คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค คณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมฯ และคณะกรรมาธิการการยุติธรรมและการตำรวจ วุฒิสภา ได้เชิญนายสุพจน์ เลาวัณย์ศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วย พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี และตัวแทนจากกระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าชี้แจงกรณีเหตุปะทะระหว่างกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และกลุ่มชมรมคนรักอุดร เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
นายสุพจน์ ยืนยันว่า ได้พยายามป้องกันเหตุตามอำนาจคำสั่งของกระทรวงมหาดไทยแล้ว แต่ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ เนื่องจากพื้นที่มีบริเวณกว้าง และไม่เคยปิดกั้นการชุมนุม เพราะทุกคนมีสิทธิแสดงออกตามระบอบประชาธิปไตย พร้อมย้ำมีความเป็นกลาง ไม่รู้จักกับแกนนำทั้ง 2 กลุ่ม โดยจะเห็นได้จากหลังเกิดเหตุการณ์ ตนก็ถูกทั้ง 2 กลุ่มขับไล่ ซึ่งการเสนอข่าวของสื่อมวลชนที่ผ่านมา ทำให้ได้รับความเสื่อมเสีย เนื่องจากไม่ได้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ และเยียวยาผู้ที่ได้รับความเสียหายอย่างเร่งด่วนแล้ว
ด้าน พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ชี้แจงว่า ในวันเกิดเหตุกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เพียงพอ เพราะติดภารกิจสำคัญและไม่คาดคิดว่าจะมีการปะทะกันเกิดขึ้น เนื่องจากสถานที่ชุมนุมของทั้ง 2 ฝ่ายอยู่ห่างกัน และได้ร้องขอไปยังแกนนำของทั้ง 2 ฝ่ายแล้วว่าให้ชุมนุมโดยความสงบ ไม่ให้ใช้ความรุนแรง อีกทั้งที่ผ่านมากลุ่มผู้ชุมนุมได้เผชิญหน้ากันหลายครั้ง แต่ไม่มีการทำร้ายร่างกายกันเกิดขึ้น ประกอบกับการชุมนุมของทั้ง 2 ฝ่าย ไม่เคยมีการแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบล่วงหน้า เพื่อเตรียมการรับมือ จึงไม่มีการประสานขอกำลังตำรวจจากตำรวจภูธรภาค 4 เข้าควบคุมสถานการณ์
นายสุพจน์ ยืนยันว่า ได้พยายามป้องกันเหตุตามอำนาจคำสั่งของกระทรวงมหาดไทยแล้ว แต่ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ เนื่องจากพื้นที่มีบริเวณกว้าง และไม่เคยปิดกั้นการชุมนุม เพราะทุกคนมีสิทธิแสดงออกตามระบอบประชาธิปไตย พร้อมย้ำมีความเป็นกลาง ไม่รู้จักกับแกนนำทั้ง 2 กลุ่ม โดยจะเห็นได้จากหลังเกิดเหตุการณ์ ตนก็ถูกทั้ง 2 กลุ่มขับไล่ ซึ่งการเสนอข่าวของสื่อมวลชนที่ผ่านมา ทำให้ได้รับความเสื่อมเสีย เนื่องจากไม่ได้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ และเยียวยาผู้ที่ได้รับความเสียหายอย่างเร่งด่วนแล้ว
ด้าน พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ชี้แจงว่า ในวันเกิดเหตุกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เพียงพอ เพราะติดภารกิจสำคัญและไม่คาดคิดว่าจะมีการปะทะกันเกิดขึ้น เนื่องจากสถานที่ชุมนุมของทั้ง 2 ฝ่ายอยู่ห่างกัน และได้ร้องขอไปยังแกนนำของทั้ง 2 ฝ่ายแล้วว่าให้ชุมนุมโดยความสงบ ไม่ให้ใช้ความรุนแรง อีกทั้งที่ผ่านมากลุ่มผู้ชุมนุมได้เผชิญหน้ากันหลายครั้ง แต่ไม่มีการทำร้ายร่างกายกันเกิดขึ้น ประกอบกับการชุมนุมของทั้ง 2 ฝ่าย ไม่เคยมีการแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบล่วงหน้า เพื่อเตรียมการรับมือ จึงไม่มีการประสานขอกำลังตำรวจจากตำรวจภูธรภาค 4 เข้าควบคุมสถานการณ์