เอเอฟพี - ตำรวจอินเดียออกล่าตัวกลุ่มก่อการร้าย "มูจาฮิดีน อินเดีย" ที่อ้างตัวว่าอยู่เบื้องหลังการก่อเหตุระเบิด 5 ครั้งภายในระยะเวลา 45 นาที โดยเกิดขึ้นกลางย่านธุรกิจการค้าในกรุงเดลีเมื่อเย็นวันเสาร์ (13) จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 20 คน และบาดเจ็บอีกเกือบ 100 คน
ราชัน ภากัต โฆษกตำรวจกรุงเดลีระบุด้วยว่า พบระเบิดอีกสามลูกอยู่ในย่านชุมชนในเมืองหลวง ทว่า เจ้าหน้าที่ถอดชนวนได้ทัน โดยระเบิดลูกหนึ่งพบอยู่ที่ประตูเมืองอินเดีย อันเป็นสถานที่ในเชิงสัญลักษณ์ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของอินเดีย และเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวกลางกรุงเดลีด้วย
"เรามีทั้งเบาะแสสำคัญ และเป็นประโยชน์ เราหวังอย่างยิ่งว่าจะจัดการเรื่องนี้ได้" เขาบอกว่าล่าสุดมีจำนวนผู้เสียชีวิต 20 คน และบาดเจ็บทั้งหมด 98 คน
ทั้งนี้ ระเบิดทั้งหมดมีระดับความรุนแรงแตกต่างกันและพุ่งเป้าหมายไปที่ชนชั้นกลางที่อยู่ทางใต้และตอนกลางของกรุงเดลีซึ่งจับจ่ายข้าวของกันแน่นขนัดในช่วงเย็น และแม้ว่าทางการจะจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้ได้หลายคนแต่ก็ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมแต่อย่างใด
รัฐบาลอินเดียได้จัดประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงว่าด้วยความมั่นคงทันที มธุการ คุปตะ รัฐมนตรีกระทรวงกิจการภายในระบุว่าจะมีการพูดคุยกันเรื่องมาตรการเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหา
"เราคุยกันถึงมาตรการหลายข้อซึ่งอาจจำเป็นต้องใช้ทั้งในเดลีและเมืองใหญ่อื่นๆ ด้วย" คุปตะรับปากว่า จะ "ปิดช่องโหว่ (ด้านความมั่นคง) ใดๆ ก็ตามที่มีอยู่ และจะเสริมความแข็งแกร่งให้กับกลไก ระบบ และกระบวนการต่างๆ"
เหตุการณ์ระเบิดครั้งล่าสุดนี้ มีระเบิดสองลูกจู่โจมที่คอนนอจต์เพลส อันเป็นย่านการเงินและการค้าใหญ่ที่สุดของเดลี ในขณะที่อีกสองลูกเกิดระเบิดที่ย่านช็อปปิ้งหรูหราชื่อเกรตเทอร์ไกรลาศ และลูกที่ห้าเกิดระเบิดขึ้นที่ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าและอะไหล่รถยนต์ที่จอแจ ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าระเบิดเหล่านี้ดูเหมือนจะมีการอัดกระสุนลูกปรายเอาไว้ด้วย "เพื่อหวังผลทำลายสูงสุด"
"ทุกอย่างดำมืดอยู่ตรงหน้าผม" กุลาบ ซิงห์ ผู้เห็นเหตุการณ์ซึ่งอยู่บริเวณคอนอจต์เพลสเล่า
"ผมเห็นผู้หญิงคนหนึ่งแทบจะบินขึ้นไปบนฟ้าเลยทีเดียว ตอนที่เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นจนแก้วหูแทบแตก ผู้คนวิ่งหนีและล้มลุกคลุกคลานกันอย่างอลหม่าน แถมยังเหยียบกันเองด้วยความแตกตื่น"
ขณะนี้ รัฐบาลอินเดียได้สั่งเตือนภัยระดับสูงโดยเพิ่มกำลังรักษาความปลอดภัยตามสนามบิน สถานีรถไฟ และย่านใจกลางเมืองหลายแห่ง รวมทั้งสั่งปิดบริการรถไฟใต้ดินด้วย
ทั้งนี้ ก่อนเกิดเหตุระเบิดครั้งแรก กลุ่มมูจาฮิดีน อินเดียยังได้ส่งอีเมลไปยังสื่อต่างๆ โดยระบุข้อความท้าทายรัฐบาลว่า "ถ้าแน่จริงก็หยุดเราให้ได้สิ"
ยังไม่มีผู้ใดรู้ว่ากลุ่มมูจาฮิดีนอินเดียมีที่มาและการจัดตั้งขึ้นอย่างไร แต่กลุ่มดังกล่าวเคยอ้างตนเป็นผู้ก่อเหตุระเบิดที่เมืองอาห์เมดาบัด และที่เมืองบังคาลอร์ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้เสียชีวิตไป 45 คน
หน่วยงานด้านความมั่นคงคาดว่ากลุ่มมูจาฮิดีนอินเดียอาจเป็นองค์การแนวร่วมของกลุ่มเคลื่อนไหวที่ถูกทางการสั่งปิดไปแล้วหลายกลุ่มในอินเดียในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา เช่น ขบวนการนักศึกษาอิสลามแห่งอินเดีย แต่บางคนเห็นว่าอาจเป็นกลุ่มความร่วมมือแบบหลวมๆ ของกองกำลังลัชการ์-อี-ไตบา และกองกำลังจาอิศ-อี-โมฮัมมัด ซึ่งมีฐานอยู่ที่ปากีสถานมากกว่า
ด้านปากีสถานได้ปฏิเสธความเกี่ยวข้องใดๆ กับการวางระเบิดในอินเดีย ขณะที่ประธานาธิบดีอาซิฟ ซาร์ดารี ซึ่งเพิ่งเข้ารับตำแหน่งหมาดๆ ก็ได้กล่าวประณามเหตุระเบิดเมื่อวันเสาร์ด้วย
ส่วนอีเมลขู่ขวัญนั้นปรากฏว่าส่งมาจากบริษัทอิเล็กทรอนิกส์แห่งหนึ่งที่อยู่บริเวณชานเมืองด้านตะวันออกของเมืองมุมไบ ขณะนี้ตำรวจกำลังติดตามสืบร่องรอยว่าเครือข่ายอินเทอร์เน็ตของบริษัทดังกล่าวถูกแอบเจาะระบบหรือไม่ เพราะก่อนเกิดเหตุระเบิดที่เมืองอาห์เมดาบัดก็มีการส่งอีเมลลักษณะเดียวกันนี้ ด้วยวิธีเจาะเข้าไปส่งจากเครือข่ายที่อยู่บริเวณชานเมืองมุมไบเช่นกัน
ราชัน ภากัต โฆษกตำรวจกรุงเดลีระบุด้วยว่า พบระเบิดอีกสามลูกอยู่ในย่านชุมชนในเมืองหลวง ทว่า เจ้าหน้าที่ถอดชนวนได้ทัน โดยระเบิดลูกหนึ่งพบอยู่ที่ประตูเมืองอินเดีย อันเป็นสถานที่ในเชิงสัญลักษณ์ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของอินเดีย และเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวกลางกรุงเดลีด้วย
"เรามีทั้งเบาะแสสำคัญ และเป็นประโยชน์ เราหวังอย่างยิ่งว่าจะจัดการเรื่องนี้ได้" เขาบอกว่าล่าสุดมีจำนวนผู้เสียชีวิต 20 คน และบาดเจ็บทั้งหมด 98 คน
ทั้งนี้ ระเบิดทั้งหมดมีระดับความรุนแรงแตกต่างกันและพุ่งเป้าหมายไปที่ชนชั้นกลางที่อยู่ทางใต้และตอนกลางของกรุงเดลีซึ่งจับจ่ายข้าวของกันแน่นขนัดในช่วงเย็น และแม้ว่าทางการจะจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้ได้หลายคนแต่ก็ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมแต่อย่างใด
รัฐบาลอินเดียได้จัดประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงว่าด้วยความมั่นคงทันที มธุการ คุปตะ รัฐมนตรีกระทรวงกิจการภายในระบุว่าจะมีการพูดคุยกันเรื่องมาตรการเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหา
"เราคุยกันถึงมาตรการหลายข้อซึ่งอาจจำเป็นต้องใช้ทั้งในเดลีและเมืองใหญ่อื่นๆ ด้วย" คุปตะรับปากว่า จะ "ปิดช่องโหว่ (ด้านความมั่นคง) ใดๆ ก็ตามที่มีอยู่ และจะเสริมความแข็งแกร่งให้กับกลไก ระบบ และกระบวนการต่างๆ"
เหตุการณ์ระเบิดครั้งล่าสุดนี้ มีระเบิดสองลูกจู่โจมที่คอนนอจต์เพลส อันเป็นย่านการเงินและการค้าใหญ่ที่สุดของเดลี ในขณะที่อีกสองลูกเกิดระเบิดที่ย่านช็อปปิ้งหรูหราชื่อเกรตเทอร์ไกรลาศ และลูกที่ห้าเกิดระเบิดขึ้นที่ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าและอะไหล่รถยนต์ที่จอแจ ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าระเบิดเหล่านี้ดูเหมือนจะมีการอัดกระสุนลูกปรายเอาไว้ด้วย "เพื่อหวังผลทำลายสูงสุด"
"ทุกอย่างดำมืดอยู่ตรงหน้าผม" กุลาบ ซิงห์ ผู้เห็นเหตุการณ์ซึ่งอยู่บริเวณคอนอจต์เพลสเล่า
"ผมเห็นผู้หญิงคนหนึ่งแทบจะบินขึ้นไปบนฟ้าเลยทีเดียว ตอนที่เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นจนแก้วหูแทบแตก ผู้คนวิ่งหนีและล้มลุกคลุกคลานกันอย่างอลหม่าน แถมยังเหยียบกันเองด้วยความแตกตื่น"
ขณะนี้ รัฐบาลอินเดียได้สั่งเตือนภัยระดับสูงโดยเพิ่มกำลังรักษาความปลอดภัยตามสนามบิน สถานีรถไฟ และย่านใจกลางเมืองหลายแห่ง รวมทั้งสั่งปิดบริการรถไฟใต้ดินด้วย
ทั้งนี้ ก่อนเกิดเหตุระเบิดครั้งแรก กลุ่มมูจาฮิดีน อินเดียยังได้ส่งอีเมลไปยังสื่อต่างๆ โดยระบุข้อความท้าทายรัฐบาลว่า "ถ้าแน่จริงก็หยุดเราให้ได้สิ"
ยังไม่มีผู้ใดรู้ว่ากลุ่มมูจาฮิดีนอินเดียมีที่มาและการจัดตั้งขึ้นอย่างไร แต่กลุ่มดังกล่าวเคยอ้างตนเป็นผู้ก่อเหตุระเบิดที่เมืองอาห์เมดาบัด และที่เมืองบังคาลอร์ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้เสียชีวิตไป 45 คน
หน่วยงานด้านความมั่นคงคาดว่ากลุ่มมูจาฮิดีนอินเดียอาจเป็นองค์การแนวร่วมของกลุ่มเคลื่อนไหวที่ถูกทางการสั่งปิดไปแล้วหลายกลุ่มในอินเดียในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา เช่น ขบวนการนักศึกษาอิสลามแห่งอินเดีย แต่บางคนเห็นว่าอาจเป็นกลุ่มความร่วมมือแบบหลวมๆ ของกองกำลังลัชการ์-อี-ไตบา และกองกำลังจาอิศ-อี-โมฮัมมัด ซึ่งมีฐานอยู่ที่ปากีสถานมากกว่า
ด้านปากีสถานได้ปฏิเสธความเกี่ยวข้องใดๆ กับการวางระเบิดในอินเดีย ขณะที่ประธานาธิบดีอาซิฟ ซาร์ดารี ซึ่งเพิ่งเข้ารับตำแหน่งหมาดๆ ก็ได้กล่าวประณามเหตุระเบิดเมื่อวันเสาร์ด้วย
ส่วนอีเมลขู่ขวัญนั้นปรากฏว่าส่งมาจากบริษัทอิเล็กทรอนิกส์แห่งหนึ่งที่อยู่บริเวณชานเมืองด้านตะวันออกของเมืองมุมไบ ขณะนี้ตำรวจกำลังติดตามสืบร่องรอยว่าเครือข่ายอินเทอร์เน็ตของบริษัทดังกล่าวถูกแอบเจาะระบบหรือไม่ เพราะก่อนเกิดเหตุระเบิดที่เมืองอาห์เมดาบัดก็มีการส่งอีเมลลักษณะเดียวกันนี้ ด้วยวิธีเจาะเข้าไปส่งจากเครือข่ายที่อยู่บริเวณชานเมืองมุมไบเช่นกัน
