xs
xsm
sm
md
lg

ประชามติ...แบ่งข้างกันเลย จะได้รู้ว่าใครเป็นใคร !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"ทหารก็เอาไม่อยู่ เพราะอะไร เพราะสังคมไทยบอก ไม่ได้ ฝรั่งมังค่าเขาบอก ได้ปืนต้องยิง ได้ดาบต้องฟัน ของเราบอกสังคมไทยเวลานี้ไม่ได้แล้ว ได้ปืนต้องพกใส่ซองไว้ก่อน ทำอะไรไม่ได้เลย "

นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ แขวะ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. เป็นครั้งที่สอง หลังจากมอบอำนาจให้จัดการกลุ่มพันธมิตรฯ ตามประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้ว แต่ไม่ยอมใช้ ยังคงยกคำพูด "ได้ปืนต้องยิง ได้ดาบต้องฟัน แต่นี่ได้ปืนพกใส่ซองไว้ก่อน ทำอะไรไม่ได้เลย " จึงต้องหาทางจัดการกับกลุ่มพันธมิตรฯ ด้วยวิธีใหม่ คือ ใช้ประชามติ มาสร้างความชอบธรรมให้กับตัวเอง

เรื่องแนวคิดการทำประชามติเพื่อเป็นทางออกของสถานการณ์การเมืองในขณะนี้
ทุกอย่างอยู่ในขั้นเตรียมการ ซึ่งเป็นการทำเพื่อหาทางออก มันดีที่ว่า ประกาศออกมาแล้วแบ่งข้างกันเลย จะได้รู้ว่าใครเป็นใคร อย่างไร แบ่งความคิดกัน

มันจะยิ่งเป็นการทำให้คนแตกแยกหรือไม่
แล้วเวลาเลือกตั้งมันก็เลือกข้าง ใช่หรือไม่ พลังประชาชน ประชาธิปัตย์

จะทำอะไร เพื่อให้มีความสมานฉันท์ก่อนที่จะไปถึงจุดนั้นหรือไม่
วันนี้รัฐบาลก็เอาไม่อยู่ สภาก็เอาไม่อยู่ ใช้วิธีนุ่มนวล ทางศาลก็เอาไม่อยู่ ประกาศภาวะฉุกเฉินให้ทหารไปช่วยดูแล ก็เอาไม่อยู่ ทหารบอกว่าเป็นกำแพง แต่ไม่มีประตู ประตูอยู่ที่สภา ก็พบประตู คือ มาตรา 165 และก็กำลังทำกรรมวิธีที่จะออกวิธีนี้ จะสำเร็จหรือไม่ ไม่เป็นปัญหา วุฒิสภาก็เริ่มดำเนินการให้แล้ว มีเวลาทำ 90 วัน แต่ว่าได้รับหลักการแล้ว และจะได้ภายใน 7 วัน แปรญัตติแสดงว่า ไม่นานก็สำเร็จ

มีเสียงวิจารณ์ว่า อาจขัดรัฐธรรมนูญ
ในวงเล็บ 2 ที่ขัดรัฐธรรมนูญ เขาบอกว่า เช่น ออกประชามติว่า ห้ามไม่ให้ใช้ มาตรา 63 อย่างนี้ ลงประชามติไม่ได้ ยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับ 50 อย่างนี้ลงประชามติไม่ได้ คำอธิบายหมายความอย่างนี้ นึกว่าใครจะเข้าใจเรื่องพรรค์นี้ ในเมื่อไม่เข้าใจ ก็อธิบายให้ฟัง

หลายฝ่ายติงว่า การทำประชามติ ไม่ใช่ทางแก้ปัญหา
ใคร ฝ่ายไหน รัฐบาลไม่มีฝ่ายบ้างหรือ กระทรวงทั้งหมด 20 กระทรวง อ้างไม่ได้หรือ มาอ้างกันเกินเหตุ ขอย้ำอีกทีว่า อะไรก็ตามแต่ คนพูดหนึ่งคน อัยการพูดหนึ่งคน ก็ไปออกข่าวว่าอัยการต่อต้านรัฐบาล แล้วอัยการตั้งเป็นพัน เขาเดือดร้อนไหม พูดกันว่า จะตัดน้ำ ตัดไฟ แล้วคนที่เขาไม่ตัด คุมไฟอยู่เขาก็เดือดร้อน

เป็นไปได้หรือไม่ ที่จะเข้าไปเจรจากับพันธมิตรฯ
ไม่ คือ เขาไม่อยากเจรจากับผม และผมก็ไม่ต้องเจรจากับเขา

หากใช้คนกลางเข้ามาประสานการเจรจา เช่น ประธานวุฒิสภา
เรื่องของท่าน ไม่ใช่เรื่องของผม แต่สำคัญที่ว่าผมประหลาดใจ ในบ้านเมืองอะไรที่มันเป็นหลักเกณฑ์ ไม่ยึดถือ แต่ไปมองสิ่งที่เขาตั้งคณะขึ้นมาแล้วเรียกร้อง ถ้าวันข้างหน้า นายอภิสิทธิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี แล้วมีคณะเข้ามาบอกให้ออกไป อย่างนี้จะมีคนยอมไหม ถามว่าที่ผมทำอย่างนี้เพื่อใคร ทำเพื่อไม่ให้สถานการณ์บ้านเมืองของเราถูกชาวโลกเขาดูแคลน ว่าบ้านเมืองไทย มันป่าเถื่อน เลือกตั้งมาเสร็จ มีคณะมาบอกว่าไม่ชอบ ไม่ได้ มึงออกไป ที่มันน่าประหลาด คือคนมีสติปัญญาความรู้ ออกมาพูดจาทำนองว่า คนที่เขาไล่ ไอ้คนที่อยู่ไม่ถูกต้อง ผมประกาศเลยว่า ผมไม่มีวันยอมให้สถานการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นได้เลย คนทั้งประเทศต้องเฝ้าดูว่า ตกลงใครมันผิด ใครมันเลว ถึงได้อยากให้ประชาชนเป็นคนวินิจฉัย ด้วยการลงประชามติ ไม่ใช่ว่าคณะนั้นเป็นคนสำคัญหนักหนา เพียงแต่เป็นคนที่ทำให้บ้านเมืองหาทางออกไม่ได้

ได้คุยกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. แล้วหรือไม่
คุยกันเมื่อวานนี้ (4 ก.ย.) มันเป็นแบบที่ฝรั่งเรียกว่า "ฟอร์มาลิตี้ " จะต้องตั้งคณะ เสร็จแล้วอำนาจทั้งหลายที่มันอยู่ในรัฐมนตรี 21 คน ขอให้มาอยู่ในมือนายกรัฐมนตรีคนเดียว ตอนท้ายก็มอบอำนาจให้ พล.อ.อนุพงษ์ ขอถามหน่อยว่า เวลานี้ที่พูดจากระแนะกระแหนว่า นายกรัฐมนตรีกับทหารขัดแย้งกัน นายกฯประกาศรวบอำนาจมาไว้ที่ตัวเองหมด ก็ไอ้ที่ลงท้ายว่า มอบให้ทางทหารเป็นคนดำเนินการ แล้วทำไม ก็เอาไปพูดจาว่ากล่าวขัดแย้งกันแล้ว อย่างโน้น อย่างนี้ ผมต้องเห็นใจฝ่ายทหาร เพราะรัฐบาล สภา ศาล เอาไม่อยู่ ทหารก็เอาไม่อยู่ เพราะอะไร เพราะสังคมไทยบอก ไม่ได้ ฝรั่งมังค่าเขาบอก ได้ปืนต้องยิง ได้ดาบต้องฟัน ของเราบอกสังคมไทยเวลานี้ไม่ได้แล้ว ได้ปืนต้องพกใส่ซองไว้ก่อน ทำอะไรไม่ได้เลย

จะยกเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉินเมื่อไร
เรื่องทั้งหมดเราดูก่อนที่จะประกาศภาวะฉุกเฉิน คนที่เขาเคารพกฏหมาย ก็เลิกชุมนุม ถ้าคนไม่เคารพกฎหมาย เขาก็อยู่ ทั่วโลกเขาจึงมองว่าเมืองไทยกฎหมายบังคับไม่ได้แล้ว ใครจะไม่ต้องยอม ก็ไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ตรงนี้เราก็เริ่มอับอายเขา จึงเลือก มาตรา 165 ที่เปิดช่องให้ เท่านั้นเอง

หากการใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินไม่ได้ผล จะพิจารณายกเลิกไปก่อนหรือไม่
ผมคิดก่อนคุณอีก เพราะว่าทำเอาไว้อย่างนี้ แล้วคนขัดขืน มันเสียหายกับ พ.ร.ก. ผมจะปรึกษาหารือกันวันสองวันนี้ ธรรมดาอยู่ได้ 3 เดือน แต่ผมจะไม่ลากถึงอย่างนั้นหรอก เมื่อคนอยู่ในขอบเขตเสร็จเรียบร้อยแล้ว สามารถจัดการอะไรได้ ไม่เป็นปัญหา แต่เรื่องจะต้องประชุมปรึกษากัน เพราะก่อนประกาศ ก็ยังปรึกษาหารือ อยู่ดี ๆไม่ปรึกษาหารือก็ไม่ควร

รัฐบาลจะพิจารณายกเลิก พ.ร.ก. เร็วๆนี้ หรือไม่
เมื่อใช้แล้วเขาไม่เคารพ มันไม่ต้องออกก็ได้ ก็ยังไม่ต้องเสนอข่าวกันมาก ผมไปปรึกษาหารือกันก่อน แต่การคุยกันนั้น มันต้องแสดงความรู้สึกจริงใจว่า คิดอะไร ยังไง หนทางที่กำลังหาทางออกนั้น ออกได้ ไม่ได้ ไม่รู้ แต่กำลังหาทางอยู่ เจอประตูแล้ว ตอนนี้กำลังหากุญแจอยู่ ถ้าเปิดได้ ก็ไม่ต้องพังประตู

หากทำประชามติไปแล้ว กลุ่มพันธมิตรฯไม่ยอมรับอีก จะทำอย่างไร
ประชาชนทั้งประเทศ จะเป็นคนจัดการ ประชามติคือ คนทั้งประเทศจัดการ คะแนนมันออกเท่าไร จะได้ดูใจ จะได้ดูว่าคนไทยอยากอยู่แบบไม่มีกฎไม่มีเกณฑ์ มีเท่าไร จะรักษากฎเกณฑ์มีเท่าไร เรากำลังเลือกหนทางไม่แตะ ไม่ต้อง ไม่ทำลาย ไม่ให้เกิดเรื่อง ก็หวังใจว่า สื่อที่ฟังแล้วเข้าใจ แล้วไปอธิบายให้คนเข้าใจ ก็แปลว่าได้ช่วยกัน ตอนนี้ต่างชาติกำลังมองเราอยู่ อยู่กันดีๆ แท้ ๆ พื้นที่กรุงเทพฯ กว้างใหญ่ แต่พื้นที่เกิดเหตุไม่ถึงเศษหนึ่งส่วนสี่ ตารางกิโลเมตรด้วยซ้ำไป นอกนั้นชีวิตก็ดำเนินไปตามปกติ ผมถึงบอกว่า ปิดทำไมโรงเรียน รอบๆปิดเห็นด้วย ไกลๆไม่ต้องปิด

ผู้นำฝ่ายค้านแสดงความเป็นห่วงว่า หากสถานการณ์ยืดเยื้ออาจกลายเป็นสงครามกลางเมือง
หัวหน้าฝ่ายค้านมีความรู้สึกอย่างนั้น แต่ผมไม่มีความรู้สึกแบบนั้นเลย คนไทยจะไม่มีวันให้เกิดเรื่องนี้ได้เลย คนไทยทุกคนรักบ้านรักเมือง ถ้าเป็นคนไทยจริงๆ ต้องไม่เอ่ยถึงคำนี้ เพราะไม่มีเหตุผลที่จะเอ่ย คนหยิบมือหนึ่งอยู่ตรงนั้น แต่กลับมีคนสำคัญของบ้านเมืองเอ่ยว่า จะมีสงครามกลางเมือง มันเกิดยังไง ในเมื่อเขาบอกว่าไม่มีอาวุธ ตำรวจ ทหาร ก็ไม่ใช้อาวุธ ต้องรู้สึกบ้างว่า บ้านเมืองของเรามันอยู่เรียบร้อย ผมจึงบอกว่า อย่าไปเอ่ยถึงได้ไหม ไม่ได้กลัว ไม่ได้เกรง แต่มันไม่มีเหตุที่จะต้องไปเอ่ย

มีการมองกันว่า ทั้งฝ่ายรัฐบาล และพันธมิตรฯ ทำให้สังคมแตกขั้ว
ตกลงว่ารัฐบาลที่เป็นคนรักษาการณ์ เป็นคนผิดใช่หรือไม่ คนที่มันก่อการยึดทำเนียบฯ ไม่ผิดเลย

น่าจะผิดทั้งคู่
ไม่ได้ มันไม่ได้ ผิดทั้งคู่ก็ไม่ได้ ผมรักษาบ้านเมืองให้เรียบร้อย ต้องใช้วิจารณญาณให้ดี ว่าใครเป็นคนที่ทำให้เกิดปัญหา บัดนี้ ชี้นิ้ว ชี้หน้ามาทางผม มันไม่ได้หรอก

นายกรัฐมนตรีควรควบคุมสถานการณ์ ให้คนไทยทุกคนมีความเท่าเทียมกัน และมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันหรือไม่
โหย...ฟังคำพูดแล้วเก๋ไก๋ เต็มที มีสิทธิเท่าเทียมกัน แล้วมีใครเสียสิทธิ์ เวลานี้ในบ้านเมือง ไหนลองบอกผมมาซิ

มันมีความขัดแย้งเกิดขึ้นมากมาย
ขัดแย้งขนาดไหน ยังไง ใครขัดแย้งกับใครหือ

ขนาดคนในครอบครัวยังทะเลาะกัน
ก็รักษาความสัมพันธ์ในครอบครัวไว้ให้ดีก็แล้วกัน บ้านผมไม่ทะเลาะ ทุกคนเขาเห็นตรงกับที่ผมทำ บ้านเมืองต้องรักษาไว้อย่างนี้ บ้านอื่นเห็นไม่ตรงกัน ก็ไม่เป็นไร สุดแต่วิจารณญาณของแต่ละคน ผมยืนยันว่า สิ่งที่ผมดำเนินการมีความเหมาะสม ฝ่ายทหารก็เห็นชอบด้วย ผู้คนในบ้านเมืองก็เห็นชอบด้วย คนส่วนหนึ่งไม่เห็นชอบ ก็ไม่เป็นปัญหา แต่การตั้งคำถามของพวกผู้สื่อข่าว มันเหมือนว่าบ้านเมืองจะบรรลัยวายวอดหมดแล้ว มันทะเลาะกัน จับเป็นคู่ๆ มันไม่ใช่อย่างนั้น ข้อสำคัญที่สุดถึงบอกว่า ให้วัดกันที่การลงคะแนนประชามติเอาไหม ก็แค่นั้นเอง
กำลังโหลดความคิดเห็น