00 ดีเดย์นัดหยุดงานพร้อมกันเมื่อวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมาของพนักงานรัฐวิสหกิจได้สร้างแรงกดดันให้กับรัฐบาลสัตว์นรกชุดนี้เพิ่มมากขึ้น และแม้ว่ามาจนถึงวันนี้คนอย่าง นายสมัคร สุนทรเวช ที่เคยร่วมก่อกรรมทำชั่วมาหลายยุคสมัย ไม่ว่าจะเป็นยุค 6 ตุลาฯ 19 พฤษภาทมิฬ ในยุคระบอบทักษิณ และล่าสุด มาถึงยุคที่รับอาสาเป็นแนวหน้ารัฐบาล “หุ่นเชิด-ขายชาติ” ในปัจจุบัน
00 นับวันแรงกดดันอันมหาศาลต่างกดทับไปที่ สมัคร เพิ่มขึ้นทุกวัน ทุกวัน เพราะทุกคนไม่ว่าจะเคยยืนอยู่ข้างไหน บางคนแม้ว่าจะเคยไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมของพี่น้องประชาชนภายใต้ชื่อของ พันธมิตรฯ แต่เวลานี้ท่าทีได้เปลี่ยนไป รับไม่ได้ และเห็นตรงกันว่า “สมัคร สุนทรเวช” คือตัวปัญหาของชาติ จะต้องรวมพลังกันถีบมันออกไป
00 เพราะยิ่งอยู่นานเท่าไหร่ เวลาผ่านไปแค่วันเดียว ชั่วโมงเดียว ก็ยิ่งสร้างความเสียหายให้กับบ้านเมืองถลำลึก ดำดิ่งลงไปเรื่อยๆ ดังนั้นไม่ว่าคนอย่างสมัครจะลาออกวันไหน แต่สุดท้ายเขาก็ต้องอยู่ไม่ได้ ต้องไปแน่นอน ขณะเดียวกันนับจากนี้ไป เขาเป็นคนเลือกชะตากรรมด้วยตัวเอง แต่ไม่ว่าอย่างไรนายสมัคร หมดสภาพความเป็นผู้นำ และกลายเป็น"ทรราช" สมบูรณ์แบบไปแล้ว
00 การสร้างสถานการณ์เพื่อประกาศภาวะฉุกเฉิน เพื่อยืมมือทหารมาปราบปรามการชุมนุม จนเป็นศัตรูกับประชาชน และก็เช่นเดียวกันให้อารมณ์ความรู้สึกของคนในสังคมได้ขาดผึงลงทันที ก่อเกิดเป็นแนวร่วม การต่อต้านออกมาขยายวงออกไปเรื่อยๆ
00 ในทางกลับกัน ความล้มเหลวจากการประกาศภาวะฉุกเฉิน ทุกคนรู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมของผู้นำอำมหิตผิดมนุษย์ จนต้องเบือนหน้าหนีด้วยความ “ขยะแขยง” มันก็ยิ่งทำให้ภาวะผู้นำตกต่ำติดลบเกินศูนย์ไร้ค่าเกินคำบรรยาย
00 อย่างไรก็ดี เมื่อสภาพการณ์ความเป็นผู้นำไม่มีเหลือมันก็ยิ่งน่าอันตราย เพราะถ้าพิจารณาให้ดีเวลานี้อำนาจการบริหารบ้านเมืองอยู่ในกำมือของคนที่อยู่ข้างกายบางคนคอย “บงการ” ใช้อำนาจแทนแทบทุกเรื่อง และกลายเป็นว่าคนๆนี้เป็น “นายกฯเงา” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นชะตากรรมของ นายสมัคร นอกจากจะอยู่ในกำมือของพี่น้องประชาชนที่ปักหลักชุมนุมขับไล่แล้ว ที่เหลือก็อยู่ที่สัญญาณจาก “เสี่ยโป๋” คนนี้แหละ
00 บางครั้งชีวิตคนเรามันช่างไร้ค่า และในทางกลับกันก็ได้เห็นก้นบึ้งในหัวใจของคนบางกลุ่มที่ใจดำ อำมหิตไม่เห็นหัวเพื่อนร่วมชาติ แม้ว่าคนเหล่านั้นที่ได้รับบาดเจ็บเสียชีวิตจากเหตุการณ์อันน่าเศร้าสลดที่สะพานมัฆวานฯ ทั้งๆที่ต้นเหตุที่ทำให้พี่น้องเหล่านั้นต้องเลือดตกยางออกก็คือ นักการเมืองในพรรคพลังประชาชนนั่นเอง
00 การปิดโอกาสของ “ชัย ชิดชอบ” ในสภาไม่ยอมให้มีการยืนไว้อาลัย กับพี่น้องผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์อัปยศดังกล่าวได้ก่อให้เกิดคำถามขึ้นมาว่า ชีวิตของคนบางคนมันช่างไร้ค่า บางทีอาจถือว่าเมื่อจ่ายเงินค่าหัวไปแล้วถือว่าหมดภาระผูกพัน ไม่เกี่ยวข้องกัน ดังนั้นท่าทีดังกล่าวของประธานรัฐสภา จึงควรถูกประณาม เพราะเพียงแค่ยืนไว้อาลัย 1 นาที ก็ยังไม่มีความหมาย ช่างน่าเศร้าจริงๆ !!
00 นับวันแรงกดดันอันมหาศาลต่างกดทับไปที่ สมัคร เพิ่มขึ้นทุกวัน ทุกวัน เพราะทุกคนไม่ว่าจะเคยยืนอยู่ข้างไหน บางคนแม้ว่าจะเคยไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมของพี่น้องประชาชนภายใต้ชื่อของ พันธมิตรฯ แต่เวลานี้ท่าทีได้เปลี่ยนไป รับไม่ได้ และเห็นตรงกันว่า “สมัคร สุนทรเวช” คือตัวปัญหาของชาติ จะต้องรวมพลังกันถีบมันออกไป
00 เพราะยิ่งอยู่นานเท่าไหร่ เวลาผ่านไปแค่วันเดียว ชั่วโมงเดียว ก็ยิ่งสร้างความเสียหายให้กับบ้านเมืองถลำลึก ดำดิ่งลงไปเรื่อยๆ ดังนั้นไม่ว่าคนอย่างสมัครจะลาออกวันไหน แต่สุดท้ายเขาก็ต้องอยู่ไม่ได้ ต้องไปแน่นอน ขณะเดียวกันนับจากนี้ไป เขาเป็นคนเลือกชะตากรรมด้วยตัวเอง แต่ไม่ว่าอย่างไรนายสมัคร หมดสภาพความเป็นผู้นำ และกลายเป็น"ทรราช" สมบูรณ์แบบไปแล้ว
00 การสร้างสถานการณ์เพื่อประกาศภาวะฉุกเฉิน เพื่อยืมมือทหารมาปราบปรามการชุมนุม จนเป็นศัตรูกับประชาชน และก็เช่นเดียวกันให้อารมณ์ความรู้สึกของคนในสังคมได้ขาดผึงลงทันที ก่อเกิดเป็นแนวร่วม การต่อต้านออกมาขยายวงออกไปเรื่อยๆ
00 ในทางกลับกัน ความล้มเหลวจากการประกาศภาวะฉุกเฉิน ทุกคนรู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมของผู้นำอำมหิตผิดมนุษย์ จนต้องเบือนหน้าหนีด้วยความ “ขยะแขยง” มันก็ยิ่งทำให้ภาวะผู้นำตกต่ำติดลบเกินศูนย์ไร้ค่าเกินคำบรรยาย
00 อย่างไรก็ดี เมื่อสภาพการณ์ความเป็นผู้นำไม่มีเหลือมันก็ยิ่งน่าอันตราย เพราะถ้าพิจารณาให้ดีเวลานี้อำนาจการบริหารบ้านเมืองอยู่ในกำมือของคนที่อยู่ข้างกายบางคนคอย “บงการ” ใช้อำนาจแทนแทบทุกเรื่อง และกลายเป็นว่าคนๆนี้เป็น “นายกฯเงา” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นชะตากรรมของ นายสมัคร นอกจากจะอยู่ในกำมือของพี่น้องประชาชนที่ปักหลักชุมนุมขับไล่แล้ว ที่เหลือก็อยู่ที่สัญญาณจาก “เสี่ยโป๋” คนนี้แหละ
00 บางครั้งชีวิตคนเรามันช่างไร้ค่า และในทางกลับกันก็ได้เห็นก้นบึ้งในหัวใจของคนบางกลุ่มที่ใจดำ อำมหิตไม่เห็นหัวเพื่อนร่วมชาติ แม้ว่าคนเหล่านั้นที่ได้รับบาดเจ็บเสียชีวิตจากเหตุการณ์อันน่าเศร้าสลดที่สะพานมัฆวานฯ ทั้งๆที่ต้นเหตุที่ทำให้พี่น้องเหล่านั้นต้องเลือดตกยางออกก็คือ นักการเมืองในพรรคพลังประชาชนนั่นเอง
00 การปิดโอกาสของ “ชัย ชิดชอบ” ในสภาไม่ยอมให้มีการยืนไว้อาลัย กับพี่น้องผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์อัปยศดังกล่าวได้ก่อให้เกิดคำถามขึ้นมาว่า ชีวิตของคนบางคนมันช่างไร้ค่า บางทีอาจถือว่าเมื่อจ่ายเงินค่าหัวไปแล้วถือว่าหมดภาระผูกพัน ไม่เกี่ยวข้องกัน ดังนั้นท่าทีดังกล่าวของประธานรัฐสภา จึงควรถูกประณาม เพราะเพียงแค่ยืนไว้อาลัย 1 นาที ก็ยังไม่มีความหมาย ช่างน่าเศร้าจริงๆ !!
