ศูนย์ข่าวศรีราชา –ยอดขายรถยนต์ตะวันออก ครึ่งปีทรุด 50% โดยปัจจัยฉุดรั้งสำคัญ คือ ราคาน้ำมันและค่าครองชีพที่สูงขึ้น ด้านดีลเลอร์รถยนต์ชี้แม้รัฐบาลจะประกาศมาตรการลดราคาน้ำมัน แต่ก็ยังไม่สามารถสร้างแรงจูงใจในกลุ่มผู้ซื้อได้ ขณะที่สถานการณ์การเมืองไม่มีผลต่อการตัดสินใจของประชาชน เท่าการตกต่ำทางเศรษฐกิจและการงดค่าจ้างโอทีของกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม ชี้แนวโน้มตลาดจนถึงสิ้นปีประชาชนจะมุ่งหารถเก๋งขนาดเล็กที่ประหยัดน้ำมันมากขึ้น
นายลือชุ ราชเวชชพิศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โตโยต้า พัทยา(1999) จำกัด ที่มีโชว์รูมจำหน่ายรถยนต์โตโยต้า 3 สาขาในจังหวัดชลบุรี ประกอบด้วยสาขาพัทยา บางแสนและศรีราชา เผยถึงสภาพตลาดรถยนต์โดยรวมในพื้นที่จังหวัดชลบุรีช่วงครึ่งปีแรก 2551 ว่า ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจเช่นเดียวกันหมด ทั้งนี้เป็นเพราะราคาน้ำมันและค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้น จนเป็นปัจจัยฉุดรั้งสำคัญต่อการตัดสินใจซื้อรถยนต์ของกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ในพื้นที่ซึ่งก็คือกลุ่มพนักงานในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ประกอบกับการงดค่าจ้างโอทีของโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่ง ยังทำให้รายได้ของพนักงานในพื้นที่ลดลงจนต้องหันหน้าสู่การประหยัด
ยอดจำหน่ายรถยนต์ของบริษัทฯตั้งแต่ช่วงต้นปีจนถึงกลางปีพบว่า ลดลงแล้วประมาณ 50% และถือเป็นปีแรกที่ยอดจำหน่ายลดหลังจากที่ผ่านๆ มายอดจำหน่ายรถยนต์ในจังหวัด มีแต่ยอดการเติบโตที่สวนทางกับพื้นที่อื่นๆ
“ภาวะเงินเฟ้อกับราคาน้ำมัน คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนในพื้นที่ชะลอการเป็นหนี้ เช่นเดียวกับการงดค่าจ้างโอทีของโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ทำให้กลุ่มพนักงานโรง งานไม่กล้าตัดสินใจซื้อหรือเปลี่ยนรถยนต์ โดยลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ในเมืองพัทยา ส่วนใหญ่เป็นคนไทยและพนักงานบริษัท จึงทำให้ในปีนี้ยอดจำหน่ายของเราลดลงมาก ดังนั้นในช่วงครึ่งปีหลังเราจึงจะใช้นโยบายการตลาดอย่างหนัก เพื่อกระตุ้นยอดจำหน่าย ทั้งในเรื่องการออกแคมเปญ ลด แจก แถม รวมทั้งการลดเงินดาวน์เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ลูกค้า ” นายลือชุ กล่าว
เช่นเดียวกับแหล่งข่าวจากบริษัทประชากิตมอเตอร์เซล จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์อีซูซุในจังหวัดจันทบุรีที่เผยว่า ยอดจำหน่ายรถยนต์ของบริษัทฯในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาลดลงแล้วกว่า 10% ทั้งนี้เป็นเพราะกลุ่มชาวสวน ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่ใช้รถกระบะไม่กล้าตัดสินใจซื้อรถใหม่ เนื่องจากราคาน้ำมันและต้นทุนทางการเกษตรที่พุ่งไม่หยุด ทำให้ชาวสวนต้องชะลอการสร้างหนี้ใหม่ ส่งผลให้ภาวะการแข่งขันทางการ ตลาดของกลุ่มผุ้จำหน่ายรถยนต์ในพื้นที่นับจากนี้ไปจะรุนแรง ทั้งในแง่การออกแคมเปญส่งเสริมการตลาดและการลด แจกและแถมไปจนถึงสิ้นปี โดยคาดว่าหากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศไม่ดีขึ้น ยอดจำหน่ายรถยนต์เมื่อถึงสิ้นปีก็จะยังไม่กระเตื้องขึ้นอย่างแน่นอน
ชี้รถขนาดเล็กกลับมาครองตลาดอีกครั้ง
นายณรงค์ ตั้งทรงเจริญ กรรมการผู้จัดการบริษัท ทรงเจริญคาร์ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ฮอนด้าในจังหวัดระยองเผยว่า แม้ผู้ประกอบการหลายรายจะได้รับผลกระทบด้านยอดจำหน่าย แต่ในส่วนของฮอนด้ากลับพบว่าตลาดโดยรวมทั่วประเทศกลับเพิ่มขึ้นประมาณ 20% ซึ่งอาจเป็นเพราะเหตุผล 2 ประการคือ 1.ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2550 ฮอนด้าหยุดการจำหน่ายรถยนต์ในรุ่นต่างๆ เพื่อรอเปิดตัวรถยนต์ E20 และการปรับโครงสร้างภาษีใหม่ ดังนั้น เมื่อเปิดตลาดในช่วงต้นปีที่ผ่านมาจึงทำให้กลุ่มลูกค้าที่รอรถยนต์ของฮอนด้าแห่จองรถยนต์รุ่นใหม่หลายรุ่นที่เปิดตัวในช่วงใกล้ๆ กัน ประกอบกับราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น ทำให้กลุ่มคนที่สนใจรถยนต์ดีเซลหันมาใช้รถยนต์เครื่องเบนซินที่สามารถปรับเครื่องยนต์เพื่อติดตั้งระบบแก๊สได้
สำหรับราคาน้ำมันที่ยังสูงอยู่ จะทำให้แนวโน้มตลาดนับจากนี้ประชาชนจะหันมาใช้รถยนต์เก๋งขนาดเล็ก ที่ประหยัดน้ำมันมากขึ้น และในอีก 1-2 วันนี้ฮอนด้า ก็จะเปิดตัวรถยนต์รุ่นซิตี้ใหม่ ซึ่งก็คาดว่าจะสามารถเพิ่มยอดขายในช่วงปลายปีได้อีกมากเช่นกัน
“สาเหตุที่ยอดจำหน่ายของเราไม่ตก เพราะนับจากต้นปีมาเรามีรุ่นใหม่ทยอยเปิดตัวอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสินค้าของฮอนด้าเองก็เป็นสินค้าที่ตรงใจตลาดจึงทำให้ยอดขายเติบโต ที่สำคัญเรายังมีรถยนต์ขนาดเล็กที่จะรองรับความต้องการของตลาดอย่างต่อเนื่อง ” นายณรงค์ กล่าว
