นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช จะไปพูดถึงสถานการณ์การเมืองของไทยในเวทียูเอ็น ว่า วงการทูตและสื่อต่างประเทศแสดงความวิตกต่อตัวนายกรัฐมนตรี ที่บิดเบือนข้อเท็จจริง และขาดจิตสำนึกในการเคารพสิทธิเสรีภาพ มากกว่ามารยาททางการทูต ตามที่โฆษกพรรคพลังประชาชนกล่าวอ้าง
ทั้งนี้ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ยังได้ฝากถึงนายสมัครว่า สิ่งที่วงการทูตและสื่อต่างประเทศแสดงความวิตก ห่วงใยมาก ต่อสถานการณ์ในประเทศไทย ไม่ใช่เรื่องมารยาททางการทูตตามที่โฆษกพรรคพลังประชาชนกล่าวอ้าง แต่เป็นเรื่องความน่าเชื่อถือของผู้นำประเทศมากกว่า เพราะที่ผ่านมา การให้สัมภาษณ์ของนายสมัคร ไม่ว่ากรณีที่กล่าวว่ามีคนตายเพียง 1 คน ในเหตุการณ์เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 19 หรือ การให้สัมภาษณ์ ต่อสำนักข่าวตะวันออกกลาง กรณีการสลายการชุมนุมที่ตากใบก็ดี เป็นการทำให้ตัวนายสมัครหมดความน่าเชื่อถือ
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ ท่าทีที่นายสมัคร พยายามอ้างว่าวิกฤตการเมืองของไทย เกิดขึ้นในพื้นที่เพียงครึ่งตารางกิโลเมตรเท่านั้น และใช้คำว่าทำให้ถูกมองว่าประเทศไทยเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน ตนอยากให้เข้าใจว่า สิ่งที่ต่างประเทศให้ความสำคัญมากกว่า คือจิตสำนึกในการเคารพสิทธิเสรีภาพของผู้นำประเทศ ซึ่งภาพเหตุการณ์การใช้ความรุนแรง ในการสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ การห้ามรถพยาบาลเข้าช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ เป็นสิ่งที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศอย่างร้ายแรง ซึ่งนายกรัฐมนตรี ควรคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้ให้มาก เพื่อชี้แจงในการปาฐกถา ที่สหประชาชาติ
ส่วนการพยายามพูดถึงมารยาททางการทูตของพรรคนั้น ขอเรียนว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าใจเรื่องเหล่านี้ดีกว่าคนพูดอยู่แล้ว และข่าวที่ปรากฏจากการเข้าพบ ก็มาจากการแถลงข่าวให้สัมภาษณ์ของตัวทูตเอง หลังจากเข้าพบ เช่น การให้สัมภาษณ์ของทูตสหรัฐฯ หลังการเข้าพบนายอภิสิทธิ์ ที่ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว
ทั้งนี้ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ยังได้ฝากถึงนายสมัครว่า สิ่งที่วงการทูตและสื่อต่างประเทศแสดงความวิตก ห่วงใยมาก ต่อสถานการณ์ในประเทศไทย ไม่ใช่เรื่องมารยาททางการทูตตามที่โฆษกพรรคพลังประชาชนกล่าวอ้าง แต่เป็นเรื่องความน่าเชื่อถือของผู้นำประเทศมากกว่า เพราะที่ผ่านมา การให้สัมภาษณ์ของนายสมัคร ไม่ว่ากรณีที่กล่าวว่ามีคนตายเพียง 1 คน ในเหตุการณ์เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 19 หรือ การให้สัมภาษณ์ ต่อสำนักข่าวตะวันออกกลาง กรณีการสลายการชุมนุมที่ตากใบก็ดี เป็นการทำให้ตัวนายสมัครหมดความน่าเชื่อถือ
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ ท่าทีที่นายสมัคร พยายามอ้างว่าวิกฤตการเมืองของไทย เกิดขึ้นในพื้นที่เพียงครึ่งตารางกิโลเมตรเท่านั้น และใช้คำว่าทำให้ถูกมองว่าประเทศไทยเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน ตนอยากให้เข้าใจว่า สิ่งที่ต่างประเทศให้ความสำคัญมากกว่า คือจิตสำนึกในการเคารพสิทธิเสรีภาพของผู้นำประเทศ ซึ่งภาพเหตุการณ์การใช้ความรุนแรง ในการสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ การห้ามรถพยาบาลเข้าช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ เป็นสิ่งที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศอย่างร้ายแรง ซึ่งนายกรัฐมนตรี ควรคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้ให้มาก เพื่อชี้แจงในการปาฐกถา ที่สหประชาชาติ
ส่วนการพยายามพูดถึงมารยาททางการทูตของพรรคนั้น ขอเรียนว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าใจเรื่องเหล่านี้ดีกว่าคนพูดอยู่แล้ว และข่าวที่ปรากฏจากการเข้าพบ ก็มาจากการแถลงข่าวให้สัมภาษณ์ของตัวทูตเอง หลังจากเข้าพบ เช่น การให้สัมภาษณ์ของทูตสหรัฐฯ หลังการเข้าพบนายอภิสิทธิ์ ที่ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว
