xs
xsm
sm
md
lg

ทักษิณจัดครม.สมชายควบกห.เติ้งขวางเนวิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - โปรดเกล้าฯ"สมชาย" เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 26 แล้ว เจ้าตัวขอเทิดทูนในหลวงไว้เหนือหัว วอนคนไทยหันหน้าเข้าหากัน เพื่อความปรองดองในชาติ "ชัย"เผยในหลวงรับสั่งให้ตั้งครม.เร็วที่สุด ส่วนการจัดโผ ครม."สมชาย1"ยังต้องพึ่งสายตรงจาก"แม้ว" สั่งโยก "สมพงษ์"นั่งมท.1 ดึง"เปิดเหลิม" คุมยุติธรรม "สมชาย"เล็งควบกลาโหม ด้าน"แม้ว" จ้อผ่านสื่อนอก ปัดพูดดันน้องเขยผงาด จะกลับเมืองไทยเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม เหน็บทำอะไรต้องขออนุญาตพันธมิตรฯก่อน "ชลิต"ติงนายกฯ ไม่ควรควบรมว.กลาโหม เพราะทำงานได้ไม่เต็มที่ ย้ำต้องนำ"แม้ว" กลับมาดำเนินคดี "บรรหาร" ตีกัน"แก๊งเนวิน" ยันชาติไทยต้องได้โควต้าเดิม กระทรวงเดิม หากเปลี่ยนวุ่นแน่ "ลูกท็อป" ฝันถึงตำแหน่งรัฐมนตรี

หลังจากนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎร ให้ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 26 ไปเมื่อวันที่ 17 ก.ย. แล้วนั้น เมื่อเวลา เมื่อเวลา 15.00 น.วานนี้ นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานรัฐสภา ได้เดินทางออกจากรัฐสภา เพื่อเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการนำความกราบบังคมทูล นำรายชื่อผู้ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี ทูลเกล้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย โปรดเกล้าฯ ณ วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
ต่อมาเวลา 17.29 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ออก ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พระราชทานพระบรมราชวโรกาส ให้ นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายร่างประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้ง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อทรงพิจารณาลงพระปรมาภิไธย และรับพระราชทานประกาศพระบรมราชโองการ เพื่ออัญเชิญไปดำเนินการต่อไป
จากนั้น เวลา 18.54 น. นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยนายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้อัญเชิญพระบรมราชโองการ มายังบ้านพักนายสมชาย ที่หมู่บ้านเบเวอร์ลี่ฮิลล์ ถนนแจ้งวัฒนะ โดยนายสมชาย และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภริยา พร้อมบุตรธิดา และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ รออยู่ ณ บริเวณห้องพิธี อย่างพร้อมเพรียงกัน
เมื่อได้เวลา เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรอ่านพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี ดังนี้
พระบรมราชโองการ ประกาศ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ประกาศว่า
ด้วยความเป็นนายกรัฐมนตรีของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้สิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 182 วรรคหนึ่ง อนุมาตรา 7 และประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาว่า สภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2551 เห็นชอบด้วยในการแต่งตั้ง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร จึงทรงพระราชดำริว่านายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นผู้ที่สมควรไว้วางพระราชหฤทัย ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
อาศัยอำนาจตามความใน มาตรา 171 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี บริหารราชการแผ่นดินตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 18 กันยายน พุทธศักราช 2551 เป็นปีที่ 63 ในรัชกาลปัจจุบัน
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร
จบแล้ว เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ถวายคำนับพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วอัญเชิญพระบรมราชโองการฯ ไปวางที่โต๊ะหมู่บูชา ถวายคำนับ กลับไปยืนประจำที่ นายกรัฐมนตรี ถวายคำนับ แล้วเดินออกไปยืนตรงกลางหน้าโต๊ะหมู่บูชา ถวายคำนับพระบรมฉายาลักษณ์ ฯ เปิดกรวยกระทงดอกไม้แล้วกราบราบ ลุกขึ้นยืนถวายคำนับ เสร็จพิธีรับพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี
จากนั้นนายสมชาย กล่าวว่า ถือเป็นพระมหากรุณาล้นพ้นหาที่สุดมิได้ในครั้งนี้เป็นศิริมงคลแก่ผมและครอบครัวอย่างสูงสุด กระผมจะขอเทิดทูนไว้เหนือชีวิต ด้วยความจงรักภักดีอย่างหาที่สุดมิได้
พี่น้องประชาชนชาวไทยที่เคารพ ผมขอยืนยัน ณ โอกาสวันนี้ว่า จะบริหารราชการแผ่นดิน ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริตด้วยความทุ่มเท เสียสละ ด้วยวิริยะอุตสาหะ ด้วยความมีคุณธรรม และ ยึดมั่นในหลักกฎหมาย และยึดมั่นในหลักขบวนการยุติธรรม ด้วยความเป็นธรรม เรียบร้อยในบ้านเมืองของเรา
เพี่อน้องประชาชนที่เคารพครับ ขณะนี้ในประเทศบ้านเมืองของเรานั้นมีปัญหาที่ต้องดำเนินการแก้ไข คงจะเป็นที่ทราบกันทั่วไปว่า บางครั้งเราขัดแย้งกันในทางความคิด ความขัดแย้งเหล่านั้น ผมคิดว่าเป็นปกติธรรมดาที่จะเกิดขึ้นได้ แต่เราคงจะต้องมองว่าเมื่อเกิดขึ้นแล้วจะทำอย่างไร จึงจะนำพาไปสู่ความปรองดองสมานฉันท์ และความเป็นปรึกแผ่นของบ้านเมืองเราต่อไป ผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้ต้องคิดอย่างรอบคอบและมีเหตุผล
"ประสงค์ที่จะให้พี่น้องประชาชนไทยของเรา ได้กลับมาร่วมกันคิด คิดว่าความเป็นพี่เป็นน้องของเราจะต้องมีความสำคัญอย่างยิ่ง ความเป็นชาติ ความเป็นปึกแผ่นแน่นหนา ความเจริญก้าวหน้าของพี่น้องประชาชนร่วมกันนั้น เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เราน่าจะหันหน้าเข้ามาสู่ความปรองดอง อลุ้มอล่วย ให้อภัยซึ่งกันและกัน ไม่ถือโทษโกรธกัน และจะต้องมีความเมตตาอารีย์ เอื้ออาทรแก่กัน ผมคิดว่าสิ่งนี้ย่อมมีอยู่ในหัวใจของเราทุกคน ถ้าหากเราได้ดำเนินการ มีวิธิคิดที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม" นายสมชาย กล่าว
พ่อแม่พี่น้องที่เคารพทุกท่านครับ ผมคิดว่า หากเราได้ยึดหลักอย่างนี้แล้ว ประเทศชาติของเราจะกลับเข้ามาสู่คาวมร่วมเนย็นเป็นสุข ภายใต้พระบารมีแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา จะทำให้เราได้ร่วมกันพัฒนาประเทศชาติ ให้วัฒนาถาวรต่อไป ขณะนี้เรามีปัญหาอื่นๆ ที่ต้องร่วมกันแก้ไขมากกมาย ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง ของพ่อแม่พี่น้อง ประชาชน ซึ่งรัฐบาลของกระผม ที่จะได้เกิดขึ้นโดยสำเร็จสมบูรณ์ในวันนี้ คำนึงถึงประโยชน์สุข ความอยู่ดี กินดี ของพ่อพี่น้องประชาชน เป้าหมายสูงสุดก็คือ เราต้องการการร่วมกันนำพาประชาชนของเรา ประเทศชาติของเราไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง และวัฒนาถาวร เรามีปัญหาเศรษฐกิจรุมเร้าเข้ามาหลายด้าน อย่างปัจจุบันนี้ เรื่องเกี่ยวกับ เงินทุนที่ค่อนข้างจะไหลเข้ามาน้อยในประเทศของเรา หรือ ปัญหาที่บริษัทต่างชาติ ซึ่งมีเงินทุนเป็นจำนวนมาก เกิดประสบความล้มเหลวในการบริหาร กระทบกระเทือนถึงสภาวะเศรษฐกิจในบ้านเรา หลายสิ่งหลายอย่างเหล่านี้ ผสมผสานกัน
ผมคิดว่าถ้าหากเราไม่ช่วยกันแก้ไขแล้วใครจะมาช่วยเราแก้ไข คนไทยเท่านั้นที่จะต้องหันหน้าเข้าหากัน และร่วมมือกันแก้ไข ในสิ่งที่เป็นปัญหาในบ้านเรา ผมขอเชิญชวนพ่อแม่พี่น้อง ประชาชนทุกท่านเป็นส่วนของประเทศเรา รัฐบาลนั้นเป็นผู้มีหน้าที่ในการบริหารให้เกิดพลังผลักดันประเทศชาติของเราให้เดินหน้าต่อไป แต่ถ้าหากมีความมุ่งมั่น อย่างไรก็ตามประชาชนในชาติไม่รักสามัคคี ไม่ร่วมกันผลักดันแล้ว จะมีความสำเร็จคงไปได้อยาก ผมหวังว่าพี่น้องประชาชนทั้งหลายคงจะได้ร่วมมือกันในโอกาสนี้ ขอขอบคุณประชาชนชาวไทยทุกท่าน ที่จะได้มีโอกาสเข้ามาร่วมกันในการที่จะสรรสร้างความความสามัคคี ในการที่จะร่วมกันเสริมสร้างสภาวะเศรษฐกิจที่ดีให้กับบ้านเมืองของเรา
ขอขอบคุณพี่น้องสื่อมวลชน เพื่อนข้าราชการ ที่จะได้นำเอานโยบายทั้งหลาย ความประสงค์ของพี่น้องทั้งหลาย นำไปทำให้เป็นความจริงไปปฏิบัติการให้เป็นความจริงขึ้นมาได้ เพราะฉะนั้นถ้าทุกฝ่ายทุกท่านได้ร่วมมือกันแล้ว ผมมั่นใจว่าความประสงค์ของเราทุกคนจะประสบผลสำเร็จพร้อมกัน นำประเทศชาติของเรา ไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองในที่สุดขอกราบขอบคุณทุกคน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังรับสนองพระราชโองการ นายสมชาย ได้เข้าสวมกอดนางเยาวภา และบุตรทั้ง 3 คน

**เผยรับสั่งให้ตั้งครม.เร็วที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นายสมชาย เสร็จพิธีรับสนองพระบรมราชโองการฯแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้สภาผู้แทนราษฎรได้พูดกับนายสมชาย ว่า
"พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รับสั่งให้ตั้งคณะรัฐมตรีให้เร็วที่สุด และให้เข้าเฝ้าฯในวันจันทร์ที่ 22 ก.ย.นี้"
ขณะที่รัฐบาล จะแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาในวันพฤสบดีที่ 25 ก.ย.นี้ โดยส่วนใหญ่เป็นนโยบายเดิม ที่รัฐบาลจะสานต่อ

**สายตรงแม้วจัดโผครม."สมชาย1"
รายงานข่าวจากพรรคพลังประชาชน ถึงความเคลื่อนไหวในการจัดโผ ครม."สมชาย 1"ครั้งนี้ บุคคลที่มีส่วนร่วมในการดำเนินการหลักๆ ได้แก่ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรค นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้าพรรค รวมทั้งสมาชิกบ้านเลขที่ 111 อาทิ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี นายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า ในครั้งนี้นายเนวิน ชิดชอบ ไม่ได้มีส่วนร่วมในการจัดโผครั้งนี้ด้วย จากนั้น จะนำรายชื่อต่างๆ รายงานให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตรวจเป็นขั้นตอนสุดท้าย
มีรายงานว่าการจัดโผครม. ในส่วนของพรรคพลังประชาชน ที่คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง มีดังนี้ ตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี จะมีนายมิ่งขัวญ แสงสุวรรณ คาดว่าจะถูกเปลี่ยนจาก รมว.อุตสาหกรรม มานั่นตำแหน่งรองนายกฯ ดูแลด้านเศรษฐกิจเพียงตำแหน่งเดียว พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ จะรับตำแหน่งรองนายกฯ ดูแลด้านความมั่นคง ส่วนรองนายกฯอีก 2 เก้าอี้ เป็นโควต้าของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งคาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ส่วนกระทรวงมหาดไทย คาดว่าจะเปลี่ยนให้ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ จาก รมว.ยุติธรรม มาเป็น รมว.มหาดไทย ขณะที่นายปรีชา เร่งสมบูรณ์ ส.ส.เลย โควต้าจากกลุ่มอีสานพัฒนา คาดว่าจะเป็น รมช.มหาดไทย แล้วให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง กลับมารับตำแหน่ง รมว.ยุติธรรม หลังจากที่ก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิม เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มอีสานพัฒนา จนทำให้ได้รับผลตอบแทน กลับมาเป็นรัฐมนตรีอีกครั้ง
ขณะที่กระทรวงรมว.กลาโหม คาดว่า นายสมชาย จะควบตำแหน่งนี้ด้วย โดยคาดว่าพล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ อดีต ผบ.สส. ซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงในพรรค จะเป็น รมช.กลาโหม
รมว.คลัง มีการทาบทาม นายทนง พิทยะ อดีต รมว.คลัง นายโอฬาร ไชยประวัตร มาเป็นรมว.คลัง
กระทรวงศึกษาธิการ คาดว่าจะยังคงให้เป็นโควต้ากลุ่มภาคเหนือ คือ นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ ซึ่งเดิมเป็น รมว.พัฒนาสังคม สลับมาเป็น รมว.ศึกษาธิการ โดยมี นายพงศกร อรรณนพพร ส.ส.กลุ่มเนวิน ยังคงเป็นรมช.ศึกษาฯ รวมทั้งนายบุญลือ ประเสริฐโสภา ส.ส.ราชบุรี โควต้าของกลุ่มภาคกลาง นายสรอรรถ กลิ่นประทุม จะยังคงเป็นรมช.ศึกษาฯ เช่นเดิม
โดยในส่วนของภาค กทม.คาดว่านายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม.จะขึ้นเป็นรมว.พัฒนาสังคม ส่วนรมว.สาธารณสุข คาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยน โดยจะเป็นนายชวรัตน์ ชาญวีรกุล นายทุนภาค กทม.อยู่ในตำแหน่งต่อไป
กระทรวงวิทยาศาตร์ คาดว่าจะยังคงเป็น นายวุฒิพงษ์ ฉายแสง ส.ส.ฉะเทริงเทรา โควต้านายจาตุรนต์ ฉายแสง เป็น รมว.วิทยาศาตร์ กระทรวงวัฒนธรรม จะไม่มีารเปลี่ยนแปลง คือ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ กลุ่มขุนค้อนจะเป็น รมว.วัฒนธรรม เช่นเดิม
สำหรับกระทรวงคมนาคม ยังอยู่ในระหว่างการเจรจาต่อรอง โดยทางกลุ่มเนวิน เสนอชื่อนายทรงศักดิ์ ทองศรี ซึ่งเดิมเป็น รมช.คมนาคม ขึ้นเป็น รมว.คมนาคม
ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่า ในส่วนของ นายธีระชัย แสนแก้ว รมช.เกษตรฯ และนายสุพล ฟองงาม รมช.มหาดไทย มีแนวโน้มจะถูกปรับออกสูง เนื่องจากนายสมชาย ได้แจ้งกับคณะกรรมการบริหารพรรค ถึงจุดยืนในการตั้ง ครม.ว่า จะคัดเลือกบุคคลที่มีคุณสมบัติ และภาพลักษณ์ที่เหมาะสมมาทำงาน
อย่างไรก็ตาม ยังมีรายชื่อของบุคคลที่มีแนวโน้มสูงว่า จะได้รับตำแหน่งใน ครม.นี้สูง แต่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะให้รับตำแหน่งอื่นๆ เช่น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการนายกฯ คือ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ ส.ส.เชียงใหม่ คนสนิทนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ นายศรีเมือง เจริญศิริ ส.ส.สัดส่วน โควต้าสายตรง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นต้น

**รุดเคลียร์ปัญหาเขาพระวิหาร
เมื่อเช้าวานนี้ (18 ก.ย.) นายสมชาย ได้ออกเดินทางจากบ้านพัก หมู้บ้านเบเวอร์รี่ฮิลล์ ถนนแจ้งวัฒนะ มาถึงกระทรวงการต่างประเทศ เมื่อเวลา 09.00 น. เพื่อรับฟังบรรยายสรุปงานด้านการต่างประเทศ โดยเฉพาะสถานการณ์การ ดำเนินงานกรณีเขาพระวิหาร โดยมีนายวีรศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศรายงาน และมีนพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกฯ และรักษาการ รมว.คลัง ร่วมฟังบรรยายด้วย
นายสมชาย กล่าวว่า นพ.สุรพงษ์ ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงการต่างประเทศ ได้มาร่วมกันหาข้อมูลปัญหาที่เกิดขึ้น เดิมอดีต รมว.ต่างประเทศ ได้เจรจาทวิภาคีกับฝ่ายกัมพูชาในปัญหาตามที่เป็นข่าว ซึ่งการเจรจาเป็นไปได้ด้วยดี มีความเข้าใจ โดยประสงค์ให้มีสัมพันธภาพที่ดีต่อกัน และขจัดปัญหาที่มีอยู่ ซึ่งการดำเนินการต่างๆ เป็นไปได้ด้วยดี แต่ช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงของไทย นายกฯได้พ้นจากตำแหน่ง อีกทั้งไม่มี รมว.ต่างประเทศ การทำงานจึงต้องเว้นช่วงเล็กน้อย จึงมาหารือกันเพื่อให้ข้อมูลต่างๆ และจะมีความเห็นแจ้งไปยังกัมพูชา ว่า ไทยยินดีจะเจรจา เพื่อความเข้าใจอันดีต่อกัน อาจจะมีการประชุมทวิภาคี โดยในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนในวันที่ 29 ก.ย.นี้ คิดว่าจะมีการพบปะกันตรงนั้น อาจจะใช้ช่วงเวลานั้น เพื่อประสานสัมพันธ์ ดำเนินการทวิภาคีต่อไป
เมื่อถามว่า ตามกำหนดเดิม การประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศ จะมีในช่วงปลายเดือน ก.ย.นี้ จะดำเนินการอย่างไร นายสมชาย กล่าวว่า ปลายเดือน ก.ย.นี้ จะมีการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก คิดว่าจะมี รมว.ต่างประเทศ เข้ามาทันเพื่อไปร่วมประชุม ส่วนตนเพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง ในเบื้องต้นอาจจะให้รมว.ต่างประเทศเดินทางไป
เมื่อถามถึงกรณีนายสุขุมพงษ์ โง่นคำ ส.ส.พรรคพลังประชาชน ระบุว่า รมว.ต่างประเทศ คนใหม่ อาจเป็นคนนอก นายสมชาย กล่าวว่า คงยังพูดไม่ได้ ซึ่งคุณสมบัติของผู้มาดำรงตำแหน่ง ก็ต้องเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถด้านการต่างประเทศ
เมื่อถามว่า นพ.สุรพงษ์ ยืนยันว่าจะไม่ขอรับตำแหน่งรัฐมนตรีอีก ได้หารือกันหรือยัง นายสมชาย หันไปยิ้มกับนพ.สุรพงษ์ ซึ่งยืนอยู่ด้านหลัง ก่อนหันกลับมาตอบปนเสียงหัวเราะว่า
"วันนี้ขอพูดเรื่องกระทรวงการต่างประเทศ"
ขณะที่ นพ.สุรพงษ์ กล่าวแบบยิ้มๆว่า "เดี๋ยวไปถามที่กระทรวงการคลังเลยดีกว่า"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้น นายสมชาย และนพ.สุรพงษ์ ได้เดินทางไปยังกระทรวงการคลัง เพื่อหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเมื่อมาถึงกระทรวงการคลัง นพ.สุรพงษ์ ได้นำนายสมชาย ไปสักการะช้างคู่เอราวัณก่อน เข้าห้องประชุม ทั้งนี้ นพ.สุรพงษ์ ได้กล่าวกับ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง สั้นๆว่า "ไม่ต้องห่วง เขาคงมีคนมาทำหน้าที่แทนผม"

**"เลี้ยบ" อ้างคดีหวยทำให้ต้องพัก
เวลา 11.20 น. นายสมชาย ได้หารือร่วมกับผู้บริหารระดับสูง ของกระทรวงการคลัง ถึงสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจ ที่ได้รับผลกระทบจากบริษัทยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ขาดสภาพคล่องทางการเงิน
ภายหลังการหารือที่ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ระหว่างการแถลงข่าว นพ.สุรพงษ์ ได้ชี้แจงกระแสข่าวที่จะวางมือ ไม่รับตำแหน่งใดๆในรัฐบาลชุดใหม่ว่า เนื่องจากตนติดปัญหา คดีหวยบนดิน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมามีการประทับรับฟ้องของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แต่ไม่ได้มีการระบุว่า ผู้ที่ถูกร้องนั้นจะต้องยุติการทำหน้าที่หรือไม่ ทำให้ยังมีความไม่ชัดเจนว่า การถูกฟ้องในตำแหน่งเดิม จะสามารถทำหน้าที่ในตำแหน่งใหม่ได้หรือไม่ แม้ทางสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา จะเคยให้ความเห็นว่า ไม่มีปัญหา แต่ก็ยังมีผู้ที่ต้องการให้เกิดความชัดเจน และนำไปสู่การพิจารณาของศาลที่เกี่ยวข้องต่อไป
"ก่อนหน้านี้ ผมอยู่ในตำแหน่งเดิม ตั้งใจให้เกิดบรรทัดฐานในเรื่องนี้ เพราะเข้าใจว่าในอนาคตน่าจะมีเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นอีก ดังนั้นจึงตัดสินใจอยู่ในตำแหน่งต่อ เพื่อให้เกิดบรรทัดฐานในการตีความที่ชัดเจน แต่เมื่อมีเหตุการณ์ที่ นายสมัคร สุนทรเวช ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกฯ ทำให้รัฐมนตรีทั้งชุดหลุดออกจากตำแหน่งไปด้วย จึงทำให้ความตั้งใจเดิมที่ต้องการอยู่ในตำแหน่ง เพื่อให้เกิดบบรรทัดฐานมันหมดแล้ว เมื่อมีการสรรหารัฐมนตรีชุดใหม่ ผมได้แจ้งความจำนงต่อที่ประชุมพรรคพลังประชาชนว่า เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจว่า ยังยึดติดตำแหน่ง หรือดื้อแพ่ง จึงขอเว้นวรรค หยุดการเสนอชื่อของตัวเองทำหน้าที่ในตำแหน่งทางการเมืองไว้ชั่วคราวก่อน แต่ยังร่วมมือทำงานกับทุกคน เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และปัญหาบ้านเมืองต่อไป ยังไม่ห่างหายไปไหน เพราะยังมีตำแหน่งเลขาธิการพรรคพลังประชาชน ที่ยังไม่ได้ลาออก" นพ.สุรพงษ์ กล่าว

**คลัง-บัวแก้ว ใช้รมต.คนนอก
นายสุขุมพงศ์ โง่นคำ รองเลขาธิการพรรคพลังประชาชน เปิดเผยถึงรายชื่อครม.ชุดใหม่ ว่า อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง 4 – 5 ตำแหน่ง แทนรัฐมนตรีเดิมที่ประสงค์จะไม่รับตำแหน่ง อาทิ นายสมัคร สุนทรเวช นายสหัส บัณฑิตกุล และนพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี
สำหรับบุคคลภายนอกที่จะเข้ามารับตำแหน่งนั้น ขณะนี้มีการพิจารณาบุคคลมาดำรงตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ และรมว.คลัง ส่วนตำแหน่ง รมว.กลาโหม จะเป็นคนในพรรค อาจจะเป็นอดีตนายทหาร ซึ่งมีอยู่หลายคน และมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะให้นายสมชาย ควบตำแหน่งนี้
**ไม่มี"เลี้ยบ" ก็ไม่กระทบเศรษฐกิจ
นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ นพ.สุรพงษ์ จะไม่ขอรับตำแหน่งใน ครม.ชุดใหม่นี้ว่า ยังไม่ทราบ เพราะยังไม่มีการพูดคุยหารือกับนพ.สุรพงษ์ แต่เชื่อว่าทุกคนในรัฐบาลที่ผ่านมาเป็นคนดี มีความเหมาะสมที่จะทำงานต่อไปได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ นพ.สุรพงษ์ จะไม่รับตำแหน่งในรัฐบาล จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในขณะนี้หรือไม่ นายชัย กล่าวว่า ไม่เห็นกระทบอะไร เศรษฐกิจบ้านเมืองขณะนี้ก็ดีอยู่แล้ว ทุกคนมีกินครบ 3 มื้อ ส่วนคนที่เล่นหุ้นเป็นพวกคนรวย ซึ่งมีเป็นจำนวนน้อย แต่คนจนอย่างพวกเรา มีข้าวกินครบ 3 มื้อก็พอแล้วไม่เห็นจะกระทบอะไรเลย

**ชท.ยันโควต้าเดิม-กระทรวงเดิม
นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวถึงตำแหน่งรัฐมนตรีในโควต้าของพรรคชาติไทยว่า ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง กระทรวงเหมือนเดิม จำนวนคนเหมือนเดิม ส่วนเรื่องตัวบุคคลที่จะเป็นรัฐมนตรี ตอนนี้ยังไม่พิจารณา อาจจะเหมือนเดิม
ส่วนการแย่งชิงเก้าอี้รัฐมนตรี ในส่วนของพรรคพลังประชาชนนั้น ก็รู้สึกเห็นใจเพราะมีสมาชิกจำนวนมาก มีหลายกลุ่ม เพราะฉะนั้นก็คงใช้วิธีการผสมผสานในแต่ละกลุ่มให้ลงตัว แนวทางเดิมมีอยู่แล้ว ใครอยู่ตรงไหนก็ว่ากันให้ชัดเจน น่าจะแค่เปลี่ยนตัวบุคคลจะเหมาะสมกว่า โดยต้องเลือกบุคคลที่เป็นที่ยอมรับ ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับพรรคพลังประชาชน ตนคงเข้าไปก้าวก่ายไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า การโหวตเลือกนายกฯ ที่สำเร็จราบรื่น ทำให้กลุ่มเนวินอาจจะได้ตำแหน่งเพิ่ม นายบรรหาร กล่าวว่า เข้าใจว่าคงจะเป็นไปตามเดิมหมด ไม่น่ามีอะไรเปลี่ยน หรือเพิ่มขึ้น ไม่เช่นนั้นก็ไม่ลงตัว นอกจากปรับเปลี่ยนตัวบุคคลเท่านั้นเอง เช่นเดียวกันแต่ละพรรค ก็น่าจะเป็นอย่างนี้ เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย
เมื่อถามว่า นพ.สุรพงษ์ จะไม่รับตำแหน่งรัฐมนตรี นายบรรหาร กล่าวว่า เป็นความคิดเห็นของท่านเอง ไม่ทราบว่าทำไมไม่รับ ส่วนจะดึงคนนอกเข้ามาเป็นรัฐมนตรี ดีหรือไม่ ตนไม่ทราบ
นายบรรหาร ยังกล่าวถึงนายกฯคนใหม่ ว่า บุคลิกดี พอโหวตนายกฯเสร็จก็กล่าวขอบคุณ แล้วรีบเดินไปหาผู้นำฝ่ายค้าน ทำให้ภาพออกมาดูดี ทั้งยังไปขอบคุณหัวหน้าพรรคต่างๆ ด้วย รู้สึกมือไม้ท่านอ่อน ใช้ได้
อย่างไรก็ตามสำหรับงานเร่งด่วน ที่อยากให้ทำคือ ปัญหาน้ำท่วม และวางแผนหามาตรการช่วยเหลือหลังน้ำลด และการชุมนุมของพันธมิตรฯ ถือเป็นเรื่องที่หนักมากสำหรับรัฐบาล ต้องหาทางเจรจาตกลงกัน และหาข้อมูล อะไรทำได้ก็บอกเขาว่าทำได้ อะไรที่ทำไม่ได้ ก็บอกว่ายังทำไม่ได้ คนเราถ้าเป็นคนไทยด้วยกันแล้ว น่าจะพูดกันรู้เรื่อง
ส่วนที่พันธมิตรฯ ยังยืนกรานไม่เจรจา และอ้างว่านายกฯ เป็นน้องเขย พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น นายบรรหาร กล่าวว่า เป็นเรื่องของพันธมิตรฯ เมื่อเขาจะเข้าไปเจรจา ก็ไม่ยอมเจรจาด้วย ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ก็ต้องว่ากันไป จะยืดเยื้อหรือไม่ ตอบไม่ได้ ต้องไปถามพันธมิตรฯ

** "ลูกท็อป"ฝันถึงเก้าอี้รมต.
นายวราวุธ ศิลปอาชา ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทย บุตรชายนายบรรหาร กล่าวถึงกระแสข่าวที่ตนจะได้เป็นรัฐมนตรี ว่าข่าวแบบนี้มีมาตั้งแต่มีการปรับ ครม.คราวก่อนแล้ว แต่การตัดสินใจว่าจะให้ใครเป็นรัฐมนตรีนั้น ขึ้นอยู่กับหัวหน้าพรรคและผู้ใหญ่ในพรรค จะเป็นผู้พิจารณา ไม่ใช่ว่าเป็นลูกชายหัวหน้าพรรคแล้วเข้ามาเป็นได้เลย

**"อนุพงษ์"ไม่ห่วงใครนั่งกลาโหม
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. กล่าวถึงการแต่งตั้งครม.ชุดใหม่ว่า กองทัพคงไม่เสนอตัวบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่ง รมว.กลาโหม เพราะเป็นเรื่องของนายกฯ ทาง กองทัพไม่มีสิทธิเข้าไปยุ่ง เมื่อถามว่า ยังยืนยันจุดยืนเหมือนเดิม เมื่อครั้งที่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกฯหรือไม่ว่า รมว.กลาโหม ต้องเป็นทหาร พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า "ไม่มีหรอกครับ" เมื่อถามย้ำว่า นายกฯ คนใหม่จะสามารถแก้ไขปัญหาของประเทศได้หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวอ้อมแอ้ม ว่า "คงได้"

**ต้องเอา"แม้ว"กลับมาดำเนินคดี
พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. กล่าวถึงกรณีที่นายสมชาย ได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า บรรยากาศการเมืองน่าจะดีขึ้น ทั้งนี้ บุคลิกนายสมชาย และพื้นฐานของท่านมาจากผู้พิพากษา ด้วยความนึกคิด และวิสัยทัศน์ น่าจะเป็นด้วยเหตุและผล และ ความยุติธรรม คิดว่าอนาคตน่าจะทำให้เกิดความผสมกลมกลืนของคนในชาติได้ดี สำคัญอยู่ที่ท่านต้องพยายามรวมรวมความคิดของฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายต่อต้านให้ผสมกลมกลืนและแก้ปัญหาได้
"ท่านมีพื้นฐานที่ดี เชื่อว่าท่านสามารถคิดและทำได้ด้วยตนเอง ส่วนใครจะไปเตือนหรืออะไรขึ้นอยู่กับท่าน ผมไม่ขอฝากอะไร ส่วนกรณีที่ท่านเป็นน้องเขยอดีตนายกฯ ก็ขึ้นอยู่กับการกระทำของท่าน หากทำให้ประชาชนทั้งชาติเห็นว่า ท่านทำเพื่อส่วนรวมในฐานะนายกรัฐมนตรี ซึ่งต้องเป็นคนกลาง หากทำสิ่งนั้นออกมาไม่ดี คนจะเห็น และออกมาต่อต้านในอนาคตได้" พล.อ.อ.ชลิต กล่าว
เมื่อถามว่า เกรงหรือไม่ ภรรยาของนายสมชาย ซึ่งเป็นน้องสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะชักใยอยู่เบื้องหลัง พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า "ก้าวล่วงเรื่องครอบครัวไม่ได้ ถ้าเป็นสามีภรรยากัน เป็นเรื่องปกติ แต่ท่านคงไม่เกี่ยว เมื่อเป็นเช่นนี้นายกฯ ต้องแยกให้ออก ต้องทำในสิ่งที่ดีที่สุดของประเทศ หากทำไม่ดี ก็ถูกคัดค้านจากฝ่ายค้าน และประชาชน
ส่วนที่เกรงว่า นายกฯจะเข้าไปแทรกแซงการตรวจสอบคดีทุจริต ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้น พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ทุกคนที่อยู่ในส่วนของความยุติธรรม ต้องทำหน้าที่ให้กับประเทศชาติ ไม่ใช่ทำให้คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือบุคคลใด ต้องคำนึงถึงความยุติธรรมและความถูกต้อง คิดว่าหากเขาทำไม่ดีไม่สามารถปกปิดได้ ทั้งนี้ เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
เมื่อถามว่า ศาลฎีกาตัดสินให้ออกหมายจับ พ.ต.ท. ทักษิณ นายกฯ คนใหม่ควรให้กระทรวงต่างประเทศ ยกเลิกหนังสือเดินทางเล่มสีแดง หรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า " เป็นไปตามข้อระเบียบ ของกระทรวงต่างประเทศ ถือเป็นการให้เกียรติอดีตนายกฯ แต่เมื่อท่านได้เสื่อมเกียรติไปแล้ว และถูกตัดสินว่ามีความผิด นั่นคือเสื่อมเกียรติแล้ว ก็ไม่สมควรได้รับเกียรติ เป็นหน้าที่ผู้รับผิดชอบดำเนินการ"

**นายกฯไม่ควรนั่งควบกลาโหม
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เสื่อมภาพการเป็นอดีตนายกฯแล้ว แต่มีสถานะเป็นผู้ต้องหา พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า "ใช่ ถ้าท่านไม่ผิดต้องมาแก้ต่าง และทำให้ความผิดนั้นหายไป หากไม่มา คนก็มองภาพว่าท่านผิดแน่นอน แล้วท่านจะไม่สามารถอยู่ได้ในประเทศ เพราะติดคดีอยู่ ท่านน่าจะต้องกลับมา ทุกอย่างจะได้ว่ากันตามกระบวนการ"
เมื่อถามว่า หากนายสมชาย นั่งเก้าอี้ รมว.กลาโหม ควบเหมาะสมหรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า นายกฯ ควรดูภาพรวมของประเทศ ส่วนรัฐมนตรีแต่ละกระทรวง รับผิดชอบรายย่อย หากคิดว่าทำควบ 2 หน้าที่ ก็เป็นงานที่หนักพอสมควร เพราะช่วงของนายสมัคร เป็นนายกฯ ควบรมว.กลาโหม เรื่องราวที่เสนอไป การพิจารณาจะช้า เพราะภาระของนายกฯ มาก เมื่อถามว่า ผบ.เหล่าทัพจะมีการคุยกับ นายสมชาย หรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า " น่าจะได้คุยกันในสภากลาโหมสัปดาห์หน้า"
เมื่อถามว่า หลังเกษียณแล้วจะสนใจการเมืองหรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต หัวเราะพร้อมกล่าวว่า "ไม่ ผมจะไปทำนา"
กำลังโหลดความคิดเห็น