ผู้จัดการรายวัน - วีระศักดิ์ ค้านแนวคิดเอกชนในโครงการฟรีวีซ่า ระบุไม่สามารถเยียวยาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้จริง และยังเป็นผลเสียในระยะยาว แนะดึงนักท่องเที่ยวไฮเอนด์ดีกว่า แถมยังไม่เข็ด ฉวยจังหวะวิกฤต ดันของบกลางปี 2552 วงเงิน 500 ล้านบาท เร่งพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวและบุคลากกร เดินหน้าขายฝัน ชูโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว 14 คลัสเตอร์ ยั่วใจนักลงทุนในงานไทยแลนด์โฟกัส
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ไม่เห็นด้วยหาก กลุ่มสมาคมในธุรกิจการท่องเที่ยว ที่จะขอให้รัฐบาลเปิดฟรีวีซ่า ให้แก่ นักท่องเที่ยวเพียงเพื่อใช้เป็นกลยุทธ์ในการดึงนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาประเทศไทย แต่หากเป็นการยกเลิกเฉพาะกิจเพียงช่วงเวลาหนึ่ง เพื่อแก้ไขผลกระทบที่เกิดจากวิกฤตการเมืองไทยในเวลานี้ก็จะขอรับเรื่องไว้ก่อนประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้พิจารณาต่อไป
“สมาคมโรงแรมเสนอเป็นโครงการวีซ่า ออน อะริวัล (VISA ON ARRIVAL) ให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทั่วโลก ที่เดินทางเข้าประเทศไทยตั้งแต่เดือน ต.ค.-ธ.ค. นี้ ไม่ต้องเสียค่าวีซ่าเข้ามาประเทศไทย โดยสามารถอยู่ได้นาน 14 วัน ซึ่งตรงนี้ก็อาจมีความเป็นไปได้ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของกระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย แต่ความเห็นส่วนตัว คิดว่า โครงการนี้น่าจะเกิดขึ้นยาก และมองว่าประเทศไทยจะคุ้นเคยกับการจัดโปรโมชั่นลดราคา ซึ่งไม่เป็นผลดี ”
***ของบกลางปี52ฟื้นแหล่งเที่ยว500 ลบ.
นอกจากนั้นช่วงโลว์ซีซั่นที่มีนักท่องเที่ยวบางตาก็จะใช้โอกาสนี้ฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยว และ พัฒนาบุคคลากรไปในคราวเดียวกัน โดยได้ทำเอกสารส่งไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี หรือ สลค. ขออนุมัติงบกลางปีประจำปีงบประมาณ 2552 วงเงิน 500 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้ฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยว ในช่วงดังกล่าว พร้อมระบุเหตุผลว่า งบประมาณประจำปีไม่มี งบพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเลย ตอนปี 51 ขอไปก็ถูกปฎิเสธ ทั้งที่ แหล่งท่องเที่ยวและบุคลากรของไทย ยังมีความจำเป็นต้องพัฒนาอีกมาก แต่ขาดงบประมาณ ซึ่ง สลค.ก็ได้ทำหนังสือเวียนไปทุกหน่วยงาน ต่างก็เห็นด้วยถึงความจำเป็น ดังนั้นคาดว่า จะเป็นเรื่องเร่งด่วนลำดับต้นๆ ให้ ครม.ชุดใหม่ ได้หยิบขึ้นมาพิจารณา
อย่างไรก็ตาม ททท. รายงานว่า จากจากส่งสัญญาณ ไปยัง นานาประเทศ ถึงข่าวสารประเทศไทย ล่าสุด มี 7 ประเทศที่ออกหนังสือเตือนนักท่องเที่ยว ได้นำประกาศ ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินของประเทศไทย ไปแจ้งแก่บริษัทนำเที่ยวและ นักท่องเที่ยวแล้ว ได้แก่ ประเทศ ฝรั่งเศส เบลเยี่ยม เยอรมัน สวีเดน สวิสเซอร์แลนด์ ไอซ์แลนด์ และ แคนาดา
**ปากสั่นยันไม่ลดเป้านักท่องเที่ยว**
อย่างไรก็ตาม สำหรับเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติและรายได้ปีนี้ยังคงไว้ที่ 15.48 ล้านคน รายได้ 6 แสนล้านบาท ตามที่ ททท.ประมาณการณ์ไว้ตั้งแต่ต้นปี แต่ยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ดังนั้น ททท. จึงได้พยายาม ทำการตลาดเชิงรุก เพื่อฟื้นสถานการณ์กลับคืนโดยเร็วให้ทันไฮซีซั่นปีนี้ โดยเตรียมส่งทีมออกไปเจรจาในต่างประเทศ รวมถึงใช้เวที เทรดโชว์ และ โรดโชว์ ชี้แจงข้อเท็จจริง แก่บริษัทนำเที่ยวให้ได้เข้าใจ เน้น 3 ประเด็นหลักคือ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้รุนแรง , ประเทศได้ยกเลิกประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้ว และ ก็จะไม่มีการปิดสนามบินอย่างที่ผ่านมาอีก โดย ขอให้ทุกภาคส่วนอย่ามัวแต่พูดเรื่อความเสียหายในช่วงที่ผ่านมา เพราะไม่ได้ช่วยแก้ไขให้อะไรดีขึ้นได้
นายวีระศักดิ์ ยังได้บรรยายให้แก่ผู้ลงทุนต่างชาติฟังในงาน ไทยแลนด์โฟกัส ที่จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า รัฐบาลโดยกระทรวงการท่องเที่ยวฯ มีโครงการพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวใน 14 กลุ่ม หลักหรือ 14 คลัสเตอร์ แยกตามภูมิศาสตร์ วัฒนธรรม และ ประเพณี โดยทั้ง 14 คลัสเตอร์ ก็มีความคาดหวังว่า รัฐบาลจะเป็นผู้ลงทุนในระบบสาธารณูปโภค และเปิดกว้างให้เอกชนผู้สนใจเข้าลงทุนในเรื่องของสินค้าและบริการ เน้นจับกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ ที่มีการใช้จ่ายต่อทริปสูง โดยไม่เน้นที่ปริมาณ
ส่วนสถานการณ์นำท่วมในหลายจังหวัดขงอประเทศไทย ล่าสุดจะนำข้อมูลความเสียหาย ของแต่ละหน่วยงานที่นำมารายงาน ครม. นำส่งให้ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยว ฯและ ททท. เพื่อนำไปแจกสำนักงานในต่างจังหวัดเพื่อใช้เป็นข้อมูลจัดทำแผนรับมือ ส่วนวิกฤตเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกา เบื้องต้นยังไม่กระทบกับเรื่องการท่องเที่ยวของไทย มากนัก เพราะ ตลาดระยะไกล ถูกกระทบจากปัญหาราคาน้ำมันแพงอยู่แล้ว ทำให้ ททท. มีการปรับแผนไปก่อนหน้านี้ แต่อย่างไรก็ตาม ยังได้เฝ้าระวัง เพื่อ เตรียมการรับมือได้ทัน
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ไม่เห็นด้วยหาก กลุ่มสมาคมในธุรกิจการท่องเที่ยว ที่จะขอให้รัฐบาลเปิดฟรีวีซ่า ให้แก่ นักท่องเที่ยวเพียงเพื่อใช้เป็นกลยุทธ์ในการดึงนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาประเทศไทย แต่หากเป็นการยกเลิกเฉพาะกิจเพียงช่วงเวลาหนึ่ง เพื่อแก้ไขผลกระทบที่เกิดจากวิกฤตการเมืองไทยในเวลานี้ก็จะขอรับเรื่องไว้ก่อนประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้พิจารณาต่อไป
“สมาคมโรงแรมเสนอเป็นโครงการวีซ่า ออน อะริวัล (VISA ON ARRIVAL) ให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทั่วโลก ที่เดินทางเข้าประเทศไทยตั้งแต่เดือน ต.ค.-ธ.ค. นี้ ไม่ต้องเสียค่าวีซ่าเข้ามาประเทศไทย โดยสามารถอยู่ได้นาน 14 วัน ซึ่งตรงนี้ก็อาจมีความเป็นไปได้ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของกระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย แต่ความเห็นส่วนตัว คิดว่า โครงการนี้น่าจะเกิดขึ้นยาก และมองว่าประเทศไทยจะคุ้นเคยกับการจัดโปรโมชั่นลดราคา ซึ่งไม่เป็นผลดี ”
***ของบกลางปี52ฟื้นแหล่งเที่ยว500 ลบ.
นอกจากนั้นช่วงโลว์ซีซั่นที่มีนักท่องเที่ยวบางตาก็จะใช้โอกาสนี้ฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยว และ พัฒนาบุคคลากรไปในคราวเดียวกัน โดยได้ทำเอกสารส่งไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี หรือ สลค. ขออนุมัติงบกลางปีประจำปีงบประมาณ 2552 วงเงิน 500 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้ฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยว ในช่วงดังกล่าว พร้อมระบุเหตุผลว่า งบประมาณประจำปีไม่มี งบพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเลย ตอนปี 51 ขอไปก็ถูกปฎิเสธ ทั้งที่ แหล่งท่องเที่ยวและบุคลากรของไทย ยังมีความจำเป็นต้องพัฒนาอีกมาก แต่ขาดงบประมาณ ซึ่ง สลค.ก็ได้ทำหนังสือเวียนไปทุกหน่วยงาน ต่างก็เห็นด้วยถึงความจำเป็น ดังนั้นคาดว่า จะเป็นเรื่องเร่งด่วนลำดับต้นๆ ให้ ครม.ชุดใหม่ ได้หยิบขึ้นมาพิจารณา
อย่างไรก็ตาม ททท. รายงานว่า จากจากส่งสัญญาณ ไปยัง นานาประเทศ ถึงข่าวสารประเทศไทย ล่าสุด มี 7 ประเทศที่ออกหนังสือเตือนนักท่องเที่ยว ได้นำประกาศ ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินของประเทศไทย ไปแจ้งแก่บริษัทนำเที่ยวและ นักท่องเที่ยวแล้ว ได้แก่ ประเทศ ฝรั่งเศส เบลเยี่ยม เยอรมัน สวีเดน สวิสเซอร์แลนด์ ไอซ์แลนด์ และ แคนาดา
**ปากสั่นยันไม่ลดเป้านักท่องเที่ยว**
อย่างไรก็ตาม สำหรับเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติและรายได้ปีนี้ยังคงไว้ที่ 15.48 ล้านคน รายได้ 6 แสนล้านบาท ตามที่ ททท.ประมาณการณ์ไว้ตั้งแต่ต้นปี แต่ยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ดังนั้น ททท. จึงได้พยายาม ทำการตลาดเชิงรุก เพื่อฟื้นสถานการณ์กลับคืนโดยเร็วให้ทันไฮซีซั่นปีนี้ โดยเตรียมส่งทีมออกไปเจรจาในต่างประเทศ รวมถึงใช้เวที เทรดโชว์ และ โรดโชว์ ชี้แจงข้อเท็จจริง แก่บริษัทนำเที่ยวให้ได้เข้าใจ เน้น 3 ประเด็นหลักคือ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้รุนแรง , ประเทศได้ยกเลิกประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้ว และ ก็จะไม่มีการปิดสนามบินอย่างที่ผ่านมาอีก โดย ขอให้ทุกภาคส่วนอย่ามัวแต่พูดเรื่อความเสียหายในช่วงที่ผ่านมา เพราะไม่ได้ช่วยแก้ไขให้อะไรดีขึ้นได้
นายวีระศักดิ์ ยังได้บรรยายให้แก่ผู้ลงทุนต่างชาติฟังในงาน ไทยแลนด์โฟกัส ที่จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า รัฐบาลโดยกระทรวงการท่องเที่ยวฯ มีโครงการพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวใน 14 กลุ่ม หลักหรือ 14 คลัสเตอร์ แยกตามภูมิศาสตร์ วัฒนธรรม และ ประเพณี โดยทั้ง 14 คลัสเตอร์ ก็มีความคาดหวังว่า รัฐบาลจะเป็นผู้ลงทุนในระบบสาธารณูปโภค และเปิดกว้างให้เอกชนผู้สนใจเข้าลงทุนในเรื่องของสินค้าและบริการ เน้นจับกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ ที่มีการใช้จ่ายต่อทริปสูง โดยไม่เน้นที่ปริมาณ
ส่วนสถานการณ์นำท่วมในหลายจังหวัดขงอประเทศไทย ล่าสุดจะนำข้อมูลความเสียหาย ของแต่ละหน่วยงานที่นำมารายงาน ครม. นำส่งให้ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยว ฯและ ททท. เพื่อนำไปแจกสำนักงานในต่างจังหวัดเพื่อใช้เป็นข้อมูลจัดทำแผนรับมือ ส่วนวิกฤตเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกา เบื้องต้นยังไม่กระทบกับเรื่องการท่องเที่ยวของไทย มากนัก เพราะ ตลาดระยะไกล ถูกกระทบจากปัญหาราคาน้ำมันแพงอยู่แล้ว ทำให้ ททท. มีการปรับแผนไปก่อนหน้านี้ แต่อย่างไรก็ตาม ยังได้เฝ้าระวัง เพื่อ เตรียมการรับมือได้ทัน
