ผู้จัดการรายวัน – สตง.ส่ง ป.ป.ช.เชือด 5 ผู้บริหารสรรพากร ทุจริตล็อกสเป็คจัดซื้อรถตู้ 8 คัน เอื้อประโยชน์เอกชนและตั้งราคาสูงกว่าทางราชการกำหนด เผย “รวิฐา พงศ์นุชิต” หรือชื่อเดิม "ไพฑูรย์ พงษ์เกษร" โดนด้วย ยอมรับหวั่นบุคคลที่พัวพันคดีทุจริตได้ดีในฤดูกาลโยกย้ายประจำปีนี้
แหล่งข่าวกรมสรรพากร เปิดเผยว่า สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ทำหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และอธิบดีกรมสรรพากร เพื่อให้ตรวจสอบการจัดซื้อรถยนต์โดยสารขนาด 12 ที่นั่ง (ดีเซล) จำนวน 8 คัน ของกรมสรรพากร
ซึ่ง สตง.ตรวจพบว่า การกำหนดรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของรถยนต์โดยสาร มีลักษณะเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ขายรายใดรายหนึ่ง หรือเป็นการกีดกัน หรือขัดขวางการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม และมีราคาสูงเกินกว่าราคามาตรฐานครุภัณฑ์ที่สำนักงบประมาณกำหนด จึงต้องการให้ตรวจสอบผู้ที่เกี่ยวข้องว่ามีการทุจริตต่อหน้าที่หรือไม่
โดยเจ้าหน้าที่และผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง ของกรมสรรพากรมีทั้งหมด 5 คน ประกอบด้วย 1.นางนิตยา หินทอง ผู้อำนวยการกองคลังในฐานะหัวหน้าเจ้าหน้าที่พัสดุ 2.นางรวิฐา พงศ์นุชิต ชื่อเดิม นางไพฑูรย์ พงษ์เกษร รองอธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะผู้สั่งการ 3. นายวัลลภ หนุนพระเดช นักวิชาการภาษี 8 ว ในฐานะประธานกรรมการกำหนดร่างขอบเขตของงานและร่างเอกสารประกวดราคา 4. นายประสิทธิ์ เปาอินทร์ นิติกร 7 ว ในฐานะประธานกรรมการกำหนดร่างขอบเขตของงานและร่างเอกสารประกวดราคา และ 5. นางสาวสุรีย์ คงสุวรรณ์ เจ้าหน้าที่บริหารงานสรรพากร 5 ในฐานะประธานกรรมการกำหนดร่างขอบเขตของงานและร่างเอกสารประกวดราคา
แหล่งข่าว กล่าวว่า สตง.ยังได้ทำหนังสือแจ้งให้นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง รับทราบการดำเนินดังกล่าวของ สตง. เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่ของกระทรวงต่อไป นอกจากนี้ ยังหวังว่ากระทรวงจะใช้ข้อมูลนี้ไปประกอบการพิจารณาโยกย้ายผู้บริหาร ซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าวจะแต่งตั้งนางรวิฐา จากรองอธิบดีกรมสรรพากร เป็นรองปลัดกระทรวงการคลัง ซึ่งถือว่าไม่เหมาะในแง่ของธรรมาภิบาล ที่สำคัญนางรวิฐาถูกมองว่าเป็นคนของระบอบทักษิณ
โดยล่าสุด ปลายเดือนที่ผ่านมา นางรวิฐาได้ออกมาแสดงบทบาทเอื้อคนในระบอบทักษิณ กรณีที่กรมสรรพากรทำหนังสือไปยังธนาคารไทยพาณิชย์ขอให้นำส่งเงินในบัญชีของ นายพานทองแท้และ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร ที่ถูก คตส.อายัดจำนวน 1.2 หมื่นล้านบาท เพื่อชดใช้ค่าภาษีที่ทั้งสองค้างชำระ ก่อนที่สำนักงานอัยการสูงสุดจะยื่นเรื่องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ขอให้ศาลมีคำสั่งยึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท ของ พ.ต.ท.ทักษิณ มีการตั้งข้อสังเกตว่า การสั่งโอนเงินดังกล่าวอาจมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งคืนคนในระบอบทักษิณกรณีที่คณะกรรมการอุทธรณ์ภาษีที่อยู่ระหว่างพิจารณาชี้ว่า นายพานทองแท้และ น.ส.พิณทองทาไม่ต้องจ่ายภาษีให้กรมสรรพากร
ทั้งนี้ การจัดซื้อรถยนต์ที่มีปัญหาดังกล่าว เกิดขึ้นช่วงปี 2548-2549 ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเจ้าหน้าที่และผู้บริหาร เข้าข่ายความตามพระราชบัญญัติ ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 11 และ 12 โดยใช้การประมูลด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์มีบริษัท สยามกลการเซลล์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทตัวแทนจำหน่ายรถตู้โดยสารยี่ห้อนิสสันยื่นเอกสารประกวดราคาเพียงรายเดียวจึงได้ยกเลิกการประมูลและจัดให้มีการประมูลใหม่ ซึ่งกลุ่มบุคคลที่ดำเนินการจัดซื้อรถยนต์ในครั้งนี้ได้ทำการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของรถตู้โดยสารจากเดิมที่ระบุว่าเป็นรถตู้โดยสารทั่วไป โดยกำหนดคุณสมบัติที่ตรงกับรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคอมมิวเตอร์ หลังคาสูงตามที่ปรากฏในแคตตาล็อกของรถตู้ยี่ห้อโตโยต้าทุกประการ
ซึ่งในการประมูลครั้งใหม่มีผู้สนใจรับเอกสารประกวดราคาจำนวน 11 ราย แต่มีบริษัทโตโยต้า เค.มอเตอร์ จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้าเพียงรายเดียวยื่นเอกสารประกวดราคาจึงได้ยกเลิกการประกวดราคา จึงเป็นเหตุให้เชื่อว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวต้องการให้การประมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ไม่สัมฤทธิ์ผลเพื่อที่จะหาข้ออ้างไปสู่การจัดซื้อโดยวิธีพิเศษในที่สุด
และในการจัดซื้อครั้งที่ 3 ได้ดำเนินการโดยวิธีพิเศษและใช้รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของรถตู้โดยสารเดิมในการประกวดราคาครั้งที่ 2 ซึ่งตรงกับลักษณะเฉพาะของรถตู้โดยสารโตโยต้า โดยคณะผู้จัดซื้อได้ส่งหนังสือเชิญบริษัทรถยนต์ 8 บริษัท ทั้งยี่ห้อนิสสันและบริษัท ธนบุรีประกอบรถยนต์ จำกัด เพื่อกลบเกลื่อนว่ามีการเชิญชวนอย่างแพร่หลายแต่ล็อกสเป็คสำหรับรถโตโยต้ารุ่นดังกล่าวไว้แล้ว
“การดำเนินการจัดซื้อในครั้งที่ 3 แม้จะเชิญผู้แทนจำหน่ายรถกว่า 8 รายแต่ก็ล็อกสเป็คไว้ชัดเจนว่าเป็นโตโยต้า คอมมิวเตอร์ตามที่ได้มีการแก้ไขการประกวดราคาครั้งที่ 2 ไว้ ทำให้ในที่สุดมีตัวแทนจำหน่ายรถยนต์โตโยต้า 2 รายเข้าร่วมยื่นเอกสารประกวดราคา และในที่สุดกรมสรรพากรก็ได้ทำสัญญาซื้อขายรถตู้โดยสารโตโยต้า รุ่นคอมมิวเตอร์หลังคาสูง กับบริษัท โตโยต้า แอท ยูไนเต็ด จำกัด ตามแผนการที่กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ทำไว้ตั้งแต่ต้น” แหล่งข่าวกล่าว
แหล่งข่าวกรมสรรพากร เปิดเผยว่า สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ทำหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และอธิบดีกรมสรรพากร เพื่อให้ตรวจสอบการจัดซื้อรถยนต์โดยสารขนาด 12 ที่นั่ง (ดีเซล) จำนวน 8 คัน ของกรมสรรพากร
ซึ่ง สตง.ตรวจพบว่า การกำหนดรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของรถยนต์โดยสาร มีลักษณะเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ขายรายใดรายหนึ่ง หรือเป็นการกีดกัน หรือขัดขวางการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม และมีราคาสูงเกินกว่าราคามาตรฐานครุภัณฑ์ที่สำนักงบประมาณกำหนด จึงต้องการให้ตรวจสอบผู้ที่เกี่ยวข้องว่ามีการทุจริตต่อหน้าที่หรือไม่
โดยเจ้าหน้าที่และผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง ของกรมสรรพากรมีทั้งหมด 5 คน ประกอบด้วย 1.นางนิตยา หินทอง ผู้อำนวยการกองคลังในฐานะหัวหน้าเจ้าหน้าที่พัสดุ 2.นางรวิฐา พงศ์นุชิต ชื่อเดิม นางไพฑูรย์ พงษ์เกษร รองอธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะผู้สั่งการ 3. นายวัลลภ หนุนพระเดช นักวิชาการภาษี 8 ว ในฐานะประธานกรรมการกำหนดร่างขอบเขตของงานและร่างเอกสารประกวดราคา 4. นายประสิทธิ์ เปาอินทร์ นิติกร 7 ว ในฐานะประธานกรรมการกำหนดร่างขอบเขตของงานและร่างเอกสารประกวดราคา และ 5. นางสาวสุรีย์ คงสุวรรณ์ เจ้าหน้าที่บริหารงานสรรพากร 5 ในฐานะประธานกรรมการกำหนดร่างขอบเขตของงานและร่างเอกสารประกวดราคา
แหล่งข่าว กล่าวว่า สตง.ยังได้ทำหนังสือแจ้งให้นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง รับทราบการดำเนินดังกล่าวของ สตง. เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่ของกระทรวงต่อไป นอกจากนี้ ยังหวังว่ากระทรวงจะใช้ข้อมูลนี้ไปประกอบการพิจารณาโยกย้ายผู้บริหาร ซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าวจะแต่งตั้งนางรวิฐา จากรองอธิบดีกรมสรรพากร เป็นรองปลัดกระทรวงการคลัง ซึ่งถือว่าไม่เหมาะในแง่ของธรรมาภิบาล ที่สำคัญนางรวิฐาถูกมองว่าเป็นคนของระบอบทักษิณ
โดยล่าสุด ปลายเดือนที่ผ่านมา นางรวิฐาได้ออกมาแสดงบทบาทเอื้อคนในระบอบทักษิณ กรณีที่กรมสรรพากรทำหนังสือไปยังธนาคารไทยพาณิชย์ขอให้นำส่งเงินในบัญชีของ นายพานทองแท้และ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร ที่ถูก คตส.อายัดจำนวน 1.2 หมื่นล้านบาท เพื่อชดใช้ค่าภาษีที่ทั้งสองค้างชำระ ก่อนที่สำนักงานอัยการสูงสุดจะยื่นเรื่องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ขอให้ศาลมีคำสั่งยึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท ของ พ.ต.ท.ทักษิณ มีการตั้งข้อสังเกตว่า การสั่งโอนเงินดังกล่าวอาจมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งคืนคนในระบอบทักษิณกรณีที่คณะกรรมการอุทธรณ์ภาษีที่อยู่ระหว่างพิจารณาชี้ว่า นายพานทองแท้และ น.ส.พิณทองทาไม่ต้องจ่ายภาษีให้กรมสรรพากร
ทั้งนี้ การจัดซื้อรถยนต์ที่มีปัญหาดังกล่าว เกิดขึ้นช่วงปี 2548-2549 ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเจ้าหน้าที่และผู้บริหาร เข้าข่ายความตามพระราชบัญญัติ ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 11 และ 12 โดยใช้การประมูลด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์มีบริษัท สยามกลการเซลล์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทตัวแทนจำหน่ายรถตู้โดยสารยี่ห้อนิสสันยื่นเอกสารประกวดราคาเพียงรายเดียวจึงได้ยกเลิกการประมูลและจัดให้มีการประมูลใหม่ ซึ่งกลุ่มบุคคลที่ดำเนินการจัดซื้อรถยนต์ในครั้งนี้ได้ทำการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของรถตู้โดยสารจากเดิมที่ระบุว่าเป็นรถตู้โดยสารทั่วไป โดยกำหนดคุณสมบัติที่ตรงกับรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคอมมิวเตอร์ หลังคาสูงตามที่ปรากฏในแคตตาล็อกของรถตู้ยี่ห้อโตโยต้าทุกประการ
ซึ่งในการประมูลครั้งใหม่มีผู้สนใจรับเอกสารประกวดราคาจำนวน 11 ราย แต่มีบริษัทโตโยต้า เค.มอเตอร์ จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้าเพียงรายเดียวยื่นเอกสารประกวดราคาจึงได้ยกเลิกการประกวดราคา จึงเป็นเหตุให้เชื่อว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวต้องการให้การประมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ไม่สัมฤทธิ์ผลเพื่อที่จะหาข้ออ้างไปสู่การจัดซื้อโดยวิธีพิเศษในที่สุด
และในการจัดซื้อครั้งที่ 3 ได้ดำเนินการโดยวิธีพิเศษและใช้รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของรถตู้โดยสารเดิมในการประกวดราคาครั้งที่ 2 ซึ่งตรงกับลักษณะเฉพาะของรถตู้โดยสารโตโยต้า โดยคณะผู้จัดซื้อได้ส่งหนังสือเชิญบริษัทรถยนต์ 8 บริษัท ทั้งยี่ห้อนิสสันและบริษัท ธนบุรีประกอบรถยนต์ จำกัด เพื่อกลบเกลื่อนว่ามีการเชิญชวนอย่างแพร่หลายแต่ล็อกสเป็คสำหรับรถโตโยต้ารุ่นดังกล่าวไว้แล้ว
“การดำเนินการจัดซื้อในครั้งที่ 3 แม้จะเชิญผู้แทนจำหน่ายรถกว่า 8 รายแต่ก็ล็อกสเป็คไว้ชัดเจนว่าเป็นโตโยต้า คอมมิวเตอร์ตามที่ได้มีการแก้ไขการประกวดราคาครั้งที่ 2 ไว้ ทำให้ในที่สุดมีตัวแทนจำหน่ายรถยนต์โตโยต้า 2 รายเข้าร่วมยื่นเอกสารประกวดราคา และในที่สุดกรมสรรพากรก็ได้ทำสัญญาซื้อขายรถตู้โดยสารโตโยต้า รุ่นคอมมิวเตอร์หลังคาสูง กับบริษัท โตโยต้า แอท ยูไนเต็ด จำกัด ตามแผนการที่กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ทำไว้ตั้งแต่ต้น” แหล่งข่าวกล่าว