xs
xsm
sm
md
lg

เลี้ยบฝาก รมว.คลัง กระตุ้น ศก.เพิ่มแวต ลดนิติบุคคล-บุคคลธรรมดา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หมอเลี้ยบ ฝาก รมว.คลังคนใหม่ เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ เน้นเมกะโปรเจกต์ รองรับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนของโลก เชื่อ ปัญหาเศรษฐกิจโลกยังไม่จบ เสนอขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ลดภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีเงินได้บุคลธรรมดา ช่วยหมุนเวียนระบบเศรษฐกิจ

นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เปิดเผยว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ ต้องสานต่อการปรับโครงสร้างภาษีทั้งระบบ ซึ่งได้มีการศึกษาเกือบเสร็จเรียบร้อยแล้วแต่มีการเปลี่ยนรัฐบาลก่อน จึงเป็นเรื่องที่รัฐมนตรีคลังคนใหม่จะต้องพิจารณาต่อ

สารสำคัญของการปรับโครงสร้างภาษี คือ การลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ที่ปัจจุบันอยู่ที่ 30% และลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เก็บอยู่ที่ 10-37% เพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีการปรับลดอยู่ในอัตราที่ต่ำ ซึ่งหากไทยไม่มีการปรับโครงสร้างภาษีอย่างจริงจัง จะทำให้ศักยภาพการแข่งขันต่ำลง

นอกจากนี้ จะต้องมีการปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ปัจจุบันเก็บอยู่ที่ 7% และสิ้นปีงบประมาณ 2552 จะต้องปรับขึ้นไปเก็บที่อัตรา 10% อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาให้รอบคอบในภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัว เพราะหากมีการปรับขึ้นในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวอาจเป็นการซ้ำเติมเศรษฐกิจให้แย่ลงไปอีก

การปรับปรุงโครงสร้างภาษีทั้งระบบ จะเน้นการขยายฐานภาษี โดยการใช้มาตรการจูงใจให้คนมาเสียภาษีมากขึ้น ซึ่งแม้จะมีการลดภาษีก็ไม่ทำให้สูญเสียรายได้ เพราะมีคนเข้ามาเสียภาษีมากขึ้น แต่การขยายฐานภาษีต้องค่อยๆดำเนินการไม่ควรเร่งรัด เนื่องจากจะทำให้ผู้เสียภาษีได้รับผลกระทบจนอยู่ไม่ได้

“การปรับโครงสร้างภาษีโดยการเน้นขยายฐานภาษี จะทำให้ไม่จำเป็นต้องปรับขึ้น VAT ทันที อย่างไรก็ตาม ได้ให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ศึกษาว่าให้การลดภาษีเกิดประโยชน์กับคนระดับกลางระดับล่างมากกว่าที่เสนอมา เพราะเชื่อว่า คนระดับกลางและระดับล่างจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้เกิดการหมุนเวียนระบบเศรษฐกิจมากกว่าคนที่มีรายได้มาก”

สำหรับการปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์ อี85 ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ว่า จะลดอีกอีกหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี มีนโยบายให้ปรับลดอีก ซึ่งรัฐบาลใหม่ต้องประเมินภาพรวมใหม่ทั้งหมด ทั้งเรื่องราคาน้ำมัน และยุทธศาสตร์การใช้เอทานอลว่าจะเดินหน้าอย่างไร

นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า รมว.คลังคนใหม่ ต้องทำงานรวดเร็ว เร่งบริหารเศรษฐกิจรวดเร็ว อย่างไม่มีเวลาหายใจ เพราะว่าเศรษฐกิจยังมีความผันผวน ต้องออกมาตรการต่างๆ เพื่อให้เศรษฐกิจในประเทศแข็งแกร่ง รับความผัวผวนจากต่างประเทศ โดยจะต้องมีการเร่งใช้จ่ายงบประมาณปี 2552 จำนวน 1.8 ล้านล้าน ให้ได้ไตรมาสแรก มากกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 22% เพื่อเป็นการกระตุ้นดเศรษฐกิจ เป็นการโหมไฟให้มีแรงขับเคลื่อนประเทศ

“ปัญหาเศรษฐกิจโลกยังไม่จบสิ้น ยังมีปัญหาตามมาอีกหลายระลอก การทำงานเพื่อให้เศรษฐกิจในประเทศมีความแข็งแกร่งเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ ที่ รมว.คลังคนใหม่ จะต้องดำเนินการเพื่อรองรับปัญหาอย่างเร่งด่วน”

นอกจากนี้ ยังต้องเร่งขับเคลื่อนโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐ หรือเมกะโปรเจกต์ โดยเฉพาะรถไฟฟ้า จะต้องเร่งหาแหล่งเงินทุน ผู้รับเหมาก่อสร้าง ส่วนโครงการเมกะโปรเจกต์ด้านอื่น เช่น ระบบชลประทาน การศึกษา และสาธารณสุข กระทรวงการคลัง ในฐานะผู้จัดหาแหล่งเงินทุน จะต้องเตรียมการรองรับ เพื่อที่จะสร้างเศรษฐกิจภายในประเทศให้เข้มแข็ง รวมทั้งต้องประสานงานเรื่องพืชผลการเกษตร เช่น การรับจำนำข้าวนาปีอย่างที่ผ่านมา เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้เพียงพอ รองรับความผันผวนของเศรษฐกิจได้
กำลังโหลดความคิดเห็น