ปักกิ่งหวั่นเหตุก่อการร้ายโอลิมปิก สั่งระดมบุคลากร-เครื่องมือสุดฤทธิ์

เอเยนซี – ปักกิ่งหวั่นเหตุก่อการร้ายโอลิมปิก สั่งระดมบุคลากร-เครื่องมือสุดฤทธิ์ เผยใช้บุคลากรรักษาความปลอดภัยร่วมครึ่งล้าน พร้อมติดตั้งเครื่องยิงขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศ แถมติดอาวุธตำรวจด้วยปืนยิงตาข่ายสุดไฮเทค จัดการผู้ต้องสงสัยอย่างละมุนละม่อม

จีนใช้ทุกมาตรการรักษาความปลอดภัยโอลิมปิก ระดมหน่วยต่อต้านก่อการร้ายร่วม 100,000 คนเพื่อป้องกันเหตุร้ายระหว่างโอลิมปิก ในจำนวนนี้ประกอบด้วยหน่วยพิเศษคือ หน่วยสวาทขี่ “เซกเวย์” (Segway - ยานพาหนะ 2 ล้อ) และเจ้าหน้าที่ติดอาวุธปืนยิงตาข่าย นอกจากนี้ยังมีการระดมอาสาสมัครกว่า 500,000 คนสำหรับการตรวจตรา สอดส่องบริเวณต่างๆ พร้อมตั้งรางวัลล่อใจสำหรับผู้ให้ข้อมูลการก่อการร้ายสูงถึง 73,000 เหรียญสหรัฐฯ

ขณะนี้การรักษาความปลอดภัยในปักกิ่งค่อนข้างเข้มงวด ตำรวจตามจุดตรวจต่างๆ ที่ตั้งขึ้นรอบปักกิ่งยังทำการยานหาหนะทุกคันที่มุ่งหน้าเข้ามายังปักกิ่ง จนทำให้รถติดยาวเหยียด นอกจากนี้ผู้ใช้บริการรถไฟใต้ดินยังต้องเผชิญกับการตรวจสอบสัมภาระอย่างเข้มงวด มาตรการต่างๆเหล่านี้ทำให้หลายฝ่ายรวมทั้งชาวจีนบางส่วนเริ่มวิจารณ์ว่า รัฐบาลวิตกกังวลเกินเหตุ

อย่างไรก็ตามรองประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้ออกมาแสดงทัศนะระหว่างการระดมพลหน่วยรักษาปลอดภัย ณ จตุรัสเทียอันเหมินเมื่อต้นเดือนว่า “ความปลอดภัยในช่วงโอลิมปิกเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของจีน นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องหน้าตาของประเทศ”

ส่วนความเห็นจากประชาชนนั้น หลิว ไห่เสิง วิศวกรคอมพิวเตอร์ระบุว่า “ถึงผมนั่งรถไฟใต้ดินทุกวัน ผมก็ไม่รู้สึกอึดอัดกับการเช็คสัมภาระที่สถานีรถไฟใต้ดินแม้แต่นิด แต่ที่ผมรู้สึกอึดอัดคือ การที่ตำรวจจำนวนมากถือปืนเดินไปมาทั่วปักกิ่ง มันทำให้พวกเรานึกถึงการนองเลือดที่เทียนอันเหมินปี 1989 ซึ่งมีการใช้กำลังปราบปรามประชาชนอย่างรุนแรง”

หลังจากเผชิญกับจลาจลที่ทิเบต และการวิ่งคบเพลิงโอลิมปิกที่เต็มไปด้วยการต่อต้านอย่างหนักหน่วง รัฐบาลจีนได้อ้างว่า กลุ่มผู้ก่อการร้ายทิเบตที่สนับสนุนทะไล ลามะ และผู้ก่อการร้ายมุสลิม อุยกูร์ จากซินเจียงวางแผนวินาศกรรมโอลิมปิก

หวัง ซาเฉิง แห่งโครงการความมั่นคงนานาชาติ ณ ศูนย์เบลฟอร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด แสดงทัศนะว่า “โอลิมปิกครั้งนี้เป็นงานใหญ่สุดเท่าที่จีนเคยมีมา เมื่อการวิ่งคบเพลิงโอลิมปิกเริ่มขึ้น เราจะเห็นได้ว่ามีผู้ที่ต่อต้านจีนอยู่ ดังนั้นทางรัฐบาลจึงตัดสินใจใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มงวด เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน เพราะพวกเขาไม่อยากเสียหน้า”

ระดมกำลัง-เครื่องมือพิเศษพร้อมรับสถานการณ์

ทั้งนี้มาตรการรักษาความปลอดภัยที่สำคัญประกอบด้วยการติดตั้งเครื่องยิงขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศรอบสนามกีฬาสำคัญ และการใช้กำลังหน่วยพิเศษดูแลสถานการณ์ โดยกองกำลังที่ดูแลความปลอดภัยโอลิมปิกปักกิ่ง เป็นกองกำลังติดอาวุธชั้นยอด ที่ได้รับการฝึกอย่างดีที่สุด สำนักงานตำรวจปักกิ่งระบุว่า ทางปักกิ่งได้ตั้งหน่วยสวาทขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2005 ตอนนี้ทางหน่วยมีกำลังคนประมาณ 1,000 โดยเจ้าหน้าที่เหล่านี้ถูกฝึกมาสำหรับการต่อต้านการก่อการร้าย และควบคุมการจลาจล

นอกจากนี้ทางนิตยสารเป่ยจิง รีวิวยังเผยว่า ปักกิ่งยังมีหน่วยพิเศษอีกหน่วย คือหน่วยคอมมานโดเสือดาวหิมะ ซึ่งเป็นหน่วยตำรวจชั้นยอดที่ได้รับการฝึกในค่ายลับร่วม 5 ปี เพื่อเตรียมพร้อมรับมือการก่อการร้าย, จี้เครื่องบิน และลอบวางระบิดในช่วงมหกรรมโอลิมปิก 8-24 สิงหาคมนี้

จื้อ เสี่ยงตง จากสำนักงานตำรวจปักกิ่งให้ข้อมูลว่า “หน่วยสวาทมีอาวุธพิเศษคือ ปืนที่สามารถยิงตาข่ายไนล่อน ซึ่งมีลักษณะคล้ายใยแมงมุมสำหรับหยุดการเคลื่อนไหวของผู้ต้องสงสัย อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ได้นำอาวุธพิเศษนี้ติดตัวตลอด จะนำไปใช้เมื่อสถานการณ์บังคับเท่านั้น”

ซ่ง โหยวเจียง เจ้าหน้าที่เทคนิค ของ ซันโซ อิเล็กทริก เทคโนโลยี ซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่จูไห่ มณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) ระบุว่า “หน่วยตำรวจพิเศษของจีนได้ซื้อปืนยิงตาข่ายของทางบริษัทเป็นจำนวนมาก ตาข่ายของเราแข็งแรงมาก หากผู้ต้องสงสัยดิ้นมากเท่าไหร่ตาข่ายของเราก็จะยิ่งแน่นขึ้น”

ช่วงไม่กี่ปีมานี้แต่ละมณฑลได้ตั้งหน่วยสวาทขึ้น เพื่อเตรียมรักษาความปลอดภัยช่วงโอลิมปิก เมื่อวันที่ 2 กรกฏาคมที่ผ่านมา หน่วยสวาทในซันตงได้ทำการฝึกซ้อมต่อต้านก่อการร้ายช่วงโอลิมปิก โดยภาพการฝึกซ้อมดังกล่าวถูกเผยแพร่ไปทั่ว ภาพตำรวจติดอาวุธพยายามเล็งปืนไปที่เป้าหมาย ขณะใช้ขาหนีบเซกเวย์กลายเป็นภาพที่ทำให้ผู้คนหัวเราะร่า เนื่องจากแต่ละคนต่างสงสัยว่า แรงถีบจากปืนจะทำให้ตำรวจล้มหงายเก๋งลงจากเซกเวย์รึเปล่า

หลิว เว่ย โฆษกของเซกเวย์ ปักกิ่งระบุว่า “เซกเวย์มีระบบความสมดุล และทางตำรวจก็ได้รับการฝึกเป็นพิเศษ ดังนั้นพวกเขาจะไม่ล้มคะมำระหว่างยิงปืแน่นอน” ทั้งนี้เซกเวย์จะถูกใช้ในการลาดตระเวนตรวจสนามบินปักกิ่ง และสนามกีฬาแห่งชาติ ที่รู้จักกันในชื่อ “รังนก” ด้วย

นอร์ม จาร์วิส อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยลับ ซึ่งเคยช่วยวางแผนรักษาความปลอดภัยโอลิมปิกมาหลายครั้งระบุว่า “ผมช่วยปักกิ่งวางแผนการเตรียมพร้อมตั้งแต่ปี 2003 พวกเขาทำได้ดีมาก อย่างไรก็ตามปัญหาสำคัญที่ทางการจีนต้องเผชิญคือ จะทำอย่างไรให้ผู้คนไม่มองว่า ทางการจีนใช้มาตรการที่รุนแรงมากเกินไปในกรณีที่มีเหตุการณ์มีคาดคิดเกิดขึ้น”