าอย่างชัดแจ้งเวลานี้ก็เช่นเดียวกัน ผลก็คือ กองทัพตกเป็นทาสของระบอบทักษิณโดยไม่รู้ตัว เท่ากับทหารมิได้ปฏิบัติตามคำปฏิญาณตนต่อหน้าธงไชยเฉลิมพล

ผมอยากจะตั้งข้อสังเกตเพิ่มว่า บทบาททหารของชาติ ข้าราชการหรือนักวิชาการมีปริญญาสูงๆ จะต่างอะไรกับคนยากจนไร้การศึกษาระดับรากหญ้า หากการกระทำหรืองดเว้นกระทำของคนนั้นส่งผลให้เป็นอย่างเดียวกัน

การขาดโอกาสอ่านหรือการฟังสิ่งที่บิดเบือนกรอกหู อาจจะทำให้ชาวบ้านสิ้นคิด หรือตัดสินใจเฮโลกันไปผิดๆ แต่บางทีการที่สักแต่ว่าอาจออก แต่ไม่สามารถตีความหมายให้เชื่อมโยงเป็นเหตุเป็นผลได้ก็แย่เหมือนกัน ตัวอย่างเช่น หลานภริยาที่ผมเล่าให้ฟัง อีกตัวอย่างหนึ่งก็คือที่ผมเล่าเรื่องพลเอกชวลิต ผู้อ่านหลายท่านเข้าใจว่าผมฟอกขาวแก้ตัวให้พลเอกชวลิต ผมมิได้หมายความเกินที่พูดเลย ผมพูดแต่เพียงว่า พลเอกชวลิตไม่เคยพูดหรือทำชั่วต่อหน้าผม พลเอกชวลิตก็เป็นบุคคลหนึ่งที่ปากเป็นประชาธิปไตย แต่อดไม่ไหวต้องซื้อทั้งเสียง-ขายทั้งพรรค ซึ่งผมถือว่าเป็นอาชญากรรมการเมืองอย่างหนึ่ง บัดนี้พลเอกชวลิตก็อดไม่ได้ที่จะกลับไปเข้าคอกทักษิณกับพลพรรคฝนตกขี้หมูไหลตามความเคยชินเดิมๆ ของตน ผมเสียดายความคิดดีๆ ของพลเอกชวลิต
และไม่เคยเชื่อเลยที่พลเอกสุจินดาประณามว่าพลเอกชวลิตจะนำระบบเปรสิเดียมแบบคอมมิวนิสต์มาใช้ในประเทศไทย เดี๋ยวนี้ผมก็ยังไม่เชื่อ แต่อดจะสงสัยไม่ได้ว่าพลเอกชวลิตไม่ทราบหรือว่าจุดหมายปลายทางของระบอบทักษิณคืออย่างไร เหมือนกับชื่อหนังสือล่าสุดของพลเอกชวลิตหรือไม่ ความล้มเหลวของรัฐบาลพลเอกชวลิตนั้นหลายคนโทษว่าเป็นเพราะท่านเป็นคนโลเล พูดอะไรก็เชื่อถือไม่ได้ และที่สำคัญดูคนไม่เป็น “เรือแพดีๆ ไม่ขี่ข้าม-ไปเอาเรือรั่วน้ำมาข้ามขี่ คนดีๆ มีไม่ใช้คนดี ไปเอาคนอัปรีย์มาใช้งาน”

คราวนี้ยิ่งหนัก ใครเขาว่าอะไรผมก็ได้ยินทั้งสิ้น แต่ผมไม่อยากทับถมพลเอกชวลิต แต่ผมสงสารเมืองไทย เพราะขนาดคนที่เขายกนิ้วให้ว่าเป็นขงเบ้งกองทัพบกยังสิ้นคิด แล้วจะหวังให้ประชาชนรากหญ้าคิดอะไรเป็น

อยู่เป็นข้าระบอบทักษิณให้สบายเถิด เพื่อนทั้งหลาย อีกหน่อยเราจะฆ่าระบอบทักษิณเอง

ใครจะช่วยเราฆ่าระบอบทักษิณบ้าง เชิญออกมา ปล่อยให้พันธมิตรฯ ผู้เดียวคงจะไม่ไหว

กำลังโหลดความคิดเห็น