xs
xsm
sm
md
lg

ฮ่อยจ้อเพชรบุรี ‘แม่จินดา’อัดแน่นเนื้อปูสร้างจุดขาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน –ในจังหวัดเพชรบุรี นอกจากขนมหวานชื่อดังจากผู้ผลิตที่มีอยู่หลายรายแล้ว “ฮ่อยจ้อ แม่จินดา” เป็นอีกหนึ่งสินค้าขึ้นชื่อ โดยสร้างจุดเด่นด้วยการใส่เนื้อปูจำนวนมาก จนลูกค้าเกิดการจดจำ แม้ว่าราคาขายจะสูงกว่าทั่วไปตามท้องตลาด แต่ด้วยคุณภาพที่ลูกค้าประเมินว่าคุ้มค่า ช่วยให้สินค้าติดตลาดมายาวนาน

จินดา วัฒนพงศ์พรชัย วัย 65 ปี ผู้ผลิต “ฮ่อยจ้อแม่จินดา” เล่าว่า ทำธุรกิจนี้มาตั้งแต่ปี 2540 เนื่องจากเห็นว่า ในบริเวณที่อยู่อาศัย หมู่ 2 ต.บางตะบูน อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี เป็นทำเลติดปากอ่าว มีวัตถุดิบของสดจากทะเลราคาถูก จำนวนมาก จึงคิดนำมาแปรรูปหารายได้เข้าครอบครัว

ส่วนเหตุที่เลือกทำฮ่อยจ้อนั้น สาวใหญ่วัย 65 ปี ระบุว่า ในเวลานั้น ทั้งในชุมชนเอง และท้องถิ่นบริเวณใกล้เคียงยังไม่มีเจ้าใดทำเลย ประกอบกับส่วนตัวก็มีฝีมือทำฮ่อยจ้อที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากรุ่นพ่อแม่

ทั้งนี้ เพื่อให้ฮ่อยจ้อเป็นที่ถูกใจของลูกค้า ป้าจินดาใช้ข้อได้เปรียบ ใกล้แหล่งวัตถุดิบของสดจากทะเลราคาถูก มาปรับสูตรส่วนผสม จากเดิมฮ่อยจ้อทั่วไปจะใส่แค่เนื้อหมูและปู เปลี่ยนมาเป็นเพิ่มเนื้อกุ้งเข้าไปด้วย ขณะที่เนื้อหมูจะคัดส่วนคอและสามชั้นผสมลงไป ให้มีเนื้อติดมันเพิ่มรสชาติอร่อย และที่สำคัญ ใส่เนื้อปูจำนวนมากเป็นพิเศษ เมื่อกัดฮ่อยจ้อลงไปแล้วสัมผัสถึงเนื้อปูได้โดยทันที นอกจากนั้น ใส่แห้วลงไปด้วย เพิ่มความหวานกรอบ ขณะที่เครื่องเทศเข้มข้นเน้นหอมพริกไทย

สำหรับสัดส่วนการทำฮ่อยจ้อแม่จินดานั้น ถ้าปริมาณเนื้อหมู 10 กิโลกรัม (กก.) จะต้องใส่เนื้อปูถึง 5 กก. เนื้อกุ้ง 3 กก. ส่วนแป้งใส่เพียง 2.4 กก. ซึ่งเคล็ดลับความอร่อย ต้องใช้วัตถุดิบสดสะอาด และไม่ใส่สารกันเสียใดๆ ทั้งสิ้น

“รสชาติและส่วนผสมเกิดจากป้าลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง ทดลองและชิมจนได้ส่วนผสมที่ลงตัว ซึ่งของป้าจะ ไม่ใส่แป้งมาก เพราะทำให้เสียรสชาติ นอกจากนั้น การใส่แป้ง หรือเนื้อปลาจำนวนมากจะทำให้เนื้อฮ่อยจ้อแข็งอีกด้วย” ป้าจินดา เผยถึงเคล็ดลับความอร่อย

ทั้งนี้ กลุ่มลูกค้าหลักจะเป็นผู้ประกอบการร้านอาหาร และภัตตาคารชื่อดัง ทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ สั่งซื้อไปประกอบเมนูในร้าน กับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ตั้งใจเดินทางเข้ามาซื้อโดยตรง สำหรับราคาขายปริมาณถุงขนาดครึ่ง กก. จำนวน 28 ลูก ขายหน้าร้าน 110 บาท ขายส่ง 120 บาท ขายปลีกผ่านตัวแทนจำหน่าย 200 บาท

เจ้าของธุรกิจ เล่าให้ฟังด้วยว่า ปัญหาธุรกิจ คือ ปัจจุบันต้นทุนวัตถุดิบเพิ่มสูงขึ้นมาก จากช่วงแรกที่เริ่มทำขาย เนื้อปู กก. ละ 120 บาท เนื้อกุ้ง กก.ละ 50 บาท ส่วนเวลานี้เพิ่มเป็นกก. 300 บาทและ 150 บาทตามลำดับ นอกจากนั้น วัตถุดิบของสดจากทะเลในท้องถิ่น นับวันยิ่งหายากขึ้น เพราะมีผู้ประกอบการเกี่ยวกับอาหารทะเลแปรรูปในท้องถิ่นเกิดใหม่หลายราย ทำให้วัตถุดิบของทะเลส่วนใหญ่ที่ใช้ทำฮ่อยจ้อทุกวันนี้ต้องรับมาจาก จ.สุราษฏร์ธานี กระทบต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้นมาก กำไรที่ได้เหลือเฉลี่ย 30 บาทต่อครึ่ง กก.

ทางแก้ปัญหาดังกล่าว ป้าจินดาได้เพิ่มเติมทำสินค้าประเภทอื่นๆ มาขาย เช่น น้ำพริกกุ้งสด น้ำพริกกุ้งกรอบ เป็นต้น เพื่อช่วยเพิ่มรายได้ ไม่ยึดติดกับฮ่อยจ้ออย่างเดียว ขณะเดียวกันลูกค้าก็มีทางเลือกหลากหลายยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ยอดขายของ “ฮ่อยจ้อแม่จินดา” นั้น เฉลี่ยประมาณ 30-50 กก.ต่อวัน แต่ถ้าเป็นช่วงเทศกาลของชาวจีน เช่น ตรุษจีน สาดจีน ยอดขายจะเพิ่มเป็นวันละกว่า 100 กก. ด้านช่องทางการขายนั้น มีแค่ขายผ่านหน้าบ้านตัวเอง ซึ่งปรับปรุงเป็นหน้าร้าน ซึ่งแม้ว่าทำเลจะค่อนข้างไกลจากตัวเมืองเพชรบุรีมาก แต่ลูกค้าก็ยินดีจะดั้งด้นเข้ามาซื้อด้วยตัวเอง ส่วนในอนาคตจะพยายามหาตัวแทนจำหน่ายในกรุงเทพฯ และจังหวัดใหญ่ๆ เพื่อให้ลูกค้าหาซื้อได้ง่ายยิ่งขึ้น

ในส่วนการผลิต ได้รับสินเชื่อจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย จำนวน 3 แสนบาท มาปรับปรุงสถานที่ ตลอดจนสั่งซื้อเครื่องจักรขึ้นรูปฮ่อยจ้อ และการบรรจุ จนผ่านมาตรฐานผลิตชุมชน (มผช.) อีกทั้งได้รับคัดเลือกเป็นสินค้าโอทอป 5 ดาวระดับประเทศด้วย

อย่างไรก็ตาม กว่าธุรกิจจะยืนได้มั่นคงเช่นวันนี้ ป้าจินดา เล่าให้ฟังว่า ช่วงแรกไม่สำเร็จอย่างที่หวังไว้ เพราะสินค้าไม่ตรงกับกลุ่มลูกค้า แม้จะตั้งราคาขายแค่ ครึ่ง กก. 70 บาท แต่เนื่องจากขายเฉพาะในท้องถิ่นเท่านั้น ราคานี้ถือว่าแพงเกินไปสำหรับชาวบ้าน ซึ่งเคยชิมกับการกินของทะเลสดๆ อยู่แล้ว

ทว่า จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นหลังมีถนนตัดผ่านเข้ามาในชุมชน เกิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีแขกต่างถิ่นแวะเวียนเข้ามา ซึ่งหลายคนมีโอกาสชิมฮ่อยจ้อแล้วติดใจ ซื้อกลับไปเป็นของฝาก จนเกิดกระแสบอกต่อ ทำให้มีลูกค้าทั่วสารทิศเดินทางมาซื้อมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าระดับกลางถึงบน ซึ่งยอมจ่ายราคาสูงเพื่อแลกกับคุณภาพ

โทร.0-3258-1050
กำลังโหลดความคิดเห็น