“สนธิ” เผยกับสื่อต่างประเทศ ย้ำจุดยืนพันธมิตรฯ ต้านรัฐบาลหุ่นเชิดแก้รัฐธรรมนูญฟอกมารลั่นไม่ใช่กระบวนการก่อการร้าย แต่เป็นพลังมวลชนที่ต้องการให้เกิดการเมืองใหม่ ที่พรรคการเมืองไม่ใช่ธนาคาร ตั้งความหวังรัฐบาลต่อไปจะปฏิรูปการเมือง เปิดทางประชาชนมีส่วนร่วมและทำให้ระบอบประชาธิปไตยสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
วันนี้ (30 ส.ค.) ที่เวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 18.40น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนต่างประเทศหลายสำนัก โดยย้ำจุดยืนของพันธมิตรฯ ว่าสาเหตุเกิดจากกรณีที่รัฐบาลพรรคพลังประชาชน ยืนยันที่จะแก้ไขรัฐธรรมนุญปี 2550 ซึ่งพันธมิตรฯก็ได้เตือนรัฐบาลหลายครั้งแล้วว่า ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้แก้ไข แต่รัฐบาลไม่เคยฟัง ทำให้ประชาชนรู้สึกผิดหวังกับการทำงานของรัฐบาลโดยเฉพาะรัฐบาลพรรคพลังประชาชน ที่เข้ามาโยกย้ายข้าราชการอย่างไม่เป็นธรรม เพื่อช่วยคดี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้พันธมิตรฯ ต้องออกมาเรียกร้อง เช่นเดียวกับกรณีที่ กกต.ระบุว่าพรรคพลังประชาชนเป็นนอมินีของไทยรักไทย ตามหลักรัฐธรรมนูญพรรคการเมืองจะต้องถูกยุบ ทำให้บ่งชี้ได้ว่า ประเทศไทยไม่ได้ปกครองแบบประชาธิปไตยอย่างจริงจัง
นายสนธิ กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ ครั้งนี้ ไม่ได้เป็นกระบวนการก่อการร้าย เพื่อให้เกิดความรุนแรง แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้เกิดการเมืองใหม่ สิ่งนี้จะทำให้รูปแบบการเมืองเปลี่ยน ทำให้พรรคการเมืองไม่ใช่ธนาคารอีกต่อไป เราหวังว่ารัฐบาลคณะต่อไปจะทำให้การเมืองดีขึ้น คนส่วนใหญ่ ประชาชนจะมีส่วนร่วมในการปกครองมากขึ้นและมากขึ้น เพราะการเลือกตั้งไม่ใช่คำตอบทั้งหมดของระบอบประชาธิปไตย แต่เราอาจจะมีตัวเลือกอย่างอื่น ที่ทำให้ระบอบประชาธิปไตยสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
นายสนธิ ระบุอีกว่า หากรัฐบาลชุดใหม่ที่เข้ามาแล้วไม่ฟังเสียงประชาชนเหมือนรัฐบาลชุดที่ผ่านๆมา เราก็จะออกมาเหมือนกับครั้งนี้ ขณะเดียวกันการที่ประชาชนออกมายังทำเนียบฯจำนวนมากมายขนาดนี้เพราะประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารที่ผ่านสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี ที่ให้การศึกษาให้ข้อมูลประชาชนที่แท้จริง ประชาชนจึงออกมามากขึ้น
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีหมายจับของ พ.ต.ท.ทักษิณ และแกนนำพันธมิตรฯ แตกต่างกันอย่างไรนั้น นายสนธิกล่าวว่า แตกต่างโดยสิ้นเชิงเพราะกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นการฉ้อราษฎร์บังหลวง แต่ของแกนนำพันธมิตรฯ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเมือง ดังนั้นจึงไม่เกี่ยวข้องกัน
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า หากในอนาคตมีการปฏิรูปการเมืองและนำไปสู่กระบวนการเลือกตั้งจะเป็นยังไง นายสนธิกล่าวว่าเราไม่มีนักการเมืองในใจว่าพรรคไหนสมควรจะจัดตั้งรัฐบาลหากมีการปฏิรูปแล้ว แต่ตอนนี้มีเพียงพรรคประชาธิปัตย์ที่มีความเลวร้ายน้อยกว่าพรรคพลังประชาชน
