ศูนย์ข่าวศรีราชา - ศูนย์การค้าแปซิฟิค พาร์ค ศรีราชา จัดงาน Pacific Motor Show ครั้งที่ 11ระหว่างวันที่ 25 ต.ค.-2 พ.ย. เพื่อหวังกระตุ้นตลาดรถยนต์ในภาคตะวันออก ขณะที่ผู้จำหน่ายรถยนต์ระบุยอดขายทรุดถึง 50% จากปัจจัยฉุดรั้งสำคัญด้านราคาน้ำมันและค่าครองชีพ รวมถึงกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ทั้งพนักงานโรงงานที่ถูกงดค่าจ้างโอที และชาวสวนที่ชะลอการตัดสินใจสร้างหนี้ เผยแนวโน้มสิ้นปี ประชาชนจะมุ่งหารถเก๋งขนาดเล็กที่ประหยัดน้ำมันแทน
ในระหว่างวันที่ 25ตุลาคม -2 พฤศจิกายน ศูนย์การค้าแปซิฟิค พาร์ค ศรีราชา กำหนดจัดงาน Pacific Motor Show สุดยอดมหกรรมยานยนต์ภาคตะวันออก ครั้งที่ 11 เพื่อกระตุ้นตลาดรถยนต์ในภาคตะวันออกในยุคภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว หลังพบยอดจำหน่ายรถยนต์ลดจากปีก่อนถึง 50% โดยมีค่ายรถยนต์ดังกว่า 19 ค่าย พร้อมผู้จำหน่ายอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์เข้าร่วมจำนวนมาก
นายลือชุ ราชเวชชพิศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โตโยต้า พัทยา (1999) จำกัด ที่มีโชว์รูมจำหน่ายรถยนต์โตโยต้า 3 สาขาในจังหวัดชลบุรี ประกอบด้วยสาขาพัทยา บางแสนและศรีราชา เผยถึงสภาพตลาดรถยนต์โดยรวมในจังหวัดชลบุรีตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันไว้ก่อนหน้านี้ว่าผู้ประกอบการได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจเช่นเดียวกันหมด
ทั้งนี้เป็นเพราะราคาน้ำมันและค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้น จนเป็นปัจจัยฉุดรั้งต่อการตัดสินใจซื้อของกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ทั้ง พนักงานโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ประกอบกับการงดค่าจ้างโอทีของโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่ง ยังทำให้รายได้ของพนักงานเหล่านี้ลดลงจนต้องหันหน้าสู่การประหยัด
ขณะที่ยอดจำหน่ายรถยนต์ของบริษัทฯ ลดลงประมาณ 50% และถือเป็นปีแรกที่ยอดจำหน่ายลดหลังจากที่ผ่านๆ มายอดจำหน่ายรถยนต์ในจังหวัดมีแต่การเติบโตที่สวนทางกับพื้นที่อื่น
“ภาวะเงินเฟ้อกับราคาน้ำมัน คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนในพื้นที่ชะลอการเป็นหนี้ เช่นเดียวกับการงดค่าจ้างโอทีของโรงงานอุตสาหกรรม ที่ทำให้กลุ่มพนักงานโรงงานไม่กล้าตัดสินใจซื้อหรือเปลี่ยนรถยนต์ โดยลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ในเมืองพัทยา ส่วนใหญ่เป็นคนไทยและพนักงานบริษัท จึงทำให้ในปีนี้ยอดจำหน่ายของเราลดลงมาก ดังนั้นในช่วงปลายปีเราจะใช้นโยบายการตลาดอย่างหนักเพื่อกระตุ้นยอดจำหน่าย ทั้งออกแคมเปญ ลด แจก แถม ลดเงินดาวน์เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ลูกค้า” นายลือชุ กล่าว
เช่นเดียวกับแหล่งข่าวจากบริษัทประชากิตมอเตอร์เซล จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์อีซูซุในจังหวัดจันทบุรีที่เผยว่า ยอดจำหน่ายรถยนต์ของบริษัทฯในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาลดลงแล้วกว่า 10% เพราะกลุ่มชาวสวน ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่ใช้รถกระบะไม่กล้าตัดสินใจซื้อรถใหม่ ส่งผลให้ภาวะการแข่งขันทางการตลาดของกลุ่มผุ้จำหน่ายรถยนต์ในพื้นที่นับจากนี้ไปจะรุนแรงทั้งในแง่การออกแคมเปญส่งเสริมการขาย ไปจนถึงสิ้นปี
ชี้รถขนาดเล็กจะกลับมาครองตลาดอีกครั้ง
นายณรงค์ ตั้งทรงเจริญ กรรมการผู้จัดการบริษัท ทรงเจริญคาร์ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ฮอนด้าในจังหวัดระยองเผยว่า แม้ผู้ประกอบการหลายรายจะได้รับผลกระทบด้านยอดจำหน่าย แต่ในส่วนของฮอนด้าตลาดโดยรวมทั่วประเทศกลับเพิ่มขึ้นประมาณ 20% ซึ่งอาจเป็นเพราะเหตุผล 2 ประการคือ 1.ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2550 ฮอนด้าหยุดการจำหน่ายรถยนต์ในรุ่นต่างๆ เพื่อรอเปิดตัวรถยนต์ E20 และการปรับโครงสร้างภาษีใหม่ ดังนั้น เมื่อเปิดตลาดในช่วงต้นปีที่ผ่านมาจึงทำให้กลุ่มลูกค้าที่รอรถยนต์ของฮอนด้าแห่จองรถยนต์รุ่นใหม่หลายรุ่นที่เปิดตัวในช่วงใกล้ๆ กัน
“สาเหตุที่ยอดจำหน่ายของเราไม่ตกเพราะนับจากต้นปีมาเรามีรุ่นใหม่ทยอยเปิดตัวอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสินค้าของฮอนด้าเองก็เป็นสินค้าที่ตรงใจตลาดจึงทำให้ยอดขายเติบโต ที่สำคัญเรายังมีรถยนต์ขนาดเล็กที่จะรองรับความต้องการของตลาดอย่างต่อเนื่อง ” นายณรงค์ กล่าว
