นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการยกเลิกรายการ สนทนาประสาสมัคร ที่จัดโดยนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรีทุกเช้าวันอาทิตย์ ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที และสถานีวิทยุแห่งประเทศไทยว่า ตื่นเช้ามาวันนี้ (14 ก.ย.) ถือว่าสบายหู สบายตามาก แต่ยังมีรายการสารตกค้าง อยู่คือรายการ ความจริงวันนี้ ของ 3 เกลอหัวกลม ที่ยังตามมาหลอกหลอน พี่น้องประชาชนยามค่ำคืน เมื่อรายการ สนทนาประสาสมัคร ถูกยกเลิกไปแล้ว ตนอยากเรียกต้องไปยัง ผอ.เอ็นบีที ให้ยกเลิกรายการดังกล่าวตามไปด้วย
ด้านนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเรียกร้องให้ กรมประชาสัมพันธ์และสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ยุติรายการ ความจริงวันนี้ ที่วิจารณ์คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญกรณีตัดสินให้นายสมัคร สุนทรเวช พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้มีการวิจารณ์ศาลรัฐธรรมนูญและตุลาการบางคนอย่างต่อเนื่อง โดยถือเป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลโดยพรรคพลังประชาชน ที่คว่ำกฎหมายว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีบทบัญญัติคุ้มครองไม่ให้มีการวิจารณ์การทำงานของศาลรัฐธรรมนูญ โดยจะถือว่า ใครวิจารณ์ถือเป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล แต่รัฐบาลก็ไม่ยอมผ่านกฎหมายฉบับดังกล่าว ทำให้มีการวิจารณ์การทำงานของศาลรัฐธรรมนูญตามมา จึงอยากให้รัฐบาล ยุติการวิจารณ์ศาลรัฐธรรมนูญรายวัน เพราะไม่เกิดประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้น
นายองอาจ ยังกล่าวในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ ด้วยว่า ขณะนี้มีผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หลายคน รณรงค์หาเสียงโจมตีนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้สมัครของพรรค จึงขอเตือนว่า การโจมตีของผู้สมัครบางคนเป็นการกระทำที่เข้าข่ายผิดพระราชบัญญัติเกี่ยวกับการสมัครและรับเลือกผู้บริหารส่วนท้องถิ่น โดยเฉพาะมาตรา 57 ที่ห้ามมิให้ผู้สมัครใส่ร้าย หรือจูงใจ เพื่อให้ประชาชนเข้าใจผิด และสร้างเหตุจูงใจให้ประชาชนสับสนข้อมูล
นอกจากนี้ยังมีประกาศของ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ปี 51 ที่ห้าม ไม่ให้ผู้สมัครได้กระทำการใส่ร้ายผู้สมัครด้วยกันเอง โดยไม่ได้นำนโยบาย มานำเสนอต่อประชาชน ซึ่งการโจมตีใส่ร้ายผู้สมัคร ศาลเคยมีคำพิพากษาตัดสิน ให้ผู้สมัครรายหนึ่งถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปี มาแล้ว ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้ผู้สมัครที่ยังโจมตีคนอื่นอยู่ ให้ดำเนินการในสิ่งที่ถูกต้อง อย่าหาเสียงด้วยการโจมตีผู้อื่นเพื่อสร้างคะแนนให้กับตัวเอง
การโจมตีนายอภิรักษ์ มีหลายประเด็น เช่น กล่าวหาว่านายอภิรักษ์ รณรงค์ เรื่องการลดโลกร้อนแต่กลับเพิ่มโลกร้อนด้วยการตัดต้นไม้บริเวณอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสิน ซึ่งความจริง กทม.มีโครงการร่วมมือกับกรมศิลปากรในการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณดังกล่าว โดยนำต้นไม้ใหญ่ไปปลูกตามโรงเรียนต่าง ๆ และนำไม้มงคล มาปลูกทดแทน เพื่อไม่ให้บดบังอนุสาวรีย์ ทำให้ภูมิทัศน์ดีขึ้น เห็นอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสินอย่างเด่นชัดขึ้น” นายองอาจ กล่าว
ด้านนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเรียกร้องให้ กรมประชาสัมพันธ์และสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ยุติรายการ ความจริงวันนี้ ที่วิจารณ์คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญกรณีตัดสินให้นายสมัคร สุนทรเวช พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้มีการวิจารณ์ศาลรัฐธรรมนูญและตุลาการบางคนอย่างต่อเนื่อง โดยถือเป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลโดยพรรคพลังประชาชน ที่คว่ำกฎหมายว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีบทบัญญัติคุ้มครองไม่ให้มีการวิจารณ์การทำงานของศาลรัฐธรรมนูญ โดยจะถือว่า ใครวิจารณ์ถือเป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล แต่รัฐบาลก็ไม่ยอมผ่านกฎหมายฉบับดังกล่าว ทำให้มีการวิจารณ์การทำงานของศาลรัฐธรรมนูญตามมา จึงอยากให้รัฐบาล ยุติการวิจารณ์ศาลรัฐธรรมนูญรายวัน เพราะไม่เกิดประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้น
นายองอาจ ยังกล่าวในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ ด้วยว่า ขณะนี้มีผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หลายคน รณรงค์หาเสียงโจมตีนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้สมัครของพรรค จึงขอเตือนว่า การโจมตีของผู้สมัครบางคนเป็นการกระทำที่เข้าข่ายผิดพระราชบัญญัติเกี่ยวกับการสมัครและรับเลือกผู้บริหารส่วนท้องถิ่น โดยเฉพาะมาตรา 57 ที่ห้ามมิให้ผู้สมัครใส่ร้าย หรือจูงใจ เพื่อให้ประชาชนเข้าใจผิด และสร้างเหตุจูงใจให้ประชาชนสับสนข้อมูล
นอกจากนี้ยังมีประกาศของ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ปี 51 ที่ห้าม ไม่ให้ผู้สมัครได้กระทำการใส่ร้ายผู้สมัครด้วยกันเอง โดยไม่ได้นำนโยบาย มานำเสนอต่อประชาชน ซึ่งการโจมตีใส่ร้ายผู้สมัคร ศาลเคยมีคำพิพากษาตัดสิน ให้ผู้สมัครรายหนึ่งถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปี มาแล้ว ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้ผู้สมัครที่ยังโจมตีคนอื่นอยู่ ให้ดำเนินการในสิ่งที่ถูกต้อง อย่าหาเสียงด้วยการโจมตีผู้อื่นเพื่อสร้างคะแนนให้กับตัวเอง
การโจมตีนายอภิรักษ์ มีหลายประเด็น เช่น กล่าวหาว่านายอภิรักษ์ รณรงค์ เรื่องการลดโลกร้อนแต่กลับเพิ่มโลกร้อนด้วยการตัดต้นไม้บริเวณอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสิน ซึ่งความจริง กทม.มีโครงการร่วมมือกับกรมศิลปากรในการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณดังกล่าว โดยนำต้นไม้ใหญ่ไปปลูกตามโรงเรียนต่าง ๆ และนำไม้มงคล มาปลูกทดแทน เพื่อไม่ให้บดบังอนุสาวรีย์ ทำให้ภูมิทัศน์ดีขึ้น เห็นอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสินอย่างเด่นชัดขึ้น” นายองอาจ กล่าว
