xs
xsm
sm
md
lg

โปรดเกล้าฯครม.ญาติแม้ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โปรดเกล้าฯ ครม.แล้ว "สมชาย" ควบ กลาโหม "จิ๋ว-โอฬาร" รองนายกฯ "เฉลิม" คุมสาธารณสุข "โกวิท" ยังเหนียวนั่ง มท.1 "ศรีเมือง" เด็กนายหญิง รมว.ศึกษาฯ "สมชาย" ขอโอกาส รมต.ทำงาน คุยโฉมหน้าดีกว่ายุค "สมัคร"เล็งโละทีมโฆษกฯ เผย "เด็กนายใหญ่-นายหญิง-เจ๊แดง-เจ๊หน่อย" พรึบ "ก๊กเนวิน" หด "ก๊วนสรอรรถ" หาย "สมชาย" นกรู้เรียกกลุ่มภาคกลาง ออกรอบตีกอล์ฟเครียร์ใจ "บุญลือ" ซัดถูกนายกฯหักหลัง เช่นเดียวกับ "ชวรัตน์" มึน"เป็ดเหลิม" เสียบแทน โดยไม่บอกล่วงหน้า "แก๊งเพื่อนเนวิน" ก้มหน้ากลืนเลือดตัวเองหนุน "สมชาย" ด้าน"จิ๋ว" เหนียมขออีก 2 วันแจงเหตุรับเก้าอี้รองนายกฯ "สุชาติ" โวได้นั่งขุนคลังเพราะเชี่ยวชาญเศรษฐกิจ "อภิสิทธิ์" เอือม ตั้ง ครม.ตอกย้ำการเมืองน้ำเน่า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (24 ก.ย.) พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 18 กันยายน พุทธศักราช 2551 แล้วนั้น บัดนี้ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้เลือกสรรผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี เพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบไปแล้ว
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 171 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ควบ รมว.กลาโหม พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ นายโอฬาร ไชยประวัติ นายชวรัตน์ ชาญวีระกุล พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ เป็นรองนายกรัฐมนตรี โดยมีนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เป็นรองนายกรัฐมนตรี ควบ รมว.ต่างประเทศ
พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รมว.มหาดไทย นายประสงค์ โฆษิตานนท์ และนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข เป็นรมช.มหาดไทย นายสุชาติ ธรดาดำรงเวช เป็น รมว.คลัง ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี และนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เป็น รมช.คลัง
นายไชยา สะสมทรัพย์ เป็น รมว.พาณิชย์ นายสงคราม เลิศกิจไพโรจ์ พ.ต.ท.บรรณยิน ตั้งภากรณ์ เป็น รมช.พาณิชย์ นายสัตติ พร้อมพัฒน์ เป็น รมว.คมนาคม โดยมี นายโสภณ ซารัมย์ และนายวราวุธ ศิลปอาขา เป็น รมช.คมนาคม
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล เป็น รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายสมพัฒน์ แก้ววิจิตร นายธีระชัย แสนแก้ว เป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็น รมว.สาธารณสุข นายวิชาญ มีนชัยนันท์ เป็น รมช.สาธารณสุข
นายมั่น พัธโนทัย เป็น รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ เป็น รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายอุดมเดช รัตนเสถียร เป็น รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ เป็น รมว.ยุติธรรม นายวุฒิพงษ์ ฉายแสง เป็น รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
นายศรีเมือง เจริญศิริ เป็น รมว.ศึกษาธิการ นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน เป็น รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล เป็น รมว.พลังงาน นางอุไรวรรณ เทียนทอง เป็น รมว.แรงงาน นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล เป็น รมว.วัฒนธรรม และพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก เป็น รมว.อุตสาหกรรม
พร้อมทั้งได้พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้รัฐมนตรีที่ได้รับแต่งตั้งเข้าเฝ้าฯ เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ในวันที่พฤหัสบดีที่ 25 กันยายน 2551 เวลา 17.00 น. ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

โควต้านายใหญ่-เจ๊แดง-เจ๊หน่อยพรึบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการจัดสรร ครม.ครั้งนี้โดยเฉพาะพรรคพลังประชาชน จะเป็นไปตามโควต้าของกลุ่มก๊วนต่างๆ ภายในพรรค โดยเฉพาะกลุ่มสายตรง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร จะได้หลายตำแหน่ง เช่น พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ นายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกฯ นายสุชาติ ธาดาดำรงเวช รมว.คลัง นายศรีเมือง เจริญศิริ รมว.ศึกษาธิการ และ นายสงคราม เลิศกิจไพโรจน์ รมช.พาณิชย์ หรือแม้แต่นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม ที่เคยแตกไปอยู่กับ กลุ่มเพื่อนเนวิน ก็หันกลับมาภักดีกับนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล คนใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ อีกครั้ง
ส่วนกลุ่มเจ๊แดง นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ และกลุ่มภาคเหนือ ก็มีนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รวมถึงนายสุพล ฟองงาม อดีต รมช.มหาดไทย อดีตสมาชิกกลุ่มเพื่อนเนวิน ที่ยอมหักหลังเพื่อนเพื่อให้ตัวเองได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล สมชาย1
สำหรับกลุ่มที่ได้โควต้ารัฐมนตรีมากอย่างไม่น่าเชื่อคือ คือกลุ่ม กทม.ของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ มีทั้งนายชวรัตน์ ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุ่ง รมว.สาธารณสุข วิชาญ มีนชัยนันท์ รมช.สาธารณสุข นายอุดมเดช รัตนเสถียร รมว.การพัฒนาสังคมฯ

"แก๊งยี้ห้อย"หด-"ก๊กสรอรรถ"วืด
ขณะที่กลุ่มเพื่อนเนวิน เครือข่ายแก๊งออฟโฟร์ เหลือเพียง พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รมว.มหาดไทย นายธีระชัย แสนแก้ว รมช.เกษตรและสหกรณ์ ขนาดนายทรงศักดิ์ ทองศรี รักษาการ รมช.คมนาคม แกนนำคนสำคัญกลุ่มเพื่อนเนวิน ก็ยังหลุดเก้าอี้ โดยให้ นายโสภณ ซารัมย์ คนในกลุ่มเดียวกันมานั่ง รมช.คมนาคมแทน
สำหรับโควต้าภาคกลาง เหลือเพียง นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.พาณิชย์ กับนายวุฒิพงศ์ ฉายแสง น้องชายนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ขณะที่นางบุญลือ ประเสริฐโสภา อดีต รมช.ศึกษาธิการ กลุ่มนายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีตกรรมการบริหาารพรรคไทยรักไทย ยังหลุดจากตำแหน่งโดยที่เจ้าตัวยังงง

"สมชาย"ขอโอกาสรมต.ทำงาน
ช่วงเช้าวันเดียวกัน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึง เสียงวิจารณ์ที่ค่อนข้างผิดหวังกับรายชื่อ ครม.ชุดใหม่ที่ออกมา โดยเฉพาะทีมเสรษฐกิจ และ รมว.ต่างประเทศว่า ต้องรอให้เขาทำงานดู การวิพากษ์วิจารณ์ต้องรับฟัง แต่ถ้าเขาทำงานดีก็โอเค คิดว่าประชาชนและสื่อก็จะคอยตรวจสอบ ต้องช่วยกันดูแต่อยากให้ท่านทำงานดูก่อน
สำหรับทีมเศรษฐกิจที่หลายคนเป็นห่วงนั้นต้องขอบคุณในความเป็นห่วง แต่คิดว่าสถานการณ์อย่างนี้ทีมเศรษฐกิจที่ตั้งไว้น่าจะไปได้ เพราะยังมีทีมที่ปรึกษา ต่างหากอีก เมื่อถามอีกว่า ทำไมจึงหาบุคคลดีๆไม่ได้หรือ นายสมชาย กล่าวว่า ทุกคนก็ดีหมด
ส่วนที่ นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ได้แสดงความห่วงใยหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องห่วงใยเรื่องกังวล ต้องขอบคุณ แต่คิดว่า รัฐมนตรีที่แต่งตั้ง เอาข้อห่วงใยนี้ไปคิดคำนึง ทำงานปรับปรุงแก้ไข อย่าให้เป็นที่ผิดหวัง อย่างให้เป็นอย่างที่ท่านกังวลใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการตั้งเงื่อนเวลาในการทำงานของรัฐมนตรีแต่ละคนหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า คงไม่เป็นเงื่อนเวลา แต่จะต้องทำงานทันที ต้องทันสถานการณ์ หลังจากที่ได้ถวายสัตย์แล้ว ต้องลุยเลย ช้าไม่ได้ ปัญหามันเยอะ ช่วงนี้ได้ว่างเว้นรัฐมนตรีที่จะต้องทำงานตามนโยบายมานานแล้ว

ไม่เข้าข้างตัวเองครม.ดีกว่ายุค"หมัก"
ผู้สื่อข่าวถามว่าโฉมหน้า ครม. หน้าตาดีกว่าชุดที่ผ่านมาหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ถามกลับว่า "แล้วคุณว่าดีกว่าไหม" ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ท่านนายกฯ คิดว่าอย่างไร นายสมชาย กล่าวว่า พูดไปจะเข้าข้างตัวเอง ก็ให้ช่วยดูหน่อย
ผู้สื่อข่าวถามถึงเหตุผลที่ตั้งนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เป็น รมว.ต่างประเทศ นายสมชาย กล่าวว่า คิดว่าท่านจะทำงานได้ดี และคิดว่าท่านจะมีทีมที่ปรึกษาที่ดี ต้องให้ท่านลองดู เพราะการอยู่กระทรวงการต่างประเทศเป็นการกำกับนโยบายการต่างประเทศของรัฐบาล ส่วนทูตหรือผู้เชี่ยวชาญทางการทูตในกระทรวงการต่างประเทศมีจำนวนมากคงจะจัดทีมงาน ตนมั่นใจอย่างนั้น
สำหรับแรงกระเพื่อมภายในพรรคพลังประชาชนในการตั้ง ครม.ชุดใหม่นี้นั้น นายสมชาย ยืนยันว่ามันต้องจบ ต่อข้อถามว่า ครม.ชุดนี้มีฝ่ายการเมืองเข้ามามาก เหมือนว่าท่านจะทำอะไรไม่ได้มาก นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็ต้องมีคนนอกอยู่บ้าง แต่ฝ่ายการเมืองก็ต้องมี แต่ถึงแม้จะเป็นฝ่ายการเมือง ก็ควรจะเป็นคนที่ทำงานให้กับประชาชนได้

ไม่เลิก6เดือน6มาตรการฝ่าวิกฤต
ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นห่วงอุปสรรคในการทำงานของรัฐบาลหรือไม่ เพราะหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลจะเจอคดีความต่างๆ นายสมชาย กล่าวว่า การทำงานมันมีอุปสรรคทั้งนั้น ไม่ใช่เจออุปสรรคแล้วกระโดดหนี แต่ทุกฝ่ายก็ต้องช่วยกัน อุปสรรคจะได้ผ่านไปเร็ว ทุกอย่างที่เกิดปัญหาขึ้น ไม่ใช่เรื่องที่เรามาต่อสู้กับใคร เป็นงานที่ต้องแก้
นายสมชาย ยืนยันว่า มาตรา 6 เดือน 6 มาตรการฝ่าวิกฤตเพื่อคนไทย จะยังคงดำเนินต่อไป เพราะประชาชนได้ประโยชน์ ซึ่งขณะนี้พี่น้องต่างจังหวัด ได้ผ่อนภาระค่าใช้จ่ายไปพอสมควร และหากเข้าไปทำงานได้แล้ว จะดูว่ามีอะไรบ้างที่จะช่วยผ่อนคลายประชาชนได้อีก ไม่ใช่เรื่องหาเสียง แต่ก็ยังไม่ชัดเจน
นายสมชาย กล่าวถึงการหารือกับแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่า ตนพูดคุยได้กับทุกคนทุกฝ่ายกับคนไทยด้วยกัน อยากให้ทุกอย่าง เรียบร้อย ไม่ว่าใครทั้งนั้น ถ้าได้พูดคุยกันอย่างมีเหตุผล อาจจะเป็นเรื่องที่มีความหวังดีต่อกัน ก็อยากจะขอให้ช่วยดูแลประเทศไทย ผู้สื่อข่าวถามว่านายกรัฐมนตีจะเป็นผู้เจรจาเองหรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า อันนี้อย่าเพิ่งพูดตอนนี้ว่าอะไรเป็นอะไร

แย้มโละทีมงานโฆษกยุค"สมัคร"
นายสมชาย กล่าวถึงทีมงานโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีว่า จะต้องมีการ ปรับปรุง ขอรับรองว่าถ้าเห็นแล้วหน้าตาจะสวยงาม ขอยืนยันทีมโฆษกฯ สวยงามอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจาก ครม. ได้รับการโปรดเกล้าฯ ต่อไปหลังการประชุม ครม. ในวันอังคาร จะมีรายการพบปะกับผู้สื่อข่าว โดยจะมีกำหนดเวลา และกำหนดโซนในการพบปะสื่อมวลชนอย่างแน่นอน โดยสื่อมวลชน จะได้ไม่ต้องวิ่งตามกันให้เหนื่อย และอาจจะมีการพูดจากันเป็นกรณีพิเศษบ้าง ส่วนการจัดรายการวิทยุพบประชาชนนั้น อันนั้นต้องดูเป็นรายๆ ไป

นายกฯตีกอล์ฟเคลียร์ใจกลุ่มอกหัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้เดินทางไปลงชื่อประชุมที่รัฐสภาแล้วก็ได้เดินทางต่อไปยังสนามกอล์ฟ Wind Mill ย่านบางพลี โดยมีรายงานว่า นายสมชายได้ออกรอบตีกอล์ฟกับ กลุ่ม ส.ส.ภาคกลาง โดยมีแกนนำ คือ นายสรอรรถ กลิ่นปทุม อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย จากที่ก่อนหน้านี้ กลุ่ม ส.ส.ภาคกลางไม่พอใจการจัดโผ ครม. เพื่อเป็นการเคลียร์ปัญหาการจัดโควต้ารัฐมนตรี ภายหลังมีกระแสข่าวกลุ่มส.ส.ภาคกลาง และ กลุ่มเพื่อนเนวิน ไม่พอใจ รายชื่อ ครม. ไม่เป็นไปตามที่ได้ตกลงกันไว้ โดยเฉพาะ ที่นายบุญลือ ประเสริฐโสภา หลุดจากตำแหน่ง รมช.ศึกษาธิการ และ กลุ่มเพื่อนเนวิน หลุดไปหลายตำแหน่ง

"บุญลือ"ลั่นสามี"เจ๊แดง"หักหลัง
นายบุญลือ ประเสริฐโสภา รักษาการ รมช.ศึกษาธิการ ได้เดินทางมายังกระทรวงศึกษาธิการเพื่อเก็บของใช้ส่วนตัว หลังไม่มีรายชื่อตนเองติดใน ครม. ของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ โดยนายบุญลือ กล่าวว่า นายกฯ คงมีเหตุผลในการเสนอ ใครขึ้นเป็นรัฐมนตรี ตนยังไม่ได้คุยกันตั้งแต่วันที่ได้รับโปรดเกล้าเป็นนายกรัฐมนตรี ตนยอมรับว่านายสมชายได้รับปากว่าจะได้นั่งในตำแหน่งรมช.ศึกษาธิการ เหมือนเดิม
"ยังไม่ขอวิจารณ์ถึงรายชื่อครม.ชุดใหม่ และไม่ติดใจ ที่ส.ส.กลุ่มภาคกลางทั้ง 14 คนไม่มีรายชื่อในครม.แม้แต่คน รอให้มีการโปรดเกล้าลงก่อน สำหรับกลุ่ม ต้องพุดคุยถึงการทำงานในฐานะรัฐมนตรีจากครม.ชุดเดิมว่า เป็นอย่างไรบ้าง เหมือนเป็นการสรุปผลงานตัวเอง รวมถึงทิศทางการทำงานในอนาคตด้วยว่าจะทำงานร่วมกับรัฐบาลนี้อย่างไร"
ผู้สื่อข่าวถามว่า การไม่มีชื่อติดอยู่ในครม.ชุดนี้ ถือว่าถูกหักหลังหรือไม่ นายบุญลือ กล่าวว่า ต้องรอฟังเหตุผลของนายสมชายภายหลังโปรดเกล้า ครม.ชุดใหม่ กระทรวงศึกษาธิการ ไม่ได้มีรัฐมนตรีว่าการ คือนายศรีเมือง เจริญศิริ ส.ส.สัดส่วนพลังพลังประชาชน เพียงคนเดียวตามข่าว ยังมี นายพงศ์พันธ์ สุนทรชัย ส.ส.หนองคาย กลุ่มเพื่อนเนวินนั่งตำแหน่งรมช.ศึกษาธิการ หากมีรัฐมนตรีว่าการเพียงคนเดียวจริง ๆ คงรับมือกับงานการศึกษาไม่ไหว หรือทำให้งานเดินช้า

"กลุ่มเนวิน"กลืนเลือดรับสภาพ
นายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม รองโฆษกพรรคพลังประชาชน สมาชิก กลุ่มเพื่อนเนวิน กล่าวถึงเสียงวิจารณ์ที่ว่าการจัด ครม.ครั้งนี้เพื่อสลายกลุ่มเพื่อนเนวิน โดยทำให้ได้ตำแหน่งน้อยลงว่า กลุ่มไม่รู้สึกหวั่นไปวกับข่าวการสลายกลุ่ม จากที่พูดคุยกันเราอยากให้คำนึงถึงอนาคตของชาติบ้านเมืองเป็นหลัก ดังนั้นไม่ว่าการจัดตั้ง ครม.จะมีหน้าที่อย่างไร เราก็ให้เกียรติและยอมรับการตัดสินใจของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัรฐมนตรี เพราะอยากให้บ้านเมืองพ้นวิกฤติ และเราเชื่อมั่นในระบอบรัฐสภาในการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง
"การตั้งครม.ครั้งนี้พวกเราไม่หวั่นไหวว่าจะได้กี่ตำแหน่ง แม้จะมีข่าวออกมา อย่างไร ขอให้ประชาชนเข้าใจและขอยืนยันว่าเราไม่ได้มีการต่อรองตำแหน่งตั้งแต่เริ่มต้น มีคนพยายามสร้างภาพที่ไม่ดีให้กับพวกเรา"
นายศุกชัย กล่าวว่า จะเห็นได้ว่าตั้งแต่นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยพ้นจากตำแหน่ง พรรคได้มีมติ 2 ครั้ง เสนอให้นายสมัครกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ซึ่งกลุ่มก็ยึดมั่นในมตืพรรค แต่เมื่อเกิดเหตุองค์ประชุมไม่ครบวันที่ 12 กันยายนทำให้คณะกรรมการบริหารพรรค เสนอให้นายสมชาย เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งกลุ่มรู้สึกวิตกและเป็นห่วงสถานการณ์ จึงแถลงจุดยืนให้ทบทวนและชี้แจง โดยในที่สุดคณะกรรมการบริหารพรรคได้ประชุมทบทวนและชี้แจง เราก็ยอมรับและเคารพ รวมทั้งได้โหวตสนันสนุนนายสมชาย เป็นนายกรัฐมนตรี โดยไม่มีเสียงแตกหรือการต่อรอง
"เมื่อนายสมชายได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นนายกรัฐมนตรี พวกเราไม่ได้ เคลื่อนไหวต่อรองตำแหน่ง และไม่ได้วิตกว่าใครจะได้กี่ตำแหน่ง พวกเราคิดว่า ทำอย่างไรให้นายกฯ เข้ามาบริหารแก้วิกฤติของประเทศได้ ดังนั้น เรายืนยันจะอยู่ให้กำลังใจนายกฯ ทำงานต่อไป"
นายศุภชัย กล่าวว่ากลุ่มไม่เคยคิดป่วน ตีรวนหรือสร้างความวุ่นวายในรัฐบาล แต่จะให้กำลังใจนายสมชายและรัฐบาล เพราะบ้านเมืองวิกฤติอยู่แล้ว ส่วนที่นายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย นัดหารือส.ส.ในกลุ่มนั้น เป็นการพบปะพูดคุยและคิดว่าจะทำอย่างไรให้รัฐบาลอยู่และแก้ปัญหาของชาติได้ รวมทั้งอยากให้ สภาอยู่ได้นานๆ เท่านั้น ส่วนกรณีที่ส.ส.กลุ่มอื่นๆ ในพรรคพลังประชาชได้โควต้าเป็นรัฐมนตรีเพิ่มขึ้นนั้น เราไม่ขอวิจารณ์ ขอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ใครเป็นอย่างไร

"ชวรัตน์"มึนถูก"เป็ดเหลิม"แย้งเก้าอี้
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รักษาการ รมว.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบเรื่องว่าจะถูกปรับออกจาก รมว.สาธารณสุข และไม่ทราบว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง จะมารับตำแหน่งแทน ขณะนี้ยังไม่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ จึงยังไม่แน่นอนว่าผลจะออกมาดังนั้นจริงหรือไม่ ซึ่งตนก็ปฏิบัติหน้าที่รักษาการรมว.สาธารณสุขเป็นปกติ
"คนที่มีบุคลิกแตกต่างกันก็มีข้อดีแตกต่างกันไปตามสไตล์ของแต่ละคน คนบุคลิกโผงผางก็จะมีข้อดีในแบบหนึ่ง แต่เชื่อว่าจะเป็นเรื่องดีทั้งนั้น และไม่หนักใจ และเชื่อว่าข้าราชการกระทรวงสาธารณสุขทุกคนเป็นคนดีมีความสามารถ แม้จะเปลี่ยนผู้นำก็สามารถทำงานได้หมด"
ด้าน นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รักษาการ รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า ไม่ว่าจะเปลี่ยน รัฐมนตรีหรือไม่ ก็จะไม่กระทบกับการทำงาน เพราะมีการวางระบบราชการไว้ดีอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชวรัตน์ ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่เตรียมจัดเก็บข้าวของ เอกสารต่างๆ แล้ว โดยผู้ติดตามรัฐมนตรีแจ้งว่า นายชวรัตน์ เพิ่งจะทราบข่าว เมื่อช่วงเที่ยงวันนี้ ดังนั้น คงจะไม่เข้ามาทำงานที่กระทรวงอีก ถือว่าวันนี้เป็นการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งรมว.สาธารณสุขเป็นวันสุดท้าย และคาดว่าคณะทำงานของรัฐมนตรีคนใหม่จะเดินทางเข้ามาตรวจดูสถานที่ทำงานในวันที่ 26 กันยายน นี้

"จิ๋ว"ขออีก2วันเปิดใจรับรองนายกฯ
พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ปฎิเสธที่จะตอบคำถามผู้สื่อข่าว เกี่ยวกับเหตุผลการเข้ารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี กล่าวเพียงพออีก 2 วันจะให้เหตุผล เมื่อถามว่า ใครเป็นผู้ติดต่อให้เข้าร่วมรัฐบาล พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ไม่บอก เมื่อถามย้ำว่า สนใจช่วยงานด้านไหน พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ไม่พูดหรอก เมื่อถามว่า ตอนนี้ยังเป็นห่วงสถานการณ์บ้านเมืองหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ไม่ห่วงอะไรเลย
"ขอเวลาอีก 2 วันแล้วค่อยมาเปิดใจถึงเรื่องต่างๆ รวมถึงเหตุผลที่จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งประเดี๋ยวก็บอกแน่ หากพูดไปเดี๋ยวจะมาบอกว่า ยังไม่มีอะไรยุ่งเหรอ ชอบสัมภาษณ์ ยังไม่ทันไรเลย เพราะเรื่องแบบนี้มีคนคอยที่จะว่าเรา"
พล.อ.ชวลิต กล่าวต่อว่า ภายหลังที่ความชัดเจนแล้ว จะเปิดใจทันที เมื่อถามว่า พล.อ.ชวลิตรับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคงแล้ว พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ยังไม่รู้ หากพูดไปแล้วไม่มีชื่อออกมา แล้วจะอาย จึงพูดไม่ได้ ต้องรออีก 2 วัน
พล.อ.ชวลิต กล่าวต่อว่า ทางออกของประเทศชาติ ไม่ใช่เรื่องลำบาก ตนรู้จักกับนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี มานานแล้ว และตั้งแต่ที่นายสมชายเป็น นายกรัฐมนตรี ก็เคยพูดกันมา 1 ครั้ง เมื่อถามว่า เชื่อมือนายสมชายในการบริหารประเทศหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ทุกคนมีเจตนาที่ดี ขอให้มีเจตนาที่ดีบริสุทธิ์เพื่อบ้านเพื่อเมือง

"สุชาติ"โวเป็นผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจ
นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รักษาการ รมว.คลัง กล่าวว่า ได้ตอบรับตำแหน่ง รมว.คลังแล้ว ภายหลังถูกทาบทามก่อนหน้านี้ โดยตนจะทำงานโดยให้อิสระกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในการดำเนินนโยบายการเงิน
"ผมถูกทาบทามและผมก็ตอบรับเรียบร้อยแล้ว ผมเป็นผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจ" นายสุชาติ กล่าว
นายสุชาติ กล่าวว่า ค่าเงินบาทที่ระดับ 34-35 บาทต่อดอลลาร์เป็นระดับที่เหมาะสมกับภาวะในปัจจุบัน และจะให้อิสระกับ ธปท. ในการดำเนินนโยบายการเงิน และธุรกิจประกันของไทยก็ไม่มีปัญหาสภาพคล่องอย่างที่เป็นข่าว

ปชป.ชี้ครม.ใหม่ตอกย้ำภาพน้ำเน่า
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า ครม.ชุดใหม่แทบไม่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นเลย น่าเป็นห่วงว่าหากเริ่มต้นเช่นนี้ การที่จะกอบกู้ความเชื่อถือ ความเชื่อมั่นของรัฐบาล ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากในการที่จะเดินหน้าแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ก็จะเป็นเรื่องที่ยากลำบาก และนายกรัฐมนตรีจะรับภาระหนักอีกหลายเท่าในการนำพาบ้านเมืองให้พ้นจากวิกฤติ เนื่องจากรัฐมนตรีที่มีรายชื่อ ส่วนใหญ่ได้ทำงานมาแล้ว และหลายคนที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นปัญหาก็ยังอยู่ใน ครม.ชุดใหม่นี้ ดังนั้นรายชื่อ ครม.ที่ออกมาจึงกลายเป็นการ ตอกย้ำภาพที่คน วิพากษ์วิจารณ์อยู่แล้วว่าเป็นเรื่องของกลุ่มการเมือง และไม่ได้วัดกันที่ประสิทธิภาพ หรือคุณภาพการทำงาน แต่วัดกันที่ว่าใครเป็นคนของใคร และมีจำนวนคนมากแค่ไหน
"ครม.ชุดใหม่ไม่ควรคิดว่าจะมีช่วงฮันนีมูน เพราะปัญหาบ้านเมือง รุมเร้าอยู่แล้ว ทั้งภัยธรรมชาติ เรื่องที่ค้างคามาจากความขัดแย้งทางการเมือง และเรื่องเศรษฐกิจ และความหวังที่ว่านายกรัฐมนตรีจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ไปในทางที่ดีขึ้น ก็คงไม่มี อย่างไรก็ตามยังจะต้องรอดูนโยบายของรัฐบาล ว่ามีอะไรที่เป็นเรื่องใหม่ หรือมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรหรือไม่ ซึ่งต้องให้โอกาสนายกรัฐมนตรี แต่ขอย้ำว่างานจะหนักขึ้นหลายเท่า จากการที่กระบวนการสรรหาบุคลากรเป็นเช่นนี้"
ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีระบุจะสานนโยบายเดิมของรัฐบาลที่แล้วนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จะต้องถามว่านโยบายเดิมโดยบุคคล ซึ่งเกือบจะเดิม ๆ ทั้งหมดนำพาประเทศไปถึงจุดไหนในระยะเวลาไม่ถึงปี และในวันนี้หากจะยืนยันเหมือนเดิม จะนำพาประเทศไปทางไหน ทั้งนี้หากยิ่งคิดว่าระยะเวลาในการทำงานสั้น ก็น่าจะยิ่งต้องพิสูจน์ตัวเองโดยการต่ออายุด้วยซ้ำ

จี้นายกฯโชว์จุดยืนไม่แทรกแซงศาล
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ส.ส.พรรคพลังประชาชนกำลังรวบรวมรายชื่อ ถอดถอนนายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญออกจากตำแหน่งในขณะที่กำลังจะมีการพิจารณาคดียุบพรรคว่า ยังไม่ทราบว่าจะถอดถอนเรื่องอะไร แต่การจะถอดถอนต้องมีข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายชัดเจนอยู่แล้ว ดังนั้นหากมีพยานหลักฐานก็สามารถร้องได้ แต่ถ้าไม่มีมูลก็ไม่มีปัญหาอะไร ทั้งนี้เห็นว่าพรรคพลังประชาชนพยายามทุกวิถีทางในความพยายามสกัดกั้นการทำงานขององค์กรอิสระ และในวันนี้ถึงเวลาที่นายกรัฐมนตรีจะต้องแสดงจุดยืนที่ชัดเจน ซึ่งกรณีปัญหาขององค์กรอิสระเป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งที่นำมาสู่ความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งต้องดูว่านายกรัฐมนตรีจะมีวิธีเปลี่ยนแปลงอย่างไร
กำลังโหลดความคิดเห็น